บทที่ 3 ความอบอุ่นที่ไร้คำพูด
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 20,2021
เห็นเงาด้านหลังของเฉินผิงอานที่เดินไปทางห้องครัว ไม่รู้ว่าทำไมใจของไป๋ฉิงเฉินจู่ ๆ ก็เจ็บแปล่บขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อกี้ตอนที่รอเขาที่ชั้นล่างของบริษัท เขาก็เปียกไปทั้งตัวแล้วล่ะมั้ง
“รีบเอาน้ำขิงอุ่นไว้เรียบร้อย ยังมีจัดเก็บห้องครัวให้สะอาดต้มข้าวต้มให้ไป๋เซว่กินเพื่ออุ่นท้อง”
ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินอยากที่จะเดินไปดูเฉินผิงอานในห้องครัวสักหน่อย กลับได้ยินเสียงของแม่
“เธอจะไปไหน?”
ไป๋ฉิงเฉินส่ายหน้า
ในใจกลับปรากฏเฉินผิงอานเป็นครั้งแรกที่ส่งร่มให้กับตัวเองด้วยรอยยิ้มท่ามกลางสายฝน
“จะต่อต้านแล้วจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าแกล้งไป๋เซว่ตระกูลไป๋ของพวกเรา เด็กดีอย่ากลัวเดี๋ยวแม่จะโทรหาพ่อตอนนี้ ให้เขากลับมาจัดการคนไร้ค่าคนนี้”
เวลานี้เฉินผิงอานได้ไปที่ห้องครัวแล้ว เริ่มต้มน้ำขิงอย่างชำนาญ
ตลอดสามปีนี้เขาแทบจะคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบนี้แล้ว
เขาเงยหน้ามองผ่านช่องหน้าต่างของห้องครัวมองฝนที่ตกหนักด้านนอก คิดว่าสองสามวันนี้หลงลั่วเซียนนั่นคงจะตามหาตัวเองสองครั้งแล้วยังมีการปรากฏตัวของอาเป้าในคืนนี้ จู่ ๆ เฉินผิงอานก็รับรู้ถึงความรู้สึกของวิกฤตหนึ่ง
หันด้านข้างมองห้องรับแขกที่ว่างเปล่าแวบหนึ่ง เฉินผิงอานอดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้ม
ดูแล้วไม่นานตัวเองก็จะต้องออกไปแล้ว
ในเมื่อตระกูลและอาเป้าพวกเขาต่างก็หาตัวเองเจอแล้ว งั้นปีนี้คนเหล่านั้นก็สามารถหาตัวเองเจอ
ตัวเองไม่สามารถทำร้ายคนของบ้านนี้ได้ ถึงแม้พวกเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ต้มน้ำขิงไปพรางเฉินผิงอานก็เอาสิ่งสกปรกในห้องครัวเก็บทำความสะอาดเรียบร้อย แล้วก็เอาเสื้อผ้าที่สกปรกกองใหญ่ทิ้งลงในเครื่องซักผ้า
นี่ถึงเอาน้ำขิงเทออกมา
“ผิงอาน เอ่อ น้ำขิงเสร็จแล้วหรือยัง?แม่ให้ฉันมา……”
ไป๋ฉิงเฉินยืนอยู่ที่หน้าประตูครัว มองเฉินผิงอานที่เปียกไปทั้งตัวในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
เฉินผิงอานกลับค่อย ๆ ยิ้มถือน้ำขิงถ้วยนั้นแล้วก็เดินออกมาจากห้องครัว
“เสร็จแล้ว ร้อน ผมยกไปให้ไป๋เซว่แล้วกัน”
ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้า
เวลานี้ในใจของหล่อนปลอบใจตัวเองอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ไม่คิดที่จะก้าวหน้า แต่อย่างน้อยสามปีนี้เขาก็ไม่เคยบ่นเลยสักนิดต่างมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มต่อตัวเองตลอด
“โอ๊ย คุณ……”
ไม่รอให้ไป๋ฉิงเฉินพูดกลับได้ยินเสียงแม่ที่ไม่ไกลจากห้องของน้องเล็ก
“ใครให้คุณเขามารู้หรือเปล่านี่คือห้องของเสี่ยวเซว่ สกปรกรีบไสหัวไปต้มข้าวต้มมาหน่อย!”
ไป๋ฉิงเฉินอยากที่จะพูดอะไรกลับมองเห็นเฉินผิงอานที่ยืนอยู่ด้านหน้าหล่อนด้วยรอยยิ้มเบา ๆ เต็มไปด้วยใบหน้าที่ไม่สนใจ กลับทั้งรู้สึกไม่ได้ดังใจชั่วขณะ
สามปีแล้วที่ไป๋ฉิงเฉินเคยคิดที่จะหาวิธีมากมายต้องการให้สามีที่ไม่ต่อสู้คนนี้มีความยินยอมที่จะพัฒนาก้าวหน้า แต่กระทั่งจนถึงตอนนี้ก็เพียงแค่เป็นรปภ.ที่เฝ้าประตู
หลายครั้งที่เขาก็คิดอยู่ตอนแรกที่ไม่สนใจการคัดค้านของคนในบ้าน ดื้อรั้นที่จะอยู่กับเฉินผิงอานที่ช่วยตัวเองอย่ากล้าหาญ แต่งงานเป็นความผิดพลาดหรือเปล่า?
เริ่มแรกตระกูลได้จัดการให้เขาก็คือนายน้อยถังอิงแห่งบ้านตระกูลถังของมณฑลเสฉวน อีกทั้งเป็นโอกาสที่ดีที่บ้านตระกูลไป๋จะเดินออกจากเมืองปินโดยแท้จริง แต่ว่ากลับเพราะการปรากฏตัวของผู้ชายคนนี้ ไป๋ฉิงเฉินเลือกที่จะแต่งงานสาบฟ้าแลบเปลี่ยนคู่หมายหลบหลีกการแต่งงานที่ครอบครัวร่วมมือกัน
สาเหตุที่สำคัญมากกว่านั้น ไป๋ฉิงเฉินไม่ชอบการแต่งงานของตัวเองที่จัดการไว้ให้
ก็ด้วยเหตุนี้ไป๋ฉิงเฉินและครอบครัวถูกตระกูลไล่ออกออกมาอาศัยอยู่ในตึกที่เก่าทรุดโทรมอย่างนี้ ไป๋ฉิงเฉินก็กลายเป็นคนทำงานที่ต้องยุ่งทั้งวัน
“คุณกลับมาตอนเย็นยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม?ผมไปข้างล่างหาอะไรมาให้คุณกิน”
พูดจบก็ไม่สนใจว่าไป๋ฉิงเฉินจะมีแววตาที่สับสนเหล่านั้น หมุนตัวแล้วก็เดินไปยุ่งที่ห้องครัว
สำหรับไป๋ฉิงเฉิน เฉินผิงอานมีความรักที่เข้มข้นในใจอยู่ไม่งั้นก็คงไม่รับปากความต้องการตอนแรกของไป๋ฉิงเฉิน ก็เพราะว่าเฉินผิงอานในตอนนั้นไม่มีทางจะไปจริงๆ เก็บซ่อนตัวที่นี่ก็ไม่จําเป็นต้องเป็นที่พักที่ดี
“กินเถอะกินแล้วคุณรีบไปพักผ่อน วันนี้ทำงานคงจะต้องเหนื่อยแน่นอนใช่ไหมล่ะ ดูคุณซีดเซียวมาก”
สำหรับไป๋ฉิงเฉินแล้ว ตั้งแต่ไหนมาเฉินผิงอานต่างก็ไม่ค่อยจะพูดกระทั่งรู้สึกว่าพูดกับหล่อนเขาก็เบิกบานใจมาก
ไป๋ฉิงเฉินมองบะหมี่ร้อนที่อยู่ต่อหน้าถ้วยนี้ ในใจจู่ ๆ ก็มีกระแสอุ่นผ่านมา……เตรียมที่จะพูด เฉินผิงอานกลับหมุนตัวยกข้าวต้มที่ต้มเสร็จแล้วเดินไปทางห้องที่อยู่ด้านข้าง
“วันนี้ปล่อยคุณไปชั่วคราวก่อน พรุ่งนี้ค่อยจัดการกับคุณ!”
แม่ไป๋กว่าจะได้ดูแลจนไป๋เซว่นอนหลับไป พอเดินออกมาก็เห็นเฉินผิงอานที่กำลังถูพื้นอยู่ในใจยิ่งดูถูก ยิ่งยืนยันที่จะต้องจับคู่ให้ลูกสาวของตัวเองฉิงเฉินมีเรื่องมงคลกับฟางซื่อหวาของบริษัทพวกเขา
ไม่พูดว่าฟางซื่อหวามาเยี่ยมที่บ้านกี่ครั้งมีความหมายแสดงถึงน้ำใจ เพียงเบื้องหลังของบ้านตระกูลฟางซื่อหวาฝ่ายนั้นแม้กระทั่งบ้านตระกูลไป๋วันนี้ต่างก็ต้องประจบประแจง
ถ้าจับคู่ฉิงเฉิงและฟางซื่อหวาให้มีเรื่องมงคลแล้วไม่แน่ว่าพวกเขาก็จะสามารถได้รับความสำคัญจากคุณท่านของบ้านตระกูลไป๋ได้
กระทั่งเฉินผิงอานที่ถูพื้นต่อหน้าคนนี้ ในสายตาของเขาก็เป็นคนไร้ค่าคนหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าตอนแรกลูกสาวของตัวเองตาบอดหรือเปล่าแต่แม่ไป๋เข้าใจลูกสาวตัวเองรู้ว่าลูกสาวตัวเองทำไปเพื่อทดแทนบุญคุญ
แต่ทั้งหมดนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เพียงรอหัวหน้าครอบครัวกลับมาก็จะบังคับให้ฉิงเฉินหย่าถึงเวลานั้นก็จะสามารถจับคู่เรื่องมงคลกับนายน้อยบ้านตระกูลฟางได้ และก็สามารถทำให้พวกเขามีชีวิตขึ้นมาใหม่ได้จากที่นี่
ครั้งที่แล้วพลาดโอกาสการแต่งงานของหรงเฉิงบ้านตระกูลถัง ครั้งนี้พวกเขาพูดอะไรก็ไม่สามารถพลาดโอกาสอีกปล่อยให้ไป๋ฉิงเฉินก่อความวุ่นวายได้!
ไป๋ฉิงเฉินที่นอนอยู่บนเตียงนอนไม่หลับพลิกไปพลิกมา ในสมองทั้งหมดมีภาพของเฉินผิงอานที่เปียกฝนทั้งตัวแล้วลุกขึ้นจากเตียงเอาชุดนอนที่สะอาดหนึ่งชุดวางบนเตียงทหารด้านข้างเขา นี่ถึงกลับมาที่เตียงนอนหลับตาอย่างเหนื่อยล้า
รอเฉินผิงอานจัดเก็บเรียบร้อยในขณะที่หอบร่างกายที่หนักอึ้งกลับมาที่ห้องก็มองเห็นชุดนอนที่สะอาดเรียบร้อยวางอยู่บนเตียงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะค่อยๆ ยิ้ม เวลานี้ถึงเปลี่ยนชุดรปภ.ที่เปียกชื้น เช็ดตัวแห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนลงบนเตียงทหาร
เวลานี้ฝนก็ได้หยุดนานแล้วปรากฏแสงแดดสดชื่นที่เลือนรางผ่านหน้าต่างตกลงที่เตียง เฉินผิงอานมองภาพที่สวยงามนั้นบนเตียง เส้นโค้งที่ดึงดูดคนในใจอดไม่ได้ที่จะร้อนวูบขึ้นมา
สามปี เฉินผิงอานก็ใช้ชีวิตผ่านนมาอย่างนี้
ได้รับความอบอุ่นจากชุดนอนนั่นที่ส่งมา เฉินผิงอานก็หลับสนิทไป
เช้าวันที่สอง ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินลืมตาทั้งสองหมุนตัวก็เห็นชุดนอนนั่นพับอย่างเรียบร้อยวางที่บนเตียงทหาร ในใจยังมีความโกรธเล็กน้อยหรือว่าชุดนอนที่ตัวเองให้เขาไม่ได้ใส่?
ไป๋ฉิงเฉินที่สงสัยเดินมาที่ด้านข้างเตียงทหารแล้วแนบตัวดมชุดนอน นี่ถึงยิ้มเบาๆ จากนั้นก็ออกไปอาบน้ำ
“วันนี้ตอนเย็นพวกเธอกลับมาให้เร็วหน่อย รู้ไหม?”
“แม่ หรือว่าวันนี้มีแขกคนสำคัญมา?”
พอได้ยินแม่ไป๋พูดอย่างนี้ เดิมไป๋เซว่ที่ยังไม่ค่อยมีสติก็เอ่ยปากถามทันที
“ถึงตอนเย็นพวกเธอก็จะรู้เอง!”
โต๊ะอาหารนั่งเพียงสามคน แต่เฉินผิงอานเวลานี้กินหมั่นโถคนเดียวในห้องครัว
แต่เขากลับได้ยินคำพูดของแม่ไป๋และคิดถึงความลำบากของตัวเองในตอนนี้อีก
“เหม่อลอยอะไร รีบไปเก็บของแล้วไปทำงานจำไว้ต้องดูแลไป๋เซว่ให้ดีๆ ที่โรงเรียน เห็นคุณแล้วก็อารมณ์ไม่ดีจริง ๆ !”
ระหว่างที่พูดแม่ไป๋ก็เร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องไป
ต่างก็ไปกันหมดแล้ว เฉินผิงอานกลับจู่ๆ รู้สึกโล่งสบายแล้ว
เก็บจานชามตระเกียบแล้ว มือถือของเฉินผิงอานก็ดังขึ้น
เป็นข้อความวีแชทของไป๋ฉิงเฉิน
“ผิงอาน เมื่อคืน……เมื่อคืน……ยาแก้หวัดนั่นฉันวางไว้บนชั้นวางทีวีในห้องรับแขกแล้ว อย่าลืมกินแล้วค่อยไปทำงานตอนเย็นไม่ต้องมารับฉัน ฉันกลับบ้านเอง”
ให้เขาพูดคำว่าขอโทษออกมา ไป๋ฉิงเฉินพูดไม่ออกจริงๆ
แต่หลังส่งข้อความวีแชทนี้แล้ว ใจของเขาโล่งสบายไปมาก
เห็นข้อความวีแชทของไป๋ฉิงเฉิน เฉินผิงอานก็ยิ้มออกมาเบา ๆ
เดินมาหยิบยาแก้หวัดที่หน้าโต๊ะทีวี
“คุณก็คือผู้หญิงคนหนึ่งอย่างนี้ คุณคือภรรยาของผมผมรู้ความลำบากใจของคุณ”
แต่เขาเพียงตอบกลับไปแค่สามคำ
“รู้แล้ว”
พอคิดถึงอาจจะไม่นานก็ต้องไปจากไป๋ฉิงเฉิน ใจของเฉินผิงอานอดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อยสามปีนี้ได้เห็นความพยายามของไป๋ฉิงเฉิน และก็มองเห็นใบหน้าของคนบ้านตระกูลไป๋นับไม่ถ้วน
หลายครั้งที่ญาติพี่น้องของบ้านตระกูลไป๋เหล่านั้นแสดงอำนาจต่อหน้าไป๋ฉิงเฉิน หลายครั้งเฉินผิงอานเห็นไป๋ฉิงเฉินแอบเข้าไปในห้องร้องไห้คนเดียว
แน่นอนเฉินผิงอานก็รู้ ไม่รู้ว่าเท่าไรที่แม่ยายของตัวเองคนนี้ตั้งใจที่จะลากคนหนุ่มสาวที่เก่งมีความสามารถที่เป็นเพื่อนบ้านมากินข้าวที่บ้าน
ภายนอกคือแนะนำคนหนุ่มสาวให้รู้จัก วันหลังทำงานก็จะมีคนคนดูแล ยังไงบริษัทเครื่องสำอางค์ที่ไป๋ฉิงเฉินทำอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากไม่ไม่สองรองใครในเมืองปิน
แต่เรื่องจริงแล้วเฉินผิงอานจะไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของแม่ยายตัวเองคนนี้ได้ยังไง
เพียงแต่สำหรับทั้งหมดนี้เขาต่างก็ไม่ได้ไปสนในเท่านั้น เขาสนใจเพียงความรู้สึกของไป๋ฉิงเฉินเท่านั้น
ขอแค่เธอเบิกบานใจ ให้เขาทำอะไรต่างก็ยอมทั้งนั้น……
เมื่อกี้ตอนที่รอเขาที่ชั้นล่างของบริษัท เขาก็เปียกไปทั้งตัวแล้วล่ะมั้ง
“รีบเอาน้ำขิงอุ่นไว้เรียบร้อย ยังมีจัดเก็บห้องครัวให้สะอาดต้มข้าวต้มให้ไป๋เซว่กินเพื่ออุ่นท้อง”
ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินอยากที่จะเดินไปดูเฉินผิงอานในห้องครัวสักหน่อย กลับได้ยินเสียงของแม่
“เธอจะไปไหน?”
ไป๋ฉิงเฉินส่ายหน้า
ในใจกลับปรากฏเฉินผิงอานเป็นครั้งแรกที่ส่งร่มให้กับตัวเองด้วยรอยยิ้มท่ามกลางสายฝน
“จะต่อต้านแล้วจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าแกล้งไป๋เซว่ตระกูลไป๋ของพวกเรา เด็กดีอย่ากลัวเดี๋ยวแม่จะโทรหาพ่อตอนนี้ ให้เขากลับมาจัดการคนไร้ค่าคนนี้”
เวลานี้เฉินผิงอานได้ไปที่ห้องครัวแล้ว เริ่มต้มน้ำขิงอย่างชำนาญ
ตลอดสามปีนี้เขาแทบจะคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตแบบนี้แล้ว
เขาเงยหน้ามองผ่านช่องหน้าต่างของห้องครัวมองฝนที่ตกหนักด้านนอก คิดว่าสองสามวันนี้หลงลั่วเซียนนั่นคงจะตามหาตัวเองสองครั้งแล้วยังมีการปรากฏตัวของอาเป้าในคืนนี้ จู่ ๆ เฉินผิงอานก็รับรู้ถึงความรู้สึกของวิกฤตหนึ่ง
หันด้านข้างมองห้องรับแขกที่ว่างเปล่าแวบหนึ่ง เฉินผิงอานอดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้ม
ดูแล้วไม่นานตัวเองก็จะต้องออกไปแล้ว
ในเมื่อตระกูลและอาเป้าพวกเขาต่างก็หาตัวเองเจอแล้ว งั้นปีนี้คนเหล่านั้นก็สามารถหาตัวเองเจอ
ตัวเองไม่สามารถทำร้ายคนของบ้านนี้ได้ ถึงแม้พวกเขาก็ไม่ใช่คนดีอะไร
ต้มน้ำขิงไปพรางเฉินผิงอานก็เอาสิ่งสกปรกในห้องครัวเก็บทำความสะอาดเรียบร้อย แล้วก็เอาเสื้อผ้าที่สกปรกกองใหญ่ทิ้งลงในเครื่องซักผ้า
นี่ถึงเอาน้ำขิงเทออกมา
“ผิงอาน เอ่อ น้ำขิงเสร็จแล้วหรือยัง?แม่ให้ฉันมา……”
ไป๋ฉิงเฉินยืนอยู่ที่หน้าประตูครัว มองเฉินผิงอานที่เปียกไปทั้งตัวในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด
เฉินผิงอานกลับค่อย ๆ ยิ้มถือน้ำขิงถ้วยนั้นแล้วก็เดินออกมาจากห้องครัว
“เสร็จแล้ว ร้อน ผมยกไปให้ไป๋เซว่แล้วกัน”
ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้า
เวลานี้ในใจของหล่อนปลอบใจตัวเองอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ผู้ชายที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ไม่คิดที่จะก้าวหน้า แต่อย่างน้อยสามปีนี้เขาก็ไม่เคยบ่นเลยสักนิดต่างมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มต่อตัวเองตลอด
“โอ๊ย คุณ……”
ไม่รอให้ไป๋ฉิงเฉินพูดกลับได้ยินเสียงแม่ที่ไม่ไกลจากห้องของน้องเล็ก
“ใครให้คุณเขามารู้หรือเปล่านี่คือห้องของเสี่ยวเซว่ สกปรกรีบไสหัวไปต้มข้าวต้มมาหน่อย!”
ไป๋ฉิงเฉินอยากที่จะพูดอะไรกลับมองเห็นเฉินผิงอานที่ยืนอยู่ด้านหน้าหล่อนด้วยรอยยิ้มเบา ๆ เต็มไปด้วยใบหน้าที่ไม่สนใจ กลับทั้งรู้สึกไม่ได้ดังใจชั่วขณะ
สามปีแล้วที่ไป๋ฉิงเฉินเคยคิดที่จะหาวิธีมากมายต้องการให้สามีที่ไม่ต่อสู้คนนี้มีความยินยอมที่จะพัฒนาก้าวหน้า แต่กระทั่งจนถึงตอนนี้ก็เพียงแค่เป็นรปภ.ที่เฝ้าประตู
หลายครั้งที่เขาก็คิดอยู่ตอนแรกที่ไม่สนใจการคัดค้านของคนในบ้าน ดื้อรั้นที่จะอยู่กับเฉินผิงอานที่ช่วยตัวเองอย่ากล้าหาญ แต่งงานเป็นความผิดพลาดหรือเปล่า?
เริ่มแรกตระกูลได้จัดการให้เขาก็คือนายน้อยถังอิงแห่งบ้านตระกูลถังของมณฑลเสฉวน อีกทั้งเป็นโอกาสที่ดีที่บ้านตระกูลไป๋จะเดินออกจากเมืองปินโดยแท้จริง แต่ว่ากลับเพราะการปรากฏตัวของผู้ชายคนนี้ ไป๋ฉิงเฉินเลือกที่จะแต่งงานสาบฟ้าแลบเปลี่ยนคู่หมายหลบหลีกการแต่งงานที่ครอบครัวร่วมมือกัน
สาเหตุที่สำคัญมากกว่านั้น ไป๋ฉิงเฉินไม่ชอบการแต่งงานของตัวเองที่จัดการไว้ให้
ก็ด้วยเหตุนี้ไป๋ฉิงเฉินและครอบครัวถูกตระกูลไล่ออกออกมาอาศัยอยู่ในตึกที่เก่าทรุดโทรมอย่างนี้ ไป๋ฉิงเฉินก็กลายเป็นคนทำงานที่ต้องยุ่งทั้งวัน
“คุณกลับมาตอนเย็นยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม?ผมไปข้างล่างหาอะไรมาให้คุณกิน”
พูดจบก็ไม่สนใจว่าไป๋ฉิงเฉินจะมีแววตาที่สับสนเหล่านั้น หมุนตัวแล้วก็เดินไปยุ่งที่ห้องครัว
สำหรับไป๋ฉิงเฉิน เฉินผิงอานมีความรักที่เข้มข้นในใจอยู่ไม่งั้นก็คงไม่รับปากความต้องการตอนแรกของไป๋ฉิงเฉิน ก็เพราะว่าเฉินผิงอานในตอนนั้นไม่มีทางจะไปจริงๆ เก็บซ่อนตัวที่นี่ก็ไม่จําเป็นต้องเป็นที่พักที่ดี
“กินเถอะกินแล้วคุณรีบไปพักผ่อน วันนี้ทำงานคงจะต้องเหนื่อยแน่นอนใช่ไหมล่ะ ดูคุณซีดเซียวมาก”
สำหรับไป๋ฉิงเฉินแล้ว ตั้งแต่ไหนมาเฉินผิงอานต่างก็ไม่ค่อยจะพูดกระทั่งรู้สึกว่าพูดกับหล่อนเขาก็เบิกบานใจมาก
ไป๋ฉิงเฉินมองบะหมี่ร้อนที่อยู่ต่อหน้าถ้วยนี้ ในใจจู่ ๆ ก็มีกระแสอุ่นผ่านมา……เตรียมที่จะพูด เฉินผิงอานกลับหมุนตัวยกข้าวต้มที่ต้มเสร็จแล้วเดินไปทางห้องที่อยู่ด้านข้าง
“วันนี้ปล่อยคุณไปชั่วคราวก่อน พรุ่งนี้ค่อยจัดการกับคุณ!”
แม่ไป๋กว่าจะได้ดูแลจนไป๋เซว่นอนหลับไป พอเดินออกมาก็เห็นเฉินผิงอานที่กำลังถูพื้นอยู่ในใจยิ่งดูถูก ยิ่งยืนยันที่จะต้องจับคู่ให้ลูกสาวของตัวเองฉิงเฉินมีเรื่องมงคลกับฟางซื่อหวาของบริษัทพวกเขา
ไม่พูดว่าฟางซื่อหวามาเยี่ยมที่บ้านกี่ครั้งมีความหมายแสดงถึงน้ำใจ เพียงเบื้องหลังของบ้านตระกูลฟางซื่อหวาฝ่ายนั้นแม้กระทั่งบ้านตระกูลไป๋วันนี้ต่างก็ต้องประจบประแจง
ถ้าจับคู่ฉิงเฉิงและฟางซื่อหวาให้มีเรื่องมงคลแล้วไม่แน่ว่าพวกเขาก็จะสามารถได้รับความสำคัญจากคุณท่านของบ้านตระกูลไป๋ได้
กระทั่งเฉินผิงอานที่ถูพื้นต่อหน้าคนนี้ ในสายตาของเขาก็เป็นคนไร้ค่าคนหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าตอนแรกลูกสาวของตัวเองตาบอดหรือเปล่าแต่แม่ไป๋เข้าใจลูกสาวตัวเองรู้ว่าลูกสาวตัวเองทำไปเพื่อทดแทนบุญคุญ
แต่ทั้งหมดนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว
เพียงรอหัวหน้าครอบครัวกลับมาก็จะบังคับให้ฉิงเฉินหย่าถึงเวลานั้นก็จะสามารถจับคู่เรื่องมงคลกับนายน้อยบ้านตระกูลฟางได้ และก็สามารถทำให้พวกเขามีชีวิตขึ้นมาใหม่ได้จากที่นี่
ครั้งที่แล้วพลาดโอกาสการแต่งงานของหรงเฉิงบ้านตระกูลถัง ครั้งนี้พวกเขาพูดอะไรก็ไม่สามารถพลาดโอกาสอีกปล่อยให้ไป๋ฉิงเฉินก่อความวุ่นวายได้!
ไป๋ฉิงเฉินที่นอนอยู่บนเตียงนอนไม่หลับพลิกไปพลิกมา ในสมองทั้งหมดมีภาพของเฉินผิงอานที่เปียกฝนทั้งตัวแล้วลุกขึ้นจากเตียงเอาชุดนอนที่สะอาดหนึ่งชุดวางบนเตียงทหารด้านข้างเขา นี่ถึงกลับมาที่เตียงนอนหลับตาอย่างเหนื่อยล้า
รอเฉินผิงอานจัดเก็บเรียบร้อยในขณะที่หอบร่างกายที่หนักอึ้งกลับมาที่ห้องก็มองเห็นชุดนอนที่สะอาดเรียบร้อยวางอยู่บนเตียงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะค่อยๆ ยิ้ม เวลานี้ถึงเปลี่ยนชุดรปภ.ที่เปียกชื้น เช็ดตัวแห้งเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนอนลงบนเตียงทหาร
เวลานี้ฝนก็ได้หยุดนานแล้วปรากฏแสงแดดสดชื่นที่เลือนรางผ่านหน้าต่างตกลงที่เตียง เฉินผิงอานมองภาพที่สวยงามนั้นบนเตียง เส้นโค้งที่ดึงดูดคนในใจอดไม่ได้ที่จะร้อนวูบขึ้นมา
สามปี เฉินผิงอานก็ใช้ชีวิตผ่านนมาอย่างนี้
ได้รับความอบอุ่นจากชุดนอนนั่นที่ส่งมา เฉินผิงอานก็หลับสนิทไป
เช้าวันที่สอง ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินลืมตาทั้งสองหมุนตัวก็เห็นชุดนอนนั่นพับอย่างเรียบร้อยวางที่บนเตียงทหาร ในใจยังมีความโกรธเล็กน้อยหรือว่าชุดนอนที่ตัวเองให้เขาไม่ได้ใส่?
ไป๋ฉิงเฉินที่สงสัยเดินมาที่ด้านข้างเตียงทหารแล้วแนบตัวดมชุดนอน นี่ถึงยิ้มเบาๆ จากนั้นก็ออกไปอาบน้ำ
“วันนี้ตอนเย็นพวกเธอกลับมาให้เร็วหน่อย รู้ไหม?”
“แม่ หรือว่าวันนี้มีแขกคนสำคัญมา?”
พอได้ยินแม่ไป๋พูดอย่างนี้ เดิมไป๋เซว่ที่ยังไม่ค่อยมีสติก็เอ่ยปากถามทันที
“ถึงตอนเย็นพวกเธอก็จะรู้เอง!”
โต๊ะอาหารนั่งเพียงสามคน แต่เฉินผิงอานเวลานี้กินหมั่นโถคนเดียวในห้องครัว
แต่เขากลับได้ยินคำพูดของแม่ไป๋และคิดถึงความลำบากของตัวเองในตอนนี้อีก
“เหม่อลอยอะไร รีบไปเก็บของแล้วไปทำงานจำไว้ต้องดูแลไป๋เซว่ให้ดีๆ ที่โรงเรียน เห็นคุณแล้วก็อารมณ์ไม่ดีจริง ๆ !”
ระหว่างที่พูดแม่ไป๋ก็เร่งฝีเท้าเดินออกจากห้องไป
ต่างก็ไปกันหมดแล้ว เฉินผิงอานกลับจู่ๆ รู้สึกโล่งสบายแล้ว
เก็บจานชามตระเกียบแล้ว มือถือของเฉินผิงอานก็ดังขึ้น
เป็นข้อความวีแชทของไป๋ฉิงเฉิน
“ผิงอาน เมื่อคืน……เมื่อคืน……ยาแก้หวัดนั่นฉันวางไว้บนชั้นวางทีวีในห้องรับแขกแล้ว อย่าลืมกินแล้วค่อยไปทำงานตอนเย็นไม่ต้องมารับฉัน ฉันกลับบ้านเอง”
ให้เขาพูดคำว่าขอโทษออกมา ไป๋ฉิงเฉินพูดไม่ออกจริงๆ
แต่หลังส่งข้อความวีแชทนี้แล้ว ใจของเขาโล่งสบายไปมาก
เห็นข้อความวีแชทของไป๋ฉิงเฉิน เฉินผิงอานก็ยิ้มออกมาเบา ๆ
เดินมาหยิบยาแก้หวัดที่หน้าโต๊ะทีวี
“คุณก็คือผู้หญิงคนหนึ่งอย่างนี้ คุณคือภรรยาของผมผมรู้ความลำบากใจของคุณ”
แต่เขาเพียงตอบกลับไปแค่สามคำ
“รู้แล้ว”
พอคิดถึงอาจจะไม่นานก็ต้องไปจากไป๋ฉิงเฉิน ใจของเฉินผิงอานอดไม่ได้ที่จะผิดหวังเล็กน้อยสามปีนี้ได้เห็นความพยายามของไป๋ฉิงเฉิน และก็มองเห็นใบหน้าของคนบ้านตระกูลไป๋นับไม่ถ้วน
หลายครั้งที่ญาติพี่น้องของบ้านตระกูลไป๋เหล่านั้นแสดงอำนาจต่อหน้าไป๋ฉิงเฉิน หลายครั้งเฉินผิงอานเห็นไป๋ฉิงเฉินแอบเข้าไปในห้องร้องไห้คนเดียว
แน่นอนเฉินผิงอานก็รู้ ไม่รู้ว่าเท่าไรที่แม่ยายของตัวเองคนนี้ตั้งใจที่จะลากคนหนุ่มสาวที่เก่งมีความสามารถที่เป็นเพื่อนบ้านมากินข้าวที่บ้าน
ภายนอกคือแนะนำคนหนุ่มสาวให้รู้จัก วันหลังทำงานก็จะมีคนคนดูแล ยังไงบริษัทเครื่องสำอางค์ที่ไป๋ฉิงเฉินทำอยู่ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มากไม่ไม่สองรองใครในเมืองปิน
แต่เรื่องจริงแล้วเฉินผิงอานจะไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของแม่ยายตัวเองคนนี้ได้ยังไง
เพียงแต่สำหรับทั้งหมดนี้เขาต่างก็ไม่ได้ไปสนในเท่านั้น เขาสนใจเพียงความรู้สึกของไป๋ฉิงเฉินเท่านั้น
ขอแค่เธอเบิกบานใจ ให้เขาทำอะไรต่างก็ยอมทั้งนั้น……
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved