บทที่ 17 นายยังจะแสดงละครอีก!
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 20,2021
หา ?
อะไรนะ ?
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเฉินผิงอานต่างก็ตกตลึงจากนั้นก็ได้ยินเสียงของไป๋เซว่ดังขึ้น
"เฉินผิงอาน ฉันไล่ให้นายไปแล้วไม่ใช่หรอทำไมยังอยู่ที่นี่ ....."
แต่เฉินผิงอานกลับไม่ได้สนใจคำพูดของไป๋เซว่ อีกทั้งยังเดินไปพูดกับพนักงานสาวที่เค้าเตอร์ " คุณช่วยดุหน่อยว่าบัตรนี้สามาถใช้ได้ไหม "
เฉินผิงอานคิดว่าบัตรที่เถ้าแก่ของที่นี่ให้เขากับมือน่าจะไม่มีปัญหา
แต่พนักงานต้อนรับสาวก็มองบัตรใบนั้นมองแล้วมองอีกพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นปม.....
"แสดง ฉันจะดูว่านายจะแสดงอะไร"
"เธอดูท่าทางพนักงานต้อนรับสิ ดูก็รู้แล้วว่านายที่สวมชุดยามแล้วมาอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช้ว่าพี่เซว่อบกว่าขาเป็นพี่เขยกระจอกของเธอ ฉันก็คิดว่าเขาเป็นยามของโรงแรมเฟิ่งไถเสียอีก "
"ใช่......."
"ได้ข่าวตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่เขยของไป๋เซว่เป็นพวกเกาะผู้หญิงกินคิดไม่ถึงว่าจะมาแสดงอยู่ตรงนี้ ! "
"ช่างกล้าจริงๆ ....."
ทันใดนั้นชายหญิงที่ยืนอยู่ข้างไป๋เซว่ก็ต่างพูดจาเหน็บแนมเสียสีเฉินผิงอาน
เฉินผิงอานที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไป๋เซว่ที่อยู่ข้างๆกลับรู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เดิมที่หล่อนก็เป็นหัวหน้าของแก้ง เดิมท่หล่อนก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้หล่อนจะต้องขายหนา แต่หล่อนก็คิดไม่ถึงว่าจะการปรากฎตัวของเฉินผิงอานจะยิ่งทำให้หล่อนขายหน้ากว่าเดิม
"เอ่อ..."
พนักงานต้อนรับสาวก็มีสีหน้าลำบากใจ
ก่อนหน้านี้หล่อนได้เห็นชายคนนี้ที่สวมชุดยามดูต่ำต้อยเดินเข้ามาและถูกคนก้มหัวโค้งคำนับ และบัตรใบนี้ก็เป็นบัตรที่มีระดับมากๆ แต่ไม่ใช่บัตรสมาชิกของโรงแรมเฟิ่งไถ
เลยทำให้หล่อนรู้สึกลำบากใจ
"ทำไมหรอบบัตรนี้เป็นบัตรปลอมหรอ "
พนักงานต้อนรับสาวยังไม่ทันได้พูดอะไรายที่ยืนอยู่ข้างไป๋เซว่ก็เอ่ยถามขึ้น
ถึงแม้จะเป็นคำถาม แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยเสียดสี
และต่อมาเหมือนกับคนพวกนี้จะหันไปมองเฉินผิงอานที่สวมชุดยาม
ถึงแม้พวกเขาจะเป็นแก๊งเด็กแว้นตามถนน แต่พวกเขาก็ไม่กล้ามาวุ่นวายที่โรงแรมเฟิ่งไถ เพราะที่นี่ไม่ใช่โรงแรมธรรมดา เป็นโรงแรมที่หรูหรามีระดับที่สุดของเมืองปิน
"บัตรนี้ ไม่ใช่บัตรของที่นี่จริงๆ! "
"แต่ว่าท่านสุภาพบุรุษท่านนี้อาจจะเป็นสมาชิกระดับเพชรสีทองของทางโรงแรม ฉันต้องไปถามผู้จัดการก่อน "
ระหว่างที่พูดนั้นพนักงานต้อนรับสาวก็ส่งแววตาขออภัยไปทางเฉินผิงอานจากนั้นก็รีบเดินไปหาผู้จัดการ
"อะไรนะ "
"พี่เซว่ พี่เขยของพี่เป็นตลกหรือ่ยังไง"
"พี่เซว่ พวกเรารีบไปกันเถอะ ชัดเจนอยู่แล้วว่าบัตรนี้เป็นบัตรปลอม พนักงานต้อนรับสาวคนนั้นก็เดินไปหาผู้จัดการแล้วไม่แน่อีกสักครู่อาจจะไม่ให้เาออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ พวกเรารีบไปกันเถอะ ...."
