บทที่ 67 ก็แค่อยากที่จะหยิ่งพยอง
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 31,2021
อ๊ะ?
"คุณวางสายไปเลยเหรอ?"
มองเห็นเฉินผิงอานวางสายไปแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนอีกด้านของโซฟาไป๋ฉิงเฉินไม่ได้มีปฏิกริยากลับมาในทันที
"ใช่สิทำไมเหรอ?"
เฉินผิงอานถามอย่างไม่สนใจ
"เอ่อไม่ใช่บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะใช่แล้วจะต้องเป็นปัญหาของสัญญาอย่างแน่นอน"
"ไม่งั้นฉันไปดูที่บริษัทหน่อย……"
ถึงแม้ไป๋ฉิงเฉินจะพูดว่าไม่สนใจไม่ไปดูแลเรื่องเหล่านี้
แต่ความอยู่รอดของบริษัทหล่อนกลับแคร์มาก
"คุณคิดดูก่อนหน้านี้พวกเขาทำยังไงกับคุณฉิงเฉินไม่ต้องพูดไป๋หย่งเซิ้งรีบร้อนโทรหาคุณอย่างนี้จะต้องเพราะเรื่องสัญญาอยู่แล้ว"
"ฉันรู้เพียงแค่……ถ้าสัญญาเกิดปัญหาขึ้นแล้วด้านหลัง……"
เฉินผิงอานยิ้มพูดเบาๆ"อันนี้คุณยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลยฉิงเฉินเมื่อคืนผมโทรหาเพื่อนร่วมเรียนของโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนแล้วเพื่อนผมบอกว่าเรื่องนี้เขาจะไปจัดการยังพูดว่าถึงเวลานั้นสัญญานี้ให้คุณเก็บไว้ก็พอแล้วไม่ว่าคุณจะไปตอนไหนต่างก็ถือว่านับหมด"
"จริงเหรอ?"
เฉินผิงอานพยักหน้า
"ผิงอานรอหลังจากเรื่องครั้งนี้ผ่านไปแล้วพวกเราจะต้องไปเมืองเฉิงตูให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเลี้ยงข้าวเพื่อนของคุณเขาช่วยพวกเรามากแล้ว"
เฉินผิงอานยิ้มกว้างพูด"ค่อยดูอีกทีแล้วกัน"
ได้ยินเฉินผิงอานพูดอย่างนี้ในใจของไป๋ฉิงเฉินก็สงบลงไม่น้อย
แต่อีกด้านหนึ่งในห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน
"พ่อหรือว่าจะต้องไปหาถึงที่บ้านจริงๆ?ไปตามไป๋ฉิงเฉินนั่นกลับมารับตำแหน่งผู้รับผิดชอบโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนใหม่แล้วไปเจรจาสัญญากับประธานลู่?"
สีหน้าของไป๋เหลียนซานค่อนข้างดูน่าเกลียดตอนที่พูดเห็นชัดมากว่าไม่ยินยอมเล็กน้อย
"ใช่พ่อไป๋ฉิงเฉินนั่นก็คือมารสุนัขจิ้งจอกจะต้องมีเรื่องที่น่าอับอายของเขาและประธานลู่นั่นอย่างแน่นอนจากนั้นไป๋ฉิงเฉินใช้เรื่องนี้ขมขู่เขาไม่งั้นประธานลู่นั่นอาศัยอะไรไม่เจรจากับพวกเราในเมื่อสัญญาต่างก็ได้เซ็นไปแล้ว"
ไป๋จินเหลียนเวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
พอคิดถึงเดิมทีอยากที่จะยืมเรื่องนี้โจมตีไป๋ฉิงเฉินให้แรงๆสักหน่อยกลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายกลายเป็นยกหินกระแทกเท้าตัวเองอีกทั้งยังถูกคุณย่าบ่นว่าสองสามประโยคพวกญาติก็ยิ่งผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่ตัวเองและครอบครัวอย่างไม่สนใจ
ไป๋จินเหลียนเองก็เอาบัญชีทั้งหมดคิดไว้ที่ตัวไป๋ฉิงเฉินอยู่แล้ว
ยังไงในความคิดของหล่อนเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเป็นไป๋ฉิงเฉินคนเดียวที่ก่อเรื่องขึ้นอีกทั้งทำให้พ่อของตัวเองไม่สามารถเซ็นสัญญาได้อย่างราบรื่นแต่คิดไปที่ตัวของไป๋ฉิงเฉินโดยสิ้นเชิง
"พอแล้วไม่ต้องพูดแล้ว"
"พ่อ……"
"พอแล้วไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นไปเถอะ!"
