บทที่ 37 แรงกระเพื่อมใต้น้ำ

ผู้นำสามตระกูลตัวสั่นก้มศีรษะลงพร้อมกันราวกับว่าพวกเขาลังเลและชั่งใจ

ท้ายที่สุดไม่มีใครพูด

เพราะถ้าพูดต้องตายอย่างแน่นอนแต่ถ้าไม่พูดอาจจะมีโอกาสรอด

"ไม่บอกใช่ไหม?"

เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งสามไม่มีใครพูดเย่อเทียนพูดออกมาทำให้ทั้งสามตัวสั่นไปหมด

เพราะกลัวว่าจะเดินตามรอยเท้าของสวีเทียนหมิง

"ไม่เป็นไรฉันจะให้เวลาพวกแกอีกสักหน่อย!"

เย่อเทียนเงยหน้ามองไปบนฟ้าใบหน้าไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆไม่มีใครรู้ว่าในใจของเขากำลังคิดอะไร

"ถ้าคิดออกแล้วก็ไปหาฉันที่ภูเขาเทียนเฉวี่ยบางทีโทษหนักอาจจะกล้าเป็นเบาแต่ถ้ายังไม่ยอมรับแบบนี้ถ้าฉันสืบค้นเจอความจริงเมื่อไหร่ตระกูลสวีก็จะเป็นแบบอย่างให้แกพวกคุณ."

คำพูดไม่กี่คำทำให้ใบหน้าของผู้นำทั้งสามตระกูลดูซีดเซียวและมีเหงื่อออก

"ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้นพวกแกต้องรีบแล้ว"พูดจบเย่อเทียนก็มองไปยังหยางไห่ซาน"โชคไม่ดีเลยแกมีเวลาแค่วันเดียวเท่านั้นจะทำยังไงแกตัดสินใจเองแล้วกัน"

หลังจากพูดจบร่างกายของเย่อเทียนก็ค่อยๆจางลงไปพริบตาเดียวเขาได้หายตัวไปแล้ว

แต่คำพูดของเขายังติดอยู่ในหัวของทั้งสามคนและไม่ได้จางหายไป

เย่อเทียนไม่ใช่แค่พูดเท่านั้นแน่ๆ

แม้ว่าเย่เทียนจะจากไปสักพักแล้วแต่ทั้งยอดเขาก็ยังคงเงียบกว่าที่เคยเป็นมา!

คนตระกูลสวีและหลินยังคงคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพของสวีเทียนเฉิงและไม่กล้าขยับตัวไปไหนเลย

เหลือเพียงผู้นำสามตระกูลใบหน้าทุกคนดูบึ้งตึงและมืดมน

แต่ไม่มีใครกล้าไปไหน!

ความแข็งแกร่งและวิธีการของเย่อเทียนนั้นน่ากลัวมาก

เพราะกลัวว่าจะเผลอไปยั่วยุและเจอกับผลร้าย

บรรดาผู้ที่เข้ามาดูตอนนี้ตกตะลึงกันทุกคนและอึ้งกันเป็นแถว

เป็นไปได้ว่าหลังจากวันนี้ชื่อของเย่อเทียนจะแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลงเฉินอีกครั้ง

และอาจจะแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรมังกร!

ชายหนุ่มคนนี้ได้นำความตกตะลึงเข้ามามากมายจะต้องจารึกในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน

และที่สำคัญที่สุดหลังจากวันนี้อำนาจในเมืองหลงเฉิงจะถูกล้างไพ่ใหม่อย่างแน่นอน

สี่ตระกูลใหญ่ในวันวานได้ล่มสลายไปแล้ว

หลายครอบครัวที่เฝ้าดูมานานอยากที่จะนำพาตระกูลตัวเองขึ้นเป็นผู้นำของเมืองนี้มานานแล้ว

หากไม่ใช่เพราะท่าทีที่ไม่ชัดเจนของเย่อเทียนเมืองหลงเฉิงคงจะยุ่งเหยิงไปนานแล้ว

เวลาค่อยไปผ่านไปผู้นำทั้งสามถึงได้พาคนของตัวเองกลับไป

สำหรับตระกูลสวีและหลินไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสักคน

หญิงชรานั่งอยู่ในหล่มโคลนเหมือนผู้ลี้ภัยที่หนีจากความอดอยากโดยไม่มีความสง่าผ่าเผยและความหยิ่งยโสก่อนหน้านี้

หากไม่มีการสนับสนุนจากตระกูลสวีเธอก็เป็นหญิงชราที่ไม่ได้ดีไปกว่าของทานเลย

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเธอในกว้างกว่านี้หน่อยตระกูลสวีคงไม่ตกระกําลําบากจนถึงเพียงนี้?

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็สมควรแล้ว

หลังจากที่ผู้คนค่อยๆจากไปกระประลองที่เกิดขึ้นในเมืองหลงเฉิงครั้งนี้และตามที่เย่อเทียนได้รับชัยชนะ

มีแต่คนที่ฉลาดหลักแหลมเท่านั้นที่รู้ดีว่าคลื่นใต้น้ำของหลงเฉิงเพิ่งเริ่มกระเพื่อม

"พ่อเราจะไปไหนเราจะไปหาพี่เสี่ยวเทียนใช่ไหม?"

ดวงตาของเย่อน่ามีสีสันเย่อเทียนในวันนี้คือฮีโร่ที่เธอใฝ่ฝันในตอนเด็ก

เธอแทบรอไม่ไหวที่จะคุยกับเย่อเทียนและอยากจะถามเย่อเทียนถึงสิ่งที่เขาประสบในช่วงสิบปีที่ผ่านมา

แม้แต่หวางซิ่วเหลียนก็คิดเช่นนั้นและใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับเย่อเทียน

หลังจากนี้จะมีใครในเมืองหลงเฉิงกล้ารังแกตระกูลเย่ออีก?

"ไปกลับบ้าน!"

เย่อจิงซานส่ายหัวสีหน้าของเขาดูเคร่งขรึม

เขารู้ว่าการล่มสลายของมหาอำนาจทั้งสี่ได้มีอำนาจมากมายในเมืองหลงเฉิงเริ่มจ้องตาเป็นมัน

การล้างไพ่รอบใหม่นี้สิ่งที่จะเกิดขึ้นฟ้าในเมืองหลงเฉิงกำลังจะเปลี่ยนไป!

"ช่วงนี้พยายามอย่าออกจากบ้านก็แล้วกันไม่งั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นแม้แต่เย่อเทียนก็จะปกป้องพวกเธอไม่ได้"

พูดจบก็เดินลงภูเขา

หวางซิ่วเหลียนและลูกมองหน้ากันและกันไม่รู้ว่าสิ่งที่เย่อจิงซานพูดหมายความว่ายังไงและได้เดินตามลงไป

ภูเขาเทียนเฉวี่ยเงียบสงบอย่างน่าประหลาดในวันนี้

เย่อเทียนนั่งลงในศาลาเล็กๆหน้าวิลล่าเขาดูเศร้า

วันนี้แม้ว่าเขาจะทวงความยุติธรรมให้กับสวีเทียนเฉิงแล้ว

แต่ว่าต่อให้เขาฆ่าคนตระกูลสวีไปจนหมดสิ้นแล้วสวีเทียนเฉิงก็ไม่มีวันฟื้นกลับมา

นี่จะเป็นความเสียใจตลอดชีวิตของเย่อเทียน

แม้ว่าเขาจะเก่งขนาดไหนแต่ก็ไม่มีวันทำให้คนตายฟื้นขึ้นมาได้

ในขณะเดียวกันก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่กดทับหัวใจของเขา

การล่มสลายของตระกูลหลิวเมื่อสามปีก่อนผลกระทบไม่ได้เกิดกับเมืองหลงเฉิงเท่านั้น

ตระกูลหลิวกองทัพยังไม่กล้าดูถูกไม่ว่าลูกหลานคนไหนของตระกูลหลิวก็มีลูกน้องเป็นหมื่นบารมีไม่น้อยเลย

แต่ตระกูลใหญ่เช่นนี้ถูกกวาดล้างในชั่วข้ามคืน

มันทำให้เกิดความวุ่นวายในแนวหน้าโดยตรงและกองกำลังหลายแสนคนก็เกือบจะพังพินาศไปโดยเปล่าประโยชน์!

ในปีนั้นคนระดับสูงสั่นสะเทือนได้ส่งทหารชิงหลงจากเขตรบชิงหลงมาสืบและได้กำจัดสายลับไปไม่น้อย

แต่ตอนนี้สมาชิกของสมาคมกระดูกขาวยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลงเฉินดูแล้วทหารชิงหลงที่มากำจัดศัตรูจะไม่ได้ผลเท่าไหร่

ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ยังแยกไม่ออกจากสี่ตระกูลใหญ่!

ในปีนั้นเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้คนที่นำโดยเย่อเทียนและเกือบเสียฐานที่มั่งสำคัญ!

นั้นคือฐานที่มั่งที่จะชี้ชะตากองทัพทั้งสองเย่อเทียนใช้แรงไปมหาศาลถึงได้ปกป้องไว้ได้ถ้าเสียมันไปไม่อยากจะคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น

หลายปีก่อนเพราะสงครามรุนแรงเขาก็เลยว่าเรื่องนี้ไว้ก่อน

แต่ตอนนี้เนื่องจากเย่อเทียนได้เจอกับตัวก็ไม่มีเหตุผลที่จะเพิกเฉยต่อมัน

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้มีผู้คนจากสมาคมกระดูกขาวเขายิ่งต้องไม่ปล่อยไว้

ดวงตาของเย่อเทียนคมขึ้นในทันทีดูเหมือนว่าการเดินทางมาหลงเฉิงครั้งนี้จะไม่สงบสุข

"ท่านครับกุ้ยหลินไร้ฝีมือทำให้ท่านผิดหวังแล้ว!"

ใช้เวลานานพอสมควรกว่าหลินกุ้ยจะกลับมา

เมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจและรู้สึกผิดของเขาไม่จำเป็นต้องพูดเขาจับเยนหล่อไม่ได้

นี่เป็นเรื่องที่เขาทำไม่สำเร็วตั้งแต่ติดตามเย่อเทียนมา

"ไม่เป็นไร!"

เย่อเทียนโบกมืออย่างแผ่วเบาราวกับว่าเขารู้ผลเมื่อนานมาแล้ว

"แล้วเรื่องอื่นล่ะเป็นยังไงบ้าง?"

กุ้ยหลินยืนตัวตรง:"ไม่ต้องกังวลครับวิดีโอและรูปภาพทั้งหมดเกี่ยวกับท่านถูกทำลายไปแล้วและจะไม่มีวันรั่วไหลออกไป"

เย่อเทียนตอบรับเขารู้สึกโล่งใจเสมอเมื่อกุ้ยหลินทำงานให้

"ท่านโปรดให้เวลาผมสามวันต่อให้ต้องค้นหาจนทั่วฟ้าในเมืองหลงเฉิงผมก็จะต้องจับตัวเยนหล่อออกมาให้ได้ไม่อย่างนั้นแล้วแต่ท่านจะลงโทษ"

หลินกุ้ยไม่พอตัวเองและไม่อยากทำให้เย่อเทียนผิดหวัง

เย่อเทียนยิ้มและตบไหล่เขา

"อากุ้ยเธอก็ได้ปะทะกับคนในสมาคมกระดูกขาวมาไม่น้อยถ้าพวกเขาหาง่ายขนาดนี้ตอนนั้นพวกเราคงจะไม่สูญเสียพี่น้องไปโดยเปล่าประโยนช์แแบบนั้น"

เย่อเทียนมองไปไกลๆคำพูดเต็มไปด้วยแรงอาฆาตทำให้กุ้ยหลินซึ้งใจแต่ไม่แสดงอาการใดๆ

"เยนหล่อก็เป็นแค่หนูตัวเล็กๆเธอฆ่าไม่หมดหรอกและจะทำให้หนูตกใจจนหนึไป"

"ถ้าจะลงมือจะต้องตัดสินทางมันทั้งหมดไม่ว่าตัวใหญ่หรือเล็กก็ต้องจับที่เดียวไม่งั้นก็จะมีเรื่องตามมาอีกมากมาย!

กุ้ยหลินยืนตัวตรงและตั้งใจฟัง

"ท่านพูดถูกผมได้ติดต่อพี่น้องของเราแล้วและได้ล้อมเมืองหลงเฉินไว้แล้วใครที่น่าสงสัยห้ามออกจากเมืองแม้แต่ก้าวเดียว"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

884