ผู้หญิงคนนึงรู้สึกเป็นกังวล ไป๋เซว่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ขมวดคิ้วขึ้นปม
จากนั้นก็มองไปทางเฉินผิงอานที่สวมชุดยามด้วยสายตาแค้นด้วยความโกรธ
"เฉินผิงอานนายคิดจะทำอะไร ใช้ไม่ได้ก็คือใช้ไม่ได้ ฉันไล่นายไปแล้ว นายยังจะมาทำเป็นท่าใหญ่อยู่ตรงนี้ทำไม"
ในระหว่างที่พูดโทรศัพท์ของไป๋เซว่ก็ดังขึ้นซึ่งเป็นสายของฟางชื่อหวาโทรเข้ามา
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ฟางชื่อหวาก็มารับประทานอาหารที่โรงแรมเฟิ่งไถพอดี แต่ว่าเขาไม่ได้มาคนเดียวแต่เขาเอานักศึกษาสาวสวยและคู่ค้าทางธุรกิจอยู่ในห้องอาหารห้องนึงที่กำลงสนุกกับการรับประธานอาหารและเล่นเกมส์ต่างๆอย่างสนุกสนาน
พอได้เสียงโทรศัพท์ของไป๋เซว่ ในสมองของเขาก็คิดถึงร่างกายที่มีเสน่ห์น่าหลงไหล ถึงแม้จะเทียบกับไป๋ฉิงเฉินไม่ได้ แต่ก็ด้อยกวาไม่เท่าไหร่
สำหรับพ่อหนุ่มเพลย์บอยอย่างฟางชื่อหวาแล้วผู้หญิงก็เป็นแค่ของเล่นเท่านั้น
พอได้ยินเรื่องที่ไป๋เซว่เล่าให้ฟังเขาก็หัวเราะขึ้นมา
แขกที่แย่งเอาห้องอาหารที่ไป๋เซว่จองไว้ก็คือฟางชื่อหวา แต่ฟางชื่อหวาก็ไม่จำเป็นต้องบอก เหตุการณ์อยากี้ฟางชื่อหวาต้องออกไปดูสักหน่อย และอยากจะเข้าไปซ้ำเติมเฉินผิงอานเพื่อหาความสนุกสักหน่อย
จากนั้นฟางชื่อหวากับคู่ค้าทาางธุรกิจ็เดินออกไปจาหห้องอาหารไปที่ห้องโถง
พอพวกเขามาถึงห้องโถง กลับพบผู้จัดการส่งบัตรคืนให้กับเฉินผิงอาน แต่เพราะระยะห่างที่ค่อนข้างไกลเขาเลยมองพวกเขาไม่ชัด
และตอนที่ผู้จัดการที่แต่งตังดูดีกำลังจะเอ่ยปากพูด ก็ได้ยินเสียงไม่ค่อยเป็นมิตร พูดเสียงห้วนทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยพอใจดังขึ้น
"โอ๊ะ แปลกจริงๆ ยามเฉินไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอคุณที่นั่น คุณคิดว่าเราน่าจะมีดวงสมพงกันไหม ! "
พอฟางชื่อหวาพูดจบ ชายร่างอวบอ้วนหรี่ตาแล้วเอ่ยถาม:"ประธานฟาง ท่านนี้คือ ......."
" เอ่อ ประธานหวง ผมขอแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือคู่แข่งของคุณ เป็นลูกเขยของไป๋หย่งกวงที่ทำธุรกิจผลิตเหล้า แต่ว่าด็เป้นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน"
ประธานหวงที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ย "หึม ฮาๆๆ ง้นผมก็อยากจะดูสักหน่อยว่าลูกเขยของไป๋หย่งกวงนี่ไร้ประโยชน์ยังไง ...."
