บทที่ 58 ที่ฉันพูดมามันถูกใช่ไหม?

หลินกุ้ยห้มหน้าของเค้า:"ขอโทษครับคุณชาย........."

ก่อนหน้านี้เค้าไปเดินอยู่ที่ย่านการค้าของเมืองหลงเฉิงแม้แต่สำนักงานของซูเฉินยุนเองเค้าก็ไปมาแล้วรอบนึง

ผลที่ได้ก็คือเค้าไม่พบเจออะไรที่น่าสงสัยเลย

หรือว่าซูเฉินยุนจะไม่ได้มีปัญหาอะไร

หรือว่าซูเฉินยุนคนนี้เค้าจะหลบซ่อนได้ลึกลับมาก

ลึกลับมากพอที่จะไม่ทิ้งร่องรอย

"เป็นไปตามที่ฉันคาดเดาเอาไว้เลย!"

เย่อเทียนไม่ได้ตำหนิอะไรความรู้สึกสนใจในใจของเค้าก็เริ่มมีมากขึ้น

วันนี้ซูเฉินยุนเค้าทดสอบอย่างน้อยๆก็สามครั้งคนๆนี้มีปัญหาอย่างแน่นอน

"ไป......."

หลังจากที่พูดคำนี้ไปเย่อเทียนก็เดินนำออกไปจากวิลล่าส่วนหลินกุ้ยก็รีบตามออกไป

"คุณชายพวกเราจะไปไหนกัน?"

เย่อเทียนนั่งที่ด้านข้างของคนขับในแววตาของเค้ามันดูไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรใดๆเลย!

"บ้านตระกูลสวี!"

ตระกูลสวีพวกเค้าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลงเฉิงในเวลาสั้นๆเพียงแค่หนึ่งเดือนพวกเค้าก็ได้ล่มสลายลงไปในที่สุด

ในตอนนี้เองวิลล่าที่ทรุดโทรมลงเล็กน้อยก็ถูกปกคุลมไปด้วยผ้าสีขาวทุกที่มันเป็นภาพที่ดูเยือกเย็นเป็นอย่างมาก!

ที่ด้านในเปิดไฟสว่างแต่มันก็ไร้ผู้คน

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้มันแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง

ที่ใจกลางของวิลล่ามีโรงศพสีเข้มตั้งอยู่มันดูเศร้าโศกเป็นอย่างมาก

รอบๆโลงศพมีคนที่กำลังเผากระดาษเงินกระดาษทองอยู่วิวล่าทั้งหลังดูไร้ชีวิตชีวา

คุณนายสวีแต่ก่อนเธอไม่ได้เป็นที่สองรองใครในเมืองหลงเฉิง

แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เธอจากไปคนของตระกูลสวีก็หนีไปบ้างจากไปบ้าง

ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังคงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลุมศพของสวีเทียนเฉิง

ชาที่เย็นลงราวกับผู้คนแต่ที่ทางนี้!

ชีวิตหลังความตายมันก็กลายเป็นเพียงแค่เถ้ากระดูก!

"สวีฟู่แกเป็นอมตะจะไปนานแค่ไหนกันแกจะหนีฉันไปไหน?รีบเลยเอาหุ้นบริษัทมาให้ฉันไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าแก!"

ที่ทางเข้าของห้องโถงใหญ่ชายวัยสี่สิบปีกำลังตะโกนถามสวีฟู่พร้อมกับสีหน้าที่ดูเสียใจเป็นอย่างมากของเค้า

"ยัยแก่ก่อนตายแกกำหุ้นเอาไว้จนแน่นเลยนะตายไปแล้วมันก็เอาอะไรไปไม่ได้?ส่งมันมาให้ฉันเถอะ"

ชายคนนี้เค้ามีชื่อว่าสวีหยงเจิ้งเค้าถือได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณนายสวีเค้าเคยอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลสวีมาก่อน

แต่ก่อนต่อหน้าของคุณนายเค้าก็ทำตัวดีเชื่อฟังมาตลอดแต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าคุณนายสวีเธอตายไปแล้วแล้วลูกหลานสายตรงของตระกูลสวีก็กระจัดกระจายไปดังนั้นเค้าจึงเริ่มคิดถึงความยุติธรรมของตระกูลสวี

เค้ากำลังคิดถึงการเสี่ยงทายที่ดุเดือดเพื่อที่จะบินขึ้นไปให้สูง

"คุณชายเปียวไม่ใช่ว่าผมจะไม่ให้คุณแต่ก่อนที่คุณนายสวีเธอจะตายไปก็เลยไม่มีใครทำอะไรกับส่วนนี้ได้เลย!"สวีฟู่อธิบายอย่างที่ทำอะไรไม่ได้เลย

นอกจากนี้แล้วสวีหยงเจิ้งคนนี้เค้าไม่ได้มาจากตระกูลสวีโดยตรงเค้าเลยไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะจับต้องกับสิ่งของของตระกูลสวี?

"ไอ่ห่านี่หนิมึงยังไม่ตายแล้วยังจะกล้ามาพูดแบบนี้กับกูเหรอ?"

สวีหยงเจิ้งเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา:"ฉันว่าแกเป็นคนที่ต้องการที่จะฉวยประโยชน์จากความวุ่นวายเพื่อฉกฉวยเอาทรัพย์สินของตระกูลสวีใช่ไหม?แกคิดว่าฉันไม่รู้สินะ?"

"คุณชายเปียวครับอย่าพูดจากล่าวหากันแบบนี้นะครับ!ผมก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณนายสวี!"สีหน้าของสวีฟู่ดูน่าเกลียดขึ้นมาเรื่อยๆแต่ก็ช่วยอะไรสวีหยงเจิ้งไม่ได้เลย

"ยัยแก่นั่นมันตายไปแล้วยังไม่รู้อีกเหรอ?กูให้เวลามึงแค่ห้านาทีรีบเอามันออกมาซะไม่อย่างงั้นหละก็กูก็ไม่รังเกลียดที่จะส่งเมิงไปรับใช้ยัยแก่นั่นต่อ"

สีหน้าของสวีฟู่ซีดเซียวไปหมด

คุณชายเปียวคนนี้ปกติต่อหน้าคุณนายเค้าก็ไม่กล้าที่จะแสดงอารมณ์โมโหออกมาเลยด้วยซ้ำ!

ร่างของคุณนายเองก็ยังอยู่เค้าเป็นคนแรกที่โผล่ออกมา

มันเป็นเรื่องที่ต้องรีบจริงๆหากพอที่จะทำอะไรได้ก็ต้องรีบๆทำ!

"โอ้!คุณจะเอามันงั้นก็เอาไปเถอะยังไงเสียตระกูลสวีก็จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว.........."

สวีฟู่ถอนหายใจจากนั้นก็หยิบซองเอกสารขนาดใหญ่ออกมาแล้วส่งมันไปให้กับสวีหยงเจิ้ง

ข้างในมีหุ้นของบริษัททั้งหมดภายในนามของตระกูลสวีรวมทั้งพันธบัตรและบัญชีเงินฝากบางส่วน

มูลค่าของมันก็มีค่ามากเกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะจินตนาการได้

"ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบไปนานแล้ว?ทึ่มจริงๆ!"

สวีหยงเจิ้งรับมันไปพร้อมกับแววตาที่ลุกเป็นไฟใบปากของเค้าก็ด่าไปเรื่อย

"ฮึ่มฉันว่าพวกแกคนโดยไอ่เย่อเทียนนั่นทำให้ตกใจกันไปหมดมันบอกว่าจะเอาเงินเก็บไว้ให้ไอ่เด็กบ้านั่นพวกแกจะทำตามมันจริงๆหรือไงวะ?"

ในใจสวีหยงเจิ้งก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพียงแค่เค้าเอาของทั้งหมดพวกนี้ไปขายเงินที่ได้มาใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด

เมื่อถึงเวลาค่อยมาคิดหาวิธีไปจากเมืองหลงเฉิงเค้าก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อคิดถึงสิ่งที่คุณนายสวีต้องการที่จะเก็บเงินทองเหล่านี้เอาไว้ให้ไอ่เด็กบ้านั่นตามที่เย่อเทียนสั่งเค้าก็โกรธเป็นอย่างมาก

ดังนั้นหลังจากที่รู้เรื่องนี้จากห้องโถงงานเลี้ยงของสมาคมหอการค้าเค้าก็เลยรีบกลับมาที่บ้านตระกูลสวี

"ฮึ่มไอ่เย่อเทียนนั่นไม่รู้ว่ามันไปตามหาตัวอีเด็กบ้านั่นมาจากไหนพวกเคาคิดจริงๆเหรอว่ายัยเด็กนั่นเป็นลูกสาวของสวีเทียนเฉิงจริงๆ?"

"แม้ว่าจะเป็นจริงๆแต่อีเด็กนอกคอกนั่นมันมีคุณสมบัติอะไร........"

สวีหยงเจิ้งหันหน้ากลับมาแล้วพูดไปด้วยหน้าของเค้าที่พึ่งจะหันมาเงียบของเค้าก็เงียบลงไปในทันที

ใบหน้าของเค้าก็ตกตะลึ่งไปชั่วขณะจากนั้นสีหน้าของเค้าก็ค่อยๆซีดลงไปร่างของเค้าสั่นสะท้านแล้วก็คุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น

ต่อหน้าของเค้าไม่รู้ว่ามีคนเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่!

"เย่อเย่อเทียน...........ไม่ไม่ไม่..........คุณเย่อผมผมมาเอาของก็เพื่อที่จะเอามันส่งมอบให้คุณเออใช่ก็เป็นแบบนี้......"

เมื่อเห็นว่าเย่อเทียนกับหลินกุ้นมาปรากฎตัวอยู่ที่หน้าเค้าโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวอะไรล่วงหน้าซูหยงเจิ้งก็ตกใจเป็นอย่างมากคนเข่าของเค้ามันอ่อนไปหมด

คนอื่นเองก็เหมือนกันทุกคนต่างตัวสั่นแล้วคุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น!

เย่อเทียนจ้องมองไปที่สวีหยงเจิ้งโดยไม่พูดอะไรซักคำเค้าเพียงแค่ยื่นมือขวาออกไปทางสวีหยงเจิ้ง

สีหน้าของสวีหยงเจิ้งดูไม่ได้เลยแม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยเต็มใจซักเท่าไหร่แต่เค้าก็ตัวสั่นแล้วส่งซองเอกสารนั่นไปให้เย่อเทียน

"คุณเย่อผมผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นจริงๆนะครับผม..........."

ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบเย่อเทียนก็เตะเท้าของเค้าออกไปทันใดนั้นเองมันก็พุ่งเข้าไปที่ปากของสวีหยงเจิ้งอย่างพอดี

สวีเทียนเจิ้งกระเด็นลอยออกไปเค้ากระเด็กเข้าไปกระแทกกับโรงศพอย่างแรง

ปากและฟันของเค้ากระจายออกไปเป็นชิ้นๆเค้ากระอักเลือดออกมาเต็มปากพร้อมกับเสียงสะอื้น

ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เค้ากลิ้งไปมาไม่หยุด

คนอื่นที่ได้เห็นต่างก็เสียวสันหลัง!

"ถ้าแกยังกล้าที่จะทำอะไรขึ้นมาอีกหละก็ฉันก็จะไม่รังเกียจที่จะส่งแกไปนอนในโลง"

น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเย่อเทียนที่ดังขึ้นมาทันใดนั้นสวีหยงเจิ้งก็หยุดนิ่งในทันทีเค้าตัวสั่นอยู่ที่หน้าโลง

น้ำเลือดน้ำตาของเค้าไหลนองเต็มไปหมด

เย่อเทียนจ้องมองไปที่โลงศพจากนั้นเค้าก็จ้องมองไปที่สวีฟู่

"ได้ยินว่าก่อนที่คุณนายสวีจะตายมีเพียงนายคนเดียวใช่ไหมที่อยู่กับเธอบอกฉันมาตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลจะตายมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"

สวีฟู่ตัวสั่นเค้าส่ายหัวอย่างแรง

"ไม่...

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

884