บทที่ 16 ฉันมีบัตรวีไอพี
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 20,2021
ถึงแม้ท่าทีของเฉินผิงอานจะไม่เป็นอะไรยังคงยิ้มแย้ม แต่พอเขาหันหลังกลับไปกลับรู้สึกเจ็บปวด
ที่บ้านหลังนี้เขาไม่มีตัวตนอยู่แล้ว แต่เฉินผิงอานก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึงขั้นนี้
ดูแล้วเงินทองสำคัญจริงๆ
เฉินผิงานก็ไม่คิดโทษโจวหมิงเฟิ่งและก็ยิ่งไม่คิดโทษภรรยาของัตวเอง
ตรงกันข้าม เขายังคงขอบคุณบ้านตระกูลไป๋อยู่
และภรรยาของเขาไป๋ฉิงเฉินนั้นเขาก็รักปป้องดุแล้วด้วยใจจริง
ถ้าหากเมื่อก่อนตอนที่เฉินผิงอานอยู่ที่เยี่ยนจริงไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันนึงที่มาบูชาความรัก แตีสามปีมานี้ที่อยู่เมืองกิน เขานั้นก็เหมือนกับลงเข้าไปอยู่ในหลุมบูชาความรักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่ที่เขาเสี่ยงชีวิตตัวเองได้ช่วยไป๋ฉิงเฉินไว้ เขาก็จดจำผู้หญิงคนนี้ไว้ในใจมาตลอด
ยิ่งต่อมาผู้หญิงคนนี้ได้มาเป็นภรรยาของเขา
ถึงแม้เฉินผิงอานจะรู้ว่าตอนนั้นไป๋ฉิงเฉินทำเพื่อจะได้ไม่ต้องได้แต่งงานกับคนที่ครอบครัวจัดหาให้ แต่เฉินผิงอานกลับมีความตั้งใจจริงตั้งแต่แรก
สร้างฐานะโดยที่ไม่มีพื้นฐานอะไรถือว่ายากมาก แต่เฉินผิงอานก็ไม่ได้สนใจ
เขาใช้เวลาสามปีเพื่อเพิ่มพลังและประสบการณ์ให้ตัวเองดังนั้นเขาเลยไม่ได้สนใจว่าว่าตัวเองจะเป็นแค่ยามตกต๋อย เป็นแค่พนักงานเก็บกวาดขยะในเมือง
ถูกคนด่าว่าเกาะผู้หญิงกิน เป็นขยะไร้ประโยชน์บ้าง
แล้วยังไง เรื่องอย่างนี้ไม่ได้สำคัญกับเฉินผิงอานเลย สิ่งที่เขาสนใจเพียงสิ่งเดียวคือไป๋ฉิงเฉิน
มองขึ้นไปบนบ้านที่ยังมีไฟส่องสว่างอยู่ ก็เห็นเงาของไป๋ฉิงเฉินที่ยืนอยู่มุมหน้าต่างอย่างชัดเจน
ถึงแม้เฉินผิงอานจะะมองหน้าไป๋ฉิงเฉินไม่ชัดแต่เขาก็เข้าใจไป๋ฉิงเฉินดี
"ฉิงเฉินวางใจเถอะ ฉันจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้เธอ"
จากนั้นเฉินผิงอานก็หันหลังเดินไปขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปที่โรงแรมเฟิ่งไถ
ที่อยู่นี้เฉินเฟิงก็คุ้นเคยดี ถึงแม้เมื่อตอนกลางวันเสิ่นหรงฮวาจะบอกว่าเป็นแค่โรงแรมธรรมดาแต่เท่าทีเฉินผิงอานรู้ดรงแรมแหงนี้ถือว่าเป็นโรงแรมหรูมีระดับเลยก็ว่าได้
ที่นี่มีแค่อาหารมังสวิรัติมื้อเดียวราคาก็เป็นหมื่นกว่าแล้วและยังไม่ใช่ห้องอาหาร ถ้าหากเป็นห้องอาหารส่วนตัวก็จะอีกราคานึง
แน่นอนว่าในสายตาของคนที่ไปที่ดูการแต่งกายของเฉินผิงอานเป็นแค่ยามกระจอกๆ แต่สายตาอย่างนี้ก็ก็เจอมาไม่น้อย
เพราะว่ามีหนิงที่ยืนรอเฉินผิงอานอยู่หน้าประตู ดังนั้นเฉินผิงอานมาถึงก็มีพนักงานเอารถเข้าไปจอดที่จอดรถของโรงแรม แล้วก็โค้งคำนับเชิญเฉินผิงอานเข้าไปในห้องอาหารที่จองไว้
ถึงแม้พนักงานโรงแรมจะรู้สึกประหลาดใจมาก แต่พอเห็นหนิงฟางที่แต่งตัวดีมีระดับก้มโค้งคำนับก็ไม่กล้สพูดอะไร ทำได้แค่เก็บความส่งสัยเอาไว้ในใจ
พอเข้ามาให้ห้องอาหารเสิ่งหรงฮวาก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับ
และข้างๆก็มีถังเฟิงที่สวมชุดราชวงค์ถังก็ลุกขึ้นยืนส่งยิ้มให้
"คุณชายเฉิน ท่านนี้คือคุณหมอถัง ถังเฟิงมาจากปักกิ่งและเป็นสมาชิกของสมาคมแพทย์แผนจีนของจีนอีกด้วย เป็นคุณหมอที่เก่งสุดยอด เมื่อเช้าก็ได้คุณหมอไปรักษาคุณไป๋"
พอได้ยินเสิ่นหรงฮวาแนะนำเฉินผิงอานก็รีบเดินไปตรงหน้าถังเฟิงและยื่นมือไปจับมือถังเฟิงเป็นการทักทาย
"ขอบคุณท่านอาวุโสถังมากครับ รบกวนคุณหมอจริงๆ "
ตอนที่ถังเฟิงเห็นเฉินผิงอานก็ตกเล็กน้อย แต่พอได้ยินเฉินผิงอานขึ้นมาแล้วก็มาจับมือพร้อมกับคำพูดที่ถ่อมตน เขาก็รู้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องไม่ธรรมดา
"โอ๊ยคุณเฉินก็ขมเกินไปแล้วก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำอยู่แล้ว"
"อ่าๆ เชิญนั่งเถอะครับ อาฟางเรียกพนักงานให้นำอาหารเข้ามา....."
หนิงฟางพยักหน้าแล้วก็เดินออกไป
จากนั้นอาหารมังสวิรัติก็ถูกทยอยนำเข้ามาจัดวางเต็มโต๊ะ ทั้งสามก็กินไปด้วยคุยไปด้วย
โดยเฉพาะเฉินผิงอานที่จะสนใจเรื่องแพทย์แผนจีนเป็นพิเศษ
และยังเรียนรู้กับท่านหมอถังอีก ยิ่งทำให้ถังเฟิงที่เป็นแพทย์แผนจีนมาสิบกว่าปีรู้สึกที่ไม่น้อย
และได้พูดคุญกับเสิ่นหรงฮวาเกี่ยวกับรูปแบบเศรษฐกินของเมืองปิงในอนาคตตามลำดับพร้อมกับคำแนะนำที่เป็นแระโยชน์อีก
หนิงฟางที่นั่งฟังอยู่ก็รู้สึกทึ่ง
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนหิงฟางคิดว่าเฉินผิงอานมีคุณสมบัติมากพอที่จะได้รับการเคารพนับถือจากคุณเสิ้น เพราะว่าเฉินผิงอานนั้นมีเบื้องหลังที่ใหญ่โต แต่ตอนนี้หล่อนพอจะเข้าใจแล้ว ....
และตอนนี้ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก
"เข้ามา..."
เสิ่งหรงฮวาเอ่ยพูด จากนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามา เป็นชายชกรรค์เดินเข้ามา
"คุณเสิ่น ถ้ารู้ว่าคุณมาที่นี่ผมจะจัดห้องราชาให้"
"ไม่เป็นไร ๆ "
ชายคนนั้นเดินเข้ามาแล้วรินน้ำผลไม้ เพราะเฉินผิงอานต้องงการดื่มน้ำส้มคั้นสด
"คุณเสิ่น ท่านี้คือ....."
เฉินผิงอานที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธาน นั่งอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ฮ่าๆ คุณเฉิน ท่านนี้คือเจ้าของโรงแรมเฟิ่งไถ ทำธุรกิจเกี่ยวกับบอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกิน ร้านอาหารในเมืองปินต่างก็มีเถ้าแก่ฮัวเป็นหุ่นส่วนอยู่ด้วย"
หลังจากที่พูดจบเสิ่นหรงฮวาก็ลุกขึ้นมองไปที่ชายคนนั้นแล้วพูด:"เถ้าแก่ฮัว ท่านนี้คือคุณเฉินเป็นแขกคนสำคัญขอผม"
ชายบึกบึนก็หันไปมองชายที่สามชุดยามธรรมดาแต่คิดว่าฐานะจะไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นเสิ่นหรงฮวาคงระดับนี้คงไม่มีท่าทีอย่างนี้
จากนั้นก็ยกแก้วน้ำส้มขึ้น
"คุณเฉินสวัสดีครับ กระผมฮัวโหลเชิง เรียกว่าเสี่ยวเชิงก็ได้ครับ"
พูดพร้อมกับยกแก้วขึ้นชนกับเฉินผิงอานจากนั้นก็ยกขึ้นดื่ม
"ยินดีที่ได้รู้จักครับเถ้าแก่ฮัว"
เฉินผิงอานก็ระบายยิ้มออกมาพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มเล็กน้อย
หลังจากที่ทุกคนพูดจาทักทักกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮัวโหลเชิงกำลังจะเดินออไปจากห้องก็ได้ยื่นบัตรเพชรสีทองให้กับเฉินผิงอาน และยังบอกอีกว่าแค่เป็นร้านอาหารมีระดับในเมืองปินก็สามารถใช้บัตรนี้ได้
ความกรุณาที่ยากปฏิเสธได้ เฉินผิงอานก้ได้รับบัตรไว้
"คุณเฉิน เดิมทีฮัวโหลเชิงคนนี้ก็เป็นนักเลงใหญ่คนนึงของเมืองบิน แต่ต่อมาก็กลับตัวมาจับธุรกิจร้านอาหาร ถือว่าเป็นคนที่ไม่เลวพูดถึงความจริงใจแล้วล่ะก็ก็ถือว่ารู้ความที่สุดในเมืองปิน"
เฉินผิงอานพยักหน้าเบาๆ สำหรับเรื่องอย่างนี้เขาไม่ได้มาใส่ใจ เพราะเฉินผิงอานรู้สึกว่าถ้าเจอเขาลังจากนี้ก็ทำทำเป็นไม่รู้จักเขา. วันนี้ที่อยู่ที่นี่ทำเป็นเกรงใจเขาแถมยังให้บัตรเพชรสีทองมาอีกก็เพราะเสิ่นหรงฮวาที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย
ทุดคนเลยเริ่มคุยกันต่อ อาหารมื้อนี้ใช้เวลาสองชั่วโมงถึงได้แยกกัน
"พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน ไม่ต้องรอผมแล้ว เดี๋ยวผมจะขับรถกลับไปเอง"
"งั้น เอาอย่างนั้รก็ได้ คุณชายเฉิน ต่อไปถ้าหากมีเรื่องอะไรก็บอกผมได้ อยู่ที่เมืองปินผมก็พร้อมจะจัดการให้"
เฉินผิงอานพยักหน้าแล้วกก็เดินเข้าไปเข้าห้องน้ำ
ถือได้ว่ารับประทานอาหารคืนนี้พร่องปากไปมาก เฉินเฟิงคุยกบทั้งสองคนจนลืมเวลาไปเลย
ที่เสิ่นหรงหวาได้เป็นเศรษฐีระดับหนึ่งของเมืองปินก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
พอเฉินผิงอานออกมาจากห้องน้ำทุกคนก็กลับกันไปหมดแล้ว
แต่พอเฉินผิงอานเดินผ่านเค้าเตอร์ของโรงแรมก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง หนึ่งในนั้นเป็นเสียยงที่คุ้นหูมาก
"ทำไมพวกคุณถึงได้ทำอย่างนี้ได้ พวกเราได้จองไว้แล้ว แล้วทำไมยังเอาห้องไปให้คนอื่นล่ะ"
ไป๋เซว่รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก วันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนสนิทหล่อน ไป๋เซว่ได้ลงทุนจองห้องอาหารของดรงแรมเฟิ่งไถไว้ แต่มาถึงที่นี่เกือบจะครึงชั่วโมงแล้วกลับรู้ว่าห้องถูกยกให้คนอื่นไปแล้ว
"ไป๋เซว่ ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ....."
ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยดูอ่อนหวานเอ่ยเสียงเบา
"น่าน่า ได้ยังไงกัน วันนี้เป็นวันเกิดครบ18ปีของเธอนะ และฉันก็เคยรับปากกับเธอไว้แล้วฉันก็ต้องทำให้ได้ "
จากนั้นไปเซว่ก็มองไปทางเค้าเตอร์แล้วเอ่ย:"ถ้าหากวันนี้คุณไม่ให้เหตุผลที่ฟังขึ้นฉันก็จะไปฟ้องพวกคุณ ! "
พนักงานที่อยู่เค้าเตอร์ก็พึ่งเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ครั้งแรก แต่ก็ยังมีความอดทนที่จะเอ่ยอธิบาย:"คุณผู้หญิง มันเป็นกฎของที่นี่ พวกคุณเป็นเพียงลูกค้าธรรมดา พวกเราต้องจัดการให้ลูกค้าสำคัญก่อน"
"ห้องทีพวกคุณจองไว้นันเพราะพวกคุณไม่มาทันเวลา ดังนั้นพวกเราเลยต้องจัดให้กับสมาชิกลูกค้าแขกคนสำคญก่อน"
"ก็แค่สมาชิกลูกค้าวีไอพีไหม งั้นฉันก็ทำก็เป็นได้แล้ว ! "
และทันใดนั้นเองก็มีชายหนุ่มมาดคุณชายตะโกนขึ้นมา
"เอ่อ.....ลูกค้าจะต้องมีการใช้จ่ายขึ้นต่ำสามแสนถึงจะทำบัตรสมาชิกวีไอพีได้ค่ะ"
ชายมาดคุณชายถึงกับหน้าเริ่มแดง
พวกเขเป็นแก๊งเล็กๆเท่านั้น อย่าว่าแต่สามแสนเลย แม้แต่แสนเดียวยังไม่มีเลย ในกลุ่มของพวกเขาบ้านของไป๋เซว่เป็นคนที่มีฐานะสุด
และในตอนนั้นเองไป๋เซว่ก็หันไปกลับเจอกับเฉินผิงอาน
"ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้"
ไป๋เซว่ชี้ไปทางเฉินผิงอานที่กำลังเดินมาพร้อมกับเอ่ย
"ฉัน...."
"ออ ฉันรู้แล้ว นายถูกโรงเรียนไล่ออกแล้วก็มาทำงานที่นี่ใช่ไหม "
ไล่ออกหรอ
เฉินผิงอานนับถือวามมโนของน้องเมียคนนี้เลย
"ไป๋เซว่ ทำไมเธอถึงได้รู้จักยามของที่นี่ได้ล่ะ "
ก็มีวันรุ่นทำผมหัวไก่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าทำสีหน้าไม่เป็นมิตร
"เขาก็คือพี่เขยฉันที่ไม่ได้เรื่องที่ฉันเล่าให้ฟังไง "
"เขาหรอ"
"เป็นเหมือนอย่างที่เธอพูดไม่มีผิด "
เฉินผิงอานมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้น สุดท้ายก็ไปหยุดที่ตัวของไป๋เซว่แล้วเอ่ย :"ทำไมหรอ ไม่มีห้องแล้วหรอ "
"หื พูดมาแล้วก็โมโห เดิมทีพวกเราจองห้องไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกพวกเขายกให้คนอื่นปีแล้ว อ้อแล้วฉันจะพูดเรื่องพวกนี้ให้นายฟังทำไม นายจะไปไหนก็ไปเลย ที่นี่ไม่ใช่ที่ของนาย "
พูดจบก็หันไปหาพนักงานที่เค้าเตอร์เพื่อทวงความยุติธรรมอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าในสายตาของไป๋เซว่เฉินผิงอานเป็นแค่เศษสวะ มาปรากฏตัวตรงนี้ก็มีแต่ทำให้หล่อนขายหน้า
แต่พนักงานเค้าเตอร์ก็มองเห็นเฉินผิงอาน ก่อนหน้านี้ที่เฉินผิงอานเดินเข้ามาเป็นเป็นจุดสนใจของคนอื่นแล้ว ดังนั้นเขาเลยจำได้และรู้ว่าเขานั้นเป็นคุณชายลกลับที่อยู่ในคราบสวมชุดยามธรรมดาต๊กต๋อยอย่างนี้
"คุณผู้หญิง ถ้าหากว่าไม่มีบัตรวีไอพีก็เชิญมานั่งรอตรงนี้ค่ะ หรือไม่ก็ไปจากตรงนี้"
ท่าทางที่ดูแข็งกระด้างขึ้น
"ฉัน...."
ไป๋เซว่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกผู้หญิงอ่อนหวานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉุดไว้
"พี่เซว่ พวกเราไปกันเถอะ ไม่มากินที่นี่แล้ว ที่นี่แพงจะตาย"
และคนนี้ที่ชื่อว่าน่าน่าก็รั้งไป๋เซว่ไว้ พร้อมกับกระซิบเบาๆ
"ไม่ได้ วันนี้ฉันจะต้องกินข้าวที่นี่ให้ได้ หึ ก็แค่บัตรวีไอพีไหม เดี๋ยวฉันจะโทรให้คนเอามาให้เดี๋ยวนี้ ! "
ไป๋เซว่คิดถึงฟางชื่อหวา เขาจะต้องมีบัตรวีไปพีของที่นี่แน่
"แต่พอหล่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะโทรออกกลับได้ยินเสียงดังมาจากทางข้างหลัง
"ฉันมีบัตรวีไอพี..."
