บทที่ 58 ที่ฉันพูดมามันถูกใช่ไหม?
by ฮั่นแซ่วคั้นไห่อย่าง
08:01,Mar 28,2021
หลินกุ้ยห้มหน้าของเค้า:"ขอโทษครับคุณชาย........."
ก่อนหน้านี้เค้าไปเดินอยู่ที่ย่านการค้าของเมืองหลงเฉิงแม้แต่สำนักงานของซูเฉินยุนเองเค้าก็ไปมาแล้วรอบนึง
ผลที่ได้ก็คือเค้าไม่พบเจออะไรที่น่าสงสัยเลย
หรือว่าซูเฉินยุนจะไม่ได้มีปัญหาอะไร
หรือว่าซูเฉินยุนคนนี้เค้าจะหลบซ่อนได้ลึกลับมาก
ลึกลับมากพอที่จะไม่ทิ้งร่องรอย
"เป็นไปตามที่ฉันคาดเดาเอาไว้เลย!"
เย่อเทียนไม่ได้ตำหนิอะไรความรู้สึกสนใจในใจของเค้าก็เริ่มมีมากขึ้น
วันนี้ซูเฉินยุนเค้าทดสอบอย่างน้อยๆก็สามครั้งคนๆนี้มีปัญหาอย่างแน่นอน
"ไป......."
หลังจากที่พูดคำนี้ไปเย่อเทียนก็เดินนำออกไปจากวิลล่าส่วนหลินกุ้ยก็รีบตามออกไป
"คุณชายพวกเราจะไปไหนกัน?"
เย่อเทียนนั่งที่ด้านข้างของคนขับในแววตาของเค้ามันดูไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรใดๆเลย!
"บ้านตระกูลสวี!"
ตระกูลสวีพวกเค้าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลงเฉิงในเวลาสั้นๆเพียงแค่หนึ่งเดือนพวกเค้าก็ได้ล่มสลายลงไปในที่สุด
ในตอนนี้เองวิลล่าที่ทรุดโทรมลงเล็กน้อยก็ถูกปกคุลมไปด้วยผ้าสีขาวทุกที่มันเป็นภาพที่ดูเยือกเย็นเป็นอย่างมาก!
ที่ด้านในเปิดไฟสว่างแต่มันก็ไร้ผู้คน
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้มันแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง
ที่ใจกลางของวิลล่ามีโรงศพสีเข้มตั้งอยู่มันดูเศร้าโศกเป็นอย่างมาก
รอบๆโลงศพมีคนที่กำลังเผากระดาษเงินกระดาษทองอยู่วิวล่าทั้งหลังดูไร้ชีวิตชีวา
คุณนายสวีแต่ก่อนเธอไม่ได้เป็นที่สองรองใครในเมืองหลงเฉิง
แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เธอจากไปคนของตระกูลสวีก็หนีไปบ้างจากไปบ้าง
ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังคงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลุมศพของสวีเทียนเฉิง
ชาที่เย็นลงราวกับผู้คนแต่ที่ทางนี้!
ชีวิตหลังความตายมันก็กลายเป็นเพียงแค่เถ้ากระดูก!
"สวีฟู่แกเป็นอมตะจะไปนานแค่ไหนกันแกจะหนีฉันไปไหน?รีบเลยเอาหุ้นบริษัทมาให้ฉันไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าแก!"
ที่ทางเข้าของห้องโถงใหญ่ชายวัยสี่สิบปีกำลังตะโกนถามสวีฟู่พร้อมกับสีหน้าที่ดูเสียใจเป็นอย่างมากของเค้า
"ยัยแก่ก่อนตายแกกำหุ้นเอาไว้จนแน่นเลยนะตายไปแล้วมันก็เอาอะไรไปไม่ได้?ส่งมันมาให้ฉันเถอะ"
ชายคนนี้เค้ามีชื่อว่าสวีหยงเจิ้งเค้าถือได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณนายสวีเค้าเคยอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลสวีมาก่อน
แต่ก่อนต่อหน้าของคุณนายเค้าก็ทำตัวดีเชื่อฟังมาตลอดแต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าคุณนายสวีเธอตายไปแล้วแล้วลูกหลานสายตรงของตระกูลสวีก็กระจัดกระจายไปดังนั้นเค้าจึงเริ่มคิดถึงความยุติธรรมของตระกูลสวี
เค้ากำลังคิดถึงการเสี่ยงทายที่ดุเดือดเพื่อที่จะบินขึ้นไปให้สูง
"คุณชายเปียวไม่ใช่ว่าผมจะไม่ให้คุณแต่ก่อนที่คุณนายสวีเธอจะตายไปก็เลยไม่มีใครทำอะไรกับส่วนนี้ได้เลย!"สวีฟู่อธิบายอย่างที่ทำอะไรไม่ได้เลย
นอกจากนี้แล้วสวีหยงเจิ้งคนนี้เค้าไม่ได้มาจากตระกูลสวีโดยตรงเค้าเลยไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะจับต้องกับสิ่งของของตระกูลสวี?
"ไอ่ห่านี่หนิมึงยังไม่ตายแล้วยังจะกล้ามาพูดแบบนี้กับกูเหรอ?"
สวีหยงเจิ้งเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา:"ฉันว่าแกเป็นคนที่ต้องการที่จะฉวยประโยชน์จากความวุ่นวายเพื่อฉกฉวยเอาทรัพย์สินของตระกูลสวีใช่ไหม?แกคิดว่าฉันไม่รู้สินะ?"
"คุณชายเปียวครับอย่าพูดจากล่าวหากันแบบนี้นะครับ!ผมก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณนายสวี!"สีหน้าของสวีฟู่ดูน่าเกลียดขึ้นมาเรื่อยๆแต่ก็ช่วยอะไรสวีหยงเจิ้งไม่ได้เลย
"ยัยแก่นั่นมันตายไปแล้วยังไม่รู้อีกเหรอ?กูให้เวลามึงแค่ห้านาทีรีบเอามันออกมาซะไม่อย่างงั้นหละก็กูก็ไม่รังเกลียดที่จะส่งเมิงไปรับใช้ยัยแก่นั่นต่อ"
สีหน้าของสวีฟู่ซีดเซียวไปหมด
คุณชายเปียวคนนี้ปกติต่อหน้าคุณนายเค้าก็ไม่กล้าที่จะแสดงอารมณ์โมโหออกมาเลยด้วยซ้ำ!
ร่างของคุณนายเองก็ยังอยู่เค้าเป็นคนแรกที่โผล่ออกมา
มันเป็นเรื่องที่ต้องรีบจริงๆหากพอที่จะทำอะไรได้ก็ต้องรีบๆทำ!
"โอ้!คุณจะเอามันงั้นก็เอาไปเถอะยังไงเสียตระกูลสวีก็จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว.........."
สวีฟู่ถอนหายใจจากนั้นก็หยิบซองเอกสารขนาดใหญ่ออกมาแล้วส่งมันไปให้กับสวีหยงเจิ้ง
ข้างในมีหุ้นของบริษัททั้งหมดภายในนามของตระกูลสวีรวมทั้งพันธบัตรและบัญชีเงินฝากบางส่วน
มูลค่าของมันก็มีค่ามากเกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะจินตนาการได้
"ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบไปนานแล้ว?ทึ่มจริงๆ!"
สวีหยงเจิ้งรับมันไปพร้อมกับแววตาที่ลุกเป็นไฟใบปากของเค้าก็ด่าไปเรื่อย
"ฮึ่มฉันว่าพวกแกคนโดยไอ่เย่อเทียนนั่นทำให้ตกใจกันไปหมดมันบอกว่าจะเอาเงินเก็บไว้ให้ไอ่เด็กบ้านั่นพวกแกจะทำตามมันจริงๆหรือไงวะ?"
ในใจสวีหยงเจิ้งก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพียงแค่เค้าเอาของทั้งหมดพวกนี้ไปขายเงินที่ได้มาใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด
เมื่อถึงเวลาค่อยมาคิดหาวิธีไปจากเมืองหลงเฉิงเค้าก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อคิดถึงสิ่งที่คุณนายสวีต้องการที่จะเก็บเงินทองเหล่านี้เอาไว้ให้ไอ่เด็กบ้านั่นตามที่เย่อเทียนสั่งเค้าก็โกรธเป็นอย่างมาก
ดังนั้นหลังจากที่รู้เรื่องนี้จากห้องโถงงานเลี้ยงของสมาคมหอการค้าเค้าก็เลยรีบกลับมาที่บ้านตระกูลสวี
"ฮึ่มไอ่เย่อเทียนนั่นไม่รู้ว่ามันไปตามหาตัวอีเด็กบ้านั่นมาจากไหนพวกเคาคิดจริงๆเหรอว่ายัยเด็กนั่นเป็นลูกสาวของสวีเทียนเฉิงจริงๆ?"
"แม้ว่าจะเป็นจริงๆแต่อีเด็กนอกคอกนั่นมันมีคุณสมบัติอะไร........"
สวีหยงเจิ้งหันหน้ากลับมาแล้วพูดไปด้วยหน้าของเค้าที่พึ่งจะหันมาเงียบของเค้าก็เงียบลงไปในทันที
ใบหน้าของเค้าก็ตกตะลึ่งไปชั่วขณะจากนั้นสีหน้าของเค้าก็ค่อยๆซีดลงไปร่างของเค้าสั่นสะท้านแล้วก็คุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น
ต่อหน้าของเค้าไม่รู้ว่ามีคนเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่!
"เย่อเย่อเทียน...........ไม่ไม่ไม่..........คุณเย่อผมผมมาเอาของก็เพื่อที่จะเอามันส่งมอบให้คุณเออใช่ก็เป็นแบบนี้......"
เมื่อเห็นว่าเย่อเทียนกับหลินกุ้นมาปรากฎตัวอยู่ที่หน้าเค้าโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวอะไรล่วงหน้าซูหยงเจิ้งก็ตกใจเป็นอย่างมากคนเข่าของเค้ามันอ่อนไปหมด
คนอื่นเองก็เหมือนกันทุกคนต่างตัวสั่นแล้วคุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น!
เย่อเทียนจ้องมองไปที่สวีหยงเจิ้งโดยไม่พูดอะไรซักคำเค้าเพียงแค่ยื่นมือขวาออกไปทางสวีหยงเจิ้ง
สีหน้าของสวีหยงเจิ้งดูไม่ได้เลยแม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยเต็มใจซักเท่าไหร่แต่เค้าก็ตัวสั่นแล้วส่งซองเอกสารนั่นไปให้เย่อเทียน
"คุณเย่อผมผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นจริงๆนะครับผม..........."
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบเย่อเทียนก็เตะเท้าของเค้าออกไปทันใดนั้นเองมันก็พุ่งเข้าไปที่ปากของสวีหยงเจิ้งอย่างพอดี
สวีเทียนเจิ้งกระเด็นลอยออกไปเค้ากระเด็กเข้าไปกระแทกกับโรงศพอย่างแรง
ปากและฟันของเค้ากระจายออกไปเป็นชิ้นๆเค้ากระอักเลือดออกมาเต็มปากพร้อมกับเสียงสะอื้น
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เค้ากลิ้งไปมาไม่หยุด
คนอื่นที่ได้เห็นต่างก็เสียวสันหลัง!
"ถ้าแกยังกล้าที่จะทำอะไรขึ้นมาอีกหละก็ฉันก็จะไม่รังเกียจที่จะส่งแกไปนอนในโลง"
น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเย่อเทียนที่ดังขึ้นมาทันใดนั้นสวีหยงเจิ้งก็หยุดนิ่งในทันทีเค้าตัวสั่นอยู่ที่หน้าโลง
น้ำเลือดน้ำตาของเค้าไหลนองเต็มไปหมด
เย่อเทียนจ้องมองไปที่โลงศพจากนั้นเค้าก็จ้องมองไปที่สวีฟู่
"ได้ยินว่าก่อนที่คุณนายสวีจะตายมีเพียงนายคนเดียวใช่ไหมที่อยู่กับเธอบอกฉันมาตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลจะตายมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"
สวีฟู่ตัวสั่นเค้าส่ายหัวอย่างแรง
"ไม่...
ก่อนหน้านี้เค้าไปเดินอยู่ที่ย่านการค้าของเมืองหลงเฉิงแม้แต่สำนักงานของซูเฉินยุนเองเค้าก็ไปมาแล้วรอบนึง
ผลที่ได้ก็คือเค้าไม่พบเจออะไรที่น่าสงสัยเลย
หรือว่าซูเฉินยุนจะไม่ได้มีปัญหาอะไร
หรือว่าซูเฉินยุนคนนี้เค้าจะหลบซ่อนได้ลึกลับมาก
ลึกลับมากพอที่จะไม่ทิ้งร่องรอย
"เป็นไปตามที่ฉันคาดเดาเอาไว้เลย!"
เย่อเทียนไม่ได้ตำหนิอะไรความรู้สึกสนใจในใจของเค้าก็เริ่มมีมากขึ้น
วันนี้ซูเฉินยุนเค้าทดสอบอย่างน้อยๆก็สามครั้งคนๆนี้มีปัญหาอย่างแน่นอน
"ไป......."
หลังจากที่พูดคำนี้ไปเย่อเทียนก็เดินนำออกไปจากวิลล่าส่วนหลินกุ้ยก็รีบตามออกไป
"คุณชายพวกเราจะไปไหนกัน?"
เย่อเทียนนั่งที่ด้านข้างของคนขับในแววตาของเค้ามันดูไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรใดๆเลย!
"บ้านตระกูลสวี!"
ตระกูลสวีพวกเค้าเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลงเฉิงในเวลาสั้นๆเพียงแค่หนึ่งเดือนพวกเค้าก็ได้ล่มสลายลงไปในที่สุด
ในตอนนี้เองวิลล่าที่ทรุดโทรมลงเล็กน้อยก็ถูกปกคุลมไปด้วยผ้าสีขาวทุกที่มันเป็นภาพที่ดูเยือกเย็นเป็นอย่างมาก!
ที่ด้านในเปิดไฟสว่างแต่มันก็ไร้ผู้คน
เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้มันแตกต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิง
ที่ใจกลางของวิลล่ามีโรงศพสีเข้มตั้งอยู่มันดูเศร้าโศกเป็นอย่างมาก
รอบๆโลงศพมีคนที่กำลังเผากระดาษเงินกระดาษทองอยู่วิวล่าทั้งหลังดูไร้ชีวิตชีวา
คุณนายสวีแต่ก่อนเธอไม่ได้เป็นที่สองรองใครในเมืองหลงเฉิง
แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เธอจากไปคนของตระกูลสวีก็หนีไปบ้างจากไปบ้าง
ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ยังคงคุกเข่าอยู่ต่อหน้าหลุมศพของสวีเทียนเฉิง
ชาที่เย็นลงราวกับผู้คนแต่ที่ทางนี้!
ชีวิตหลังความตายมันก็กลายเป็นเพียงแค่เถ้ากระดูก!
"สวีฟู่แกเป็นอมตะจะไปนานแค่ไหนกันแกจะหนีฉันไปไหน?รีบเลยเอาหุ้นบริษัทมาให้ฉันไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าแก!"
ที่ทางเข้าของห้องโถงใหญ่ชายวัยสี่สิบปีกำลังตะโกนถามสวีฟู่พร้อมกับสีหน้าที่ดูเสียใจเป็นอย่างมากของเค้า
"ยัยแก่ก่อนตายแกกำหุ้นเอาไว้จนแน่นเลยนะตายไปแล้วมันก็เอาอะไรไปไม่ได้?ส่งมันมาให้ฉันเถอะ"
ชายคนนี้เค้ามีชื่อว่าสวีหยงเจิ้งเค้าถือได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณนายสวีเค้าเคยอาศัยอยู่ในบ้านตระกูลสวีมาก่อน
แต่ก่อนต่อหน้าของคุณนายเค้าก็ทำตัวดีเชื่อฟังมาตลอดแต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าคุณนายสวีเธอตายไปแล้วแล้วลูกหลานสายตรงของตระกูลสวีก็กระจัดกระจายไปดังนั้นเค้าจึงเริ่มคิดถึงความยุติธรรมของตระกูลสวี
เค้ากำลังคิดถึงการเสี่ยงทายที่ดุเดือดเพื่อที่จะบินขึ้นไปให้สูง
"คุณชายเปียวไม่ใช่ว่าผมจะไม่ให้คุณแต่ก่อนที่คุณนายสวีเธอจะตายไปก็เลยไม่มีใครทำอะไรกับส่วนนี้ได้เลย!"สวีฟู่อธิบายอย่างที่ทำอะไรไม่ได้เลย
นอกจากนี้แล้วสวีหยงเจิ้งคนนี้เค้าไม่ได้มาจากตระกูลสวีโดยตรงเค้าเลยไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะจับต้องกับสิ่งของของตระกูลสวี?
"ไอ่ห่านี่หนิมึงยังไม่ตายแล้วยังจะกล้ามาพูดแบบนี้กับกูเหรอ?"
สวีหยงเจิ้งเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา:"ฉันว่าแกเป็นคนที่ต้องการที่จะฉวยประโยชน์จากความวุ่นวายเพื่อฉกฉวยเอาทรัพย์สินของตระกูลสวีใช่ไหม?แกคิดว่าฉันไม่รู้สินะ?"
"คุณชายเปียวครับอย่าพูดจากล่าวหากันแบบนี้นะครับ!ผมก็แค่ทำตามคำสั่งของคุณนายสวี!"สีหน้าของสวีฟู่ดูน่าเกลียดขึ้นมาเรื่อยๆแต่ก็ช่วยอะไรสวีหยงเจิ้งไม่ได้เลย
"ยัยแก่นั่นมันตายไปแล้วยังไม่รู้อีกเหรอ?กูให้เวลามึงแค่ห้านาทีรีบเอามันออกมาซะไม่อย่างงั้นหละก็กูก็ไม่รังเกลียดที่จะส่งเมิงไปรับใช้ยัยแก่นั่นต่อ"
สีหน้าของสวีฟู่ซีดเซียวไปหมด
คุณชายเปียวคนนี้ปกติต่อหน้าคุณนายเค้าก็ไม่กล้าที่จะแสดงอารมณ์โมโหออกมาเลยด้วยซ้ำ!
ร่างของคุณนายเองก็ยังอยู่เค้าเป็นคนแรกที่โผล่ออกมา
มันเป็นเรื่องที่ต้องรีบจริงๆหากพอที่จะทำอะไรได้ก็ต้องรีบๆทำ!
"โอ้!คุณจะเอามันงั้นก็เอาไปเถอะยังไงเสียตระกูลสวีก็จะไม่มีอีกต่อไปแล้ว.........."
สวีฟู่ถอนหายใจจากนั้นก็หยิบซองเอกสารขนาดใหญ่ออกมาแล้วส่งมันไปให้กับสวีหยงเจิ้ง
ข้างในมีหุ้นของบริษัททั้งหมดภายในนามของตระกูลสวีรวมทั้งพันธบัตรและบัญชีเงินฝากบางส่วน
มูลค่าของมันก็มีค่ามากเกินกว่าที่คนธรรมดาทั่วไปจะจินตนาการได้
"ทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบไปนานแล้ว?ทึ่มจริงๆ!"
สวีหยงเจิ้งรับมันไปพร้อมกับแววตาที่ลุกเป็นไฟใบปากของเค้าก็ด่าไปเรื่อย
"ฮึ่มฉันว่าพวกแกคนโดยไอ่เย่อเทียนนั่นทำให้ตกใจกันไปหมดมันบอกว่าจะเอาเงินเก็บไว้ให้ไอ่เด็กบ้านั่นพวกแกจะทำตามมันจริงๆหรือไงวะ?"
ในใจสวีหยงเจิ้งก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมากเพียงแค่เค้าเอาของทั้งหมดพวกนี้ไปขายเงินที่ได้มาใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด
เมื่อถึงเวลาค่อยมาคิดหาวิธีไปจากเมืองหลงเฉิงเค้าก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อคิดถึงสิ่งที่คุณนายสวีต้องการที่จะเก็บเงินทองเหล่านี้เอาไว้ให้ไอ่เด็กบ้านั่นตามที่เย่อเทียนสั่งเค้าก็โกรธเป็นอย่างมาก
ดังนั้นหลังจากที่รู้เรื่องนี้จากห้องโถงงานเลี้ยงของสมาคมหอการค้าเค้าก็เลยรีบกลับมาที่บ้านตระกูลสวี
"ฮึ่มไอ่เย่อเทียนนั่นไม่รู้ว่ามันไปตามหาตัวอีเด็กบ้านั่นมาจากไหนพวกเคาคิดจริงๆเหรอว่ายัยเด็กนั่นเป็นลูกสาวของสวีเทียนเฉิงจริงๆ?"
"แม้ว่าจะเป็นจริงๆแต่อีเด็กนอกคอกนั่นมันมีคุณสมบัติอะไร........"
สวีหยงเจิ้งหันหน้ากลับมาแล้วพูดไปด้วยหน้าของเค้าที่พึ่งจะหันมาเงียบของเค้าก็เงียบลงไปในทันที
ใบหน้าของเค้าก็ตกตะลึ่งไปชั่วขณะจากนั้นสีหน้าของเค้าก็ค่อยๆซีดลงไปร่างของเค้าสั่นสะท้านแล้วก็คุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น
ต่อหน้าของเค้าไม่รู้ว่ามีคนเพิ่มขึ้นมาอีกสองคนตั้งแต่เมื่อไหร่!
"เย่อเย่อเทียน...........ไม่ไม่ไม่..........คุณเย่อผมผมมาเอาของก็เพื่อที่จะเอามันส่งมอบให้คุณเออใช่ก็เป็นแบบนี้......"
เมื่อเห็นว่าเย่อเทียนกับหลินกุ้นมาปรากฎตัวอยู่ที่หน้าเค้าโดยที่ไม่มีการบอกกล่าวอะไรล่วงหน้าซูหยงเจิ้งก็ตกใจเป็นอย่างมากคนเข่าของเค้ามันอ่อนไปหมด
คนอื่นเองก็เหมือนกันทุกคนต่างตัวสั่นแล้วคุกเข่าลงไปอยู่ที่พื้น!
เย่อเทียนจ้องมองไปที่สวีหยงเจิ้งโดยไม่พูดอะไรซักคำเค้าเพียงแค่ยื่นมือขวาออกไปทางสวีหยงเจิ้ง
สีหน้าของสวีหยงเจิ้งดูไม่ได้เลยแม้ว่าเค้าจะไม่ค่อยเต็มใจซักเท่าไหร่แต่เค้าก็ตัวสั่นแล้วส่งซองเอกสารนั่นไปให้เย่อเทียน
"คุณเย่อผมผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นจริงๆนะครับผม..........."
ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบเย่อเทียนก็เตะเท้าของเค้าออกไปทันใดนั้นเองมันก็พุ่งเข้าไปที่ปากของสวีหยงเจิ้งอย่างพอดี
สวีเทียนเจิ้งกระเด็นลอยออกไปเค้ากระเด็กเข้าไปกระแทกกับโรงศพอย่างแรง
ปากและฟันของเค้ากระจายออกไปเป็นชิ้นๆเค้ากระอักเลือดออกมาเต็มปากพร้อมกับเสียงสะอื้น
ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้เค้ากลิ้งไปมาไม่หยุด
คนอื่นที่ได้เห็นต่างก็เสียวสันหลัง!
"ถ้าแกยังกล้าที่จะทำอะไรขึ้นมาอีกหละก็ฉันก็จะไม่รังเกียจที่จะส่งแกไปนอนในโลง"
น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเย่อเทียนที่ดังขึ้นมาทันใดนั้นสวีหยงเจิ้งก็หยุดนิ่งในทันทีเค้าตัวสั่นอยู่ที่หน้าโลง
น้ำเลือดน้ำตาของเค้าไหลนองเต็มไปหมด
เย่อเทียนจ้องมองไปที่โลงศพจากนั้นเค้าก็จ้องมองไปที่สวีฟู่
"ได้ยินว่าก่อนที่คุณนายสวีจะตายมีเพียงนายคนเดียวใช่ไหมที่อยู่กับเธอบอกฉันมาตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลจะตายมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!"
สวีฟู่ตัวสั่นเค้าส่ายหัวอย่างแรง
"ไม่...
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved