บทที่ 67 ก็แค่อยากที่จะหยิ่งพยอง

อ๊ะ?

"คุณวางสายไปเลยเหรอ?"

มองเห็นเฉินผิงอานวางสายไปแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนอีกด้านของโซฟาไป๋ฉิงเฉินไม่ได้มีปฏิกริยากลับมาในทันที

"ใช่สิทำไมเหรอ?"

เฉินผิงอานถามอย่างไม่สนใจ

"เอ่อไม่ใช่บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะใช่แล้วจะต้องเป็นปัญหาของสัญญาอย่างแน่นอน"

"ไม่งั้นฉันไปดูที่บริษัทหน่อย……"

ถึงแม้ไป๋ฉิงเฉินจะพูดว่าไม่สนใจไม่ไปดูแลเรื่องเหล่านี้

แต่ความอยู่รอดของบริษัทหล่อนกลับแคร์มาก

"คุณคิดดูก่อนหน้านี้พวกเขาทำยังไงกับคุณฉิงเฉินไม่ต้องพูดไป๋หย่งเซิ้งรีบร้อนโทรหาคุณอย่างนี้จะต้องเพราะเรื่องสัญญาอยู่แล้ว"

"ฉันรู้เพียงแค่……ถ้าสัญญาเกิดปัญหาขึ้นแล้วด้านหลัง……"

เฉินผิงอานยิ้มพูดเบาๆ"อันนี้คุณยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลยฉิงเฉินเมื่อคืนผมโทรหาเพื่อนร่วมเรียนของโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนแล้วเพื่อนผมบอกว่าเรื่องนี้เขาจะไปจัดการยังพูดว่าถึงเวลานั้นสัญญานี้ให้คุณเก็บไว้ก็พอแล้วไม่ว่าคุณจะไปตอนไหนต่างก็ถือว่านับหมด"

"จริงเหรอ?"

เฉินผิงอานพยักหน้า

"ผิงอานรอหลังจากเรื่องครั้งนี้ผ่านไปแล้วพวกเราจะต้องไปเมืองเฉิงตูให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเลี้ยงข้าวเพื่อนของคุณเขาช่วยพวกเรามากแล้ว"

เฉินผิงอานยิ้มกว้างพูด"ค่อยดูอีกทีแล้วกัน"

ได้ยินเฉินผิงอานพูดอย่างนี้ในใจของไป๋ฉิงเฉินก็สงบลงไม่น้อย

แต่อีกด้านหนึ่งในห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน

"พ่อหรือว่าจะต้องไปหาถึงที่บ้านจริงๆ?ไปตามไป๋ฉิงเฉินนั่นกลับมารับตำแหน่งผู้รับผิดชอบโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนใหม่แล้วไปเจรจาสัญญากับประธานลู่?"

สีหน้าของไป๋เหลียนซานค่อนข้างดูน่าเกลียดตอนที่พูดเห็นชัดมากว่าไม่ยินยอมเล็กน้อย

"ใช่พ่อไป๋ฉิงเฉินนั่นก็คือมารสุนัขจิ้งจอกจะต้องมีเรื่องที่น่าอับอายของเขาและประธานลู่นั่นอย่างแน่นอนจากนั้นไป๋ฉิงเฉินใช้เรื่องนี้ขมขู่เขาไม่งั้นประธานลู่นั่นอาศัยอะไรไม่เจรจากับพวกเราในเมื่อสัญญาต่างก็ได้เซ็นไปแล้ว"

ไป๋จินเหลียนเวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

พอคิดถึงเดิมทีอยากที่จะยืมเรื่องนี้โจมตีไป๋ฉิงเฉินให้แรงๆสักหน่อยกลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายกลายเป็นยกหินกระแทกเท้าตัวเองอีกทั้งยังถูกคุณย่าบ่นว่าสองสามประโยคพวกญาติก็ยิ่งผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่ตัวเองและครอบครัวอย่างไม่สนใจ

ไป๋จินเหลียนเองก็เอาบัญชีทั้งหมดคิดไว้ที่ตัวไป๋ฉิงเฉินอยู่แล้ว

ยังไงในความคิดของหล่อนเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเป็นไป๋ฉิงเฉินคนเดียวที่ก่อเรื่องขึ้นอีกทั้งทำให้พ่อของตัวเองไม่สามารถเซ็นสัญญาได้อย่างราบรื่นแต่คิดไปที่ตัวของไป๋ฉิงเฉินโดยสิ้นเชิง

"พอแล้วไม่ต้องพูดแล้ว"

"พ่อ……"

"พอแล้วไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นไปเถอะ!"

ทันใดนั้นไป๋จินเหลียนก็กระทืบเท้าแล้วหันหัวเดินออกจากห้องทันทีเขาไม่ไปหรอกเขาอาศัยอะไรก้มหัวให้ไป๋ฉิงเฉินเขาไม่มีทางอย่างแน่นอน

มองไป๋จินเหลียนที่เดินออกมาจากห้องทำงานอย่างโมโหนั่นไป๋หย่งเซิ้งทำได้แค่ส่ายหน้าจากนั้นมองไป๋เหลียนซานแวบหนึ่งพูดว่า"ไปเถอะพวกเราไปสองคนเรื่องนี้ไม่สามารถทำให้ล้าช้าถ้าเกิดเรื่องนี้ล้มเหลวแล้วจริงๆพวกเราก็จะไม่มีอะไรเลยอย่างแท้จริง!"

ในขณะที่เฉินผิงอานกำลังเตรียมอาหารในห้องครัวนั้นประตูของห้องก็ถูกเคาะดังขึ้นมา

"ใครอ่ะ……"

ไป๋เซว่ที่เล่นเกมอยู่บนโซฟาตระโกนออกมา

"ผมเองพ่อสองของเธอไป๋หย่งเซิ้ง!"

ในเมื่อต่างก็ก้มหัวให้แล้วไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่ได้แสดงความหยิ่งพยองอีกพูดประโยคหนึ่งต่อประตูเหล็กที่เก่าทรุดโทรม

ไป๋เซว่พอได้ยินสีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทันทีมองไป๋ฉิงเฉินแวบหนึ่งที่ดูเอกสารอย่างตะลึงเล็กน้อยเหมือนกันอยู่ด้านข้าง

"พี่……"

"เธอไปเปิดประตู!"

พูดจบไป๋ฉิงเฉินก็เดินเข้าไปในห้องโดยทันที

เฉินผิงอานเดินออกมาจากห้องครัวเพราะว่ากำลังทำอาหารอยู่จึงสวมผ้ากันเปื้อนนี้ดังนั้นดูไปแล้วก็ไม่มีพลังความน่ากลัวอะไรจริงๆ

"ฉิงเฉินมอบให้ผมจัดการแล้วกันคุณไปพักผ่อนในห้องเถอะ!"

ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้า

นี่ก็คือก่อนหน้านี้พูดคุยตกลงกันไว้แล้วหล่อนไม่อยากเผชิญหน้ากับพ่อสองของตัวเอง

พอประตูเปิดไป๋หย่งเซิ้งพ่อลูกมองเห็นเครื่องเรือนที่อยู่ในห้องอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

"พ่อสองคุณมาแล้ว……"

"ไป๋เซว่ใช่ไหมโตแล้วสวยอย่างนี้"

ไป๋เซว่พยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไรหันหัวแล้วก็เดินไปทางโซฟาห้องรับแขกเล่นเกมต่อเห็นชัดว่าไป๋เซว่ก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีใดๆต่อไป๋หย่งเซิ้งพ่อลูกอย่างแท้จริง

"ไป๋ฉิงเฉินล่ะ……ให้เขาออกมา!"

เห็นท่าทางอย่างนี้ทันใดนั้นในใจของไป๋เหลียนซานก็ไม่พอใจชั่วครู่หนึ่งแล้วก็ตระโกนเข้าไปในห้อง

พอเห็นเครื่องเรือนในบ้านไป๋เหลียนซานก็มีใบหน้าที่รังเกลียดเดิมทีก็ไม่อยากที่จะเข้าไป

แน่นอนไป๋หย่งเซิ้งที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก็มีความรู้สึกที่เหมือนอย่างนี้กับลูกชายของตัวเอง

"ฉิงเฉินป่วยพวกคุณมาหาเขามีธุระอะไรหรือเปล่า?"

ในเวลานี้เฉินผิงอานค่อยๆผูกผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปที่ประตูพูดเสียงเบา

"แกเป็นใครไสหัวไปหน่อยให้ไป๋ฉิงเฉินออกมาคิดไม่ถึงว่าจะแกล้งป่วยอยู่ที่บ้านหรือเขาไม่รู้ว่าสัญญาที่ตัวเองเจรจามีปัญหา?"

ฟึ่บ!

โอ๊ย!

ระหว่างที่ไป๋เหลียนซานตระคอกโวยวายนั้นเฉินผิงอานก็ถีบบนท้องน้อยของไป๋เหลียนซานทันที

เท้านี้เร็วมากแม้กระทั่งไป๋เหลียนซานเองต่างก็ไม่มีปฏิกริยาตอบกลับมา

และไป๋เซว่เวลานี้ที่ได้กลับไปนั่งที่โซฟาแล้วมองเห็นถีบนี้ก็คอหดทันที

ในใจอดที่จะคิดไม่ได้ว่าที่"บาร์อารมณ์สีดำ"วันนั้นฉากที่ถีบบนหน้าของพี่เพ่าที่มาจากเมืองเฉิงตูนั่น

"แกเฉินผิงอานแม่งคิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าถีบคน?"

สีหน้าของไป๋หย่งเซิ้งน่าเกลียดมาก

เฉินผิงอานมองไป๋หย่งเซิ้งอย่างเย็นชาพูดว่า"เขาเอะอะโวยวายมากทำไมคุณอยากจะถูกถีบด้วยเหรอ?"

ไม่ไว้หน้าใดๆให้ไป๋หย่งเซิ้งเลยสักนิดเฉินผิงอานก็ไม่สนใจว่าเป็นญาติอะไรในสายตาของเขามีเพียงฉิงเฉินถ้าใครพูดว่าฉิงเฉินเขาไม่ได้ยินก็แล้วไปขอแค่ได้ยินงั้นก็จะไม่ไว้หน้าใดๆกับคุณ

ไป๋เหลียนซานเวลานี้กุมท้องนั่งยองๆบนทางระเบียงน้ำตาไหลแม้กระทั่งจะพูดก็มีความยากลำบากเล็กน้อย

"แก……"

ยังไงไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่เหมือนลูกชายของตัวเองที่วู่วามอย่างนี้อดทนความโกรธพูดทันทีว่า"พวกเรามาหาหลานสาวฉิงเฉินสัญญาของบริษัทตอนนี้ต้องการให้เขาออกหน้าไปเจรจา"

เฉินผิงอานยิ้มเบาๆพูดว่า"ฉิงเฉินป่วยแล้วถ้าต้องการเจรจาสัญญารอฉิงเฉินหายป่วยก่อนค่อยว่ากัน!"

"คุณไปบอกฉิงเฉินพูดว่านี่เป็นความต้องการของคุณย่าให้เขารีบไปเอาสัญญานี้ทำให้เป็นผลอย่างนี้แล้วก็จะมีประโยชน์ต่อทุกคน!"

เพราะว่าเวลานี้เฉินผิงอานยืนอยู่ที่หน้าประตูดังนั้นเดิมทีไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่สามารถเข้าประตูไปได้

เดิมทีเมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยเห็นเฉินผิงอานอยู่ในสายตาแต่เมื่อกี้เฉินผิงอานถีบลูกชายของตัวเองกระเด็นออกไปเลยอีกทั้งแววตานั่นเยือกเย็นมากเหมือนกับเห็นศัตรูอย่างนั้นนี่ทำให้ไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่กล้าไปเจอกับเรื่องที่ไม่สบายใจทำได้แค่อดทนไว้

"เอ่อผมจะบอกกับฉิงเฉินให้นอกจากนี้ถ้าเป็นความต้องการของคุณย่างั้นก็ให้ตัวคุณย่าเองมาแล้วกัน……"

พูดจบเฉินผิงอานก็ปิดประตูดังโครมโดยทันที

อะไร?

ไป๋หย่งเซิ้งยืนอยู่ที่ประตูกำหมัดทั้งสองข้างแน่นโมโหจนแทบจะไม่ได้หายใจขึ้นมา

"พ่อผมเจ็บมากส่งผมไปโรงพยาบาลก่อน……"

ไป๋เหลียนซานเวลานี้ทั่วท้้งใบหน้าขาวซีดมองออกว่าถีบนี้ของเฉินผิงอานไม่เบาอย่างแน่นอน

"ฮึขายหน้า!"

ไป๋หย่งเซิ้งประคองลูกชายที่มีความเจ็บปวดเหลือทนจากนั้นก็ลงตึกอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย

แต่ฉากนี้เฉินผิงอานไม่มีความสนใจใดๆที่จะไปติดตาม

"พี่เขยเท่มาก……瘾ไป๋เหลียนซานนั่นฉันอยากที่จะจัดการเขามานานแล้วเมื่อกี้คุณถีบเขาต้องเรียกว่าซะใจ……"

ไป๋เซว่นั่งบนโซฟามองดูทั้งหมด

ทันใดนั้นเหมือนลืมไปว่าตัวเองเวลาปกติด่าเฉินผิงอานเป็นคนไร้ค่ายังไงก็มองเฉินผิงอานแล้วพูดอย่างนั้น

เฉินผิงอานเพียงแค่ยิ้มเบาๆไม่ได้พูดอะไรจากนั้นไม่พูดพร่ำแล้วก็มุดเข้าไปในห้องครัว

เวลานี้ไป๋ฉิงเฉินก็เดินออกมาจากห้องพอดี

"พ่อสองพวกเขาไปแล้ว……"

"พี่ฉันจะพูดกับพี่เมื่อกี้……"

ไป๋เซว่เวลานี้ก็เริ่มเล่าเสริมเติมแต่งขึ้นมา

อาหารกลางวันโจวหมิงเฟิ้งสามีและภรรยาไม่ได้กลับมากินข้าวเพราะว่าไป๋หย่งกวงยังต้องทำการฝึกฝนฟื้นฟูเล็กน้อยที่โรงพยาบาลดังนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็อยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนไป๋หย่งกวงหนึ่งวัน

กระทั่งเรื่อทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่บ้านพวกเขาสองคนก็ไม่รู้เลย

ในขณะที่ทำการฝึกฝนฟื้นฟูเสร็จสองคนเพิ่งออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาลจู่ๆก็ได้มีสายโทรศัพท์เข้ามา

"คุณรับ……"

พอเห็นสายที่โทรเข้ามาทันใดนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็เอาโทรศัพท์ส่งให้ไป๋หย่งกวงที่ถือไม้ค้ำอยู่

"ฮัลโหลใครอ่ะ……"

ไป๋หย่งกวงก็ไม่ได้ดูสายที่โทรเข้าแล้วกดรับสายไปทันที

"พี่ฉันเองฉ่ายเฟิง"

กัวฉ่ายเฟิงภรรยาของไป๋หย่งเซิ้งก็คือแม่ของไป๋เหลียนซานที่ถูกเฉินผิงอานถีบ

"เอ่อฉ่ายเฟิงเหรอเป็นอะไร?หาผมมีธุระอะไรเหรอ?"

สำหรับโทรศัพท์นี้ไป๋หย่งกวงแปลกประหลาดบ้างเล็กน้อย

"ฮึๆมีธุระมีธุระแน่นอนคนไร้ค่าบ้านของพวกคุณทำร้ายลูกชายของฉันบาดเจ็บฉันจะบอกให้เดิมทีวันนี้หย่งเซิ้งและเหลียนซานมีน้ำใจมาเรียกฉิงเฉินหลานสาวไปประชุมที่บริษัทนี่ก็เป็นความต้องการของคุณย่าใครจะคิดว่าคนไร้ค่าของบ้านพวกคุณไม่รู้ว่ากินยาอะไรผิดไม่เพียงไม่ให้หย่งเซิ้งพ่อลูกเข้าบ้านยังถีบเหลียนซานตกบันไดไปเลยฉันจะบอกให้ถ้าลูกชายของฉันเป็นอะไรไปฉันจะเอาเรื่องกับบ้านพวกคุณอย่างถึงที่สุด!"

"อ๊ะ?มีเรื่องอย่างนี้ด้วย?"

ไป๋หย่งกวงพอได้ยินก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดทันที

"ทำไมคุณคิดว่าฉันตั้งใจเอาชีวิตความปลอดภัยของลูกชายมาล้อเล่นกับคุณเหรอตอนนี้ลูกชายของฉันนอนอยู่ที่โรงพยาบาลฉันจะบอกคุณพี่ใหญ่เรื่องนี้บ้านพวกคุณถ้าไม่อธิบายให้ฉันฉันจะไม่วางมืออย่างเด็ดขาดฮึคิดไม่ถึงว่าสั่งคนนอกมารังแกหย่งเซิ้งพ่อลูกแถมยังทำร้ายคนอีก……ฉันจะต้องบอกคุณแม่แน่นอนให้คุณแม่ทวงความยุติธรรมให้บ้านพวกเรา!พวกคุณสองคนรอก่อนเถอะ!"

พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกวางไปทันที

ไป๋หย่งกวงถือโทรศัพท์บนใบหน้ายังไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร

"……"

"หรือว่าไอ้ตัวทำลายในบ้านนั่นก่อเรื่องอีกแล้ว?"

โจวหมิงเฟิ้งก็มีใบหน้ามืดมนขึ้นมาทันที

"อะไร?"

"ในโทรศัพท์เสียงของกัวฉ่ายเฟิงดังออกอย่างนั้นฉันได้ยินหมดแล้วไอ้ตัวทำลายคนนี้กินนอนที่บ้านทั้งวันยังไม่พอแต่ละวันหาเรื่องให้กับบ้านพวกเราดูสิกัวฉ่ายเฟิงคนนี้เป็นพวกมีความคิดอะไรคุณก็รู้ถูกเขาเข้ามาพัวพันนี่บ้านของพวกเราจะต้องโดนรังควานไม่สงบสุขแน่แล้ว!"

ไป๋หย่งกวงก็ค่อยๆย่นหัวคิ้ว

"แต่เรื่องนี้พวกเรายังคงต้องกลับไปถามให้ชัดเจนก่อนผิงอานเด็กนั่นผมคิดว่าไม่เหมือนคนที่วู่วามไม่แน่ว่าเรื่องนี้ยังมีเรื่องแอบซ่อนอยู่ก็ยังไม่แน่!"

"ถามบ้าอะไรถ้าไม่ใช่คนไร้ค่านั่นก่อเรื่องคนอื่นเค้าจะโทรมาที่เบอร์คุณทำไม?"

โจวหมิงเฟิ้งพูดพรางก็โบกรถแท็กซี่คนหนึ่งทันที

"รอกลับไปแันจะต้องจัดการคนไร้ค่าที่กินนอนคนนี้ให้ดีๆซะหน่อยไม่จะต้องให้เขาหย่ากับฉิงเฉิน!"

ไป๋หย่งกวงที่เดินตามหลังมาได้ยินคำพูดนี้ส่ายหน้าฝืนยิ้มขึ้นมาชั่วครู่……

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

503