ที่บ้านหลังนี้เขาไม่มีตัวตนอยู่แล้ว แต่เฉินผิงอานก็คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมาถึงขั้นนี้
ดูแล้วเงินทองสำคัญจริงๆ
เฉินผิงานก็ไม่คิดโทษโจวหมิงเฟิ่งและก็ยิ่งไม่คิดโทษภรรยาของัตวเอง
ตรงกันข้าม เขายังคงขอบคุณบ้านตระกูลไป๋อยู่
และภรรยาของเขาไป๋ฉิงเฉินนั้นเขาก็รักปป้องดุแล้วด้วยใจจริง
ถ้าหากเมื่อก่อนตอนที่เฉินผิงอานอยู่ที่เยี่ยนจริงไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันนึงที่มาบูชาความรัก แตีสามปีมานี้ที่อยู่เมืองกิน เขานั้นก็เหมือนกับลงเข้าไปอยู่ในหลุมบูชาความรักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นับตั้งแต่ที่เขาเสี่ยงชีวิตตัวเองได้ช่วยไป๋ฉิงเฉินไว้ เขาก็จดจำผู้หญิงคนนี้ไว้ในใจมาตลอด
ยิ่งต่อมาผู้หญิงคนนี้ได้มาเป็นภรรยาของเขา
ถึงแม้เฉินผิงอานจะรู้ว่าตอนนั้นไป๋ฉิงเฉินทำเพื่อจะได้ไม่ต้องได้แต่งงานกับคนที่ครอบครัวจัดหาให้ แต่เฉินผิงอานกลับมีความตั้งใจจริงตั้งแต่แรก
สร้างฐานะโดยที่ไม่มีพื้นฐานอะไรถือว่ายากมาก แต่เฉินผิงอานก็ไม่ได้สนใจ
เขาใช้เวลาสามปีเพื่อเพิ่มพลังและประสบการณ์ให้ตัวเองดังนั้นเขาเลยไม่ได้สนใจว่าว่าตัวเองจะเป็นแค่ยามตกต๋อย เป็นแค่พนักงานเก็บกวาดขยะในเมือง
ถูกคนด่าว่าเกาะผู้หญิงกิน เป็นขยะไร้ประโยชน์บ้าง
แล้วยังไง เรื่องอย่างนี้ไม่ได้สำคัญกับเฉินผิงอานเลย สิ่งที่เขาสนใจเพียงสิ่งเดียวคือไป๋ฉิงเฉิน
มองขึ้นไปบนบ้านที่ยังมีไฟส่องสว่างอยู่ ก็เห็นเงาของไป๋ฉิงเฉินที่ยืนอยู่มุมหน้าต่างอย่างชัดเจน
ถึงแม้เฉินผิงอานจะะมองหน้าไป๋ฉิงเฉินไม่ชัดแต่เขาก็เข้าใจไป๋ฉิงเฉินดี
"ฉิงเฉินวางใจเถอะ ฉันจะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้เธอ"
จากนั้นเฉินผิงอานก็หันหลังเดินไปขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปที่โรงแรมเฟิ่งไถ
ที่อยู่นี้เฉินเฟิงก็คุ้นเคยดี ถึงแม้เมื่อตอนกลางวันเสิ่นหรงฮวาจะบอกว่าเป็นแค่โรงแรมธรรมดาแต่เท่าทีเฉินผิงอานรู้ดรงแรมแหงนี้ถือว่าเป็นโรงแรมหรูมีระดับเลยก็ว่าได้
ที่นี่มีแค่อาหารมังสวิรัติมื้อเดียวราคาก็เป็นหมื่นกว่าแล้วและยังไม่ใช่ห้องอาหาร ถ้าหากเป็นห้องอาหารส่วนตัวก็จะอีกราคานึง
แน่นอนว่าในสายตาของคนที่ไปที่ดูการแต่งกายของเฉินผิงอานเป็นแค่ยามกระจอกๆ แต่สายตาอย่างนี้ก็ก็เจอมาไม่น้อย
เพราะว่ามีหนิงที่ยืนรอเฉินผิงอานอยู่หน้าประตู ดังนั้นเฉินผิงอานมาถึงก็มีพนักงานเอารถเข้าไปจอดที่จอดรถของโรงแรม แล้วก็โค้งคำนับเชิญเฉินผิงอานเข้าไปในห้องอาหารที่จองไว้
ถึงแม้พนักงานโรงแรมจะรู้สึกประหลาดใจมาก แต่พอเห็นหนิงฟางที่แต่งตัวดีมีระดับก้มโค้งคำนับก็ไม่กล้สพูดอะไร ทำได้แค่เก็บความส่งสัยเอาไว้ในใจ
พอเข้ามาให้ห้องอาหารเสิ่งหรงฮวาก็ลุกขึ้นยืนต้อนรับ
และข้างๆก็มีถังเฟิงที่สวมชุดราชวงค์ถังก็ลุกขึ้นยืนส่งยิ้มให้
"คุณชายเฉิน ท่านนี้คือคุณหมอถัง ถังเฟิงมาจากปักกิ่งและเป็นสมาชิกของสมาคมแพทย์แผนจีนของจีนอีกด้วย เป็นคุณหมอที่เก่งสุดยอด เมื่อเช้าก็ได้คุณหมอไปรักษาคุณไป๋"
พอได้ยินเสิ่นหรงฮวาแนะนำเฉินผิงอานก็รีบเดินไปตรงหน้าถังเฟิงและยื่นมือไปจับมือถังเฟิงเป็นการทักทาย
"ขอบคุณท่านอาวุโสถังมากครับ รบกวนคุณหมอจริงๆ "
ตอนที่ถังเฟิงเห็นเฉินผิงอานก็ตกเล็กน้อย แต่พอได้ยินเฉินผิงอานขึ้นมาแล้วก็มาจับมือพร้อมกับคำพูดที่ถ่อมตน เขาก็รู้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้ต้องไม่ธรรมดา
"โอ๊ยคุณเฉินก็ขมเกินไปแล้วก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำอยู่แล้ว"
"อ่าๆ เชิญนั่งเถอะครับ อาฟางเรียกพนักงานให้นำอาหารเข้ามา....."
หนิงฟางพยักหน้าแล้วก็เดินออกไป
จากนั้นอาหารมังสวิรัติก็ถูกทยอยนำเข้ามาจัดวางเต็มโต๊ะ ทั้งสามก็กินไปด้วยคุยไปด้วย
โดยเฉพาะเฉินผิงอานที่จะสนใจเรื่องแพทย์แผนจีนเป็นพิเศษ
และยังเรียนรู้กับท่านหมอถังอีก ยิ่งทำให้ถังเฟิงที่เป็นแพทย์แผนจีนมาสิบกว่าปีรู้สึกที่ไม่น้อย
และได้พูดคุญกับเสิ่นหรงฮวาเกี่ยวกับรูปแบบเศรษฐกินของเมืองปิงในอนาคตตามลำดับพร้อมกับคำแนะนำที่เป็นแระโยชน์อีก
หนิงฟางที่นั่งฟังอยู่ก็รู้สึกทึ่ง
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนหิงฟางคิดว่าเฉินผิงอานมีคุณสมบัติมากพอที่จะได้รับการเคารพนับถือจากคุณเสิ้น เพราะว่าเฉินผิงอานนั้นมีเบื้องหลังที่ใหญ่โต แต่ตอนนี้หล่อนพอจะเข้าใจแล้ว ....
และตอนนี้ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก
"เข้ามา..."
เสิ่งหรงฮวาเอ่ยพูด จากนั้นประตูก็ถูกผลักเข้ามา เป็นชายชกรรค์เดินเข้ามา
"คุณเสิ่น ถ้ารู้ว่าคุณมาที่นี่ผมจะจัดห้องราชาให้"
"ไม่เป็นไร ๆ "
ชายคนนั้นเดินเข้ามาแล้วรินน้ำผลไม้ เพราะเฉินผิงอานต้องงการดื่มน้ำส้มคั้นสด
"คุณเสิ่น ท่านี้คือ....."
เฉินผิงอานที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธาน นั่งอยู่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"ฮ่าๆ คุณเฉิน ท่านนี้คือเจ้าของโรงแรมเฟิ่งไถ ทำธุรกิจเกี่ยวกับบอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองกิน ร้านอาหารในเมืองปินต่างก็มีเถ้าแก่ฮัวเป็นหุ่นส่วนอยู่ด้วย"
หลังจากที่พูดจบเสิ่นหรงฮวาก็ลุกขึ้นมองไปที่ชายคนนั้นแล้วพูด:"เถ้าแก่ฮัว ท่านนี้คือคุณเฉินเป็นแขกคนสำคัญขอผม"
ชายบึกบึนก็หันไปมองชายที่สามชุดยามธรรมดาแต่คิดว่าฐานะจะไม่ธรรมดา ไม่อย่างนั้นเสิ่นหรงฮวาคงระดับนี้คงไม่มีท่าทีอย่างนี้
จากนั้นก็ยกแก้วน้ำส้มขึ้น
"คุณเฉินสวัสดีครับ กระผมฮัวโหลเชิง เรียกว่าเสี่ยวเชิงก็ได้ครับ"
พูดพร้อมกับยกแก้วขึ้นชนกับเฉินผิงอานจากนั้นก็ยกขึ้นดื่ม
"ยินดีที่ได้รู้จักครับเถ้าแก่ฮัว"
เฉินผิงอานก็ระบายยิ้มออกมาพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มเล็กน้อย
หลังจากที่ทุกคนพูดจาทักทักกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฮัวโหลเชิงกำลังจะเดินออไปจากห้องก็ได้ยื่นบัตรเพชรสีทองให้กับเฉินผิงอาน และยังบอกอีกว่าแค่เป็นร้านอาหารมีระดับในเมืองปินก็สามารถใช้บัตรนี้ได้
ความกรุณาที่ยากปฏิเสธได้ เฉินผิงอานก้ได้รับบัตรไว้
"คุณเฉิน เดิมทีฮัวโหลเชิงคนนี้ก็เป็นนักเลงใหญ่คนนึงของเมืองบิน แต่ต่อมาก็กลับตัวมาจับธุรกิจร้านอาหาร ถือว่าเป็นคนที่ไม่เลวพูดถึงความจริงใจแล้วล่ะก็ก็ถือว่ารู้ความที่สุดในเมืองปิน"
เฉินผิงอานพยักหน้าเบาๆ สำหรับเรื่องอย่างนี้เขาไม่ได้มาใส่ใจ เพราะเฉินผิงอานรู้สึกว่าถ้าเจอเขาลังจากนี้ก็ทำทำเป็นไม่รู้จักเขา. วันนี้ที่อยู่ที่นี่ทำเป็นเกรงใจเขาแถมยังให้บัตรเพชรสีทองมาอีกก็เพราะเสิ่นหรงฮวาที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย
ทุดคนเลยเริ่มคุยกันต่อ อาหารมื้อนี้ใช้เวลาสองชั่วโมงถึงได้แยกกัน
"พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ผมขอไปเข้าห้องน้ำก่อน ไม่ต้องรอผมแล้ว เดี๋ยวผมจะขับรถกลับไปเอง"
"งั้น เอาอย่างนั้รก็ได้ คุณชายเฉิน ต่อไปถ้าหากมีเรื่องอะไรก็บอกผมได้ อยู่ที่เมืองปินผมก็พร้อมจะจัดการให้"
เฉินผิงอานพยักหน้าแล้วกก็เดินเข้าไปเข้าห้องน้ำ
ถือได้ว่ารับประทานอาหารคืนนี้พร่องปากไปมาก เฉินเฟิงคุยกบทั้งสองคนจนลืมเวลาไปเลย
ที่เสิ่นหรงหวาได้เป็นเศรษฐีระดับหนึ่งของเมืองปินก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
พอเฉินผิงอานออกมาจากห้องน้ำทุกคนก็กลับกันไปหมดแล้ว
แต่พอเฉินผิงอานเดินผ่านเค้าเตอร์ของโรงแรมก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายเสียงดัง หนึ่งในนั้นเป็นเสียยงที่คุ้นหูมาก
"ทำไมพวกคุณถึงได้ทำอย่างนี้ได้ พวกเราได้จองไว้แล้ว แล้วทำไมยังเอาห้องไปให้คนอื่นล่ะ"
ไป๋เซว่รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก วันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนสนิทหล่อน ไป๋เซว่ได้ลงทุนจองห้องอาหารของดรงแรมเฟิ่งไถไว้ แต่มาถึงที่นี่เกือบจะครึงชั่วโมงแล้วกลับรู้ว่าห้องถูกยกให้คนอื่นไปแล้ว
"ไป๋เซว่ ถ้างั้นพวกเราไปกันเถอะ....."
ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยดูอ่อนหวานเอ่ยเสียงเบา
"น่าน่า ได้ยังไงกัน วันนี้เป็นวันเกิดครบ18ปีของเธอนะ และฉันก็เคยรับปากกับเธอไว้แล้วฉันก็ต้องทำให้ได้ "
จากนั้นไปเซว่ก็มองไปทางเค้าเตอร์แล้วเอ่ย:"ถ้าหากวันนี้คุณไม่ให้เหตุผลที่ฟังขึ้นฉันก็จะไปฟ้องพวกคุณ ! "
พนักงานที่อยู่เค้าเตอร์ก็พึ่งเคยเจอเหตุการณ์อย่างนี้ครั้งแรก แต่ก็ยังมีความอดทนที่จะเอ่ยอธิบาย:"คุณผู้หญิง มันเป็นกฎของที่นี่ พวกคุณเป็นเพียงลูกค้าธรรมดา พวกเราต้องจัดการให้ลูกค้าสำคัญก่อน"
"ห้องทีพวกคุณจองไว้นันเพราะพวกคุณไม่มาทันเวลา ดังนั้นพวกเราเลยต้องจัดให้กับสมาชิกลูกค้าแขกคนสำคญก่อน"
"ก็แค่สมาชิกลูกค้าวีไอพีไหม งั้นฉันก็ทำก็เป็นได้แล้ว ! "
และทันใดนั้นเองก็มีชายหนุ่มมาดคุณชายตะโกนขึ้นมา
"เอ่อ.....ลูกค้าจะต้องมีการใช้จ่ายขึ้นต่ำสามแสนถึงจะทำบัตรสมาชิกวีไอพีได้ค่ะ"
ชายมาดคุณชายถึงกับหน้าเริ่มแดง
พวกเขเป็นแก๊งเล็กๆเท่านั้น อย่าว่าแต่สามแสนเลย แม้แต่แสนเดียวยังไม่มีเลย ในกลุ่มของพวกเขาบ้านของไป๋เซว่เป็นคนที่มีฐานะสุด
และในตอนนั้นเองไป๋เซว่ก็หันไปกลับเจอกับเฉินผิงอาน
"ทำไมนายมาอยู่ที่นี่ได้"
ไป๋เซว่ชี้ไปทางเฉินผิงอานที่กำลังเดินมาพร้อมกับเอ่ย
"ฉัน...."
"ออ ฉันรู้แล้ว นายถูกโรงเรียนไล่ออกแล้วก็มาทำงานที่นี่ใช่ไหม "
ไล่ออกหรอ
เฉินผิงอานนับถือวามมโนของน้องเมียคนนี้เลย
"ไป๋เซว่ ทำไมเธอถึงได้รู้จักยามของที่นี่ได้ล่ะ "
ก็มีวันรุ่นทำผมหัวไก่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าทำสีหน้าไม่เป็นมิตร
"เขาก็คือพี่เขยฉันที่ไม่ได้เรื่องที่ฉันเล่าให้ฟังไง "
"เขาหรอ"
"เป็นเหมือนอย่างที่เธอพูดไม่มีผิด "
เฉินผิงอานมองไปที่ชายหนุ่มคนนั้น สุดท้ายก็ไปหยุดที่ตัวของไป๋เซว่แล้วเอ่ย :"ทำไมหรอ ไม่มีห้องแล้วหรอ "
"หื พูดมาแล้วก็โมโห เดิมทีพวกเราจองห้องไว้แล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกพวกเขายกให้คนอื่นปีแล้ว อ้อแล้วฉันจะพูดเรื่องพวกนี้ให้นายฟังทำไม นายจะไปไหนก็ไปเลย ที่นี่ไม่ใช่ที่ของนาย "
พูดจบก็หันไปหาพนักงานที่เค้าเตอร์เพื่อทวงความยุติธรรมอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าในสายตาของไป๋เซว่เฉินผิงอานเป็นแค่เศษสวะ มาปรากฏตัวตรงนี้ก็มีแต่ทำให้หล่อนขายหน้า
แต่พนักงานเค้าเตอร์ก็มองเห็นเฉินผิงอาน ก่อนหน้านี้ที่เฉินผิงอานเดินเข้ามาเป็นเป็นจุดสนใจของคนอื่นแล้ว ดังนั้นเขาเลยจำได้และรู้ว่าเขานั้นเป็นคุณชายลกลับที่อยู่ในคราบสวมชุดยามธรรมดาต๊กต๋อยอย่างนี้
"คุณผู้หญิง ถ้าหากว่าไม่มีบัตรวีไอพีก็เชิญมานั่งรอตรงนี้ค่ะ หรือไม่ก็ไปจากตรงนี้"
ท่าทางที่ดูแข็งกระด้างขึ้น
"ฉัน...."
ไป๋เซว่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกผู้หญิงอ่อนหวานที่ยืนอยู่ข้างหลังฉุดไว้
"พี่เซว่ พวกเราไปกันเถอะ ไม่มากินที่นี่แล้ว ที่นี่แพงจะตาย"
และคนนี้ที่ชื่อว่าน่าน่าก็รั้งไป๋เซว่ไว้ พร้อมกับกระซิบเบาๆ
"ไม่ได้ วันนี้ฉันจะต้องกินข้าวที่นี่ให้ได้ หึ ก็แค่บัตรวีไอพีไหม เดี๋ยวฉันจะโทรให้คนเอามาให้เดี๋ยวนี้ ! "
ไป๋เซว่คิดถึงฟางชื่อหวา เขาจะต้องมีบัตรวีไปพีของที่นี่แน่
"แต่พอหล่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมจะโทรออกกลับได้ยินเสียงดังมาจากทางข้างหลัง
"ฉันมีบัตรวีไอพี..."
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved