บทที่ 15 ตบคุณเพราะคุณมันเป็นพวกนางแพศยา”

“โต๋โต๋!”

ซู่มู่ชิงที่สลบไปได้สติขึ้นอยู่ในอาการตกใจเธอก็รีบวิ่งเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนของแล้วน้ำตาก็ไหลพรากออกมาจากดวงตาของเธอ

“โต๋โต๋ลูกไม่เป็นอะไรใช่หรือเปล่าแม่ตกใจแทบแย่ ลูกเป็นอะไร?”

ชู่หยวนฟงพูดปลอบโยน “ไม่เป็นไร ไม่ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ตกใจนิดหน่อยพักผ่อนสักพักก็หายดีเอง”

ซูมู่ชิงเช็ดน้ำตาที่ขอบตาของตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นกำลังคิดจะขอบคุณคนดีที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือแต่ก็ต้องตกตะลึง “เป็นคุณ? ชู่หยวนฟง”

ชู่หยวนฟงมองใบหน้าเธอที่เต็มไปด้วยน้ำตาแล้วรู้สึกปวดใจ “สวัสดีเจอกันอีกแล้วนะ”

ซูมู่ชิงตกใจเล็กน้อยเธอพูดขอบคุณด้วยความสับสน “ขอบคุณมาก รวมเมื่อวานที่คุณช่วยไล่หยุนเทาไปด้วยนี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้วที่คุณช่วยฉัน ฉันไม่รู้ว่าควรจะขอบคุณคุณยังไง”

ชู่หยวนฟงโบกมือ พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขืนแล้วมองลูกสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง “ไม่ต้องเกรงใจโต๋โต๋ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ผมว่าเพื่อความมั่นใจส่งเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลเถอะ”

“ได้ ขอบคุณมาก” ซูมู่ชิงเช็ดน้ำตาแล้วอุ้มโต๋โต๋ขึ้นพร้อมกับมองใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเด็กหญิงตัวน้อยอดไม่ได้ที่จะสงสัยในใจ เจ้าเด็กคนนี้แทบจะทำให้แม่ตกใจตายแต่เธอกลับนอนหลับอย่างมีความสุขขนาดนี้ใจร้ายจริงๆ

ชู่หยวนฟงลุกขึ้นแล้วหรี่ตามองไปที่รถBMWที่จอดอยู่ไม่ไกลความโกรธของเขาเพิ่มขึ้นทันที

กฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่าบนถนนในโรงเรียนยานพาหนะควรชะลอความเร็วและสุภาพต่อนักเรียนและคนเดินเท้าและห้ามขับเกินความเร็วสามสิบไมล์

แต่คนขับรถBMWคันนี้ขับเกินหกไมล์ไม่พอและยังขับตรงเข้ามาไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเขามีความรับผิดชอบสักนิดเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ถ้าหากเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จะเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของเขาเขาไม่กล้าคิดถึงมัน!

ชู่หยวนฟงที่ยืนขึ้นกำลังคิดจะเข้าไปคุยกับคนขับรถBMWคันนั้น แต่ปรากฏว่าในตอนนั้นเองคนขับก็ก้าวลงมาจากรถ

“นี่มันลูกป่าเมืองเถื่อนของใครไม่ดูแลดีๆ กระโดดโลดเต้นอยู่บนถนนคิดจะหาเรื่องตายหรือยังไง!” ผู้หญิงตุ้งติ้งในวัยยี่สิบต้นๆแต่งตัวสวยงามทั้งตัวเป็นของแบรนด์ดัง

น้ำเสียงของเธอเยอะหญิงและใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธราวกับเธอได้รับความอัปยศมามากมาย เธอชี้ไปที่ซูมู่ชิงแล้วพูด

“เธอเป็นผู้ปกครองยังไงรู้จักกฎกติกาหรือเปล่า? รู้หรือเปล่าว่ารถของฉันราคาเท่าไหร่ นี่มันรถBMWซีรี่7นำเข้าราคาหนึ่งร้อยกว่าล้าน!”

“พังขนาดนี้เธอมีปัญญาชดใช้หรือเปล่า? ทำให้อารมณ์เสียตั้งแต่เช้า”

ซูมู่ชิงกัดริมฝีปากของตัวเองแล้วพูดขอโทษกับฝ่ายตรงข้าม “ฉันขอโทษมันเป็นความประมาทของฉันเอง จนทำให้คุณต้องเดือนร้อน”

ชู่หยวนฟงเห็นแล้วก็แทบจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมองซูมู่ชิงแล้วถาม “เห็นอยู่ชัดๆว่าเธอขับรถประมาทจนทำให้โต๋โต๋ตกใจ คุณจะไปขอโทษเธอทำไม?”

ซูมู่ชิงกัดริมฝีปากของตัวเองส่ายหัวแล้วพูด “ช่างเถอะโต๋โต๋ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ฉัน...ฉันไม่มีปัญญาชดใช้เงินมากขนาดนั้น….”

ชู่หยวนฟงเมื่อเห็นท่าทางที่น่าสงสารของซูมู่ชิงก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที ผู้หญิงโง่คนนี้หลายปีที่ผ่าามาเพื่อลูกสาวแล้วไม่รู้ว่าได้รับความเจ็บปวดและลำบากมามากน้อยเท่าไหร่

ตัวคนเดียวไม่มีที่พึ่งพิงเมื่อเจอกับความยากลำบากก็ทำได้แต่กลืนความโกรธและสงบสติอารมณ์ของตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา

เมื่อคิดถึงตรงนี้ดวงตาของชู่หยวนฟงเต็มไปด้วยความอ่อนโยนในใจรู้สึกผิดและเต็มไปด้วยความทุกข์

“ดวงซวยจริงๆแต่ช่างเถอะวันนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องเธอ” ผู้หญิงตุ้งติ้งที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจ เธอล้วงธนบัตรออกจากกระเป๋าของตัวเองหลายใบด้วยท่าทีที่สูงส่งแล้วพูดอย่างหยิ่งผยอง “ต่อไปเวลาข้ามถนนก็ช่วยมองด้วย มีแต่ฉันคนนี้เท่านั้นแหละที่ไม่เอาเรื่องเธอ ถ้าหากเป็นคนอื่นอย่างน้อยก็ต้องใช้ให้เธอชดใช้สี่ห้าหมื่น….”

ชู่หยวนฟงไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไปเขาใช้สายตาที่เกรี้ยวโกรธมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “รีบมาขอโทษเดี๋ยวนี้”

รังแกผู้หญิงของฉันไม่ว่าผีสางเทวดาที่ไหนก็ไม่ได้ทั้งนั้น

สายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นของเขาทำให้ผู้หญิงคนนี้ถึงกับตกใจส่งเสียงครวญครางอยู่ในใจ เธอยอมรับว่าเธอมีภูมิหลังที่ดีและรู้จักผู้คนมีชื่อเสียงมากมายในสังคม แต่เมื่อเทียบกับรัศมีอันสง่างามของชู่หยวนฟงเธอเป็นเพียงแสงของหิ่งห้อย

“ชู่หยวนฟงช่างเถอะ”

ซูมู่ชิงรู้สึกซาบซึ้งที่ชู่หยวนฟงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมคนแปลกหน้าคนนี้ถึงดีกับเธอและลูกสาวขนาดนี้ แต่พระคุณครั้งนี้เธอจะจำไว้ในใจเธอไม่อยากทำให้ชู่หยวนฟงต้องเดือดร้อนเพราะตัวเอง

เธอพูดเบาๆ “ฉันกับโต๋โต๋ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องทำเรื่องเล็กให้มันเป็นเรื่องใหญ่หรอก….”

ผู้หญิงคนนี้สามารถมีรถBMWราคาหลักร้อยล้านถึงแม้จะไม่ใช่มหาเศรษฐีอะไรแต่ก็ถือว่าเป็นพวกมีเงินไม่ง่ายที่จะมีปัญหากับเธอ

ห้าปีที่ผ่านมานี้เธอชินแล้วกับการที่ถอยยอมให้คนอื่นหนึ่งก้าว

คำพูดของซูมู่ชิงยิ่งทำให้ความโกรธที่อยู่ในใจของชู่หยวนฟงเพิ่มมากขึ้น เขาหันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดด้วยเสียงที่เบาแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่น “ผมบอกให้คุณมาขอโทษไม่ได้ยินเหรอ?”

ตอนนี้เขากลับมาอยู่ข้างกายของสองแม่ลูกแล้วและจะไม่ยอมให้ใครรังแกพวกเธอสองคน

“เหอ ขู่ฉัน? ให้ฉันขอโทษ แกคิดว่าแกเป็นใคร!”

ผู้หญิงคนนั้นค่อยๆได้สติกลับคืนมาเมื่อได้ยินซูมู่ชิงพูดห้ามปราม เธอประเมินการแต่งตัวที่แสนธรรมดาของของชู่หยวนฟง จึงทำให้เธอมั่นใจว่าสองคนนี้เป็นแค่พวกคนยากจนไม่มีภูมิหลังอะไร

เมื่อกี้ตัวเธอถูกเขาขู่จนกลัวเหรอ? ช่างน่าขำทำไมเธอต้องกลัวเขาด้วย?

เธอชี้ไปที่ชู่หยวนฟงด้วยท่าทีที่สูงส่งแล้วพูด “จะให้ฉันขอโทษเธอ ลองถามเธอดูก่อนไหมว่าเธอจะรับไหวหรือเปล่า?”

“เป็นแค่ไอ้ลูกชู้ฉันไม่ชนมันตายก็ถือว่าเป็นบุญที่มันทำไว้ตั้งแต่แปดชาติที่แล้ว! ไอ้เด็กที่ไม่มีพ่อเลี้ยง…..”

ทันใดนั้นดวงตาของชู่หยวนฟงก็หรี่ลงและจิตสังหารของเขาก็ระเบิดออกมา!

ลูกชู้คำสองคำนี้มันทิ่มแทงเข้าไปในใจของเขา

หยุนเทาคนที่แล้วที่กล้าพูดแบบนี้ถ้าหากไม่ได้ซูมู่ชิงมาห้ามไว้ก็คงตายไปนานแล้ว

ซูมู่ชิงถึงแม้อัธยาศัยจะดีแค่ไหนก็รับไม่ได้ ดวงตาของเธอเริ่มแดงและชี้หน้าผู้หญิงคนนั้นด้วยความโกรธ “คุณ คุณมีมารยาทบ้างหรือเปล่าทำไมถึงพูดแบบนี้!”

ผู้หญิงคนนั้นมือเท้าเอวใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอวดดี “ใช่ฉันมันไม่มีมารยาทแล้วทำไม จะตบฉันเหรอกล้าหรือเปล่า?”

“คุณ…..” ซูมู่ชิงโกรธจนพูดอะไรไม่ออก เธอที่เป็นคนนิสัยอ่อนโยนจะเป็นคู่ต่อสู้กับคนที่อวดดีแบบนี้ได้อย่างไร

ในตอนนั้นเองชู่หยวนฟงเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์และใช้ฝ่ามือตบเข้าไปที่ใบหน้าที่อวดดีของผู้หญิงคนนั้น!

“เพี๊ยะ!”

ผู้หญิงคนนั้นล้มลงกับพื้นทันทีพร้อมกับใบหน้าที่บวมขึ้นและผมที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความอับอายและที่มุมปากยังมีเลือดคราบติดอยู่ด้วย

ซูมู่ชิงถึงกับตกใจห้ามปากครั้งผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น

“แก แกกล้าตบฉัน?!” ผู้หญิงคนนั้นทั้งโกรธและตกใจ เธอตะคอกด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลวแกรู้หรือเปล่าว่าฉันเป็นใคร กล้าตบฉันเหรอไอ้สาระเลวฉันจะสู้ตายกับแก….”

ผู้หญิงคนนั้นโกรธจนเสียสติเธอวิ่งเข้าหาชู่หยวนฟงอย่างบ้าคลั่ง

ชู่หยวนฟงถีบเข้าไปที่หน้าท้องของผู้หญิงคนนั้นโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำ จากนั้นกระชากผมของเธอแล้วตบเข้าไปที่ใบหน้าของเธออีกเจ็ดแปดครั้ง

“เพี๊ยะๆๆๆ!”

เป็นการตบที่หนักแน่นและเสียงดังฟังชัด

จัดการกับผู้หญิงที่ไร้ยางอายแบบนี้ชู่หยวนฟงลงมืออย่างโหดเหี้ยมโดยไม่ใจอ่อน

“เพี๊ยะๆๆๆ!”

ผู้หญิงคนนั้นถูกตบจนสะบักสะบอม เครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าถูกตบจนหลุดออก ผมยุ่งเหยิง จมูกของเธอเขียวช้ำและล้มลงอยู่กับพื้นพร้อมกับร้องครวญครางด้วยใบหน้าที่บวม “แก...แกตบผู้หญิงแกมันไม่ใช่ผู้ชายไอ้สาระเลว…..”

“ผมไม่เคยตบผู้หญิงมาก่อน” ชู่หยวนฟงมองเธอด้วยสายตาที่รังเกียจแล้วพูดต่อ “แต่ยกเว้นพวกนางแพศยา”

“เพราะแบบนี้ผมถึงได้ตบคุณ ก็เพราะคุณมันเป็นพวกนางแพศยา”

ผู้คนรอบข้างต่างระเบิดเสียงชื่นชมออกมาพร้อมกับปรบมือบางคนถึงกับตะโกนบอกว่าตบได้ดี

พวกเขามองผู้หญิงคนนี้ที่ท่าทางหยิ่งยโสแล้วรู้สึกว่าไม่เข้าตาตั้งแต่แรกแล้ว และเมื่อได้รับผลกรรมแบบนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกพออกพอใจอย่างมาก

“แก พวกแก...”

ผู้หญิงคนนั้นโกรธจนหัวแทบจะระเบิด เธอกัดฟันแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้าย “ได้ แกแน่มาก พวกแกทุกคนเราก่อน”

“แฟนของฉันเป็นผู้จัดการของสมาคมการค้าซือไห่มีพี่น้องเป็นร้อยคน แกกล้ามีปัญหากับฉัน พรุ่งนี้ฉันจะทำให้แกนอนตายอยู่บนข้างถนน”

ผู้ชมรอบข้างที่ร้องตะโกนว่าดีถึงกับหน้าถอดสีรีบแยกย้ายกันไป

สมาคมการค้าซือให่เป็นอันดับหนึ่งของเมืองเจียงหลินยุ่งกับพวกเขาไม่ได้!

ซูมู่ชิงก็หน้าถอดสีเช่นกันใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลและตื่นตระหนก ….

“แล้วแต่คุณ” ชู่หยวนฟงพูดเบาๆจากนั้นอู้มโต๋โต๋ขึ้นและพาซูมู่ชิงเดินจากไปโดยไม่ได้หันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ

“ถ้าไม่อยากตายก็รีบให้พวกเขามา”

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

463