บทที่ 2 ร้ายกว่าศัตรูของประเทศ

by จาง หลงหู 09:23,Oct 16,2023
“พ่อจะให้ฉันแต่งงานกับเฉียวชิวเมิ่งงั้นเหรอ?”

ฉีเติ่งเสียนมองไปที่จดหมายในมือของเขา อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย เฉียวชิวเมิ่งเป็นเพื่อนเล่นของเขาในวัยเด็ก

เมื่อตอนยังเป็นเด็ก เฉียวชิวเมิ่งเป็นเด็กที่น่ารักมีเสน่ห์คนหนึ่ง และตอนนี้เธอคงโตเป็นสาวสวยแล้ว

ถ้อยคําของพ่อนั้นเด็ดขาดมาก ทําให้ฉีเติ่งเสียนถึงกับต้องถอนหายใจ และเขาคงทําอะไรไม่ได้นอกจากทําตามความต้องการของพ่อเท่านั้น

เช้าวันรุ่งขึ้น เหล่านักโทษแทบจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่าฉีเติ่งเสียนจะไม่อยู่ ทันทีที่ราชาปีศาจออกไป พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตอิสระได้!

“ฉันจะกลับมาตอนไหนก็ได้ ถ้าใครก็ตามทําผิดกฎในช่วงเวลาที่ฉันไม่อยู่ ต้องคอยจดบันทึกให้ฉันด้วย !” ฉีเติ่งเสียนพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหรี่ตามอง

นักโทษที่กำลังดีใจก็สงบนิ่งลงในทันที และแต่ละคนเริ่มตัวสั่นเทากลัว

ฉีเติ่งเสียนกวาดสายตามองโดยรอบ แล้วหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางออกจากเรือนจําโยวตูซึ่งเขาอาศัยอยู่มานานกว่าสิบปี และก้าวขึ้นเครื่องบินไปเมืองจงไห่

“ทำไมไปที่ไหนก็ต้องเจอกับพวกผู้หญิงพวกนี้ตลอด?!” เมื่อเขาเดินถึงชั้นเฟิร์สคลาสของเครื่องบิน ฉีเติ่งเสียนก็ชะงักพร้อมกับขมวดคิ้ว

ชั้นเฟิร์สคลาสมีที่นั่งทั้งหมดแปดที่นั่ง หนึ่งในนั้นคืออวี้เสี่ยวหลงที่เขาเพิ่งได้เจอกันไปก่อนหน้านี้

อวี้เสี่ยวหลงอยู่ในชุดลําลองสีดํา แม้ว่าเธอจะถอดเครื่องแบบออกแล้ว แต่เธอก็ยังดูน่าเกรงขามอยู่

หลังจากอวี้เสี่ยวหลงได้เห็นฉีเติ่งเสียนก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เธอส่ายหน้าเล็กน้อยและไม่พูดอะไร

“คุณหนูอวี้ไม่ได้บอกนายหรือไงว่า นายมันอยู่คนละโลกกับคุณหนู แล้วนายยังตามขึ้นมาถึงบนเครื่องบินอีก นายต้องการอะไร?!” หลงย่าหนานผู้ช่วยข้างที่อยู่ข้างๆอวี้เสี่ยวหลงถามด้วยเสียงต่ำขึ้นมา

เมื่อได้ยินแบบนั้นฉีเติ่งเสียนก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยพร้อมกับแสยะยิ้มมุมปาก เขาหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งออกมาและไม่สนใจแม้แต่จะมองไปที่สองคนนั้น

อวี้เสี่ยวหลงหน้านิ่วคิ้วขมวด เธอไม่ชอบผู้ชายที่กวนประสาทแบบนี้ที่สุด

เมื่อตอนที่พวกเขาเจอกันที่ประตูเรือนจําโยวตูก่อนหน้านี้ ฉีเติ่งเสียนเอาแต่เงียบขรึม ตอนนี้กลับแอบตามเธอมาถึงบนเครื่องบินถือว่าเป็นการดูถูกเธอมาก

ผู้ชายเมื่ออยากได้สิ่งสําคัญก็จะยอมจ่ายทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็ขว้างทิ้งไป!

ทันใดนั้นจู่ๆก็มีชายสามคนบุกเข้ามา ถือปืนสั้นและพุ่งตรงไปที่อวี้เสี่ยวหลง

“นายพลหญิงอวี้ คุณจับกุมเจ้านายของเรา ทําให้พวกเราเดือดร้อนมาก!” เมื่อคนแรกพูดเปิดประเด็น พร้อมกับยิ้มและหัวเราะเยาะ

ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสต่างพากันตกใจ สามคนนี้นำอาวุธปืนขึ้นมาบนเครื่องบินได้อย่างไร?!

ฉีเติ่งเสียนวางนิตยสารลงพร้อมกับชำเลืองมอง ก่อนที่จะหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านอีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ใบหน้าของหลงย่าหนานซีดเซียว เธอไม่คิดว่าลูกน้องของชายหนวดยาวจะมีความสามารถตามมาบนเครื่องบินได้!

เธอหันไปมองฉีเติ่งเสียน เขานั่งอยู่ในจุดบอดของทั้งสามคน ถ้าเขาถือโอกาสลงมือจัดการก็จะสามารถพลิกโอกาสให้พวกเธอสู้กลับได้

แต่ฉีเติ่งเสียนกลับนั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน ราวกับว่ามีบางอย่างในนิตยสารในมือกำลังดึงดูดเขาอยู่

“ไอ้คนขี้ขลาด โชคดีที่คุณหนูได้ยกเลิกสัญญาการแต่งงานกับเขาแล้ว!” หลงย่าหนานพูดดูถูกเหยียดหยาม แต่ในใจนั้นก็รู้สึกประหม่าเช่นกัน

อวี้เสี่ยวหลงพูดอย่างไร้อารมณ์ว่า “โอ้? ดูเหมือนว่าลูกน้องของชายหนวดยาวยังเป็นปลาที่พลาดตาข่ายอยู่ ยังไม่ถูกฉันจับอีกเหรอ? หรือชายหนวดยาวยังคอยใช้อำนาจหนุนหลังพวกแกอยู่?!”

ชายที่มีปืนพูดเยาะเย้ยว่า “นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายพลหญิงอวี้จะต้องสนใจ ไปกับพวกเราซะดีๆเถอะ!”

หลงย่าหนานมองไปที่ฉีเติ่งเสียนอีกครั้ง ในเวลานี้มีแค่ฉีเติ่งเสียนเท่านั้นที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยทำให้เธอมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้!

“คนขี้ขลาด!” หลงย่าหนานอดไม่ได้ที่จะกัดฟันด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่าฉีเติ่งเสียนทำเป็นมองไม่เห็น

อวี้เสี่ยวหลงมองไปยังคนร้ายทั้งสามคน เธอยิ้มและพูดว่า “พวกนายรู้ไหมว่ามีคํากล่าวในโลกศิลปะการต่อสู้ของจีน - ศัตรูที่อยู่ใกล้มือ ร้ายกว่าศัตรูของประเทศ”

ใบหน้าของทั้งสามเปลี่ยนไปและตะโกนว่า “อย่ามัวมาพูดไร้สาระ ถ้าแกไม่อยากตายก็ไปกับพวกเราเดี๋ยวนี้!”

ทันทีที่เขาพูดจบ อวี้เสี่ยวหลงที่นั่งบนเก้าอี้ก็ดีดตัวขึ้นมาเหมือนสายฟ้า เธอใช้ความรวดเร็วแขนยืดออกไปถอดปืนพกออกทันที

ขณะเดียวกันมีดในฝ่ามือของเธอก็บาดเข้าที่คออีกฝ่ายอย่างเฉียบคม อีกสองคนไม่ทันจะได้ตอบโต้ พวกเขาถูกตีที่หน้าผากและล้มลงกับพื้นอย่างเสียงดัง ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า

ในชั่วพริบตาเดียว อวี้เสี่ยวหลงจัดการคนร้ายทั้งสามลงได้อย่างง่ายดาย

หลงย่าหนานตกใจมาก เธอคิดไม่ถึงว่าอวี้เสี่ยวหลงจะจัดการกับคนร้ายทั้งสามคนที่มีอาวุธพร้อมได้ด้วยตัวเอง และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ต่อผู้บริสุทธิ์คนอื่น

“ขอโทษที่ทําให้ทุกคนตกใจกลัว เดี๋ยวฉันจะให้คนมาจัดการคนเหล่านี้ทันที จะไม่ทำให้เที่ยวบินนี้ดีเลย์แน่นอน” อวี้เสี่ยวหลงก้มลงเล็กน้อยและยิ้มให้กับผู้คนที่ตกตะลึง

ผู้โดยสารคนหนึ่งดูเหมือนจะจําเธอได้และอุทานขึ้นว่า “คุณคือพลโทอวี้เสี่ยวหลงใช่ไหม? ดาวรุ่งพุ่งแรงของประเทศเราเป็นที่รู้จักในฐานะเทพเจ้าแห่งสงครามหญิง!”

“ที่แท้ก็เป็นนายพลหญิงอวี้เสี่ยวหลงนี่เอง เป็นเกียรติของพวกเราอย่างยิ่งที่ได้นั่งเที่ยวบินเดียวกับนายพลหญิงอวี้เสี่ยวหลง”

“ฮ่าฮ่าฮ่า มีนายพลหญิงอวี้อยู่ที่นี่ เที่ยวบินจะปลอดภัยกว่านี้ไม่มีแล้ว! เรื่องนี้เล็กน้อย นายพลหญิงอวี้ไม่ต้องกังวล”

หลังจากที่ทุกคนจําอวี้เสี่ยวหลงได้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะชื่นชมเธอ

ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่ทหารก็มาจับคนร้ายสามคนที่อวี้เสี่ยวหลงจัดการ และเที่ยวบินก็ไม่มีการล่าช้า

หลงย่าหนานมองไปทางฉีเติ่งเสียนอย่างดูถูก ผู้ชายคนนี้ดูไม่เป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด

อวี้เสี่ยวหลงพูดอย่างไม่เป็นทางการกับฉีเติ่งเสียนว่า “พวกเราไม่ได้อยู่โลกใบเดียวกัน อย่ามาตามฉันอีก ทำแบบนี้ไม่สามารถเปลี่ยนใจฉันได้หรอก”

หลงย่าหนานหัวเราะเยาะ “ถ้ายังจะตามติดคุณหนูอย่างไร้ยางอายแบบนี้อีก ก็อย่ามาโทษฉันที่ไร้ความปรานีล่ะ!”

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคําพูดเหล่านี้จะเป็นการดึงดูดความสนใจของทุกคน แต่ละคนต่างมองอย่างดูถูกเหยียดหยาม “คางคกก็อยากกินเนื้อหงส์ด้วย”

ฉีเติ่งเสียนเพิกเฉยต่อคำพูดถากถางเหล่านั้น เมื่อมาถึงสนามบินจงไห่ เขาก็ลงจากเครื่องบินพร้อมกระเป๋าและเดินลงจากเครื่องบิน

“เอ๋? นี่คือ...” หลงย่าหนานสังเกตว่ามีจดหมายอยู่บนที่นั่งของฉีเติ่งเสียน เธอก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาแล้วให้อวี้เสี่ยวหลง

อวี้เสี่ยวหลงอ่านแล้วชะงักไปนิดหน่อย พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เขาไม่ได้ตามฉันมา แต่มาหาผู้หญิงคนอื่นต่างหาก”

“เป็นอย่างนั้นก็ดี เขาควรจะรู้ว่าพวกเราไม่ได้มาจากโลกใบเดียวกัน หลังจากนี้เหตุการณ์นี้เขาคงจะจัดการกับความคิดเขาได้”

เมื่อฉีติ่งเสียนเพิ่งลงจากเครื่องและกำลังเดินออกจากสนามบิน ก็ได้เห็นชายที่คุ้นเคยคนหนึ่ง

“รองหัวหน้าใหญ่!”

หลังจากชายคนนั้นได้เห็นฉีเติ่งเสียนก็โค้งคํานับด้วยความเคารพ

ฉากนี้ทําให้ผู้โดยสารรอบข้างตกตะลึง

“นั่นใคร? ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม? นั่นคือหวังว่านจิน คนที่ร่ำรวยที่สุดจงไห่ใช่ไหม?”

"คนที่รวยที่สุดกําลังโค้งคํานับชายหนุ่มนั่น? หรือเขาเป็นคนมีชื่อเสียงจากเมืองหลวง?”

“พระเจ้า หวังว่านจินที่หยิ่งผยองคนนี้ ใครจะมาเป็นของขวัญชิ้นใหญ่อย่างเขาได้? ชายหนุ่มคนนี้น่าทึ่งมาก..."

ฉีเติ่งเสียนเผยรอยยิ้มสบาย ๆ และเดินตรงไปที่รถโรลส์-รอยซ์ของหวังว่านจิน

อวี้เสี่ยวหลงเพิ่งเดินออกจากประตูสนามบิน เห็นรถโรลส์-รอยซ์สุดหรูอยู่ด้านหน้า และเห็นร่างที่คุ้นเคยจากกระจกรถ

“หืม? ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม” อวี้เสี่ยวหลงหัวเราะเยาะกับตัวเองฉีเติ่งเสียนที่ถูกไล่ออกจากตระกูลฉี จะไปนั่งในรถหรูขนาดนี้ได้ยังไง?

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

1959