ทันใดนั้นไป๋จินเหลียนก็กระทืบเท้าแล้วหันหัวเดินออกจากห้องทันทีเขาไม่ไปหรอกเขาอาศัยอะไรก้มหัวให้ไป๋ฉิงเฉินเขาไม่มีทางอย่างแน่นอน
มองไป๋จินเหลียนที่เดินออกมาจากห้องทำงานอย่างโมโหนั่นไป๋หย่งเซิ้งทำได้แค่ส่ายหน้าจากนั้นมองไป๋เหลียนซานแวบหนึ่งพูดว่า"ไปเถอะพวกเราไปสองคนเรื่องนี้ไม่สามารถทำให้ล้าช้าถ้าเกิดเรื่องนี้ล้มเหลวแล้วจริงๆพวกเราก็จะไม่มีอะไรเลยอย่างแท้จริง!"
ในขณะที่เฉินผิงอานกำลังเตรียมอาหารในห้องครัวนั้นประตูของห้องก็ถูกเคาะดังขึ้นมา
"ใครอ่ะ……"
ไป๋เซว่ที่เล่นเกมอยู่บนโซฟาตระโกนออกมา
"ผมเองพ่อสองของเธอไป๋หย่งเซิ้ง!"
ในเมื่อต่างก็ก้มหัวให้แล้วไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่ได้แสดงความหยิ่งพยองอีกพูดประโยคหนึ่งต่อประตูเหล็กที่เก่าทรุดโทรม
ไป๋เซว่พอได้ยินสีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทันทีมองไป๋ฉิงเฉินแวบหนึ่งที่ดูเอกสารอย่างตะลึงเล็กน้อยเหมือนกันอยู่ด้านข้าง
"พี่……"
"เธอไปเปิดประตู!"
พูดจบไป๋ฉิงเฉินก็เดินเข้าไปในห้องโดยทันที
เฉินผิงอานเดินออกมาจากห้องครัวเพราะว่ากำลังทำอาหารอยู่จึงสวมผ้ากันเปื้อนนี้ดังนั้นดูไปแล้วก็ไม่มีพลังความน่ากลัวอะไรจริงๆ
"ฉิงเฉินมอบให้ผมจัดการแล้วกันคุณไปพักผ่อนในห้องเถอะ!"
ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้า
นี่ก็คือก่อนหน้านี้พูดคุยตกลงกันไว้แล้วหล่อนไม่อยากเผชิญหน้ากับพ่อสองของตัวเอง
พอประตูเปิดไป๋หย่งเซิ้งพ่อลูกมองเห็นเครื่องเรือนที่อยู่ในห้องอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
"พ่อสองคุณมาแล้ว……"
"ไป๋เซว่ใช่ไหมโตแล้วสวยอย่างนี้"
ไป๋เซว่พยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไรหันหัวแล้วก็เดินไปทางโซฟาห้องรับแขกเล่นเกมต่อเห็นชัดว่าไป๋เซว่ก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีใดๆต่อไป๋หย่งเซิ้งพ่อลูกอย่างแท้จริง
"ไป๋ฉิงเฉินล่ะ……ให้เขาออกมา!"
เห็นท่าทางอย่างนี้ทันใดนั้นในใจของไป๋เหลียนซานก็ไม่พอใจชั่วครู่หนึ่งแล้วก็ตระโกนเข้าไปในห้อง
พอเห็นเครื่องเรือนในบ้านไป๋เหลียนซานก็มีใบหน้าที่รังเกลียดเดิมทีก็ไม่อยากที่จะเข้าไป
แน่นอนไป๋หย่งเซิ้งที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก็มีความรู้สึกที่เหมือนอย่างนี้กับลูกชายของตัวเอง
"ฉิงเฉินป่วยพวกคุณมาหาเขามีธุระอะไรหรือเปล่า?"
ในเวลานี้เฉินผิงอานค่อยๆผูกผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปที่ประตูพูดเสียงเบา
"แกเป็นใครไสหัวไปหน่อยให้ไป๋ฉิงเฉินออกมาคิดไม่ถึงว่าจะแกล้งป่วยอยู่ที่บ้านหรือเขาไม่รู้ว่าสัญญาที่ตัวเองเจรจามีปัญหา?"
ฟึ่บ!
โอ๊ย!
ระหว่างที่ไป๋เหลียนซานตระคอกโวยวายนั้นเฉินผิงอานก็ถีบบนท้องน้อยของไป๋เหลียนซานทันที
เท้านี้เร็วมากแม้กระทั่งไป๋เหลียนซานเองต่างก็ไม่มีปฏิกริยาตอบกลับมา
และไป๋เซว่เวลานี้ที่ได้กลับไปนั่งที่โซฟาแล้วมองเห็นถีบนี้ก็คอหดทันที
ในใจอดที่จะคิดไม่ได้ว่าที่"บาร์อารมณ์สีดำ"วันนั้นฉากที่ถีบบนหน้าของพี่เพ่าที่มาจากเมืองเฉิงตูนั่น
"แกเฉินผิงอานแม่งคิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าถีบคน?"
สีหน้าของไป๋หย่งเซิ้งน่าเกลียดมาก
เฉินผิงอานมองไป๋หย่งเซิ้งอย่างเย็นชาพูดว่า"เขาเอะอะโวยวายมากทำไมคุณอยากจะถูกถีบด้วยเหรอ?"
ไม่ไว้หน้าใดๆให้ไป๋หย่งเซิ้งเลยสักนิดเฉินผิงอานก็ไม่สนใจว่าเป็นญาติอะไรในสายตาของเขามีเพียงฉิงเฉินถ้าใครพูดว่าฉิงเฉินเขาไม่ได้ยินก็แล้วไปขอแค่ได้ยินงั้นก็จะไม่ไว้หน้าใดๆกับคุณ
ไป๋เหลียนซานเวลานี้กุมท้องนั่งยองๆบนทางระเบียงน้ำตาไหลแม้กระทั่งจะพูดก็มีความยากลำบากเล็กน้อย
"แก……"
ยังไงไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่เหมือนลูกชายของตัวเองที่วู่วามอย่างนี้อดทนความโกรธพูดทันทีว่า"พวกเรามาหาหลานสาวฉิงเฉินสัญญาของบริษัทตอนนี้ต้องการให้เขาออกหน้าไปเจรจา"
เฉินผิงอานยิ้มเบาๆพูดว่า"ฉิงเฉินป่วยแล้วถ้าต้องการเจรจาสัญญารอฉิงเฉินหายป่วยก่อนค่อยว่ากัน!"
"คุณไปบอกฉิงเฉินพูดว่านี่เป็นความต้องการของคุณย่าให้เขารีบไปเอาสัญญานี้ทำให้เป็นผลอย่างนี้แล้วก็จะมีประโยชน์ต่อทุกคน!"
เพราะว่าเวลานี้เฉินผิงอานยืนอยู่ที่หน้าประตูดังนั้นเดิมทีไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่สามารถเข้าประตูไปได้
เดิมทีเมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยเห็นเฉินผิงอานอยู่ในสายตาแต่เมื่อกี้เฉินผิงอานถีบลูกชายของตัวเองกระเด็นออกไปเลยอีกทั้งแววตานั่นเยือกเย็นมากเหมือนกับเห็นศัตรูอย่างนั้นนี่ทำให้ไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่กล้าไปเจอกับเรื่องที่ไม่สบายใจทำได้แค่อดทนไว้
"เอ่อผมจะบอกกับฉิงเฉินให้นอกจากนี้ถ้าเป็นความต้องการของคุณย่างั้นก็ให้ตัวคุณย่าเองมาแล้วกัน……"
พูดจบเฉินผิงอานก็ปิดประตูดังโครมโดยทันที
อะไร?
ไป๋หย่งเซิ้งยืนอยู่ที่ประตูกำหมัดทั้งสองข้างแน่นโมโหจนแทบจะไม่ได้หายใจขึ้นมา
"พ่อผมเจ็บมากส่งผมไปโรงพยาบาลก่อน……"
ไป๋เหลียนซานเวลานี้ทั่วท้้งใบหน้าขาวซีดมองออกว่าถีบนี้ของเฉินผิงอานไม่เบาอย่างแน่นอน
"ฮึขายหน้า!"
ไป๋หย่งเซิ้งประคองลูกชายที่มีความเจ็บปวดเหลือทนจากนั้นก็ลงตึกอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย
แต่ฉากนี้เฉินผิงอานไม่มีความสนใจใดๆที่จะไปติดตาม
"พี่เขยเท่มาก……瘾ไป๋เหลียนซานนั่นฉันอยากที่จะจัดการเขามานานแล้วเมื่อกี้คุณถีบเขาต้องเรียกว่าซะใจ……"
ไป๋เซว่นั่งบนโซฟามองดูทั้งหมด
ทันใดนั้นเหมือนลืมไปว่าตัวเองเวลาปกติด่าเฉินผิงอานเป็นคนไร้ค่ายังไงก็มองเฉินผิงอานแล้วพูดอย่างนั้น
เฉินผิงอานเพียงแค่ยิ้มเบาๆไม่ได้พูดอะไรจากนั้นไม่พูดพร่ำแล้วก็มุดเข้าไปในห้องครัว
เวลานี้ไป๋ฉิงเฉินก็เดินออกมาจากห้องพอดี
"พ่อสองพวกเขาไปแล้ว……"
"พี่ฉันจะพูดกับพี่เมื่อกี้……"
ไป๋เซว่เวลานี้ก็เริ่มเล่าเสริมเติมแต่งขึ้นมา
อาหารกลางวันโจวหมิงเฟิ้งสามีและภรรยาไม่ได้กลับมากินข้าวเพราะว่าไป๋หย่งกวงยังต้องทำการฝึกฝนฟื้นฟูเล็กน้อยที่โรงพยาบาลดังนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็อยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนไป๋หย่งกวงหนึ่งวัน
กระทั่งเรื่อทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่บ้านพวกเขาสองคนก็ไม่รู้เลย
ในขณะที่ทำการฝึกฝนฟื้นฟูเสร็จสองคนเพิ่งออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาลจู่ๆก็ได้มีสายโทรศัพท์เข้ามา
"คุณรับ……"
พอเห็นสายที่โทรเข้ามาทันใดนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็เอาโทรศัพท์ส่งให้ไป๋หย่งกวงที่ถือไม้ค้ำอยู่
"ฮัลโหลใครอ่ะ……"
ไป๋หย่งกวงก็ไม่ได้ดูสายที่โทรเข้าแล้วกดรับสายไปทันที
"พี่ฉันเองฉ่ายเฟิง"
กัวฉ่ายเฟิงภรรยาของไป๋หย่งเซิ้งก็คือแม่ของไป๋เหลียนซานที่ถูกเฉินผิงอานถีบ
"เอ่อฉ่ายเฟิงเหรอเป็นอะไร?หาผมมีธุระอะไรเหรอ?"
สำหรับโทรศัพท์นี้ไป๋หย่งกวงแปลกประหลาดบ้างเล็กน้อย
"ฮึๆมีธุระมีธุระแน่นอนคนไร้ค่าบ้านของพวกคุณทำร้ายลูกชายของฉันบาดเจ็บฉันจะบอกให้เดิมทีวันนี้หย่งเซิ้งและเหลียนซานมีน้ำใจมาเรียกฉิงเฉินหลานสาวไปประชุมที่บริษัทนี่ก็เป็นความต้องการของคุณย่าใครจะคิดว่าคนไร้ค่าของบ้านพวกคุณไม่รู้ว่ากินยาอะไรผิดไม่เพียงไม่ให้หย่งเซิ้งพ่อลูกเข้าบ้านยังถีบเหลียนซานตกบันไดไปเลยฉันจะบอกให้ถ้าลูกชายของฉันเป็นอะไรไปฉันจะเอาเรื่องกับบ้านพวกคุณอย่างถึงที่สุด!"
"อ๊ะ?มีเรื่องอย่างนี้ด้วย?"
ไป๋หย่งกวงพอได้ยินก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดทันที
"ทำไมคุณคิดว่าฉันตั้งใจเอาชีวิตความปลอดภัยของลูกชายมาล้อเล่นกับคุณเหรอตอนนี้ลูกชายของฉันนอนอยู่ที่โรงพยาบาลฉันจะบอกคุณพี่ใหญ่เรื่องนี้บ้านพวกคุณถ้าไม่อธิบายให้ฉันฉันจะไม่วางมืออย่างเด็ดขาดฮึคิดไม่ถึงว่าสั่งคนนอกมารังแกหย่งเซิ้งพ่อลูกแถมยังทำร้ายคนอีก……ฉันจะต้องบอกคุณแม่แน่นอนให้คุณแม่ทวงความยุติธรรมให้บ้านพวกเรา!พวกคุณสองคนรอก่อนเถอะ!"
พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกวางไปทันที
ไป๋หย่งกวงถือโทรศัพท์บนใบหน้ายังไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร
"……"
"หรือว่าไอ้ตัวทำลายในบ้านนั่นก่อเรื่องอีกแล้ว?"
โจวหมิงเฟิ้งก็มีใบหน้ามืดมนขึ้นมาทันที
"อะไร?"
"ในโทรศัพท์เสียงของกัวฉ่ายเฟิงดังออกอย่างนั้นฉันได้ยินหมดแล้วไอ้ตัวทำลายคนนี้กินนอนที่บ้านทั้งวันยังไม่พอแต่ละวันหาเรื่องให้กับบ้านพวกเราดูสิกัวฉ่ายเฟิงคนนี้เป็นพวกมีความคิดอะไรคุณก็รู้ถูกเขาเข้ามาพัวพันนี่บ้านของพวกเราจะต้องโดนรังควานไม่สงบสุขแน่แล้ว!"
ไป๋หย่งกวงก็ค่อยๆย่นหัวคิ้ว
"แต่เรื่องนี้พวกเรายังคงต้องกลับไปถามให้ชัดเจนก่อนผิงอานเด็กนั่นผมคิดว่าไม่เหมือนคนที่วู่วามไม่แน่ว่าเรื่องนี้ยังมีเรื่องแอบซ่อนอยู่ก็ยังไม่แน่!"
"ถามบ้าอะไรถ้าไม่ใช่คนไร้ค่านั่นก่อเรื่องคนอื่นเค้าจะโทรมาที่เบอร์คุณทำไม?"
โจวหมิงเฟิ้งพูดพรางก็โบกรถแท็กซี่คนหนึ่งทันที
"รอกลับไปแันจะต้องจัดการคนไร้ค่าที่กินนอนคนนี้ให้ดีๆซะหน่อยไม่จะต้องให้เขาหย่ากับฉิงเฉิน!"
ไป๋หย่งกวงที่เดินตามหลังมาได้ยินคำพูดนี้ส่ายหน้าฝืนยิ้มขึ้นมาชั่วครู่……
"คุณวางสายไปเลยเหรอ?"
มองเห็นเฉินผิงอานวางสายไปแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนอีกด้านของโซฟาไป๋ฉิงเฉินไม่ได้มีปฏิกริยากลับมาในทันที
"ใช่สิทำไมเหรอ?"
เฉินผิงอานถามอย่างไม่สนใจ
"เอ่อไม่ใช่บริษัทเกิดเรื่องอะไรขึ้นนะใช่แล้วจะต้องเป็นปัญหาของสัญญาอย่างแน่นอน"
"ไม่งั้นฉันไปดูที่บริษัทหน่อย……"
ถึงแม้ไป๋ฉิงเฉินจะพูดว่าไม่สนใจไม่ไปดูแลเรื่องเหล่านี้
แต่ความอยู่รอดของบริษัทหล่อนกลับแคร์มาก
"คุณคิดดูก่อนหน้านี้พวกเขาทำยังไงกับคุณฉิงเฉินไม่ต้องพูดไป๋หย่งเซิ้งรีบร้อนโทรหาคุณอย่างนี้จะต้องเพราะเรื่องสัญญาอยู่แล้ว"
"ฉันรู้เพียงแค่……ถ้าสัญญาเกิดปัญหาขึ้นแล้วด้านหลัง……"
เฉินผิงอานยิ้มพูดเบาๆ"อันนี้คุณยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงเลยฉิงเฉินเมื่อคืนผมโทรหาเพื่อนร่วมเรียนของโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนแล้วเพื่อนผมบอกว่าเรื่องนี้เขาจะไปจัดการยังพูดว่าถึงเวลานั้นสัญญานี้ให้คุณเก็บไว้ก็พอแล้วไม่ว่าคุณจะไปตอนไหนต่างก็ถือว่านับหมด"
"จริงเหรอ?"
เฉินผิงอานพยักหน้า
"ผิงอานรอหลังจากเรื่องครั้งนี้ผ่านไปแล้วพวกเราจะต้องไปเมืองเฉิงตูให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ต้องเลี้ยงข้าวเพื่อนของคุณเขาช่วยพวกเรามากแล้ว"
เฉินผิงอานยิ้มกว้างพูด"ค่อยดูอีกทีแล้วกัน"
ได้ยินเฉินผิงอานพูดอย่างนี้ในใจของไป๋ฉิงเฉินก็สงบลงไม่น้อย
แต่อีกด้านหนึ่งในห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน
"พ่อหรือว่าจะต้องไปหาถึงที่บ้านจริงๆ?ไปตามไป๋ฉิงเฉินนั่นกลับมารับตำแหน่งผู้รับผิดชอบโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนใหม่แล้วไปเจรจาสัญญากับประธานลู่?"
สีหน้าของไป๋เหลียนซานค่อนข้างดูน่าเกลียดตอนที่พูดเห็นชัดมากว่าไม่ยินยอมเล็กน้อย
"ใช่พ่อไป๋ฉิงเฉินนั่นก็คือมารสุนัขจิ้งจอกจะต้องมีเรื่องที่น่าอับอายของเขาและประธานลู่นั่นอย่างแน่นอนจากนั้นไป๋ฉิงเฉินใช้เรื่องนี้ขมขู่เขาไม่งั้นประธานลู่นั่นอาศัยอะไรไม่เจรจากับพวกเราในเมื่อสัญญาต่างก็ได้เซ็นไปแล้ว"
ไป๋จินเหลียนเวลานี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
พอคิดถึงเดิมทีอยากที่จะยืมเรื่องนี้โจมตีไป๋ฉิงเฉินให้แรงๆสักหน่อยกลับคิดไม่ถึงว่าสุดท้ายกลายเป็นยกหินกระแทกเท้าตัวเองอีกทั้งยังถูกคุณย่าบ่นว่าสองสามประโยคพวกญาติก็ยิ่งผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่ตัวเองและครอบครัวอย่างไม่สนใจ
ไป๋จินเหลียนเองก็เอาบัญชีทั้งหมดคิดไว้ที่ตัวไป๋ฉิงเฉินอยู่แล้ว
ยังไงในความคิดของหล่อนเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนแล้วเป็นไป๋ฉิงเฉินคนเดียวที่ก่อเรื่องขึ้นอีกทั้งทำให้พ่อของตัวเองไม่สามารถเซ็นสัญญาได้อย่างราบรื่นแต่คิดไปที่ตัวของไป๋ฉิงเฉินโดยสิ้นเชิง
"พอแล้วไม่ต้องพูดแล้ว"
"พ่อ……"
"พอแล้วไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นไปเถอะ!"
ทันใดนั้นไป๋จินเหลียนก็กระทืบเท้าแล้วหันหัวเดินออกจากห้องทันทีเขาไม่ไปหรอกเขาอาศัยอะไรก้มหัวให้ไป๋ฉิงเฉินเขาไม่มีทางอย่างแน่นอน
มองไป๋จินเหลียนที่เดินออกมาจากห้องทำงานอย่างโมโหนั่นไป๋หย่งเซิ้งทำได้แค่ส่ายหน้าจากนั้นมองไป๋เหลียนซานแวบหนึ่งพูดว่า"ไปเถอะพวกเราไปสองคนเรื่องนี้ไม่สามารถทำให้ล้าช้าถ้าเกิดเรื่องนี้ล้มเหลวแล้วจริงๆพวกเราก็จะไม่มีอะไรเลยอย่างแท้จริง!"
ในขณะที่เฉินผิงอานกำลังเตรียมอาหารในห้องครัวนั้นประตูของห้องก็ถูกเคาะดังขึ้นมา
"ใครอ่ะ……"
ไป๋เซว่ที่เล่นเกมอยู่บนโซฟาตระโกนออกมา
"ผมเองพ่อสองของเธอไป๋หย่งเซิ้ง!"
ในเมื่อต่างก็ก้มหัวให้แล้วไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่ได้แสดงความหยิ่งพยองอีกพูดประโยคหนึ่งต่อประตูเหล็กที่เก่าทรุดโทรม
ไป๋เซว่พอได้ยินสีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทันทีมองไป๋ฉิงเฉินแวบหนึ่งที่ดูเอกสารอย่างตะลึงเล็กน้อยเหมือนกันอยู่ด้านข้าง
"พี่……"
"เธอไปเปิดประตู!"
พูดจบไป๋ฉิงเฉินก็เดินเข้าไปในห้องโดยทันที
เฉินผิงอานเดินออกมาจากห้องครัวเพราะว่ากำลังทำอาหารอยู่จึงสวมผ้ากันเปื้อนนี้ดังนั้นดูไปแล้วก็ไม่มีพลังความน่ากลัวอะไรจริงๆ
"ฉิงเฉินมอบให้ผมจัดการแล้วกันคุณไปพักผ่อนในห้องเถอะ!"
ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้า
นี่ก็คือก่อนหน้านี้พูดคุยตกลงกันไว้แล้วหล่อนไม่อยากเผชิญหน้ากับพ่อสองของตัวเอง
พอประตูเปิดไป๋หย่งเซิ้งพ่อลูกมองเห็นเครื่องเรือนที่อยู่ในห้องอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
"พ่อสองคุณมาแล้ว……"
"ไป๋เซว่ใช่ไหมโตแล้วสวยอย่างนี้"
ไป๋เซว่พยักหน้าก็ไม่ได้พูดอะไรหันหัวแล้วก็เดินไปทางโซฟาห้องรับแขกเล่นเกมต่อเห็นชัดว่าไป๋เซว่ก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีใดๆต่อไป๋หย่งเซิ้งพ่อลูกอย่างแท้จริง
"ไป๋ฉิงเฉินล่ะ……ให้เขาออกมา!"
เห็นท่าทางอย่างนี้ทันใดนั้นในใจของไป๋เหลียนซานก็ไม่พอใจชั่วครู่หนึ่งแล้วก็ตระโกนเข้าไปในห้อง
พอเห็นเครื่องเรือนในบ้านไป๋เหลียนซานก็มีใบหน้าที่รังเกลียดเดิมทีก็ไม่อยากที่จะเข้าไป
แน่นอนไป๋หย่งเซิ้งที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก็มีความรู้สึกที่เหมือนอย่างนี้กับลูกชายของตัวเอง
"ฉิงเฉินป่วยพวกคุณมาหาเขามีธุระอะไรหรือเปล่า?"
ในเวลานี้เฉินผิงอานค่อยๆผูกผ้ากันเปื้อนแล้วเดินไปที่ประตูพูดเสียงเบา
"แกเป็นใครไสหัวไปหน่อยให้ไป๋ฉิงเฉินออกมาคิดไม่ถึงว่าจะแกล้งป่วยอยู่ที่บ้านหรือเขาไม่รู้ว่าสัญญาที่ตัวเองเจรจามีปัญหา?"
ฟึ่บ!
โอ๊ย!
ระหว่างที่ไป๋เหลียนซานตระคอกโวยวายนั้นเฉินผิงอานก็ถีบบนท้องน้อยของไป๋เหลียนซานทันที
เท้านี้เร็วมากแม้กระทั่งไป๋เหลียนซานเองต่างก็ไม่มีปฏิกริยาตอบกลับมา
และไป๋เซว่เวลานี้ที่ได้กลับไปนั่งที่โซฟาแล้วมองเห็นถีบนี้ก็คอหดทันที
ในใจอดที่จะคิดไม่ได้ว่าที่"บาร์อารมณ์สีดำ"วันนั้นฉากที่ถีบบนหน้าของพี่เพ่าที่มาจากเมืองเฉิงตูนั่น
"แกเฉินผิงอานแม่งคิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าถีบคน?"
สีหน้าของไป๋หย่งเซิ้งน่าเกลียดมาก
เฉินผิงอานมองไป๋หย่งเซิ้งอย่างเย็นชาพูดว่า"เขาเอะอะโวยวายมากทำไมคุณอยากจะถูกถีบด้วยเหรอ?"
ไม่ไว้หน้าใดๆให้ไป๋หย่งเซิ้งเลยสักนิดเฉินผิงอานก็ไม่สนใจว่าเป็นญาติอะไรในสายตาของเขามีเพียงฉิงเฉินถ้าใครพูดว่าฉิงเฉินเขาไม่ได้ยินก็แล้วไปขอแค่ได้ยินงั้นก็จะไม่ไว้หน้าใดๆกับคุณ
ไป๋เหลียนซานเวลานี้กุมท้องนั่งยองๆบนทางระเบียงน้ำตาไหลแม้กระทั่งจะพูดก็มีความยากลำบากเล็กน้อย
"แก……"
ยังไงไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่เหมือนลูกชายของตัวเองที่วู่วามอย่างนี้อดทนความโกรธพูดทันทีว่า"พวกเรามาหาหลานสาวฉิงเฉินสัญญาของบริษัทตอนนี้ต้องการให้เขาออกหน้าไปเจรจา"
เฉินผิงอานยิ้มเบาๆพูดว่า"ฉิงเฉินป่วยแล้วถ้าต้องการเจรจาสัญญารอฉิงเฉินหายป่วยก่อนค่อยว่ากัน!"
"คุณไปบอกฉิงเฉินพูดว่านี่เป็นความต้องการของคุณย่าให้เขารีบไปเอาสัญญานี้ทำให้เป็นผลอย่างนี้แล้วก็จะมีประโยชน์ต่อทุกคน!"
เพราะว่าเวลานี้เฉินผิงอานยืนอยู่ที่หน้าประตูดังนั้นเดิมทีไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่สามารถเข้าประตูไปได้
เดิมทีเมื่อก่อนเขาก็ไม่เคยเห็นเฉินผิงอานอยู่ในสายตาแต่เมื่อกี้เฉินผิงอานถีบลูกชายของตัวเองกระเด็นออกไปเลยอีกทั้งแววตานั่นเยือกเย็นมากเหมือนกับเห็นศัตรูอย่างนั้นนี่ทำให้ไป๋หย่งเซิ้งก็ไม่กล้าไปเจอกับเรื่องที่ไม่สบายใจทำได้แค่อดทนไว้
"เอ่อผมจะบอกกับฉิงเฉินให้นอกจากนี้ถ้าเป็นความต้องการของคุณย่างั้นก็ให้ตัวคุณย่าเองมาแล้วกัน……"
พูดจบเฉินผิงอานก็ปิดประตูดังโครมโดยทันที
อะไร?
ไป๋หย่งเซิ้งยืนอยู่ที่ประตูกำหมัดทั้งสองข้างแน่นโมโหจนแทบจะไม่ได้หายใจขึ้นมา
"พ่อผมเจ็บมากส่งผมไปโรงพยาบาลก่อน……"
ไป๋เหลียนซานเวลานี้ทั่วท้้งใบหน้าขาวซีดมองออกว่าถีบนี้ของเฉินผิงอานไม่เบาอย่างแน่นอน
"ฮึขายหน้า!"
ไป๋หย่งเซิ้งประคองลูกชายที่มีความเจ็บปวดเหลือทนจากนั้นก็ลงตึกอย่างทุลักทุเลเล็กน้อย
แต่ฉากนี้เฉินผิงอานไม่มีความสนใจใดๆที่จะไปติดตาม
"พี่เขยเท่มาก……瘾ไป๋เหลียนซานนั่นฉันอยากที่จะจัดการเขามานานแล้วเมื่อกี้คุณถีบเขาต้องเรียกว่าซะใจ……"
ไป๋เซว่นั่งบนโซฟามองดูทั้งหมด
ทันใดนั้นเหมือนลืมไปว่าตัวเองเวลาปกติด่าเฉินผิงอานเป็นคนไร้ค่ายังไงก็มองเฉินผิงอานแล้วพูดอย่างนั้น
เฉินผิงอานเพียงแค่ยิ้มเบาๆไม่ได้พูดอะไรจากนั้นไม่พูดพร่ำแล้วก็มุดเข้าไปในห้องครัว
เวลานี้ไป๋ฉิงเฉินก็เดินออกมาจากห้องพอดี
"พ่อสองพวกเขาไปแล้ว……"
"พี่ฉันจะพูดกับพี่เมื่อกี้……"
ไป๋เซว่เวลานี้ก็เริ่มเล่าเสริมเติมแต่งขึ้นมา
อาหารกลางวันโจวหมิงเฟิ้งสามีและภรรยาไม่ได้กลับมากินข้าวเพราะว่าไป๋หย่งกวงยังต้องทำการฝึกฝนฟื้นฟูเล็กน้อยที่โรงพยาบาลดังนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็อยู่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนไป๋หย่งกวงหนึ่งวัน
กระทั่งเรื่อทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่บ้านพวกเขาสองคนก็ไม่รู้เลย
ในขณะที่ทำการฝึกฝนฟื้นฟูเสร็จสองคนเพิ่งออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาลจู่ๆก็ได้มีสายโทรศัพท์เข้ามา
"คุณรับ……"
พอเห็นสายที่โทรเข้ามาทันใดนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็เอาโทรศัพท์ส่งให้ไป๋หย่งกวงที่ถือไม้ค้ำอยู่
"ฮัลโหลใครอ่ะ……"
ไป๋หย่งกวงก็ไม่ได้ดูสายที่โทรเข้าแล้วกดรับสายไปทันที
"พี่ฉันเองฉ่ายเฟิง"
กัวฉ่ายเฟิงภรรยาของไป๋หย่งเซิ้งก็คือแม่ของไป๋เหลียนซานที่ถูกเฉินผิงอานถีบ
"เอ่อฉ่ายเฟิงเหรอเป็นอะไร?หาผมมีธุระอะไรเหรอ?"
สำหรับโทรศัพท์นี้ไป๋หย่งกวงแปลกประหลาดบ้างเล็กน้อย
"ฮึๆมีธุระมีธุระแน่นอนคนไร้ค่าบ้านของพวกคุณทำร้ายลูกชายของฉันบาดเจ็บฉันจะบอกให้เดิมทีวันนี้หย่งเซิ้งและเหลียนซานมีน้ำใจมาเรียกฉิงเฉินหลานสาวไปประชุมที่บริษัทนี่ก็เป็นความต้องการของคุณย่าใครจะคิดว่าคนไร้ค่าของบ้านพวกคุณไม่รู้ว่ากินยาอะไรผิดไม่เพียงไม่ให้หย่งเซิ้งพ่อลูกเข้าบ้านยังถีบเหลียนซานตกบันไดไปเลยฉันจะบอกให้ถ้าลูกชายของฉันเป็นอะไรไปฉันจะเอาเรื่องกับบ้านพวกคุณอย่างถึงที่สุด!"
"อ๊ะ?มีเรื่องอย่างนี้ด้วย?"
ไป๋หย่งกวงพอได้ยินก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดทันที
"ทำไมคุณคิดว่าฉันตั้งใจเอาชีวิตความปลอดภัยของลูกชายมาล้อเล่นกับคุณเหรอตอนนี้ลูกชายของฉันนอนอยู่ที่โรงพยาบาลฉันจะบอกคุณพี่ใหญ่เรื่องนี้บ้านพวกคุณถ้าไม่อธิบายให้ฉันฉันจะไม่วางมืออย่างเด็ดขาดฮึคิดไม่ถึงว่าสั่งคนนอกมารังแกหย่งเซิ้งพ่อลูกแถมยังทำร้ายคนอีก……ฉันจะต้องบอกคุณแม่แน่นอนให้คุณแม่ทวงความยุติธรรมให้บ้านพวกเรา!พวกคุณสองคนรอก่อนเถอะ!"
พูดจบโทรศัพท์ก็ถูกวางไปทันที
ไป๋หย่งกวงถือโทรศัพท์บนใบหน้ายังไม่เข้าใจว่าเรื่องอะไร
"……"
"หรือว่าไอ้ตัวทำลายในบ้านนั่นก่อเรื่องอีกแล้ว?"
โจวหมิงเฟิ้งก็มีใบหน้ามืดมนขึ้นมาทันที
"อะไร?"
"ในโทรศัพท์เสียงของกัวฉ่ายเฟิงดังออกอย่างนั้นฉันได้ยินหมดแล้วไอ้ตัวทำลายคนนี้กินนอนที่บ้านทั้งวันยังไม่พอแต่ละวันหาเรื่องให้กับบ้านพวกเราดูสิกัวฉ่ายเฟิงคนนี้เป็นพวกมีความคิดอะไรคุณก็รู้ถูกเขาเข้ามาพัวพันนี่บ้านของพวกเราจะต้องโดนรังควานไม่สงบสุขแน่แล้ว!"
ไป๋หย่งกวงก็ค่อยๆย่นหัวคิ้ว
"แต่เรื่องนี้พวกเรายังคงต้องกลับไปถามให้ชัดเจนก่อนผิงอานเด็กนั่นผมคิดว่าไม่เหมือนคนที่วู่วามไม่แน่ว่าเรื่องนี้ยังมีเรื่องแอบซ่อนอยู่ก็ยังไม่แน่!"
"ถามบ้าอะไรถ้าไม่ใช่คนไร้ค่านั่นก่อเรื่องคนอื่นเค้าจะโทรมาที่เบอร์คุณทำไม?"
โจวหมิงเฟิ้งพูดพรางก็โบกรถแท็กซี่คนหนึ่งทันที
"รอกลับไปแันจะต้องจัดการคนไร้ค่าที่กินนอนคนนี้ให้ดีๆซะหน่อยไม่จะต้องให้เขาหย่ากับฉิงเฉิน!"
ไป๋หย่งกวงที่เดินตามหลังมาได้ยินคำพูดนี้ส่ายหน้าฝืนยิ้มขึ้นมาชั่วครู่……
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved