บทที่ 38 ให้เกียรติทหารชิงหลงด้วย
by ฮั่นแซ่วคั้นไห่อย่าง
09:22,Mar 24,2021
"อืม!"
เย่อเทียนพยักหน้าเขารู้สึกโล่งใจอยู่เสมอเมื่อหลินกุ้ยทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้นทหารชิงหลงได้กวาดล้างศัตรูไปหนึ่งรอบแล้วคนของสมาคมกระดูกขาวก็จะต้องระวังตัวมากขึ้นแน่ๆ
อยากจะจับพวกมันทั้งหมดในครั้งเดียวจะใจร้องไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
"ท่านครับจะให้คนจากทางเหนือมาไหมครับ?ไม่งั้นผมไม่วางใจเท่าไหร่"
หลินกุ้ยถามอย่างระมัดระวัง!
"ไม่จำเป็น!"
เย่อเทียนส่ายหัว
"ที่นี่มันเป็นเขตทหารซวนหวู่!"
กุ้ยหลินตอบรับและไม่พูดอะไรอีกเลย
ดินแดนทั้งหมดของอาณาจักรมังกรสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนได้อย่างคร่าวๆ
เหนือใต้!
ทางเหนือทั้งหมดเกือบจะเป็นพรมแดนของอาณาจักรมังกรซึ่งมีความสำคัญสูงสุดและเป็นอุปสรรคแรกของประเทศ
ดังนั้นดินแดงเหนือทั้งหมดเย่อเทียนเป็นคนเฝ้าด้วยตัวเอง
หลังจากสิ้นสุดสงครามครั้งนั้นชื่อเสียงของทหารหลินเทียนก็มาถึงจนสูงสุดและไม่มีใครกล้ารุกรานอีก
ทางด้านทิศใต้แบ่งออกเป็นสี่ด้าน
พวกเขาคือชิงหลงจูเชไบ๋หูและซวนอู่!
มีสี่นายพลประจำการเฝ้าอยู๋
และหลงเฉิงเป็นเขตแดนของซวนหวู่
แม้ว่าสี่นายพลจะสง่างามมากแค่ไหนแต่เมื่อได้เห็นเย่อเทียนแล้วก็ต้องทำความเคารพและเรียกผู้นำ
เหตุผลที่เย่อเทียนไม่ปล่อยให้คนของทางเหนือเข้ามาแทรกแซงก็เพื่อรักษาหน้าของแม่ทัพซวนหวู่
ยิ่งไปกว่านั้นครั้งที่แล้วที่มีการกวาดล้างในหลงเฉิงเบื้องบนไม่ได้ใช้ทหารซวนหวู่แต่ได้ใช้ทหารจากชิงหลงมาเองมีความหมายอื่นตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
"หลงเฉินเมืองเล็กๆแต่กลับมีสิ่งสกปรกซ่อนอยู่มากมายดูแล้วคงต้องกวาดล้างครั้งใหญ่"
น้ำเสียงของเย่อเทียนเรียบง่ายแต่หลินกุ้ยรู้ดี
คนพูดสั่นๆต่อไปเมืองหลงเฉินจะลุกเป็นไฟ
เพราะการร่วมมือกับสมาคมกระดูกขาวทำร้ายผู้ภักดีคือโทษตาย
ในตอนนี้ได้มีรถหงฉีคันหนึ่งขับเข้ามาและจอดตรงหน้าเย่อเทียน
เมื่อรถเปิดออกชายวัยกลางคนลงมาก่อนเขาแต่งกายด้วยชุดลายพรางแม้ว่าเขาจะมองไปที่หลังและเอวของเขาแต่เขาก็มีนิสัยอ่อนโยนอยู่บ้าง
หลินกุ้ยขมวดคิ้วเขาเห็นได้ว่าชายคนนี้ก็เป็นทหารเช่นกันและดูเหมือนว่าเขาจะไม่มาดี
และคนที่ติดตามชายคนนี้ลงจากรถคือหยางไห่ซานและหยางเจียวเจียวสองพ่อลูก
ทันทีที่พ่อและลูกสาวเห็นเย่อเทียนหน้าตาก็ดูไม่ดีเลยทำได้เพียงหลบอยู่หลังของชายคนนั้นและไม่กล้าแม้แต่จะมองเย่อเทียน
"คาดว่าคุณก็คือคุณเย่อเทียนใช่หรือไม่?"
ชายคนนั้นพาหยางไห่ซานสองพ่อลูกเดินเข้าไปและนั่งลงต่อหน้าเย่อเทียนแล้วมองหน้าเขา
"ไม่น่าแปลกใจทำให้เจาะทะลุเหมือนหลงเฉิงได้น่าสนใจจริงๆ"
โดยสัญชาตญาณชายคนนั้นรู้ว่าเย่อเทียนไม่ใช่คนที่เล่นได้ง่ายๆ
หลินกุ้ยซึ่งเหมือนกับองครักษ์ที่อยู่ข้างๆเขาจะต้องไม่ประมาท
"ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อขอร้องแทนพวกเขาฉันแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงไป"
เย่อเทียนพูดเบาๆถ้าเขาไม่เห็นอีกฝ่ายเป็นทหารเขาก็คงไม่สุภาพเท่านี้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของสองพ่อลูกก็ซีดแน่นอนเย่อที่ไม่ใช่คนที่จะมาเล่นด้วยได้ง่ายๆ
ชายคนนั้นขมวดคิ้วแต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะจากไปเลย
"ของแนะนำตัวก่อนผมชื่อเฟิงหยวนฮุยเดือนก่อนผมได้ย้ายจากเมืองหลวงมาหลงเฉินแต่จนถึงวันนี้ถึงได้มีโอกาสมาพอคุณเย่อช่างเสียมารยาทจริงๆหวังว่าคุณเย่อคงจะไม่โกรธ!"
แม้ว่าฟิงหยวนฮุยจะเป็นทหารแต่ความคิดของเขาก็พิถีพิถันมาก
ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรแต่ในเดือนนี้เขาได้สืบค้นตัวตนของเย่อเทียนกลัวว่าจะเจอต้อชิ้นใหญ่
แต่น่าเสียดายเขาใช้เครือข่ายของตระกูลก็ไม่สามารถสืบข้อมูลของเย่อเทียนได้
เย่เทียนมีความแข็งแกร่งเช่นนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไร้นาม
คำอธิบายเดียวคือข้อมูลของเขาถูกซ่อนโดยรัฐ
แม้ว่าตระกูลเฟิงจะมีอำนาจในเมืองหลวงแต่ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ได้
เป็นเพราะเหตุนี้เฟิงหยวนฮุยจึงไม่ปรากฏตัวในวันนี้
เมื่อรู้แบบนี้เขาเลยพาหยางไห่ซานและลูกสาวมาขอโทษ
"คุณเป็นใครไม่เกี่ยวอะไรกับผม!"
เย่อเทียนส่ายหัวอย่างแผ่วเบา:"ฉันแนะนำให้คุณออกไปโดยเร็วที่สุดน้ำในเมืองหลงเฉิงตระกูลเฟิงของคุณแบกไม่ไหวหรอก"
เฟิงหยวนฮุ่ยขมวดคิ้ว"คุณเย่อวันนี้คุณก็ได้ระบายแล้วความแค้นก็ได้ชำระแล้วทำไมท่านถึงไม่ยอมปล่อยมือขั้นสูงของท่านให้โอกาสพี่เขยและหลานผมสักหน่อย?ศัตรูของคุณคือตระกูลสวีไม่ใช้ตระกูลหยางหรือว่าท่านจะกำจัดให้หมดสิ้นเลย?"
"ยิ่งไปกว่านั้นคุณเย่อก็น่าจะได้ยิ่งชื่อเสียงของตระกูลเฟิงในเมืองหลวงมาบ้างให้เกียรติกับตระกูลเฟิงสักครั้งตระกูลเฟิงจะไม่ลืมบุญคุณเลย"
เมื่อเห็นว่าเย่อเทียนไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยไปเฟิงหยวนฮุยจึงยกชื่อตระกูลขึ้นมาโดยตรง
ตระกูลเฟิงถือว่าเป็นตระกูลรองๆของเมืองหลวง
แต่ในเมืองหลงเฉิงสิบตระกูลสวีก็เทียบไม่ได้
"ท่านให้คุณไปคุณก็ทำตามสิ!"จู่ๆหลินกุ้ยก็พูดอย่างไม่เกรงใจ
"ไม่งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจจะสอนคุณแทนเฟิงเทียนแล้วควรจะพูดกับท่านยังไง!"
ฟ่อ!
ทันทีที่กุ้ยหลินพูดจบหยางไห่ซานก็หายใจเข้าลึกๆ
เฟิงเทียนไหลเป็นพ่อของเฟิงหยวนฮุยและเป็นหัวหน้าตระกูลเฟิงคนปัจจุบัน
ตอนนี้เขาอายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้วและเขาได้รับความเคารพในทุกที่ที่ไป
ในหลงเฉิงนี้เขาเป็นดั่งเทพเจ้า
แต่หลินกุ้งคนนี้ดูเหมือนจะรู้จักชายชราและยังกล้าเรียกชื่อเขาโดยตรง?
ตัวตนของกุ้ยหลินน่ากลัวแค่ไหน
แค่กุ้ยหลินก็ขนาดนี้แล้วแล้วเย่อเทียนล่ะ...
หยางไห่ซานตกใจมากและในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว
เย่อเทียนกล้าที่จะพูดคุยเรื่องใหญ่เช่นนี้ความแข็งแกร่งของเขาเองก็เป็นเหตุผลหนึ่ง
และสถานะของเขาก็ใหญ่เกินกว่าจะจิตนาการได้
และแทบไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อรู้ว่าตรงนี้หยางไห่ซานจึงตระหนักได้ว่าชายร่างใหญ่ที่เขายั่วยุนั้นน่ากลัวเพียงใด
แม้ว่าพ่อของเขาจะมาเองก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้
"นี่คุณหมายความว่ายังไง?"เฟิงหยวนฮุยขมวดคิ้วรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและยิ่งสงสัยมากขึ้น
เขารู้สึกว่าเย่อเทียนรู้จักตระกูลเฟิงเป็นอย่างดีแต่เขาไม่เห็นตระกูลเฟิงในสายตาของเขาเลย
"มันไม่มีหมายความยังไงเลย!"เย่อเทียนยืนขึ้นใบหน้าของเขานิ่งเฉย:"ท่านเฟิงทำงานเพื่อประเทศมาตลอดชีวิตคงเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าชื่อเสียงของเขาจะต้องพังพินาศที่นี่"
"ดังนั้นรีบกลับไปเมืองหลวงซ่ะสำหรับพวกเขาฉันได้ให้โอกาสพวกเขาหลายครั้งแล้วเพราะพวกเขาไม่รักษามันไว้เอง"
น้ำเสียงของเย่เทียนเรียบง่ายแต่ไม่มีข้อกังขาใดๆ
"คุณ……"
ใบหน้าของเฟิงหยวนฮุยนิ่งลง
พูดตามตรงเขาไม่อยากมาหาเรื่องที่เมืองหลงเฉิน
อย่างไรก็ตามหยางเจียวเจียวเป็นเลือดเนื้อของพี่สาวเท่านั้นและพ่อเฒ่าก็สั่งให้พาเธอกลับเมืองหลวงเองกับมือ
เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อเฒ่าเขามาที่นี่เพื่อเจรจากับเย่อเทียน
มิฉะนั้นหยางไห่ซานจะไม่อยู่ในสายตาของตระกูลเฟิงเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนโตไม่สามารถตัดสินใจเองได้เธอคงไม่มาเมืองเล็กๆอย่างหลงเฉิงและคงจะไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้
"แบบนี้คุณเย่อจะไม่ไว้หน้าตระกูลเฟิงเลยใช่ไหม?"
เฟิงหยวนฮุยพูดด้วยใบหน้าสงบแต่เห็นเย่อเทียนยืนขึ้นและหันหลังมือไขว้หลังให้กับเขา
ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว
ใบหน้าของพ่อและลูกสาวของเฟิงหยวนฮุยแลหยางไห่ซานดูไม่ได้เลย
เฟิงหยวนฮุยกัดฟันของเขาโดยไม่เต็มใจ
"คุณเย่อเมื่อไม่ให้เกียรติตระกูลเฟิงถ้างั้นให้เกียรติทหารชิงหลงได้หรือเปล่า?"
เย่อเทียนพยักหน้าเขารู้สึกโล่งใจอยู่เสมอเมื่อหลินกุ้ยทำงาน
ยิ่งไปกว่านั้นทหารชิงหลงได้กวาดล้างศัตรูไปหนึ่งรอบแล้วคนของสมาคมกระดูกขาวก็จะต้องระวังตัวมากขึ้นแน่ๆ
อยากจะจับพวกมันทั้งหมดในครั้งเดียวจะใจร้องไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
"ท่านครับจะให้คนจากทางเหนือมาไหมครับ?ไม่งั้นผมไม่วางใจเท่าไหร่"
หลินกุ้ยถามอย่างระมัดระวัง!
"ไม่จำเป็น!"
เย่อเทียนส่ายหัว
"ที่นี่มันเป็นเขตทหารซวนหวู่!"
กุ้ยหลินตอบรับและไม่พูดอะไรอีกเลย
ดินแดนทั้งหมดของอาณาจักรมังกรสามารถแบ่งออกเป็นสองส่วนได้อย่างคร่าวๆ
เหนือใต้!
ทางเหนือทั้งหมดเกือบจะเป็นพรมแดนของอาณาจักรมังกรซึ่งมีความสำคัญสูงสุดและเป็นอุปสรรคแรกของประเทศ
ดังนั้นดินแดงเหนือทั้งหมดเย่อเทียนเป็นคนเฝ้าด้วยตัวเอง
หลังจากสิ้นสุดสงครามครั้งนั้นชื่อเสียงของทหารหลินเทียนก็มาถึงจนสูงสุดและไม่มีใครกล้ารุกรานอีก
ทางด้านทิศใต้แบ่งออกเป็นสี่ด้าน
พวกเขาคือชิงหลงจูเชไบ๋หูและซวนอู่!
มีสี่นายพลประจำการเฝ้าอยู๋
และหลงเฉิงเป็นเขตแดนของซวนหวู่
แม้ว่าสี่นายพลจะสง่างามมากแค่ไหนแต่เมื่อได้เห็นเย่อเทียนแล้วก็ต้องทำความเคารพและเรียกผู้นำ
เหตุผลที่เย่อเทียนไม่ปล่อยให้คนของทางเหนือเข้ามาแทรกแซงก็เพื่อรักษาหน้าของแม่ทัพซวนหวู่
ยิ่งไปกว่านั้นครั้งที่แล้วที่มีการกวาดล้างในหลงเฉิงเบื้องบนไม่ได้ใช้ทหารซวนหวู่แต่ได้ใช้ทหารจากชิงหลงมาเองมีความหมายอื่นตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
"หลงเฉินเมืองเล็กๆแต่กลับมีสิ่งสกปรกซ่อนอยู่มากมายดูแล้วคงต้องกวาดล้างครั้งใหญ่"
น้ำเสียงของเย่อเทียนเรียบง่ายแต่หลินกุ้ยรู้ดี
คนพูดสั่นๆต่อไปเมืองหลงเฉินจะลุกเป็นไฟ
เพราะการร่วมมือกับสมาคมกระดูกขาวทำร้ายผู้ภักดีคือโทษตาย
ในตอนนี้ได้มีรถหงฉีคันหนึ่งขับเข้ามาและจอดตรงหน้าเย่อเทียน
เมื่อรถเปิดออกชายวัยกลางคนลงมาก่อนเขาแต่งกายด้วยชุดลายพรางแม้ว่าเขาจะมองไปที่หลังและเอวของเขาแต่เขาก็มีนิสัยอ่อนโยนอยู่บ้าง
หลินกุ้ยขมวดคิ้วเขาเห็นได้ว่าชายคนนี้ก็เป็นทหารเช่นกันและดูเหมือนว่าเขาจะไม่มาดี
และคนที่ติดตามชายคนนี้ลงจากรถคือหยางไห่ซานและหยางเจียวเจียวสองพ่อลูก
ทันทีที่พ่อและลูกสาวเห็นเย่อเทียนหน้าตาก็ดูไม่ดีเลยทำได้เพียงหลบอยู่หลังของชายคนนั้นและไม่กล้าแม้แต่จะมองเย่อเทียน
"คาดว่าคุณก็คือคุณเย่อเทียนใช่หรือไม่?"
ชายคนนั้นพาหยางไห่ซานสองพ่อลูกเดินเข้าไปและนั่งลงต่อหน้าเย่อเทียนแล้วมองหน้าเขา
"ไม่น่าแปลกใจทำให้เจาะทะลุเหมือนหลงเฉิงได้น่าสนใจจริงๆ"
โดยสัญชาตญาณชายคนนั้นรู้ว่าเย่อเทียนไม่ใช่คนที่เล่นได้ง่ายๆ
หลินกุ้ยซึ่งเหมือนกับองครักษ์ที่อยู่ข้างๆเขาจะต้องไม่ประมาท
"ถ้าคุณมาที่นี่เพื่อขอร้องแทนพวกเขาฉันแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงไป"
เย่อเทียนพูดเบาๆถ้าเขาไม่เห็นอีกฝ่ายเป็นทหารเขาก็คงไม่สุภาพเท่านี้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของสองพ่อลูกก็ซีดแน่นอนเย่อที่ไม่ใช่คนที่จะมาเล่นด้วยได้ง่ายๆ
ชายคนนั้นขมวดคิ้วแต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะจากไปเลย
"ของแนะนำตัวก่อนผมชื่อเฟิงหยวนฮุยเดือนก่อนผมได้ย้ายจากเมืองหลวงมาหลงเฉินแต่จนถึงวันนี้ถึงได้มีโอกาสมาพอคุณเย่อช่างเสียมารยาทจริงๆหวังว่าคุณเย่อคงจะไม่โกรธ!"
แม้ว่าฟิงหยวนฮุยจะเป็นทหารแต่ความคิดของเขาก็พิถีพิถันมาก
ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรแต่ในเดือนนี้เขาได้สืบค้นตัวตนของเย่อเทียนกลัวว่าจะเจอต้อชิ้นใหญ่
แต่น่าเสียดายเขาใช้เครือข่ายของตระกูลก็ไม่สามารถสืบข้อมูลของเย่อเทียนได้
เย่เทียนมีความแข็งแกร่งเช่นนี้มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไร้นาม
คำอธิบายเดียวคือข้อมูลของเขาถูกซ่อนโดยรัฐ
แม้ว่าตระกูลเฟิงจะมีอำนาจในเมืองหลวงแต่ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะรู้ได้
เป็นเพราะเหตุนี้เฟิงหยวนฮุยจึงไม่ปรากฏตัวในวันนี้
เมื่อรู้แบบนี้เขาเลยพาหยางไห่ซานและลูกสาวมาขอโทษ
"คุณเป็นใครไม่เกี่ยวอะไรกับผม!"
เย่อเทียนส่ายหัวอย่างแผ่วเบา:"ฉันแนะนำให้คุณออกไปโดยเร็วที่สุดน้ำในเมืองหลงเฉิงตระกูลเฟิงของคุณแบกไม่ไหวหรอก"
เฟิงหยวนฮุ่ยขมวดคิ้ว"คุณเย่อวันนี้คุณก็ได้ระบายแล้วความแค้นก็ได้ชำระแล้วทำไมท่านถึงไม่ยอมปล่อยมือขั้นสูงของท่านให้โอกาสพี่เขยและหลานผมสักหน่อย?ศัตรูของคุณคือตระกูลสวีไม่ใช้ตระกูลหยางหรือว่าท่านจะกำจัดให้หมดสิ้นเลย?"
"ยิ่งไปกว่านั้นคุณเย่อก็น่าจะได้ยิ่งชื่อเสียงของตระกูลเฟิงในเมืองหลวงมาบ้างให้เกียรติกับตระกูลเฟิงสักครั้งตระกูลเฟิงจะไม่ลืมบุญคุณเลย"
เมื่อเห็นว่าเย่อเทียนไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยไปเฟิงหยวนฮุยจึงยกชื่อตระกูลขึ้นมาโดยตรง
ตระกูลเฟิงถือว่าเป็นตระกูลรองๆของเมืองหลวง
แต่ในเมืองหลงเฉิงสิบตระกูลสวีก็เทียบไม่ได้
"ท่านให้คุณไปคุณก็ทำตามสิ!"จู่ๆหลินกุ้ยก็พูดอย่างไม่เกรงใจ
"ไม่งั้นฉันก็จะไม่เกรงใจจะสอนคุณแทนเฟิงเทียนแล้วควรจะพูดกับท่านยังไง!"
ฟ่อ!
ทันทีที่กุ้ยหลินพูดจบหยางไห่ซานก็หายใจเข้าลึกๆ
เฟิงเทียนไหลเป็นพ่อของเฟิงหยวนฮุยและเป็นหัวหน้าตระกูลเฟิงคนปัจจุบัน
ตอนนี้เขาอายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้วและเขาได้รับความเคารพในทุกที่ที่ไป
ในหลงเฉิงนี้เขาเป็นดั่งเทพเจ้า
แต่หลินกุ้งคนนี้ดูเหมือนจะรู้จักชายชราและยังกล้าเรียกชื่อเขาโดยตรง?
ตัวตนของกุ้ยหลินน่ากลัวแค่ไหน
แค่กุ้ยหลินก็ขนาดนี้แล้วแล้วเย่อเทียนล่ะ...
หยางไห่ซานตกใจมากและในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว
เย่อเทียนกล้าที่จะพูดคุยเรื่องใหญ่เช่นนี้ความแข็งแกร่งของเขาเองก็เป็นเหตุผลหนึ่ง
และสถานะของเขาก็ใหญ่เกินกว่าจะจิตนาการได้
และแทบไม่อยากจะเชื่อ
เมื่อรู้ว่าตรงนี้หยางไห่ซานจึงตระหนักได้ว่าชายร่างใหญ่ที่เขายั่วยุนั้นน่ากลัวเพียงใด
แม้ว่าพ่อของเขาจะมาเองก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้
"นี่คุณหมายความว่ายังไง?"เฟิงหยวนฮุยขมวดคิ้วรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยและยิ่งสงสัยมากขึ้น
เขารู้สึกว่าเย่อเทียนรู้จักตระกูลเฟิงเป็นอย่างดีแต่เขาไม่เห็นตระกูลเฟิงในสายตาของเขาเลย
"มันไม่มีหมายความยังไงเลย!"เย่อเทียนยืนขึ้นใบหน้าของเขานิ่งเฉย:"ท่านเฟิงทำงานเพื่อประเทศมาตลอดชีวิตคงเป็นเรื่องน่าเสียดายถ้าชื่อเสียงของเขาจะต้องพังพินาศที่นี่"
"ดังนั้นรีบกลับไปเมืองหลวงซ่ะสำหรับพวกเขาฉันได้ให้โอกาสพวกเขาหลายครั้งแล้วเพราะพวกเขาไม่รักษามันไว้เอง"
น้ำเสียงของเย่เทียนเรียบง่ายแต่ไม่มีข้อกังขาใดๆ
"คุณ……"
ใบหน้าของเฟิงหยวนฮุยนิ่งลง
พูดตามตรงเขาไม่อยากมาหาเรื่องที่เมืองหลงเฉิน
อย่างไรก็ตามหยางเจียวเจียวเป็นเลือดเนื้อของพี่สาวเท่านั้นและพ่อเฒ่าก็สั่งให้พาเธอกลับเมืองหลวงเองกับมือ
เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อเฒ่าเขามาที่นี่เพื่อเจรจากับเย่อเทียน
มิฉะนั้นหยางไห่ซานจะไม่อยู่ในสายตาของตระกูลเฟิงเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวคนโตไม่สามารถตัดสินใจเองได้เธอคงไม่มาเมืองเล็กๆอย่างหลงเฉิงและคงจะไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้
"แบบนี้คุณเย่อจะไม่ไว้หน้าตระกูลเฟิงเลยใช่ไหม?"
เฟิงหยวนฮุยพูดด้วยใบหน้าสงบแต่เห็นเย่อเทียนยืนขึ้นและหันหลังมือไขว้หลังให้กับเขา
ความหมายก็ชัดเจนอยู่แล้ว
ใบหน้าของพ่อและลูกสาวของเฟิงหยวนฮุยแลหยางไห่ซานดูไม่ได้เลย
เฟิงหยวนฮุยกัดฟันของเขาโดยไม่เต็มใจ
"คุณเย่อเมื่อไม่ให้เกียรติตระกูลเฟิงถ้างั้นให้เกียรติทหารชิงหลงได้หรือเปล่า?"
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved