บทที่ 002 ลวนลาม โอหังไม่ธรรมดา
by อาช้าย
09:16,Mar 19,2022
คุณหนู คุณหนู ท่านเป็นถึงพระชายาในอนาคต ท่านจะทิ้งลั่วอ๋องไปได้อย่างไร
คุณหนู ข้าขอร้องล่ะ ท่านจะไปไม่ได้ หากท่านจากไป ท่านจะให้หวั่นอินทำเช่นไรเล่าเจ้าคะ!"
เสียงดังก้องเช่นนั้น ดังไปทั่วทั้งกำแพงเมือง
ราวกับว่านางจงใจ!
อะไรกัน? วันนี้แต่งงานงั้นหรือ?
อนาคตพระชายาลั่วอ๋อง?
ทุกคนล้วนตื่นตระหนกขึ้นมา!
ดวงตาหลายคู่เต็มไปด้วยความคมปลาบร้อนแรงมองดูเฟิ่งชิงเฉิน ในหัวของทุกคนคิดไปถึงโชคชะตาอันเลวร้ายของคุณหนูบุตรสาวขุนนางผู้นี้
ความแตกต่างทางชนชั้นทำให้เหล่าประชาชนคนธรรมดานอกจากจะมีความเคารพยำเกรงต่อเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงแล้วยังแฝงไปด้วยความเกลียดชัง
เมื่อเห็นบุตรสาวของขุนนางผู้หนึ่งตกอับถึงเพียงนี้จึงทำให้เหล่าราษฎรมีความสุขไปได้อีกหลายวัน
สมควรตาย!
เฟิ่งชิงเฉินหันกลับไปมองอย่างรวดเร็ว เมื่อมองเห็นสาวใช้ที่นั่งอยู่บนพื้น นางก็ถีบลงไปโดยไม่ต้องคิดเลยแม้แต่น้อยและพูดเสียงดังต่อคนรอบข้าง "ใครใช้ให้เจ้าพูดจาเหลวไหล เอาน้ำสกปรกเทราดใส่คุณหนูเฟิ่ง..."
นางต้องหลุดออกมาจากความสกปรกนั้นก่อน มิฉะนั้นเฟิ่งชิงเฉินสามคำนี้จะต้องกลายเป็นสรรพนามแห่งการครหานินทาแน่ หากนางมีชื่อเสียงเสื่อมเสียเช่นนี้คงอยู่ในยุคนี้ต่อไปอย่างทุกข์ทรมานแน่
ถูกขังอยู่ในกรงหมูเป็นเพียงเรื่องเล็ก
"โอย..." เสียงโอดครวญดังขึ้นพร้อมร่างหวั่นอินที่ล้มลงกระแทกพื้น ปากของนางยังไม่หยุดตะโกน
"คุณหนู คุณหนูชิงเฉิน หวั่นอินไม่ได้... ไม่ได้พูดเหลวไหลเสียหน่อย"
"ท่านก็คือคุณหนูเฟิ่ง เฟิ่งชิงเฉิน วันนี้เป็นวันแต่งงานของท่าน หวั่นอินไม่ได้โกหก คุณหนู ท่านไม่ยอมรับตัวตนของตนเองได้อย่างไร? คุณหนู หวั่นอินขอร้องเจ้าค่ะ ท่านจะไปไหนไม่ได้ หากท่านไปแล้วงานแต่งงานจะทำอย่างไรเล่า คุณหนูจะทิ้งหวั่นอินไปไม่ได้นะเจ้าคะ..."
โฮๆๆ ว่าแล้วนางก็นอนลงกับพื้นและร้องไห้โวยวาย
เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ฝูงชนรังเกียจเฟิ่งชิงเฉิน พวกเขาเข้ามาล้อมนางไว้ตรงกลางไม่ให้นางไปไหน
ใครให้นางรังแกสาวใช้กันเล่า ไม่ว่าใครจะเป็นคนผิด เมื่อเหล่าผู้คนพบเจอเรื่องเหล่านี้ก็มักจะเกิดจิตวิญญาณของผู้กล้าขึ้นและรู้สึกสงสารผู้ที่อ่อนแอ
เห็นได้ชัดว่าเมื่อเทียบกันระหว่างคุณหนูและสาวใช้แล้ว สาวใช้นอนอ่อนแออยู่บนพื้น อีกทั้งพวกเขายังมีฐานะใกล้เคียงกัน
"สารเลว..." เฟิ่งชิงเฉินไม่คิดเลยก็กระทืบนางลงไปอีก
สาวใช้ผู้นี้ทรยศนางในยามสำคัญ
เฟิ่งชิงเฉิน ข้างกายของเจ้าเลี้ยงคนแบบไหนไว้กันแน่
เลี้ยงสุนัขก็ยังรู้จักปกป้องเจ้านาย แต่สาวใช้ของเจ้ากลับทรยศเจ้าในยามสำคัญที่สุด
"อะไรนะ? คุณหนูตระกูลเฟิ่งหรือ?" ไม่รู้ว่าใครตะโกนเสียงดังขึ้นอีก ทำให้คนที่เข้ามามุงดูเพิ่งจำนวนขึ้นทันที...
เฟิ่งชิงเฉินเงยหน้าขึ้น เมื่อมองผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบด้านก็พบว่ามีทหารเฝ้าเมืองที่อยู่ไม่ไกลได้ยินเสียงตะโกนของหวั่นอินก็รีบมุ่งหน้ามาทางนี้ นางจึงลอบร้องในใจว่าแย่แล้ว
เฟิ่งชิงเฉินหมุนตัวจากไปอีกครั้ง จะให้คนอื่นรู้มิได้เด็ดขาดว่านางก็คือเฟิ่งชิงเฉิน หากเรื่องนี้เกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา แม้นางจะไม่อยากตายก็คงต้องตายแน่
แต่ทว่ามิทันการณ์เสียแล้ว...
หวั่นอินราวกับไม่เสียดายชีวิต นางโถมเข้ามากอดขาของเฟิ่งชิงเฉินเอาไว้ "คุณหนูชิงเฉิน คุณหนูชิงเฉิน จะไปไหนไม่ได้นะเจ้าคะ หากท่านไปแล้วงานแต่งงานในวันนี้จะทำเช่นไรเล่าเจ้าคะ ลั่วอ๋องจะทำเช่นไร จวนเฟิ่งของพวกเราจะทำเช่นไร..."
ท่าทางสาวใช้ช่างดูเศร้าหมอง
เฟิ่งชิงเฉินก็เป็นเจ้านายจอมโหดเหี้ยมที่รังแกข้ารับใช้
"หวั่นอิน ข้าดีต่อเจ้าไม่น้อย" เฟิ่งชิงเฉินกัดฟันพูด เมื่อครู่นางไม่ได้บอกให้สาวใช้ผู้นี้ไปด้วยกันหรือ?
เกี่ยวอะไรกับจวนเฟิ่งด้วยเล่า จวนเฟิ่งก็มีพวกเขานายบ่าวเพียงสองคนเท่านั้นมิใช่หรือ? เพียงแค่พวกเขาจากไปเสียก็ไม่มีเรื่องราวแล้ว เพียงแค่จวนเฟิ่งอันว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดให้นางต้องอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด
สาวใช้ผู้นี้มีความคิดเป็นอื่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังเสแสร้งท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจออกมาอีก ช่างชั่วร้ายยิ่งนัก
เฟิ่งชิงเฉินคนก่อนโง่เขลาถึงเพียงใดกัน สาวใช้ของตนเป็นนกสองหัวก็ไม่รู้เลยสักนิด
ในยามนี้ แม้เฟิ่งชิงเฉินอยากจะไปก็ไปไม่ได้แล้ว ทหารชั้นผู้น้อยที่หน้ากำแพงเมืองขวางนางไว้ก่อนและแยกตัวหวั่นอินออกไปพร้อมถามอย่างไม่แน่ใจนัก "นี่เป็นคุณหนูเฟิ่งจริงๆ หรือ?"
อย่างไรเสียสารรูปของเฟิ่งชิงเฉินก็น่าอายยิ่งนัก ร่างกายท่อนบนที่ปรากฏสู่สายตาล้วนเต็มไปด้วยรอยจูบ
ม่วงเขียวเสียจนน่ากลัว!
"ไม่ใช่" เฟิ่งชิงเฉินส่ายหน้า นางปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด
"ไม่ใช่ๆ คุณหนู ท่านก็คือคุณหนูเฟิ่งชิงเฉินแห่งตระกูลเฟิ่ง อนาคตจะได้เป็นพระชายาของลั่วอ๋อง" หวั่นอินกล่าวตัดบทขึ้น
"นี่..." ทหารเฝ้าประตูเมืองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
หากผู้ที่อยู่ด้านหน้าเป็นบุตรสาวของขุนนางจริง จะต้องเป็นเรื่องยุ่งยากแน่ เขาไม่อาจทำให้นางขุ่นเคืองได้
ในเวลานี้เองก็มีรถม้าจากในเมืองมุ่งหน้ามาทางเฟิ่งชิงเฉิน ตลอดทางที่ผ่านผู้คนต่างก็แหวกออกเป็นสาย
ในรถม้ามีเสียงแหบพร่าของบุรุษดังออกมา คำพูดนั้นดูเมามายเล็กน้อย
"คุณหนูจวนเฟิ่ง? ข้าว่าคงจะหลอกลวงมากกว่า วันนี้เป็นวันแต่งงานระหว่างคุณหนูตระกูลเฟิ่งกับลั่วอ๋อง แล้วเจ้าจะเป็นคุณหนูตระกูลเฟิ่งได้อย่างไร"
"คุณชายเหยียน เป็นคุณชายเหยียนนั่นเอง วันนี้คนสวยคงจะโชคร้ายเสียแล้ว..." มีคนจำเสียงจากในรถม้านั้นได้
"คุณชายเหยียนคือใครหรือ?"
"เจ้าไม่รู้จักคุณชายเหยียนหรือ? เขาเป็นลูกชายคนเดียวของใต้เท้าเหยียนหัวหน้าสำนักจิงจ้าวฝู่ เขามีเป็นชายโฉดผู้โด่งดังประจำเมืองหลวง ชอบรังแกผู้อ่อนแอกว่าทั้งหญิงและชาย ไม่มีความชั่วใดที่เขาไม่กระทำ..."
ข้างหูของเฟิ่งชิงเฉินมีเสียงพึมพำดังแว่วมา ทหารเฝ้าประตูชั้นผู้น้อยไม่อาจใส่ใจฐานะของเฟิ่งชิงเฉินได้อีก เขารีบกุลีกุจอเข้าไปด้านหน้า
ไม่ว่าเฟิ่งชิงเฉินจะเป็นตัวจริงหรือไม่ นางก็เป็นหญิงที่แปดเปื้อนมลทินไปแล้ว แต่คุณชายเหยียนผู้นี้กลับกำลังเป็นที่โปรดปรานในยามนี้
เขาเข้าไปคำนับอย่างประจบประแจง
"คุณชายเหยียน..."
"อืม..." บุรุษในรถม้าตอบกลับมาอย่างหยิ่งยโส
ม่านของรถถูกแหวกออก จากนั้นก็ตามมาด้วยฝีเท้าล่องลอย เขารูปร่างอวบอ้วน ใบหน้าอูม ใบหูใหญ่ ขาทั้งสองข้างของเขาบวมอืด ลงรถม้ามาด้วยการพยุงของข้ารับใช้
ร่างของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นสุราเดินโงนเงนเข้ามาหาเฟิ่งชิงเฉิน "คุณหนูตระกูลเฟิ่ง? ให้ข้าดูหน่อยซิว่าจริงหรือไม่"
ในขณะที่พูดมืออวบอ้วนของเขาก็หมายถึงจะสัมผัสใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน ใบหน้าเหมือนหมูของเขาเข้ามาจ้องมองใบหน้าของเฟิ่งชิงเฉิน
กลิ่นสุราผสมกับกลิ่นของแป้งลอยเข้ามาปะทะจมูกของเฟิ่งชิงเฉิน...
"เพี๊ยะ..." เฟิ่งชิงเฉินก้าวถอยหลังและฟาดมือลงไปที่มือของคุณชายเหยียน "คุณชาย โปรดรักษากิริยาด้วย"
"รักษากิริยา? เหอๆๆ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ารักษากิริยาหรือไม่ มิเช่นนั้นแม่นางมาลองดูหน่อยดีหรือไม่? ให้ข้าลองกดดูสักหน่อย เจ้าจะได้รู้ว่าข้าหนักเท่าใด"
แม้จะถูกเฟิ่งชิงเฉินฟาดมือลงไปแต่คุณชายเหยียนก็ไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองเลยแม้แต่น้อย ไม่เพียงเท่านั้น แต่เข้ายังแลบลิ้นเลียส่วนที่ถูกนางตีเสียจนทั่ว ท่าทางเช่นนั้นช่างดูลามกอนาจารเหลือคณา
เฟิ่งชิงเฉินขนลุกไปทั่วทั้งตัว
คนผู้หนึ่ง เหตุใดจึงได้น่ารังเกียจได้ถึงเพียงนี้ เหล่าบุตรขุนนางในยุคโบราณจะบ้าระห่ำเกินไปเสียแล้ว แม้ในยุคปัจจุบันบุตรชายของเหล่านักการเมืองจะโอหังอยู่บ้าง แต่ภายนอกพวกเขาก็ยังปกปิดอยู่
"อย่างที่คิดเลย เป็นคนสวยอย่างที่คิดไว้เลย แม้แต่เหงื่อที่มือก็มีกลิ่นหอม ข้าได้ข่าวแต่เช้าตรู่ว่าที่หน้าประตูเมืองมีสาวงามปรากฏตัวขึ้น รอให้ข้ามาช่วยเหลือ เป็นอย่างที่คิดไว้เลยจริงๆ น่าทึ่ง ช่างน่าทึ่งจริงๆ งดงามกว่าหญิงคณิกาเสียตั้งสามส่วน"
"อะไรนะ? เฟิ่งชิงเฉินอึ้งงัน นางพยายามกล้ำกลืนความรังเกียจภายในใจและถามว่า "มีคนบอกให้ท่านมาหรือ?"
ทีละขั้น ทีละขั้น ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมเสียจริง ดูแล้ววันนี้นางคงจะไปไหนไม่ได้แล้ว
ตอนแรกก็หวั่นอิน ต่อมาก็คุณชายเหยียน คนเหล่านี้ต้องการทำลายชื่อเสียงของนางจนตายหรือ?
คุณชายเหยียนพยักหน้าอย่างลามก "แน่นอน หากไม่มีคนบอกแล้วข้าจะมาที่นี่แต่เช้าตรู่ทำไม?"
"ทำไมหรือ? แม่นางน้อย ไปกับข้าเสียเถอะ ข้ารับรองว่าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี ไม่ได้จะเข้าเมืองหรือ? ไปเถอะ มีข้าอยู่ทั้งคน เจ้าจะโอหังในเมืองอย่างไรก็ได้"
ในขณะที่พูด คุณชายเหยียนก็ยกมือขึ้น ผู้คุมด้านหลังก็เข้ามาลากเฟิ่งชิงเฉินทันที
เหล่าฝูงชนที่ล้อมดูและทหารที่เฝ้าเมืองทั้งสองข้างกลับทำราวกับมองไม่เห็น
อย่างไรเสียแม่นางผู้นี้ก็แปดเปื้อนอยู่แล้ว หากตกอยู่ในเงื้อมมือของคุณชายเหยียนก็คงจะแย่ลงอีกหน่อยเท่านั้นเอง
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved