บทที่ 7 คุณนี่อำนาจใหญ่โตดีนะ

เป็นเรื่องลำบากที่หลิวหมิงหลานจะพูดออกมา พลางถือแก้วไวน์ตัวสั่นด้วยมือเหี่ยวย่นของเธอและพูดว่า:

"หมิงซวน ตั้งแต่คุณคบกับอิ๋งอิ๋งมา ฉันยังไม่เคยขอร้องอะไรคุณเลย วันนี้แค่แม่ขอสักเรื่องหนึ่งช่วยจัดการให้หน่อย ได้ไหม?"

เธอคิดถึงชู่หยวนฟงอยากเต็มหัวอกหัวใจ

ทันใดนั้นหัวใจของชู่หยวนฟงก็เต็มไปด้วยความเศร้าโศก

แม่รักเราดั่งสายน้ำ ไม่ว่าตัวเองจะโตเท่าไหร่ ในหัวใจของแม่ก็ยังคงเป็นเด็กน้อยคนหนึ่ง

พวกเธอจะคอยระมัดระวังตลอด และไม่ร้องขอการตอบแทน

"แม่ ไม่จำเป็น" ชู่หยวนฟงจับมือหลิวหมิงหลาน

วันนี้ ลูกของท่านเป็นเทพเจ้าแห่งกองทัพแล้ว ชื่อเสียงโด่งดัง ไม่จำเป็นต้องก้มหัวให้ใครแล้ว

อีกทั้ง ยังเป็นตระกูลชู่แห่งเมืองหลวงอีก!

ซุนหมิงซวนก็รีบจับมือของหลิวหมิงหลานเอาไว้ แต่ยังไม่ได้พูดอะไร แต่โจวอิ๋งด้านข้างทนไม่ไหวแล้ว เธอพูดออกมาอย่างหมดความอดทน: "แม่ แม่อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยากได้ไหม?"

"บริษัทของหมิงซวนไม่ใช่องค์กรการกุศล ตำแหน่งทุกตำแหน่ง ทุกธุรกิจ ต้องการอัจฉริยะที่มีความสามารถเฉพาะทที่ผ่านการคัดเลือกหลายขั้นตอนมา ชู่ฟงไม่มีทั้งประสบการณ์ ไม่มีทั้งความสามารถ จะทำอะไรได้?"

"จะให้พนักงานบริษัทมองหมิงซวนยังไง จะเอาเขาไปไว้ที่ไหน?"

โจวเลี่ยวางจชตะเกียบลง พูดอย่างไม่ชอบใจ: "ทำไม ยังไม่ออกจากบ้านเลย ก็กล้าเถียงแม่แบบนี้หรอ? เก่งแล้วหรอ?"

โจวอิ๋งน้อยใจ: "พ่อ ทำไมพ่อทำให้ชู่หยวนฟง..."

"โอเค โอเค" ในเวลานี้ซุนหมิงซวนเดินออกมารีบดึงความสนใจรอบๆ เขายิ้ม: "พ่อตา อิ๋งอิ๋งพูดไม่ผิด บริษัทของผมเทคศิลปะและความเชี่ยวชาญค่อนข้างสูง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการตำแหน่งต่างๆ ให้"

"แต่ ในเมื่อแม่ตาขอมา ลูกเขยก็จะจัดการให้!"

ในใบหน้าที่ดีใใจของหลิวหมิงหลาน และท่าทางที่เหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ของเขา จากนั้น เขายิ้มและมองไปยังชู่หยวนฟง: "เอางี้ ห้องน้ำของบริษัทเรา ขาดคนทำความสะอาด ผมเห็นว่าคุณเหมาะสมดี คุณอยากทำไหม?"

"ปกติถูพื้น ล้างห้องน้ำ ทำความสะอาดโถส้วม เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว..."

ดวงตาของชู่หยวนฟงเย็นชาขึ้นมา

"ไปตาย!"

โจวเลี่ยเด้งตัวยืนขึ้นมา ชี้ด่าซุนหมิงซวน: "ไอเจ้าอวดดี ให้ลูกผมไปล้างห้องน้ำเนี่ยหรอ? ใช้สมองส่วนไหนคิด"

"อ๋า พ่อตาอย่าพูดอย่างนี้สิ การใช้แรงงานก็ไม่ได้ต่างกัน คุณนั่นแหละที่คิดมากเกินไป" ซุนหมิงซวนชอบใจอย่างมาก ใบหน้าของเบาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่าไม่แยแส ยกแก้วขึ้นมา:

"เอางี้ ผมดื่มให้คุณ ใจเย็นลงมา..."

พั๊วะ!

โจวเลี่ยเอามือปัดแจ้วเหล้าของเขา: "ใครเป็นพ่อตาของคุณ รีบออกไปจากสายตาสะ ไสหัวไป"

"ผมไม่มีคุณที่เป็นค่หมั้นของลูกสาวผมแบบนี้ อย่ามายุ่งกับลูกสาวผม"

สีหน้าของซุนหมิงซวนเย็นชาขึ้นมา เสียงของผู้คนรอบๆ พากันถกเถียงมั่วซั่วไปหมด

"พ่อจะเกินไปแล้วนะ พ่ออาศัยอะไรมาทำแบบนี้กับหมิงซวน" โจวอิ๋งทนไม่ไหวแล้ว เธอเช็ดน้ำตาตัวเอง พูดด้วยความน้อยใจอย่างมา:

"หลายปีมานี้พวกเราผ่านวันเวลาด้วยกันมา ไม่ใช่ว่าหมิงซวนคอยช่วยเหลือพวกเราหรอกหรอ ไม่งั้นพวกเราคงหิวตาย ทำไมพ่อถึงทำแบบนี้กับเขา?"

"แต่สำหรับชู่หยวนฟง พวกเราเลี้ยงโตเขามาโตขนาดนี้ แต่เขาไม่กลับออกจากบ้านไปโดยไม่พูดอะไร สิบปีมา ไม่มีแม้แต่ข่าวคราว" โจวอิ๋งชี้ไปที่ชู่หยวนฟงอย่างก้าวร้าว ระบายความคับข้องใจ: "เขาได้ช่วยอะไรกับครอบครัวเราหรอ หาเงินให้กับครอบครัวเราไหม?"

"พ่อจะมาเทียบอะไรกับหมิงซวน?"

ชู่หยวนฟงขมวดคิ้วขึ้นมา เขาส่งเสียง: "ไม่ใช่ว่าผมทิ้งโฉนดไว้ก่อนผมไปหรอ?"

"พื้นที่ดินนั้น แค่หนึ่งพันเอเคอร์ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์แล้ว พวกคุณอะไรก็ไม่ทำ ถ้าให้เช่าทุกปีก็อาจได้สักสองสามล้าน"

พื้นที่ดินนี้ เป็นพื้นที่ที่ตัวเองทิ้งไว้ให้ตระกูลโจว ตั้งใจพูดกับตระกูลชู่แห่งเมืองหลวงทิ้งไว้ให้โจวเลี่ยด้วยความหวังดีของเขาเอง

แต่ก่อนเขาก็แอบสงสัย ทำไมถึงทิ้งเงินจำนวนจำนวนมาไว้ขนาดนี้ แต่ตระกูลโจวภายในสิบปีนี้ยังอยู่ในบ้านหลังเดิม ใช้ของเดิมๆ

เขาแค่คิดว่า ตระกูลโจวนั้นไม่ใชคนฟุ่มเฟือย แต่เมื่อได้มาเห็นวันนี้ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

"ฮ่าๆ ชู่หยวนฟง คุณยังมีหน้ามาพูดเรื่องโฉนดที่ดินอีกหรอ!" โจวอิ๋งพูดลอยๆ เฮอะ ออกมา: "ก็ไม่ใช่เพราะโฉนดที่ดินอันนั้นหรอบ้านของพวกเราเลยพบกับหายนะใหญ่แบบนี้!"

สีหน้าของโจวเลี่ยเปลี่ยน: "เงียบไป อย่าพูดออกมา!"

"ทำไมไม่พูดหล่ะ ก็แค่อยากจะพูดว่า...." โจวอิ๋งกำลังโมโห เธอตะโกนออกมาด้วยความโกรธว่า: "ก็เพราะโฉนดที่ดินนั่นแหละ พ่อของฉันก็เลยตกเป็นเป้าของหม่าซานหยวนของสมาคมการค้าซือไห่!"

คนพวกนั้นมันโหดเหี้ยม ทำอะไรไม่ได้ ใครกล้าที่จะขัดขวางพวกเขากันหล่ะ? พวกเขาแย่งโฉนดไปยังไม่พอ ยังตัดขาพ่อไปหนึ่งข้าง"

"ตอนนี้ขาขวาของพ่อยังใช้เหล็กดามไว้อยู่เลย ในวันที่ฝนตกฟ้าครึ้มนั้น เขาเจ็บปวดมาก รู้บ้างไหม?"

ชู่หยวนฟงจู่ๆ ก็คิดอะไรไม่ออก ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นมา

จากนั้นบรรยากาศก็เงีนย มีเพียงซุนหมิงซวนที่ยิ้มอยู่ข้างๆ อย่างมีความสุขที่เห็นชู่หยวนฟงอับอาย

หลิวหมิงหลานแอบเช็ดน้ำตาของเธอ โจวเลี่ยก็หดขาขวาของเขาแอบไป และยิ้ม: "อย่าไปฟังหญิงสาวพูดเรื่อยเปื่อย ก็แค่เจ็บผิวเท่านั้น ดีขึ้นแล้ว"

"กลายเป็นทหารแล้ว ไอพวกเลวพวกนั้นทำร้ายฉันได้ไหม? ฮ่าๆ พวกเขากลับหนักใจสะเอง"

ชู่หยวนฟงเอาแต่เงียบอยู่ เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่งและจับไปที่ขาขวาของโจวเลี่ย แผลเป็นที่สะดุดตามีความยาวมากกว่าสิบเซนติเมตรและมองเห็นเส้นของแผ่นเหล็กด้านในได้อย่างชัดเจน

ชู่หยวนฟงกด: "เจ็บไหม?"

โจวเลี่ยกัดฟัน หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ยิ้มออกมา: "พ่อเป็นทหารมาทั้งชีวิต แค่นี้เอง ไม่ได้เป็นไร โชคร้ายเจ็บแค่นี้ ฝนตกฟ้ามืด จะได้ช่วยให้พ่อไม่เบื่อไง เป็นเรื่องดีจะตาย"

เขาตบไปที่ไหล่ของชู่หยวนฟง ใบหน้าจริงจัง: "ลูก พวกอันธพาลสมาคมการค้าซือไห่พวกนั้น โหดร้ายมาก ไม่ต้องไปแก้แค้นอะไรกับพวกเขาหรอก"

"ไม่ต้องแก้แค้น ทั้งยังไม่ต้องไปหาพวกเขา ไม่งั้นก็เท่ากับว่าโจวเลี่ยคนนี้ไม่มีลูกชาย ได้ยินไหม?"

เขากลัวว่าชู่หยวนฟงจะไปหาพวกเขา และกลัวว่าเขาอาจเสียชีวิต

ตัวเองอายุเยอะแล้ว น้อยใจเล็กน้อย แล้วยังไง?

"โอเค" ชู่หยวนฟงตอบตกลงและเงียบไม่พูดอะไร

"เปล่าประโยชน์" เมื่อชู่หยวนฟงเดินผ่านโจวอิ๋ง ด้านหลังก็ยิ้มประชด: "ถ้าคุณกล้าจริง ก็ไปทำให้หม่าซานหยวนมาขอโทษพ่อสิ เอาโฉนดที่ดินของเรากลับมา"

"ทำได้ไหมหล่ะ?"

โจวเลี่ยพูดด้วยความโมโห: "อิ๋งอิ๋ง!"

"ผมมั่นใจว่าทำไม่ได้"

ดวงตาของชูหยุนเฟิงมองออกไปไกลพร้อมกับสายตาที่เยือกเย็น

คนที่ตายไปแล้ว จะขอโทษได้ยังไง

งานเลี้ยงวันนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกหมดอารมณ์ ทำยังรู้สึกแย่กว่าเดิม

แต่ ซุนหมิงซวนที่เป็นชายในงาน ทั้งยังมีความกระตือรือร้นอย่างมา ดื่มอย่างมีความสุข!

ในที่สุดผู้คนก็รู้แล้วว่าชู่หยุนเฟิงลูกชายที่ไม่ซื่อสัตย์ที่จากบ้านมาสิบปีไม่เคยมีความกตัญญูกตเวทีเลย

แต่ตัวเองที่เป็นลูกเขย ไม่มีบ่นสักนิดกับการทำงาน ช่วยเหลือพวกเขามากว่าสามปี เปรียบเทียบดูแล้วราวกับฟ้ากับเหว!

ซุนหมิงซวนได้หน้าแล้วยังเหยียบเท้าของชู่หยวนฟงอย่างโหดรร้ายอีก รู้สึกสบายใจอย่างมาก!

"อิ๋งอิ๋ง ผมมีของให้คุณ ของขวัญพิเศษให้กับคุณ!"

เมื่องานเลี้ยงใกล้จบลง ซุนหมิงซวนที่มีความสุขอย่างมากโบกมือใหญ่: "ขอบขวัญชิ้นนี้มาจากหัวใจของผม จึงเป็นเหตุผลที่ผมเก็บไว้เซอร์ไพร์คุณในตอนท้าย"

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร: "ขับ ขับเข้ามา!"

"บูม.."

เสียงสตาร์ทรถดังขึ้นมา ทันใดนั้นก็ดึงความสนใจของผู้คน ทำให้แขกหลายคนตื่นจากเมาเหล้าขึ้นมา พากันจดจ่อมองตาม

มาเซเรติกสีแดงคันหนึ่งวิ่งขับเข้ามาอย่างช้าๆ ทำให้ผู้คนพากันกรี๊ดร้องตื่นเต้น และวิ่งเข้าไปถ่ายรูปกัน

"ชอบไหม อิ๋งอิ๋ง นี่คือขอบขวัญที่ผมให้คุณ" ซุนหมิงซวนชอบใจ: "ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมเป็นเจ้าชายของคุณ!"

ทำให้หญิงสาวหลายคนในที่นั้นอิจฉาไม่ไหว นี่เป็นรถที่มีราคาแพงอย่างมา อิจฉาจะตายแล้ว โชคดีเกินไป

โจวอิ๋งซาบซึ้งจนน้ำตาไหล: "ขอบคุณ สามี!"

ใบหน้าของเธเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและดีใจ ในขณะเดียวกัน เธอหันมามองชู่หยวนฟงที่อยู่ในมุมห้อง

เขายังคงเงียบและสงบอยู่ ร่างกายตั้งตรงเหมือนภูเขาไม่ขยับ มองไม่เห็นถึงความรู้สึกใดๆ

"เฮอะ ทำเป็นลึกลับ!" โจวอิ๋งยิ้มอย่างเย้ยหยัน ในใจของชายคนนี้ต้องเต็มไปด้วยความอับอายอิจฉา แย่สุดคงอยากหาใครสักคนต่อยให้ตาย

เห็นรึยัง ชู่หยวนฟง นี่คือความแตกต่างทางอำนาจ ต่อให้พ่อจะชอบคุณมาแค่ไหน ต่อให้ทำจัวหยิ่งยโสยังไง แล้วได้อะไรไหม?"

พวกเราไม่ใช่คนระดับเดียวกันแล้ว

แต่ก่อนคุณไม่ชอบที่จะสนใจฉัน วันนี้ฉันทำให้คุณโงหัวไม่ขึ้น...

"พ่อแม่ ฉันไปแล้ว มีเวลาเดี๋ยวจะกลับมาหา"

ชู่หยวนฟงก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้น่าสนใจอะไร ถึงเวลาที่จะไปแล้วจึงลุกขึ้นมาพูด

"อ๋าส์ จะไปแล้วหรอ?" หลิวจิงหลานรู้สึกไม่อยากให้จากไป แต่พอคิดดูแล้วก็พยักหน้า รู้สึกเสียใจเล็กน้อย: "งั้น เดินทางปลอดภัย"

คนในครอบครัวก็รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่วันนี้โจวอิ๋งเฉิดฉายแล้ว ไม่มีใครสนใจในตัวเขา เขาก็คงรู้สึกเสียใจแหละ

โจวเลี่ยจับที่หนวดของเขาและจ้องมอง: "จำไว้ อย่าไปหาพวกสมาคมการค้าซือไห่ ไม่งั้นผมคนนี้ไม่มีลูกอย่างคุณ!"

"โอเค"

ชู่หยวนฟงพยักหน้าและเดินออกไป

ในขณะที่เขากำล้งเดินออกจากห้องนั้น...

ตูม!

รถหรูค่อนๆ ขับมาจากประตูอย่างช้าๆ ดูแล้วหรูหราอย่างมาก ไม่ได้ดูโอ่อ่าราวกับเฟอรารี่ แต่ก็ให้ความรู้สึกพระราชาอยู่ แต่ได้เคลื่อนไหวอย่างภูเขา แต่ก็เป็นราชาของลูก

รถหยุดตัวลง ทันใดนั้นสายตาก็จดจ้องมาจากทั่วห้อง รถมาเซเรติกที่ซุนหมิงซวนเอามานั้น อยู่ด้านหน้าของรถคันนั้น เหมือนกับแมวที่เห็นกับเสือ!

เทียบกันคนละชั้นเลย

ซุนหมิงซวนทำท่าทางไม่ถูก เงอะงะๆ แต่ใบหน้าของโจวอิ๋งเต็มไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็แข็งขึ้นทันที

ซือซือ..

ทุกคนในสถานที่นั้นสูดอากาศเย็นๆ จู่ๆ บรรยากาศก็ระเบิดออกมา ราวกับเทน้ำลงในน้ำมันร้อนๆ

"โอ้ รถลินคอร์น คันนี้ ก็กว่ายี่สิบล้านบาท มีไม่กี่คันในประเทศ“

“ไม่เพียงแค่นั้นนี่คือรถของประธานาธิดีแห่งสหรัฐอเมริกา ถึงมีเงินก็ยังซื้อไม่ได้ สำหรับเจียงหลิงอย่างพวกเรา คนที่มีคุณสมบัติที่จะซื้อมีไม่ถึงสามคน!“

นี่ นี่เป็นรถของแขกผู้มีเกียรติท่านใดหล่ะ เป็นพ่อของหมิงซวนงั้นหรอ?"

โจวอิ๋งยังมองไปที่ซุนหมิงซวนด้วยความประหลาดใจ และด้วยสีหน้าประหลาดใจแบบเดียวกันบนใบหน้าของเขา เธอมั่นใจว่ารถคันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา

"สู้ๆ" โจวอิ๋งกำมือของซุนหมิงซวนอย่างแน่: "ฉันเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ เดี๋ยวพวกเราก็จะมีในอนาคต!"

ซุนหมิงซวนยิ้มเล็กน้อย ความมั่นใจก็กลับมาไม่น้อย

ในเวลานี้ ชู่หยวนฟงเดินออกมา เอื้อมมือไปสัมผัสรถลินคอล์นสุดหรูคันนั้น

"คุณก็รู้จักรถนี้ด้วยหรอ?" ซุนหมิงซวนใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

"ไม่ค่อยเข้าใจ" ชู่หยวนฟงตอบ

ใบหน้าซุนหมิงซวนเต็มไปดด้วยความเย่อหยิ่ง จากนั้นก็ทำการแนะนำให้: "รถคันนี้ตกแต่งอย่างคลาสสิกอย่างละเอียดรอบตัวรถ มันคือรถลินคอล์นที่สร้างขึ้นด้วยมือทั้งหมด ถ้าเกิดคุณจะซื้อ ก็ซื้อไม่ได้หรอก ไม่สามารถที่จะจ่ายคมันได้ ผม..."

กึก!

ชู่หยวนเฟิงเปิดประตูรถ ไม่ถึงวินาที ผู้คนก็จ้องมาที่เขา เขานั่งลงไปอย่างราชา

เขานั่งลงไปแล้ว? ! !

บรื้น

รถนั้นดังออกมา และขับออกไป

ก๊าสไอเสียกระจายออกไป

ในพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยแก๊สธรรมชาติ อ้าปาดค้างจนสามารถยันลูกมะพร้าวเข้าไปได้

รถคันนี้ ที่แท้ก็ ที่แท้ก็เป็นของชู่หยวนเฟิงง้นหรอ!

ในเวลานี้ กลับเป็นโจวเลี่ยที่สายตาเปล่ประกาย หัวเราะขึ้นมา: "เห็นรึยัง ชายแก่คนนี้ไม่ได้มองผิดไป ลูกชายผมไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นคนใหญ่โตขนาดไหน!"

"ซุนหมิงซวน รถของเสี่ยวฟงราคายี่สิบล้าน เพียงพอที่จะซื้อบริษัททั้งบริษัทของคุณ แต่คุณกลับอยากให้เขาไปทำความสะอาดห้องน้ำ?" โจวเลี่ยพูดด้วยความดูถูก: "คุณนี่น่าอำนาจใหญ่โตดีนะ"

แขนขาของซุนหมิงซวนแข็งทื่อไม่ขยับ เหมือนกับลมเย็นกระแทกเข้ามาที่ใบหน้า ราวกับว่าหูชาไปทั้งหู ใบหน้าของเขาแข็งทื่อ

เสียงแตกดังขึ้น!

โจวอิ๋งกรีดร้องในใจ ในความมือมนนั้น ราวกับว่าหมือนว่ามีบางอย่างที่สำคัญอย่างยิ่งระหว่างเธอและชูหยุนเฟิง แต่จู่ๆ ก็แตกเป็นชิ้นๆ!

อีกทั้งยังคว้าไว้ไม่ได้แล้ว

นี่ นี่มัน นี่มันคืออะไรกัน? ! !

ในเวลาเดียวกับชู่หยวนเฟิงที่อยู่ในรถ และออกคำสั่งกับหลัวกัง: "ไปสมาคมการค้าซือไห่"

ร่างของเขาเป็นไปด้วยออร่าอาฆาตและพูดว่า:

"ผมจะไปฆ๋าคน"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

463