บทที่ 3 ป่วยจริงๆ
by จาง หลงหู
09:23,Oct 16,2023
หวังว่านจินชายที่รวยที่สุดในจงไห่มีเรื่องราวชีวิตที่มีสีสันให้เล่าขาน คำพูดเหล่านั้นพูดไว้ไม่เกินจริง
ในช่วงสองปีนั้นที่เรือนจำโยวตู ฉีเติ่งเสียนดูแลเขาอย่างดี เห็นช่องทางสามารถพลิกคดีได้ ทำให้ได้สนิทใกล้ชิดกับฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนในตอนที่อายุไม่เยอะ นั้นเทียบเท่ากับพ่อแม่ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ของเขาเลยก็ว่าได้
“คุณหวัง ฉันขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ลำบาก ทำให้คุณต้องมารับถึงสนามบิน” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
“รองหัวหน้าใหญ่ ไม่ต้องเกรงใจ นั่นคือสิ่งที่ฉันควรจะต้องทำ!” หวังว่านจินพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือของขวัญที่ฉันเตรียมไว้ให้กับรองหัวหน้าใหญ่ เหล้าสองขวดนี้เป็นเหล้าเหมาไถห้าสิบปี”
ฉีนเติ่งเสียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เตรียมของขวัญให้ฉันทำไม?”
หวังว่านจินยิ้ม: “รองหัวหน้าใหญ่การมาขอแต่งงาน ต้องถือเหล้าดีๆ มาบ้างไม่ใช่หรือครับ? ฉีนสะสมเหล้าเหมาไถอายุห้าสิบปีสองขวดนี้มาหลายปีแล้ว และมันดีพอที่จะเป็นของขวัญให้รองหัวหน้าใหญ่ยังไงล่ะครับ!”
ฉีเติ่งเสียนคิดถามก็เห็นด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะไปพบกับผู้อาวุโสบ้านตระกูลเฉียวมือเปล่า
เฉียวกั๋วเทาเป็นรุ่นพี่ของเขา พ่อคือผู้ช่วยเขาเริ่มต้นธุรกิจ เมื่อตอนที่ฉีเติ่งเสียนและพ่อถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉี ครอบครัวเฉียวเป็นผู้สนับสนุนพวกเขาอยู่พักหนึ่ง
ผู้หญิงที่พ่อขอให้เขาแต่งงาน คือเฉียวชิวเมิ่งลูกสาวของเฉียวกั๋วเทา
ฉีเติ่งเสียนเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกของตระกูลเฉียวโดยในมือถือกระเป๋าเดินทางกับเหล้า เหมาไถสองขวด เฉียวกั๋วเทาที่ไม่เจอกันาน นั่งอยู่ที่ตำแหน่งสูงสุด
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลานชาย ฉันได้รับจดหมายจากอาวุโสฉีเมื่อสองสัปดาห์ก่อน พวกเรากำลังรอนายกันอยู่!” เฉียวกั๋วเทาพูดเสียงดังเต็มไปด้วยพลัง พร้อมเดินเข้ามาจับมือกับฉีเติ่งเสียน
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนเห็นเฉียวกั๋วเทาเขาก็อดยิ้มไม่ได้ “คุณอาเฉียว!”
เฉียวกั๋วเทา: “นายมาได้เวลาพอดี นายกับชิวเมิ่งควรไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนทำเรื่องทะเบียนสมรสกันได้แล้ว!”
จากด้านข้าง มีหญิงสาวคนหนึ่งส่งเสียงฮึมฮัมในลำคออย่างเย็นชา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่ชอบใจและรังเกียจ
เธอสวมชุดเดรสสีขาวราวกับหิมะ มีเข็มขัดสีทองเส้นบางโอบรอบเอวเรียวของเธอเอาไว้การแต่งหน้าอย่างละเมียดละไมบนใบหน้าที่สวยงามนั้นราวกับเธอนั้นเป็นแม่นางไซซี ขาที่เรียวยาวสวมใส่กระโปรงยาวมาถึงหน้าขา ทำให้แทบจะละสายตาไม่ได้
พั่งซิ่วอวิ๋นภรรยาของเฉียวกั๋วเทาขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวกั๋วเทาจึงปฏิเสธการแต่งงานกับตระกูลจาง และเลือกคนน่าเกลียดเช่นนี้มา!
“คุณอาเฉียว จริงๆ...ไม่ต้องรีบร้อนไปหน่อยหรือครับ?” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะเกาหัวและพูดด้วยความเขินอาย
“นี่คือเรื่องที่มีการปรึกษากันมานานแล้ว!” เฉียวกั๋วเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฉียวชิวเมิ่งมองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยใบหน้าที่เย็นชาก่อนจะพูดว่า: “คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นผู้คุมจริงๆ มันคงโหดร้าย!”
ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพยักหน้าให้เธอแล้วพูดว่า “ชิวเมิ่ง ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เฉียวชิวเมิ่งมองดูเพื่อนเล่นคนนี้ที่เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เวลาสอนเธอว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้น คำสั่งของพ่อทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่โลกทั้งสองที่ถูกรวมเข้าด้วยกันจะต้องแตกสลายไม่ช้าก็เร็วใช่ไหม?
พั่งซิ่วอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียนแล้วพูดว่า: “คุณเฉียว ญาติของคุณจะคิดอย่างไรกับการแต่งงานลูกกับไอ้คนเหมือนคางคกแบบนี้ เพื่อนของคุณคงจะซุบซิบเรื่องนี้แน่?”
“ดูสารรูปเขาสิ ผ่านมาหลายปี ยังคงเป็นผู้คุมที่ดูไม่ดีเอาสะเลย!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่บ้าน แต่เขากลับนำเหล้าปลอมมาสองขวดนี้มาให้ คุณแน่ใจหรือว่าต้องการให้กับลูกแต่งงานกับคนแบบนี้จริงๆ!”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น: “คุณอาพั่ง เหล้าเหมาไถนี้คือ หวัง...”
พั่งซิ่วอวิ๋นเยาะเย้ยทันทีด้วยใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า: “ฉันมีเหมาไถอยู่สองสามกล่อง อยากจะเอามาให้นายเห็นจริงๆให้ดูความแตกต่างของเหล้าสองขวดนี้ เป็นเหล้าอายุห้าสิบปีของเหมาไถ นายรู้ไหมว่าเหมาไถสองขวดราคาเท่าไหร่? ผู้คุมตัวน้อยอย่างนายมีปัญญาจ่ายไหวเหรอ?”
เมื่อเผชิญกับความสงสัยและการดูถูกดูแคลนของพั่งซิ่วอวิ๋น ฉีเติ่งเสียนเพียงแค่หัวเราะออกมา ไม่พูดอะไรออกไป
เฉียวกั๋วเทาตะโกนด้วยความโกรธ: “พอแล้ว คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งคำถามในเรื่องนี้ ชิวเมิ่ง เติ่งเสียนไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อจดทะเบียนสมรสกันเดี๋ยวนี้!"
ใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็กัดฟันและไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนพร้อมกับฉีเติ่งเสียนเพื่อจดทะเบียนสมรส
“แบบนี้เรียกแต่งงานแล้วเหรอ?” เมื่อมองดูใบทะเบียนสมรสในมือของเขาฉีเติ่งเสียนก็ดูหมดหนทาง ในภาพใบหน้าของ เฉียวชิวเมิ่งเย็นชา ดูไม่เหมือนภาพถ่ายงานแต่งงานเลย
เฉียวชิวเมิ่งมองไปที่ฉีเติ่งเสียนอย่างเย็นชาและพูดอย่างเฉยเมย: “คุณก็รู้ว่าเราไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน”
"คุณเป็นเพียงผู้คุมเรือนจำระดับสองตำแหน่งเล็กๆ และฉันก็เป็นถึงประธานของเฉียวกรุ๊ป!"
“ฉันหวังว่าคุณจะยังมีสติ ไม่มีความคิดด้านชั่วร้ายหลังจากเราจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อพ่อของฉันยอมอ่อนลง เราจะหย่ากันทันที!”
หลังจากพูดจบเฉียวชิวเมิ่งก็เข้าไปในรถ กระแทกประตู เหยียบคันเร่งแล้วขับรถออกไป
ฉีเติ่งเสียนมองไปที่ไฟท้ายของรถหรูและยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้เขาต้องละทิ้งตัวตนแล้วใช่ไหม?
ผู้หญิงมักมีมีบทสนทนาเพียงบรรทัดเดียวหรือ? ไม่ได้มาจากโลกเดียวกันหรือว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาว?
ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว จากนั้นหยิบคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วบ่น: ช่างมันเถอะ มาตั้งหลักก่อน ถ้าราชาหย่งเยี่ยกล้าหลอกฉัน ตอนกลับไปที่โยวตูฉันจะแขวนเขาในห้องน้ำเป็นเวลาสามวันสามคืน
หลังจากที่ “ราชาหยงเยี่ย” รู้ว่าฉีเติ่งเสียนกำลังมาที่จงไห่ เขาก็มอบคีย์การ์ดให้เขา นี่คือคีย์การ์ดสำหรับวิลล่าของเขาในจงไห่ นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่าวิลล่าของเขายอดเยี่ยมที่สุดในจงไห่
ฉีเติ่งเสียนที่เพิ่งเดินออกจากสำนักงานกิจการพลเรือนเห็นอวี้เสี่ยวหลงที่เพิ่งลงจากรถจี๊ปเห็นได้ชัดว่าตัวตนของเธอมีต้นกำเนิดที่สูงส่ง
“คุณแต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งแล้ว เหมือนคุณจะประสบความสำเร็จในการเป็นลูกเขยของตระกูลเฉียว นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ อย่างน้อยที่สุด คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าในอนาคต” อวี้เสี่ยวหลงพูดเบา ๆ
“มันเรื่องของคุณหรือ?” ฉีเติ่งเสียนไม่ชอบทัศนคติของผู้หญิงคนนี้และตอบด้วยรอยยิ้มแกนๆ
การแสดงออกของอวี้เสี่ยวหลงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่เธอก็ยังคงพูดต่อ: “มันไม่ง่ายสำหรับคุณที่เป็นเพียงผู้คุมเรือนจำธรรมดา ที่จะเข้ามาในตระกูลเฉียวที่มีธุรกิจขนาดใหญ่”
“เคยเกือบจะมีงานหมั้นหมายกันมาก่อน และฉันก็จบเรื่องทุกอย่างไป เพราะฉะนั้นถือว่าฉันได้ให้โอกาสนี้แก่นาย”
“ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่เป็นลูกเขยตระกูลเฉียว ชิวเมิ่งเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างดี มีคนไล่ตามจีบเธอมากมาย โอกาสที่ได้รับคือความฝันของใครหลายๆ คน”
“ฉันสามารถช่วยให้นายมีตัวตนในตระกูลเฉียวได้ คุณสามารถติดต่อฉันได้ตลอดเวลา”
ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนเฉยเมย เขาจ้องมองอวี้เสี่ยวหลงก่อนจะพูดว่า: “ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าเธอป่วยจริงๆ!”
“อย่าพูดถึงการมีตัวตนในตระกูลเฉียว แม้แต่ตระกูลอวี้ของเธอก็เหมือนกับไก่หรือสุนัขที่อยู่ตรงหน้าฉันเท่านั้น”
“เลิกทำท่าทางแบบนี้สักที ฉันจะใช้ชีวิตยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ!”
หลังจากพูดสิ่งนี้เขาก็เดินจากไป
เสี่ยวหลงอดไม่ได้ที่จะหน้ามืดหมองมนลงไป รู้สึกเสียใจที่ปฏิเสธการหมั้น ดังนั้นจึงต้องการชดใช้ให้เขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำตัวแบบนี้
“นั่นดูเหมือนเป็นคำพูดที่ดี ถ้าคุณไม่มีความทะเยอทะยานจริงๆ ทำไมคุณถึงอยากวิ่งไล่ตามเป็นลูกเขยแบบนี้ล่ะ?” อวี้เสี่ยวหลงขึ้นรถ เหยียบคันเร่ง แล้วรถจี๊ปก็ส่งเสียงดังขับเคลื่อนออกไป และแม้กระทั่งท่อไอเสียก็ดูเหมือนจะปะทุออกมา
ฉีเติ่งเสียนมาที่อวิ๋นติงวิลล่าเพียงลำพัง นี่คือพื้นที่ที่ร่ำรวยในเขตจงไห่ บ้านพักของ “ราชาหย่งเยี่ย” ตั้งอยู่บนยอดเขาอวิ๋นติง
ในช่วงสองปีนั้นที่เรือนจำโยวตู ฉีเติ่งเสียนดูแลเขาอย่างดี เห็นช่องทางสามารถพลิกคดีได้ ทำให้ได้สนิทใกล้ชิดกับฉีเติ่งเสียน
ฉีเติ่งเสียนในตอนที่อายุไม่เยอะ นั้นเทียบเท่ากับพ่อแม่ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ของเขาเลยก็ว่าได้
“คุณหวัง ฉันขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ลำบาก ทำให้คุณต้องมารับถึงสนามบิน” ฉีเติ่งเสียนกล่าวอย่างยิ้มแย้ม
“รองหัวหน้าใหญ่ ไม่ต้องเกรงใจ นั่นคือสิ่งที่ฉันควรจะต้องทำ!” หวังว่านจินพูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือของขวัญที่ฉันเตรียมไว้ให้กับรองหัวหน้าใหญ่ เหล้าสองขวดนี้เป็นเหล้าเหมาไถห้าสิบปี”
ฉีนเติ่งเสียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เตรียมของขวัญให้ฉันทำไม?”
หวังว่านจินยิ้ม: “รองหัวหน้าใหญ่การมาขอแต่งงาน ต้องถือเหล้าดีๆ มาบ้างไม่ใช่หรือครับ? ฉีนสะสมเหล้าเหมาไถอายุห้าสิบปีสองขวดนี้มาหลายปีแล้ว และมันดีพอที่จะเป็นของขวัญให้รองหัวหน้าใหญ่ยังไงล่ะครับ!”
ฉีเติ่งเสียนคิดถามก็เห็นด้วย เป็นไปไม่ได้ที่จะไปพบกับผู้อาวุโสบ้านตระกูลเฉียวมือเปล่า
เฉียวกั๋วเทาเป็นรุ่นพี่ของเขา พ่อคือผู้ช่วยเขาเริ่มต้นธุรกิจ เมื่อตอนที่ฉีเติ่งเสียนและพ่อถูกขับไล่ออกจากตระกูลฉี ครอบครัวเฉียวเป็นผู้สนับสนุนพวกเขาอยู่พักหนึ่ง
ผู้หญิงที่พ่อขอให้เขาแต่งงาน คือเฉียวชิวเมิ่งลูกสาวของเฉียวกั๋วเทา
ฉีเติ่งเสียนเดินเข้าไปที่ห้องรับแขกของตระกูลเฉียวโดยในมือถือกระเป๋าเดินทางกับเหล้า เหมาไถสองขวด เฉียวกั๋วเทาที่ไม่เจอกันาน นั่งอยู่ที่ตำแหน่งสูงสุด
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลานชาย ฉันได้รับจดหมายจากอาวุโสฉีเมื่อสองสัปดาห์ก่อน พวกเรากำลังรอนายกันอยู่!” เฉียวกั๋วเทาพูดเสียงดังเต็มไปด้วยพลัง พร้อมเดินเข้ามาจับมือกับฉีเติ่งเสียน
หลังจากที่ฉีเติ่งเสียนเห็นเฉียวกั๋วเทาเขาก็อดยิ้มไม่ได้ “คุณอาเฉียว!”
เฉียวกั๋วเทา: “นายมาได้เวลาพอดี นายกับชิวเมิ่งควรไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนทำเรื่องทะเบียนสมรสกันได้แล้ว!”
จากด้านข้าง มีหญิงสาวคนหนึ่งส่งเสียงฮึมฮัมในลำคออย่างเย็นชา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความไม่ชอบใจและรังเกียจ
เธอสวมชุดเดรสสีขาวราวกับหิมะ มีเข็มขัดสีทองเส้นบางโอบรอบเอวเรียวของเธอเอาไว้การแต่งหน้าอย่างละเมียดละไมบนใบหน้าที่สวยงามนั้นราวกับเธอนั้นเป็นแม่นางไซซี ขาที่เรียวยาวสวมใส่กระโปรงยาวมาถึงหน้าขา ทำให้แทบจะละสายตาไม่ได้
พั่งซิ่วอวิ๋นภรรยาของเฉียวกั๋วเทาขมวดคิ้ว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวกั๋วเทาจึงปฏิเสธการแต่งงานกับตระกูลจาง และเลือกคนน่าเกลียดเช่นนี้มา!
“คุณอาเฉียว จริงๆ...ไม่ต้องรีบร้อนไปหน่อยหรือครับ?” ฉีเติ่งเสียนอดไม่ได้ที่จะเกาหัวและพูดด้วยความเขินอาย
“นี่คือเรื่องที่มีการปรึกษากันมานานแล้ว!” เฉียวกั๋วเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฉียวชิวเมิ่งมองไปที่ฉีเติ่งเสียนด้วยใบหน้าที่เย็นชาก่อนจะพูดว่า: “คิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็นผู้คุมจริงๆ มันคงโหดร้าย!”
ฉีเติ่งเสียนยิ้มและพยักหน้าให้เธอแล้วพูดว่า “ชิวเมิ่ง ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เฉียวชิวเมิ่งมองดูเพื่อนเล่นคนนี้ที่เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีด้วยเมื่อตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว เวลาสอนเธอว่าพวกเขาทั้งสองไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน
แต่ถึงอย่างนั้น คำสั่งของพ่อทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่โลกทั้งสองที่ถูกรวมเข้าด้วยกันจะต้องแตกสลายไม่ช้าก็เร็วใช่ไหม?
พั่งซิ่วอวิ๋นอดไม่ได้ที่จะชี้ไปที่ฉีเติ่งเสียนแล้วพูดว่า: “คุณเฉียว ญาติของคุณจะคิดอย่างไรกับการแต่งงานลูกกับไอ้คนเหมือนคางคกแบบนี้ เพื่อนของคุณคงจะซุบซิบเรื่องนี้แน่?”
“ดูสารรูปเขาสิ ผ่านมาหลายปี ยังคงเป็นผู้คุมที่ดูไม่ดีเอาสะเลย!”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่บ้าน แต่เขากลับนำเหล้าปลอมมาสองขวดนี้มาให้ คุณแน่ใจหรือว่าต้องการให้กับลูกแต่งงานกับคนแบบนี้จริงๆ!”
ฉีเติ่งเสียนพูดอย่างใจเย็น: “คุณอาพั่ง เหล้าเหมาไถนี้คือ หวัง...”
พั่งซิ่วอวิ๋นเยาะเย้ยทันทีด้วยใบหน้าที่ดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า: “ฉันมีเหมาไถอยู่สองสามกล่อง อยากจะเอามาให้นายเห็นจริงๆให้ดูความแตกต่างของเหล้าสองขวดนี้ เป็นเหล้าอายุห้าสิบปีของเหมาไถ นายรู้ไหมว่าเหมาไถสองขวดราคาเท่าไหร่? ผู้คุมตัวน้อยอย่างนายมีปัญญาจ่ายไหวเหรอ?”
เมื่อเผชิญกับความสงสัยและการดูถูกดูแคลนของพั่งซิ่วอวิ๋น ฉีเติ่งเสียนเพียงแค่หัวเราะออกมา ไม่พูดอะไรออกไป
เฉียวกั๋วเทาตะโกนด้วยความโกรธ: “พอแล้ว คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ตั้งคำถามในเรื่องนี้ ชิวเมิ่ง เติ่งเสียนไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนเพื่อจดทะเบียนสมรสกันเดี๋ยวนี้!"
ใบหน้าของเฉียวชิวเมิ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจ แต่เธอก็กัดฟันและไปที่สำนักงานกิจการพลเรือนพร้อมกับฉีเติ่งเสียนเพื่อจดทะเบียนสมรส
“แบบนี้เรียกแต่งงานแล้วเหรอ?” เมื่อมองดูใบทะเบียนสมรสในมือของเขาฉีเติ่งเสียนก็ดูหมดหนทาง ในภาพใบหน้าของ เฉียวชิวเมิ่งเย็นชา ดูไม่เหมือนภาพถ่ายงานแต่งงานเลย
เฉียวชิวเมิ่งมองไปที่ฉีเติ่งเสียนอย่างเย็นชาและพูดอย่างเฉยเมย: “คุณก็รู้ว่าเราไม่ได้มาจากโลกเดียวกัน”
"คุณเป็นเพียงผู้คุมเรือนจำระดับสองตำแหน่งเล็กๆ และฉันก็เป็นถึงประธานของเฉียวกรุ๊ป!"
“ฉันหวังว่าคุณจะยังมีสติ ไม่มีความคิดด้านชั่วร้ายหลังจากเราจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อพ่อของฉันยอมอ่อนลง เราจะหย่ากันทันที!”
หลังจากพูดจบเฉียวชิวเมิ่งก็เข้าไปในรถ กระแทกประตู เหยียบคันเร่งแล้วขับรถออกไป
ฉีเติ่งเสียนมองไปที่ไฟท้ายของรถหรูและยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้เขาต้องละทิ้งตัวตนแล้วใช่ไหม?
ผู้หญิงมักมีมีบทสนทนาเพียงบรรทัดเดียวหรือ? ไม่ได้มาจากโลกเดียวกันหรือว่าเธอเป็นมนุษย์ต่างดาว?
ฉีเติ่งเสียนส่ายหัว จากนั้นหยิบคีย์การ์ดออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วบ่น: ช่างมันเถอะ มาตั้งหลักก่อน ถ้าราชาหย่งเยี่ยกล้าหลอกฉัน ตอนกลับไปที่โยวตูฉันจะแขวนเขาในห้องน้ำเป็นเวลาสามวันสามคืน
หลังจากที่ “ราชาหยงเยี่ย” รู้ว่าฉีเติ่งเสียนกำลังมาที่จงไห่ เขาก็มอบคีย์การ์ดให้เขา นี่คือคีย์การ์ดสำหรับวิลล่าของเขาในจงไห่ นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่าวิลล่าของเขายอดเยี่ยมที่สุดในจงไห่
ฉีเติ่งเสียนที่เพิ่งเดินออกจากสำนักงานกิจการพลเรือนเห็นอวี้เสี่ยวหลงที่เพิ่งลงจากรถจี๊ปเห็นได้ชัดว่าตัวตนของเธอมีต้นกำเนิดที่สูงส่ง
“คุณแต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งแล้ว เหมือนคุณจะประสบความสำเร็จในการเป็นลูกเขยของตระกูลเฉียว นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณ อย่างน้อยที่สุด คุณจะไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้าในอนาคต” อวี้เสี่ยวหลงพูดเบา ๆ
“มันเรื่องของคุณหรือ?” ฉีเติ่งเสียนไม่ชอบทัศนคติของผู้หญิงคนนี้และตอบด้วยรอยยิ้มแกนๆ
การแสดงออกของอวี้เสี่ยวหลงยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในขณะที่เธอก็ยังคงพูดต่อ: “มันไม่ง่ายสำหรับคุณที่เป็นเพียงผู้คุมเรือนจำธรรมดา ที่จะเข้ามาในตระกูลเฉียวที่มีธุรกิจขนาดใหญ่”
“เคยเกือบจะมีงานหมั้นหมายกันมาก่อน และฉันก็จบเรื่องทุกอย่างไป เพราะฉะนั้นถือว่าฉันได้ให้โอกาสนี้แก่นาย”
“ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่เป็นลูกเขยตระกูลเฉียว ชิวเมิ่งเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างดี มีคนไล่ตามจีบเธอมากมาย โอกาสที่ได้รับคือความฝันของใครหลายๆ คน”
“ฉันสามารถช่วยให้นายมีตัวตนในตระกูลเฉียวได้ คุณสามารถติดต่อฉันได้ตลอดเวลา”
ใบหน้าของฉีเติ่งเสียนเฉยเมย เขาจ้องมองอวี้เสี่ยวหลงก่อนจะพูดว่า: “ตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าเธอป่วยจริงๆ!”
“อย่าพูดถึงการมีตัวตนในตระกูลเฉียว แม้แต่ตระกูลอวี้ของเธอก็เหมือนกับไก่หรือสุนัขที่อยู่ตรงหน้าฉันเท่านั้น”
“เลิกทำท่าทางแบบนี้สักที ฉันจะใช้ชีวิตยังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ!”
หลังจากพูดสิ่งนี้เขาก็เดินจากไป
เสี่ยวหลงอดไม่ได้ที่จะหน้ามืดหมองมนลงไป รู้สึกเสียใจที่ปฏิเสธการหมั้น ดังนั้นจึงต้องการชดใช้ให้เขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำตัวแบบนี้
“นั่นดูเหมือนเป็นคำพูดที่ดี ถ้าคุณไม่มีความทะเยอทะยานจริงๆ ทำไมคุณถึงอยากวิ่งไล่ตามเป็นลูกเขยแบบนี้ล่ะ?” อวี้เสี่ยวหลงขึ้นรถ เหยียบคันเร่ง แล้วรถจี๊ปก็ส่งเสียงดังขับเคลื่อนออกไป และแม้กระทั่งท่อไอเสียก็ดูเหมือนจะปะทุออกมา
ฉีเติ่งเสียนมาที่อวิ๋นติงวิลล่าเพียงลำพัง นี่คือพื้นที่ที่ร่ำรวยในเขตจงไห่ บ้านพักของ “ราชาหย่งเยี่ย” ตั้งอยู่บนยอดเขาอวิ๋นติง
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved