บทที่ 1 รองหัวหน้าใหญ่

by จาง หลงหู 09:23,Oct 16,2023
เรือนจำโยวตู

เรือนจำแห่งนี้เป็นที่กักขังสำหรับนักโทษที่ชั่วช้าสามานที่สุดในโลก แต่ละคนล้วนแต่กระทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย และมีชื่อเสียงโด่งดัง

มีสายลับที่ขโมยความลับของประเทศ มีมือสังหารที่เคยลอบสังหารประธานาธิบดี นอกจากนี้ยังมีขุนศึกที่สังหารเชลยศึกนักหมื่น

ฉีเติ่งเสียนสวมชุดผู้คุมเรือนจำกำลังเขียนข้อความอยู่ในห้องหนังสือของพ่อ เขียนอย่างลึกซึ้ง พูดและทำสิ่งต่างๆอย่างเป็นระเบียบ เคารพและทรงพลัง

"รองหัวหน้าใหญ่ เกิดเรื่องแล้ว เทพสังหารกับเจ้าหมาป่าโลภสู้กันแล้ว...."ผู้คุมเรือนจำท่านหนึ่งเดินโซซัดโซเซเข้ามาพูดด้วยความหวาดกลัว

ฉีเติ่งเสียนพูดว่าอ้อ แล้วก็โยนอักษรจีนฉบับนึงให้เขาพูดว่า "เอาข้อความของฉัน ให้พวกเขาไปล้างห้องน้ำสามวัน หากไม่เชื่อฟังฉันจะเอาสมองของพวกเขากดลงในชักโครก"

"ได้ รองหัวหน้าใหญ่!" ผู้คุมเรือนจำตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบคว้าข้อความฉบับนั้น หันหลังวิ่งกลับไป

เทพสังหารคือราชาแห่งนักฆ่าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขาถูกจำคุกฐานลักลอบสังหารประธานาธิบดีสหรัฐฯ

หมาป่าโลภ ก็เป็นหัวหน้าใต้ดินองค์กรขนาดใหญ่ ถูกจำคุกฐานขโมยและขายหัวอาวุธสงครามนิวเคลียร์

"รองหัวหน้าใหญ่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คนขายเนื้อสงสัยว่าอาหารในโรงอาหารไม่ดีจึงก่อความวุ่นวายขึ้น ทำให้พี่น้องได้รับบาดเจ็บหลายคน!" ผู้คุมเรือนจำคนท่านหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความตระหนก

ฉีเติ่งเสียนยักคิ้วแล้วนำเอาข้อความที่เขียนเสร็จแล้วโยนให้ผู้คุมท่านนี้ แล้วพูดเบาๆว่า :"ให้เขาล้างจานหลังครัวเป็นเวลาหนึ่งเดือน หากไม่ฟังฉันจะไปด้วยตัวเอง แล้วแขวนคอเขาไว้ที่ลานกว้างสามวันสามคืน!"

ผู้คุมเรือนจำถือข้อความของฉีเติ่งเสียนไว้แล้วหันหลังวิ่งกลับไป

คนขายเนื้อเป็นขุนสึกที่น่าสะพรึงกลัว สังหารเชลยศึกมาแล้วเป็นหมื่นกว่าชีวิต เป็นผู้ที่ข่มเหงผู้อื่นเห็นชีวิตคนไม่มีค่าเลย

"รองหัวหน้าใหญ่ เกิดเกิดเกิดเรื่องอีกแล้ว ปีศาจที่สังหารพลเรือเอกและครอบครัวแห่งเมืองหิมะเกิดบ้าคลั่งอีกแล้ว รื้อห้องขังของพวกเราออกแล้ว!"

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย เขาโยนข้อความที่เพิ่งเขียนเสร็จออกไปอีกครั้ง พูดอย่างเย็นชา :" ให้เขาหักขาของตัวเองทั้งสองข้าง แล้วนอนในห้องขังหนึ่งเดือน หากขาดวันนึง ฉันจะโยนเขาเข้าไปแช่ในบ่อเก็บอุจจาระวันนึง!"

ผู้คุมไม่กล้าละเลย รับข้อความแล้ววิ่งออกไปด้วยความรีบร้อน

ฉีเติ่งเฉียนอดไม่ได้ที่จะเอามือตบหน้าผากตัวเอง อดไม่ได้ที่จะด่าว่า :" เรื่องราวในคุกเล็กแห่งนี้ช่างมากมายจริงๆ พ่อจากไปนี่ก็สามปีแล้ว ไม่มีข่าวคราวใดๆเลย ลำบากฉันจริงๆ!"

เขาเดินออกมาจากห้องหนังสือ เช็คดูเวลาแล้วก็เดินไปตรวจดูที่สนามตามปกติ

นักโทษที่กำลังออกกำลังกายอยู่ในสนามหลังจากที่เห็นฉีเติ่งเสียนปรากฏตัวขึ้น ทุกคนก็ยืนตรง ก้มศีรษะลง ไม่กล้ามองหน้าเขาโดยตรง

"รองหัวหน้าใหญ่ รองหัวหน้าใหญ่ บุหรี่ครับ บุหรี่...ช่วยฉันส่งจดหมายฉบับนี้ให้คนครอบครัวฉันหน่อยได้ไหม? หลังจะส่งเสร็จแล้วฉันจะให้คุณร้อยล้าน ครอบครัวฉันมีเงินมากมาย!" ชายคนหนึ่งขายทรัพยากรชาติ เป็นผู้มีอำนาจมีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยพันล้าน วิ่งไปออกมาด้วยรอยยิ้มแล้วยื่นบุหรี่ให้กับฉีเติ่งเสียน

"สวัสดีครับรองหัวหน้าใหญ่...."
ชายที่ร่ำรวยที่สุดในรัฐหัวกั๋ว ซึ่งก่ออาชญากรรมผูกขาดอย่างร้ายแรง ได้ก้มศีรษะลงและโค้งคำนับ

"สวัสดีครับรองหัวหน้าใหญ่!" อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองทหารสหรัฐฯ ที่ขายข่าวกรองของชาติก็ก้มศีรษะลงเช่นเดียวกัน

"นักโทษที่นี่ไม่มีนักโทษคนใดที่เป็นคนธรรมดา ชื่อเสียงของทุกคนหากปล่อยตัวไปก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนสั่นสะเทือน

แต่ในเวลานี้ พวกเขาก้มศีรษะอย่างเชื่อฟังและพูดกับฉีเติ่งเสียนด้วยความเคารพ

"ช่วงนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี หวังว่าพวกคุณจะไม่ก่อปัญหา "ฉีเติ่งเสียนพูด

"เอ่อ....ครับครับครับ!" ทุกคนตะลึง แล้วรีบตอบตกลง

ฉีเติ่งเสียนเพิ่งกลับมาถึงที่ทำงานของตน ผู้คุมท่านหนึ่งก็วิ่งมาด้วยความรีบร้อนแล้วพูดว่า :"รองหัวหน้าใหญ่...."

ฉีเติ่งเสียนยักคิ้ว พูดอย่าไม่พอใจว่า :"เกิดอะไรขึ้นอีก?"

"อ่อ.....ครั้งนี้ไม่ใช่พวกนักโทษที่ก่อปัญหา แต่เป็นนายพลที่คุมนักโทษมาที่นี่ เป็นนายพลหญิงที่สวยมาก" ผู้คุมยิ้มอย่างประจบประแจง

ฉีเติ่งเสียนพูดว่า อ้อ

ผู้คุมพูดต่อว่า :"นายพลหญิงท่านนี้ต้องการพบรองหัวหน้าใหญ่ ยังบอกอีกว่ารู้จักกับนายใหญ่ด้วย!"

ฉีเติ่งเสียนสะดุ้งแล้วพูด :"รู้จักพ่อฉัน? ไปดูกัน...."

ด้านนอกเรือนจำ มีทหารหลายสิบนายยืนเฝ้ากรงอย่างแน่นหนา ในกรงมีชายหน้าครึ้มผู้หนึ่งถูกขังอยู่

"ฮ่าฮ่าฮ่า รอฉันออกจากที่นี่ไปได้ พวกคุณแม้แต่คนเดียวก็ไม่รอด!" ชายหน้าครึ้มข่มขู่

ทหารที่อยู่รอบๆอดไม่ได้ที่จะหันหัว ราวกับกลัวว่าใบหน้าของตนจะถูกจดจำไว้

ด้านข้าง มีผู้หญิงวีรชนที่มีดาวติดอยู่บนไหล่สองดวง
รูปร่างสูงตรง ทุกอิริยาบถเผยเห็นความองอาจ

เธอก็คือบุตรสาวคนโตตระกูลอวี้แห่งเมืองหลวง อวี้เสี่ยวหลง

อวี้เสี่ยวหลงจ้องมองไปที่ฉีเติ่งเสียนที่กำลังเดินออกมาจากเรือนจำด้วยสายเย็นชา ผู้คุมเรือนจำแต่งตัวชิวๆ ซึ่งไม่เห็นพลังใดๆเลย ทำให้คนไม่สบายใจ

"คุณก็คือฉีเติ่งเสียนใช่มั้ย?" อวี้เสี่ยวหลงถามด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ดาวมังกรทั้งสองดวงที่ระยิบระยับบนไหล่ ดูเหมือนจะนำมาซึ่งความเย่อหยิ่งที่แตกต่างออกไป

ฉีเติ่งเสียนรู้สึกว่ารังเกียจสายของเธอเล็กน้อย และพูดว่า :"จับใครมา?"

" ราชาสี่แห่งราชาใต้ดินผู้น่าสะพรึงกลัว ต้าหูจื่อ ผู้บังคับบัญชาสั่งการมาให้กักขังที่นี่" อวี้เสี่ยวหลงเดินขึ้นมา นำเอาเอกสารฉบับนึงยื่นให้กับฉีเติ่งเสียน

ฉีเติ่งเสียนเซ็นชื่อ แล้วถามว่า :"คุณหาฉันหรอ?"

อวี้เสี่ยวหลงพูดด้วยเสียงที่สงบ :"ฉันคืออวี้เสี่ยวหลง ที่ฉันมาที่นี่เพื่อจะบอกคุณว่า โลกของพวกเรามันไม่ใช่โลกใบเดียวกัน"

หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนได้ยินชื่อนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาเกิดความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้ว

สายตาเย็นชาของอวี้เสี่ยวหลงมองไปที่ไหล่ของเขา ดวงดาวสองดวง ผู้คุมเรือนจำระดับสอง

"งานแต่งงานครั้งนี้ ฉันเสียใจด้วย " อวี้เสี่ยวหลงพูดเสียงเบาด้วยสายตาสงสาร ที่แท้บุตรชายคนโตแห่งตระกูลฉีก็ เฝ้าเรือนจำอยู่ที่นี่

"คุณ มีข้อเสนอแนะไหม?"

หลังจากพูดจบ เธอก็หยิบสัญญาแต่งงานออกมา แล้วค่อยๆฉีดเป็นสองชิ้นต่อหน้าเขา

เห็นเพียงเหล่าทหารด้านหลัง ก็ล้วนแต่กำลังมองฉีเติ่งเสียนด้วยสายตาดูถูก ลักษณะท่า ทางก็ดูเหยียดหยาม

เป็นเพียงผู้คุมเรือนจำตัวเล็กๆยศระดับสอง คิดอยากจะมาคู่กับนายพลอวี้ ซึ่งเป็นนายพลโทแล้ว?

อวี้เสี่ยวหลงถอนหายใจแล้วส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดด้วยความสงสาร :" ฉันรู้ว่าสำหรับคุณนี่เป็นการโจมตีครั้งใหญ่ แต่ว่า คุณก็เห็นแล้วว่าโลกของพวกเรามันไม่ใช่โลกใบเดียวกัน"

ขณะที่พูด สายตาของเธอก็กวาดมองไปไหล่ของตนเองและฝ่ายตรงข้าม

ฉีเติ่งเสียนไม่ได้พูดอะไร

อวี้เสี่ยวหลงยื่นนามบัตรแล้วพูดว่า :" เพื่อเป็นการชดเชยงานแต่ง คุณสามารถนำนามบัตรนี้มาขอให้ฉันทำงานให้คุณสองเรื่อง "

"คุณเป็นถึงบุตรชายคนโตแห่งตระกูลฉี คุณควรออกจากสถานที่แย่แบบนี้ให้เร็วที่สุด ไม่แน่ว่ายังมีความหวังที่จะกลับสูาวงศ์ตระกูลได้ "

"ราชาผู้น่าสะพรึงกลัวนี้ส่งต่อให้คุณ จำเป็นต้องขังเขาไว้ในกรงตลอด ไม่งั้นจะมีผู้คนตายมากมาย....."

"เพื่อที่จะตามจับเค้า กองทัพของพวกเราสูญเสียชนชั้นสูงไปจำนวนมาก แม้กระทั่งฉันก็ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย "

หลังจากพูดจบ อวี้เสี่ยวหลงก็หันกลับมากระโดดขึ้นไปบนรถ โดยที่ไม่รอให้ฉีเติ่งเสียนพูดแม้แต่คำเดียว ออกคำสั่งแล้วนำทีมออกไปทันที

หลังจากที่ออกจากตระกูลฉี เขาก็ตกต่ำโดยสิ้นเชิง

"การเฝ้าอยู่ในสถานที่ที่มืดมนเช่นนี้ ไม่ว่าคุณจะมีความสามารถแค่ไหน มันก็จะค่อยๆสูญหายไปตามกาลเวลา "

ฉันพูดกับเขาว่า เขามึนงงโดยไม่ตอบโต้สักคำ เห็นได้ชัดว่าเขาตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างฐานะ "

อวี้เสี่ยวหลงหัวเราะเบาๆ หากฉีเติ่งเสียนมาหาฉันพร้อมนามบัตร เธอจะให้โอกาสแก่เขา ให้เขาได้ออกจากเรือนจำและเข้าร่วมกองทัพ บางทีอาจมีอนาคตเล็กๆน้อยๆ

ฉีเติ่งเสียนมองไปการจากไปของอวี้เสี่ยวหลงด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็ถอนสายตากลับคืนมา และทำลายนามบัตรในมือของเขา

"ประสาทรึป่าว...."

ฉีเติ่งเสียนพึมพำ และถือโอกาสปลดล็อกประตูอันใหญ่ของกรงขังออก

ราชาผู้น่าสะพรึงกลัวที่อยู่ด้านในกรงผลักประตูออก หัวเราะอย่างดุร้ายแล้วพูดว่า :"ไอ้หนุ่ม คุณควรฟังคำเตือนของผู้หญิงคนนั้น!"

"คิดไม่ถึงว่าคุณกับอวี้เสี่ยวหลงเทพีแห่งสงครามจีนยังมีความสัมพันธ์แบบนี้ด้วย!"

"แต่คุณช่างน่าสงสารยิ่งนัก ถูกเธอยกเลิกงานแต่งซะแล้ว จุ๊ จุ๊ ฉันทำใจฆ่าคุณไม่ลงแล้ว

ทันใดนั้นฉีเติ่งเสียนก็ดึงปากของเขาออกมาตบไปทีนึง ราชาผู้น่าสะพรึงกลัวที่มีเชื่อเสียงโด่งดังที่กองทัพช่วยกันจับกุมตัวมาอย่างยากลำบากก็เป็นลมหมดสติไปที่พื้น

"ฉันอารมณ์ไม่ดี ทำไมคุณถึงจุกจิกขนาดนี้?"

ฉีเติ่งเสียนด่าอย่างหงุดหงิด จากนั้นก็จับข้อเท้าของราชาผู้น่าสะพรึงกลัวแล้วลากเข้าไปในคุกราวกับสุนัขที่ตายแล้ว....

"รองหัวหน้าใหญ่ รองหัวหน้าใหญ่ จดหมายของคุณ!" บุรุษไปรษณีย์ท่านหนึ่งรีบวิ่งมาแล้วจดหมายใส่ในมือของฉีเติ่งเสียน เขามองนักโทษคนใหม่เหมือนสุนัขที่ตายแล้วโดยไม่ใช่เรื่องแปลก

ฉีเติ่งเสียนรับมาแล้วหยิบขึ้นมาดูอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น :"จดหมายของพ่อ!"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1959