พอพูดจบทุกคนก็หัวเราะเยาะดังขึ้น
ไป๋เซว่และกลุ่มแก้งวันรุ่นก็ได้แต่ฟังแล้วก็เริ่มถอยห่างออกจากเฉินผิงอาน
ไป๋เซว่ก็รีบเดินเข้าไปหาฟางชื่อหวาพร้อมกับยิ้มกว้าง :"พี่ฟาง เรื่องวันนี้พี่ช่วยฉันจัดการหน่อยสิ ตอนนี้เรื่องของพี่กับสาวฉันก็ถือว่าคุยกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว พี่ยังจะมาสนใจคนโง่อย่างนี้ทำไม เพื่อนของฉันมองอยู่นะ ฉัน......"
ไป๋เซว่ที่พูดพร้อมกับมองไปทางแก๊งวันรุ่นที่มองอยู่
ฟางชื่อหวาหัวเราะแล้วเอ่ย:"ไม่มีปัญหา เธอเป็นถึงน้องเมียในอนาคตของฉัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของฉันเถอะ "
พูดแล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาผู้จัดการ
เฉินผิงอานเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยกับผู้จัดการว่า:" ไม่ต้องสนใจผม จัดหารให้พวกเขาเถอะ กลับไปแล้วก็ฝากคุณทักทายเถ้าแก่ฮัวแทนผมด้วย"
น้ำเสียงที่เบาราวกับกระซิบ แต่ผู้จัดการก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ได้มาเป็นถึงผู้จัดการโรงแรมเฟิ่งไถได้ก็ต้องมีสายตาเฉียบแหลม
บัตรที่อยู่ในมือนี้เป็นบัตรเพรชทองระดับวีวีไอพีเลยก็ว่าได้ เขานั้นไม่กล้าที่จะมีเรื่องด้วยหรอก และเขาคงไม่กล้าที่จะสงสัยว่าบัตรนี้เป็นบัตรปลอมหรอก เพราะลำพังมูลค่าของบัตรเพชรทองใบนี้ก็มีมูลค่าเป็นแสน และชายหนุ่มที่สวมชุดยามที่เข้าต้อนรับให้เข้ามา อาจจะแค่ปลอมตัวก็ได้มั้ย
คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าคนที่ได้ห้องอาหารนั้นไปเป็นใครแต่เขาเป็นถึงผู้จัดการจะไม่รู้เชียวหรือ
จากนั้นก็พยักหน้า
"ผู้จัดการโจวใช่ไหม พวกเขาเป็นเพื่อนของผม ช่วยจัดหาห้องดีๆให้พวกเขาสักห้องหน่อย "
ฟางชื่อหวาก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยปากบอก
ผู้จัดการโจวที่มองดูเฉินผิงอานที่ยืนอยู่โดยไม่พูดอะไรแต่พยักหน้าแล้วถึงได้พูดกับพนักงานว่า :"รีบไปเตรียมห้องราชา จากนั้นตกแต่งงานปาร์ตี้วันเกิด"
พอได้ยินอย่างนั้นทุกคนต่างก็ตกใจอึ้ง
ทันในนั้นพวกแก้งวัยรุ่นก็ตาวาว แค่เอ่ยปากก็จัดห้องราชาให้พวกเขา และก้มีผู้หญิงบางคนมอไปทางฟางชื่อหวาด้วยเย้ายวน
ไป๋เซว่ก็ตกใจไม่น้อย
แล้วก็ถามผู้จัดการอย่างไม่อยากจะเชื่อ "แค่จัดห้องธรรมดาให้ก็พอแล้ว...."
"ไม่เป็นไร ไป๋เซว่แค่เธอดีใจก็พอแล้ว ห้องราชาก็ห้องราชาเถอะ ! "
ที่จริงแล้วฟางชื่อหวาก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อย หรือว่าเขาหน้าใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เขาไม่คิดอะไรก็เอ่ยขึ้น
"นี่..."
"ต้องขอบคุณพี่มาก พี่ฟาง...."
ไป๋เซว่รู้สึกพอใจมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
และขณะเดียวกันฟางชื่อหวาก็มองไปรอบๆก็เจอกับแววตาที่อิจฉาและนับถือก็รู้สึกอาจมาก
ในสายตาของเขา เขาฟางชื่อหวาก็เป็นอย่างนี้ บางคนก็ควรที่จะเคารพนักถือตน
แต่เฉินผิงอานก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ้มเฝื่อนแล้วเตรียมจะเดินออกไป
แต่พอเขาจะหันกลับไป ฟางชื่อหวากลับเดินมาขวางหน้า
"ทำไมเมื่อกี้ยามเฉินยังทำเป็นเหมือนอยากจะช่วยอยู่เลยล่ะ แล้วทำไมตอนนี้อยากจะหนีแล้วหรอ "
"เฮอา มีบางคนที่ไม่รู้ไปเอาบัตรมาจากไหนแล้วเอามาวางไว้ที่เค้าเตอร์ แล้วทำไมอยู่ดีๆก็เก็บไปแล้วหรอ "
"ไม่เคยเห็นคนหน้าด้านเท่านี้มาก่อนเลย! "
"เฮ้อ ขยะก็เป็นขยะวันยังค่ำ ก็เหมือนอย่างที่พี่เซว่ของเราบอก เป็นแค่ขยะยังจะเลียนแบบพี่ฟางของเราอีก! "
.............
แย่งกันพูดจนไม่ได้ศัพท์ ถึงยังก็ก็มีแต่คำพูดที่ไม่น่าฟัง แต่เฉินผิงอานก็ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่ก็เดินอ้อมฟางชื่อหวาเตรียมจะจากไป เขาไม่อยากจะพูดกับคนพวกนี้เพราะว่าเฉินผิงอานบอกว่าบัตรเพชรสีทองนี้เป็นของจริงและห้องราชาก็เป็นเขาที่เป็นคนจัดสรรค์ให้ กลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อและตอนนี้ยังถูกคนอื่นพูดจาเหน็บแนมอีกครั้ง
และเขาคิดว่าถึงจะพูดไปก็ไม่มีความหมาย !
"เฉินผิงอาน หยุดเดี๋ยวนี้ ต่อไปอย่าให้ฉันเจอนายในสถานการณ์แบบนี้อีกนะ ช่างนะขายหน้าเสียจริงๆเลย ยังไม่ไปให้พ้นหน้าอีก ! "
ไป๋เซว่ที่หันหน้าไปทางเฉินผิงอานแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห
เฉินผิงอานก็ไม่ได้ตอบโต้ แล้วก็เดินออกไปจากโรงแรมเฟิ่งไถ
แต่ก็ยังมีเสียงพูดเหน็บแนมตามหลังออกมา
พอเฉินผิงอานขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์แล้ว ผู้จัดการโจวก็วิ่งกุลีกุจอตามออกมาง
"คุณเฉิน ผมให้คนจัดรถขอโรงแรมไปส่งดีกว่าไหมครับ"
เพราะก่อนหน้านี้เขาออกไปจัดการเรื่องห้องดังนั้นเลยไม่ได้ยินคนพวกนั้นพูดจากเสียดสีเหน็บแนมเฉินเฟิง แต่พอเขากลับมาก็ได้ยินพนักงานหน้าเค้าเตอร์เหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟัง ก็ถึงกับโมโหขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจความไม่ถือตัวของคุณเฉินคนนี้
"ไม่ต้องหรอก ......เดี๋ยวฉันขับรถมอเตอร์ไฟฟ้าของฉันไปเอง นายกลับไปทำงานของนายเถอะ ! "
จากนั้นเฉินผิงอานก็ยิ้มแล้วขับรถคู่ใจของเขาออกไปจากโรงแรมเฟิ่งไถ
ผู้จัดการโจวที่ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนจะพูดอะไรกลับไม่รู้จะพูดออกมายังไงได้แต่พูดว่า :"บุคคลสำคัญก็ยังเป็นบุคคลสำคัญอยู่วันยังค่ำ ดูแล้วไม่ได้สนใจคำพูดของคนพวกนั้น ช่างเป็นคนไม่ถือตัวจริงๆ ถ้าหากวันหน้าเจอคุณเฉินอีกครั้งเขาจะต้องโค้งคำนับให้อีกครั้ง....."
แม้แต่เถ้าแก่ของเขากับเศรษฐีอันดับหนึ่งของอย่างคุณเสิ่นยังต้องยำเกรง และยังไม่ถอตัวกับคนอื่น ช่างเหลือเชื่อจริงๆ ......
อะไรนะ ?
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเฉินผิงอานต่างก็ตกตลึงจากนั้นก็ได้ยินเสียงของไป๋เซว่ดังขึ้น
"เฉินผิงอาน ฉันไล่ให้นายไปแล้วไม่ใช่หรอทำไมยังอยู่ที่นี่ ....."
แต่เฉินผิงอานกลับไม่ได้สนใจคำพูดของไป๋เซว่ อีกทั้งยังเดินไปพูดกับพนักงานสาวที่เค้าเตอร์ " คุณช่วยดุหน่อยว่าบัตรนี้สามาถใช้ได้ไหม "
เฉินผิงอานคิดว่าบัตรที่เถ้าแก่ของที่นี่ให้เขากับมือน่าจะไม่มีปัญหา
แต่พนักงานต้อนรับสาวก็มองบัตรใบนั้นมองแล้วมองอีกพร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นปม.....
"แสดง ฉันจะดูว่านายจะแสดงอะไร"
"เธอดูท่าทางพนักงานต้อนรับสิ ดูก็รู้แล้วว่านายที่สวมชุดยามแล้วมาอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช้ว่าพี่เซว่อบกว่าขาเป็นพี่เขยกระจอกของเธอ ฉันก็คิดว่าเขาเป็นยามของโรงแรมเฟิ่งไถเสียอีก "
"ใช่......."
"ได้ข่าวตั้งแต่แรกแล้วว่าพี่เขยของไป๋เซว่เป็นพวกเกาะผู้หญิงกินคิดไม่ถึงว่าจะมาแสดงอยู่ตรงนี้ ! "
"ช่างกล้าจริงๆ ....."
ทันใดนั้นชายหญิงที่ยืนอยู่ข้างไป๋เซว่ก็ต่างพูดจาเหน็บแนมเสียสีเฉินผิงอาน
เฉินผิงอานที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไป๋เซว่ที่อยู่ข้างๆกลับรู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
เดิมที่หล่อนก็เป็นหัวหน้าของแก้ง เดิมท่หล่อนก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้หล่อนจะต้องขายหนา แต่หล่อนก็คิดไม่ถึงว่าจะการปรากฎตัวของเฉินผิงอานจะยิ่งทำให้หล่อนขายหน้ากว่าเดิม
"เอ่อ..."
พนักงานต้อนรับสาวก็มีสีหน้าลำบากใจ
ก่อนหน้านี้หล่อนได้เห็นชายคนนี้ที่สวมชุดยามดูต่ำต้อยเดินเข้ามาและถูกคนก้มหัวโค้งคำนับ และบัตรใบนี้ก็เป็นบัตรที่มีระดับมากๆ แต่ไม่ใช่บัตรสมาชิกของโรงแรมเฟิ่งไถ
เลยทำให้หล่อนรู้สึกลำบากใจ
"ทำไมหรอบบัตรนี้เป็นบัตรปลอมหรอ "
พนักงานต้อนรับสาวยังไม่ทันได้พูดอะไรายที่ยืนอยู่ข้างไป๋เซว่ก็เอ่ยถามขึ้น
ถึงแม้จะเป็นคำถาม แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยเสียดสี
และต่อมาเหมือนกับคนพวกนี้จะหันไปมองเฉินผิงอานที่สวมชุดยาม
ถึงแม้พวกเขาจะเป็นแก๊งเด็กแว้นตามถนน แต่พวกเขาก็ไม่กล้ามาวุ่นวายที่โรงแรมเฟิ่งไถ เพราะที่นี่ไม่ใช่โรงแรมธรรมดา เป็นโรงแรมที่หรูหรามีระดับที่สุดของเมืองปิน
"บัตรนี้ ไม่ใช่บัตรของที่นี่จริงๆ! "
"แต่ว่าท่านสุภาพบุรุษท่านนี้อาจจะเป็นสมาชิกระดับเพชรสีทองของทางโรงแรม ฉันต้องไปถามผู้จัดการก่อน "
ระหว่างที่พูดนั้นพนักงานต้อนรับสาวก็ส่งแววตาขออภัยไปทางเฉินผิงอานจากนั้นก็รีบเดินไปหาผู้จัดการ
"อะไรนะ "
"พี่เซว่ พี่เขยของพี่เป็นตลกหรือ่ยังไง"
"พี่เซว่ พวกเรารีบไปกันเถอะ ชัดเจนอยู่แล้วว่าบัตรนี้เป็นบัตรปลอม พนักงานต้อนรับสาวคนนั้นก็เดินไปหาผู้จัดการแล้วไม่แน่อีกสักครู่อาจจะไม่ให้เาออกไปจากที่นี่ได้ง่ายๆ พวกเรารีบไปกันเถอะ ...."
ผู้หญิงคนนึงรู้สึกเป็นกังวล ไป๋เซว่ที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ขมวดคิ้วขึ้นปม
จากนั้นก็มองไปทางเฉินผิงอานที่สวมชุดยามด้วยสายตาแค้นด้วยความโกรธ
"เฉินผิงอานนายคิดจะทำอะไร ใช้ไม่ได้ก็คือใช้ไม่ได้ ฉันไล่นายไปแล้ว นายยังจะมาทำเป็นท่าใหญ่อยู่ตรงนี้ทำไม"
ในระหว่างที่พูดโทรศัพท์ของไป๋เซว่ก็ดังขึ้นซึ่งเป็นสายของฟางชื่อหวาโทรเข้ามา
ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ฟางชื่อหวาก็มารับประทานอาหารที่โรงแรมเฟิ่งไถพอดี แต่ว่าเขาไม่ได้มาคนเดียวแต่เขาเอานักศึกษาสาวสวยและคู่ค้าทางธุรกิจอยู่ในห้องอาหารห้องนึงที่กำลงสนุกกับการรับประธานอาหารและเล่นเกมส์ต่างๆอย่างสนุกสนาน
พอได้เสียงโทรศัพท์ของไป๋เซว่ ในสมองของเขาก็คิดถึงร่างกายที่มีเสน่ห์น่าหลงไหล ถึงแม้จะเทียบกับไป๋ฉิงเฉินไม่ได้ แต่ก็ด้อยกวาไม่เท่าไหร่
สำหรับพ่อหนุ่มเพลย์บอยอย่างฟางชื่อหวาแล้วผู้หญิงก็เป็นแค่ของเล่นเท่านั้น
พอได้ยินเรื่องที่ไป๋เซว่เล่าให้ฟังเขาก็หัวเราะขึ้นมา
แขกที่แย่งเอาห้องอาหารที่ไป๋เซว่จองไว้ก็คือฟางชื่อหวา แต่ฟางชื่อหวาก็ไม่จำเป็นต้องบอก เหตุการณ์อยากี้ฟางชื่อหวาต้องออกไปดูสักหน่อย และอยากจะเข้าไปซ้ำเติมเฉินผิงอานเพื่อหาความสนุกสักหน่อย
จากนั้นฟางชื่อหวากับคู่ค้าทาางธุรกิจ็เดินออกไปจาหห้องอาหารไปที่ห้องโถง
พอพวกเขามาถึงห้องโถง กลับพบผู้จัดการส่งบัตรคืนให้กับเฉินผิงอาน แต่เพราะระยะห่างที่ค่อนข้างไกลเขาเลยมองพวกเขาไม่ชัด
และตอนที่ผู้จัดการที่แต่งตังดูดีกำลังจะเอ่ยปากพูด ก็ได้ยินเสียงไม่ค่อยเป็นมิตร พูดเสียงห้วนทำให้คนรู้สึกไม่ค่อยพอใจดังขึ้น
"โอ๊ะ แปลกจริงๆ ยามเฉินไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอคุณที่นั่น คุณคิดว่าเราน่าจะมีดวงสมพงกันไหม ! "
พอฟางชื่อหวาพูดจบ ชายร่างอวบอ้วนหรี่ตาแล้วเอ่ยถาม:"ประธานฟาง ท่านนี้คือ ......."
" เอ่อ ประธานหวง ผมขอแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือคู่แข่งของคุณ เป็นลูกเขยของไป๋หย่งกวงที่ทำธุรกิจผลิตเหล้า แต่ว่าด็เป้นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้าน"
ประธานหวงที่ได้ยินอย่างนั้นก็ยกยิ้มมุมปากแล้วเอ่ย "หึม ฮาๆๆ ง้นผมก็อยากจะดูสักหน่อยว่าลูกเขยของไป๋หย่งกวงนี่ไร้ประโยชน์ยังไง ...."
พอพูดจบทุกคนก็หัวเราะเยาะดังขึ้น
ไป๋เซว่และกลุ่มแก้งวันรุ่นก็ได้แต่ฟังแล้วก็เริ่มถอยห่างออกจากเฉินผิงอาน
ไป๋เซว่ก็รีบเดินเข้าไปหาฟางชื่อหวาพร้อมกับยิ้มกว้าง :"พี่ฟาง เรื่องวันนี้พี่ช่วยฉันจัดการหน่อยสิ ตอนนี้เรื่องของพี่กับสาวฉันก็ถือว่าคุยกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว พี่ยังจะมาสนใจคนโง่อย่างนี้ทำไม เพื่อนของฉันมองอยู่นะ ฉัน......"
ไป๋เซว่ที่พูดพร้อมกับมองไปทางแก๊งวันรุ่นที่มองอยู่
ฟางชื่อหวาหัวเราะแล้วเอ่ย:"ไม่มีปัญหา เธอเป็นถึงน้องเมียในอนาคตของฉัน ปล่อยให้เป็นเรื่องของฉันเถอะ "
พูดแล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาผู้จัดการ
เฉินผิงอานเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยกับผู้จัดการว่า:" ไม่ต้องสนใจผม จัดหารให้พวกเขาเถอะ กลับไปแล้วก็ฝากคุณทักทายเถ้าแก่ฮัวแทนผมด้วย"
น้ำเสียงที่เบาราวกับกระซิบ แต่ผู้จัดการก็ได้ยินอย่างชัดเจน
ได้มาเป็นถึงผู้จัดการโรงแรมเฟิ่งไถได้ก็ต้องมีสายตาเฉียบแหลม
บัตรที่อยู่ในมือนี้เป็นบัตรเพรชทองระดับวีวีไอพีเลยก็ว่าได้ เขานั้นไม่กล้าที่จะมีเรื่องด้วยหรอก และเขาคงไม่กล้าที่จะสงสัยว่าบัตรนี้เป็นบัตรปลอมหรอก เพราะลำพังมูลค่าของบัตรเพชรทองใบนี้ก็มีมูลค่าเป็นแสน และชายหนุ่มที่สวมชุดยามที่เข้าต้อนรับให้เข้ามา อาจจะแค่ปลอมตัวก็ได้มั้ย
คนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าคนที่ได้ห้องอาหารนั้นไปเป็นใครแต่เขาเป็นถึงผู้จัดการจะไม่รู้เชียวหรือ
จากนั้นก็พยักหน้า
"ผู้จัดการโจวใช่ไหม พวกเขาเป็นเพื่อนของผม ช่วยจัดหาห้องดีๆให้พวกเขาสักห้องหน่อย "
ฟางชื่อหวาก็ยิ้มพร้อมกับเอ่ยปากบอก
ผู้จัดการโจวที่มองดูเฉินผิงอานที่ยืนอยู่โดยไม่พูดอะไรแต่พยักหน้าแล้วถึงได้พูดกับพนักงานว่า :"รีบไปเตรียมห้องราชา จากนั้นตกแต่งงานปาร์ตี้วันเกิด"
พอได้ยินอย่างนั้นทุกคนต่างก็ตกใจอึ้ง
ทันในนั้นพวกแก้งวัยรุ่นก็ตาวาว แค่เอ่ยปากก็จัดห้องราชาให้พวกเขา และก้มีผู้หญิงบางคนมอไปทางฟางชื่อหวาด้วยเย้ายวน
ไป๋เซว่ก็ตกใจไม่น้อย
แล้วก็ถามผู้จัดการอย่างไม่อยากจะเชื่อ "แค่จัดห้องธรรมดาให้ก็พอแล้ว...."
"ไม่เป็นไร ไป๋เซว่แค่เธอดีใจก็พอแล้ว ห้องราชาก็ห้องราชาเถอะ ! "
ที่จริงแล้วฟางชื่อหวาก็รู้สึกอึ้งเล็กน้อย หรือว่าเขาหน้าใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
เขาไม่คิดอะไรก็เอ่ยขึ้น
"นี่..."
"ต้องขอบคุณพี่มาก พี่ฟาง...."
ไป๋เซว่รู้สึกพอใจมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
และขณะเดียวกันฟางชื่อหวาก็มองไปรอบๆก็เจอกับแววตาที่อิจฉาและนับถือก็รู้สึกอาจมาก
ในสายตาของเขา เขาฟางชื่อหวาก็เป็นอย่างนี้ บางคนก็ควรที่จะเคารพนักถือตน
แต่เฉินผิงอานก็ไม่ได้พูดอะไร ยิ้มเฝื่อนแล้วเตรียมจะเดินออกไป
แต่พอเขาจะหันกลับไป ฟางชื่อหวากลับเดินมาขวางหน้า
"ทำไมเมื่อกี้ยามเฉินยังทำเป็นเหมือนอยากจะช่วยอยู่เลยล่ะ แล้วทำไมตอนนี้อยากจะหนีแล้วหรอ "
"เฮอา มีบางคนที่ไม่รู้ไปเอาบัตรมาจากไหนแล้วเอามาวางไว้ที่เค้าเตอร์ แล้วทำไมอยู่ดีๆก็เก็บไปแล้วหรอ "
"ไม่เคยเห็นคนหน้าด้านเท่านี้มาก่อนเลย! "
"เฮ้อ ขยะก็เป็นขยะวันยังค่ำ ก็เหมือนอย่างที่พี่เซว่ของเราบอก เป็นแค่ขยะยังจะเลียนแบบพี่ฟางของเราอีก! "
.............
แย่งกันพูดจนไม่ได้ศัพท์ ถึงยังก็ก็มีแต่คำพูดที่ไม่น่าฟัง แต่เฉินผิงอานก็ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่ก็เดินอ้อมฟางชื่อหวาเตรียมจะจากไป เขาไม่อยากจะพูดกับคนพวกนี้เพราะว่าเฉินผิงอานบอกว่าบัตรเพชรสีทองนี้เป็นของจริงและห้องราชาก็เป็นเขาที่เป็นคนจัดสรรค์ให้ กลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อและตอนนี้ยังถูกคนอื่นพูดจาเหน็บแนมอีกครั้ง
และเขาคิดว่าถึงจะพูดไปก็ไม่มีความหมาย !
"เฉินผิงอาน หยุดเดี๋ยวนี้ ต่อไปอย่าให้ฉันเจอนายในสถานการณ์แบบนี้อีกนะ ช่างนะขายหน้าเสียจริงๆเลย ยังไม่ไปให้พ้นหน้าอีก ! "
ไป๋เซว่ที่หันหน้าไปทางเฉินผิงอานแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงโมโห
เฉินผิงอานก็ไม่ได้ตอบโต้ แล้วก็เดินออกไปจากโรงแรมเฟิ่งไถ
แต่ก็ยังมีเสียงพูดเหน็บแนมตามหลังออกมา
พอเฉินผิงอานขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์แล้ว ผู้จัดการโจวก็วิ่งกุลีกุจอตามออกมาง
"คุณเฉิน ผมให้คนจัดรถขอโรงแรมไปส่งดีกว่าไหมครับ"
เพราะก่อนหน้านี้เขาออกไปจัดการเรื่องห้องดังนั้นเลยไม่ได้ยินคนพวกนั้นพูดจากเสียดสีเหน็บแนมเฉินเฟิง แต่พอเขากลับมาก็ได้ยินพนักงานหน้าเค้าเตอร์เหตุการณ์ตอนนั้นให้ฟัง ก็ถึงกับโมโหขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยิ่งไม่เข้าใจความไม่ถือตัวของคุณเฉินคนนี้
"ไม่ต้องหรอก ......เดี๋ยวฉันขับรถมอเตอร์ไฟฟ้าของฉันไปเอง นายกลับไปทำงานของนายเถอะ ! "
จากนั้นเฉินผิงอานก็ยิ้มแล้วขับรถคู่ใจของเขาออกไปจากโรงแรมเฟิ่งไถ
ผู้จัดการโจวที่ยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนจะพูดอะไรกลับไม่รู้จะพูดออกมายังไงได้แต่พูดว่า :"บุคคลสำคัญก็ยังเป็นบุคคลสำคัญอยู่วันยังค่ำ ดูแล้วไม่ได้สนใจคำพูดของคนพวกนั้น ช่างเป็นคนไม่ถือตัวจริงๆ ถ้าหากวันหน้าเจอคุณเฉินอีกครั้งเขาจะต้องโค้งคำนับให้อีกครั้ง....."
แม้แต่เถ้าแก่ของเขากับเศรษฐีอันดับหนึ่งของอย่างคุณเสิ่นยังต้องยำเกรง และยังไม่ถอตัวกับคนอื่น ช่างเหลือเชื่อจริงๆ ......
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved