บทที่ 63 จินตนาการมักสวยงามเสมอ!

พอพูดจบเฉินผิงอานก็ไม่เปิดโอกสให้เสิ่นหรงฮวาได้พูดอธิบายแม้แต่น้อยพูดจบก็วางวายไปจากนั้นก็ลงมือทำอาหารต่อ......

อีกด้านที่เดิมนั้นกำลังปรึกษากับตระกูลฟางแห่งเมืองปินฟางหงเทาเรื่องปัญหาเขตพัฒนาอย่างเสิ่นหรงฮวาก็ถึงกับพูดแทรกเรื่องที่กำลังพูดอยู่

ถึงแม้ฟางหงเทาจะถือว่าเป็นนักธุรกิจในเมืองปินแทบจะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่อยู่ภายใต้เสิ่นหนงฮวา

แต่ในเมืองปินนี้เสิ่นหรงฮวาที่เป็นบุคคลที่รวยที่สุดและที่สำคัญปัจจุบันนี้เสิ่นหรงฮวาก็ได้ทำธุรกิจกับนักธุรกิจจากเมืองเฉินตูหลายคนแล้วเริ่มที่จะขยายธุรกิจไปทางเมืองเฉิงตูหรือแม้กระทั่งปักกิ่งก็มีโปรเจ็คที่กำลังคุยอยู่ตอนนี้

สามารถพูดได้ว่าภายในระยะเวลานั้นๆธุรกิจของเสิ่นหรงฮวาพัฒนาไปทุกๆด้าน

"คุณเสิ่นมีอะไรหรือครับเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า"

เห็นเสิ่นหรงฮวาที่ทำหน้าเสียจนมีเหงื่อไหลซึมออกมาฟางหงเทาก็รีบเอ่ยถามเสิ่นหรงฮวาทันที

เท่าที่เขารู้ว่าคนอย่างเสิ่นหรงฮวาไม่เคยมีเหตุการณ์ที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วจะเป็นอย่างนี้มาก่อน

"พี่ฟางเรื่องพัฒนาห้างร้านในเขตพัฒนาเมืองปินเอาไว้ค่อยคุยกันวันลังแล้วล่ะตอนนี้ผมมีเรื่องที่สำคัญมากกว่าต้องจัดการ"

พอพูดจบเสิ่นหรงฮวาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาฟางหนิงประธานบริหารเสิ่นชื่อกรู๊ป

"ฟางหนิงเธอมาที่นี่ตอนนี้เลยฉันมีเรื่องสำคัญให้เธอไปจัดการอีกอย่างครั้งที่แล้วที่คุณเฉินได้ให้เธอไปตรวจสอบให้ละเอียดเป็นยังไงบ้างแล้ว"

"รับทราบค่ะฉันจะไปเดี๋ยวนี้และยังมีตัวแทนจำหน่ายหลายรายที่มาหาฉันถึงวิลล่า.มีเรื่องเร่งด่วนที่จะเป็นต้องจัดการให้เสร็จภายในวันนี้"

พอพูดจบก็วางสาย

สำหรับเรื่ององเฉินผิงอานตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะทำมั่วได้

ที่ได้มาทำธุรกิจของเฉิงตูได้นั้นนั่นก็เพราะการแนะนำของจ้าวตงเซิ้ง
หรือแม้กระทั่งได้เริ่มลงทุนกับเทียนไป๋กรู๊ปหลายโครงการมีมูลค่ามากกว่าสามพันล้านและยังมีโครงการอสังหาริมทรัพย์อีกสองโครงการที่ปักกิ่งธุรกิจนี้มีมูลค่ามากกว่าหมื่นล้านทั้งงหมดนี้ก็เป็นเพราะเฉินผิงอาน

เดิมทีเมื่อวานนี้ตอนที่เฉินผิงอานพูดกับเขานั้นเขาคิดว่าเฉินผิงอานจะไม่เร่งรีบเลยคิดจะไปแก้ไขปัญหาเขตพื้นที่พพัฒนาเมืองปินใหม่ก่อนแต่พอได้รับสายอีกครั้งก็ทำให้เขาต้องรีบวางมือจากเรื่องทั้งหมดแล้วไปจัดการเรื่องนี้

สำหรับเขาที่เป็นนักธุรกิจอะไรที่สำคัญกว่าเขานั้นก็แยกแยะออกอย่างชัดเจน

"คุณเสิ้นเมื่อกี้คุณพูดถึงคุณเฉิน"

"ใช่คนที่.......เป็นลูกเขยของตระกูลไป๋เฉินผิงอานคุณชายเฉินหรือเปล่าครับ"

ทันใดนั้นฟางหงเทาก็รีบถามขึ้นมาทันทีตอนนี้เอ่นถามก็ถามอย่างระมัดระวัง

พอได้ยินคำของฟางหงเทาหน้าของเสิ่นหรงฮวาถึงกับเปลี่ยนไปทันทีจากนั้นก็รีบถามฟางหงเทา"คุณก็รู้จัดคุณเฉินหรอ"

เรื่องที่ฟางหงเทารู้จักเฉินผิงอานถือว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์สำหรับเสิ่นหรงฮวาอยู่บ้าง

"ก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องเข้าใจผิดกันกับคุณเฉินหานิดหน่อยพอเมื่อกี้ได้ยินคุยพูดว่าคุณเฉินกำลังตรวจสอบเรื่องอะไรอยู่ผมพอจะช่วยได้ไหมบอกตามตรงนะครับว่าระหว่างมกับคุณเฉินนั้นมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อยเมื่อถึงตอนนั้นไม่รู้จะรบกวนให้คุณเสิ่นช่วยให้ผม....."


"ในเมื่อคุณกับคุณเฉินมีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อยไม่ใช่เข้าใจผิดเรื่องใหญ่อะไรผมคิดว่าคุณเฉินก็คงไม่ถือสาอ้อใช่แล้วเหมือนกัว่าคุณกับเทียนไป๋กรู๊ปจะเคยทำธุรกิด้วยกันใช่ไหม"

ฟางหงเทาพยักหน้าและในขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสัย

"งั้นก็ดีมากคุณเฉินอยากให้........"

..............

เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นไป๋ฉิงเฉินจะมีกระจิตกระใจทานข้าวได้ยังไงมื้อเที่ยงก็กินแค่ซุปแล้วก็เดินกลับเข้าไปพักในห้องของตัวเอง

ตอนที่เธอนอนพักแยู่บนเตียงก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เป็นเบอร์แปลกแต่พอไป่ฉิงเฉินกดรับถึงได้รู้ว่าเป็นเบอร์ของไป๋จินเหลียน

"ไป๋ฉิงเฉินเธอคิดว่าตัวเองเก่งนั้นรึไงที่ไปคุยตกลงเซ็นสัญญาได้แล้วแล้วตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างล่ะ"

"ไป๋จินเหลียนเธออย่ามาอวดดีนะสัญญานี่ฉันเป็นคนได้มาพวกเธอทำอย่างนี้ชั่วร้ายมาก!"

พอไป๋ฉิงเฉินได้ยินเสียงของไป๋จินหลียนที่พูดจายะโสโอหังก็ถึงกับโกรธขึ้นมาแต่หล่อนก็ไม่สามารถทำอะไรได้และหล่อนก็ไม่สามารถที่จะโทรไปหาประธานลู่บอกว่าตอนนี้ที่บริษัทได้เปลี่ยนคนรับผิดชอบโปรเจ็คนี้แล้วฉันไม่สามารถเข้าร่วมโปรเจ็คนี้ได้แล้วคุณก็ไม่ต้องร่ามมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉันแล้ว

ไป๋ฉิเฉินทำเรื่องอย่างนี้ไม่ได้และในใจก็ไม่อยากจะเห็นโรงกลั่นเหล้าล้มละลายหายไป

"ชั่วร้ายงั้นหรอแล้วยังไงล่ะก่อนหน้านี้ฉันก็บอกไปแล้วไงว่าเรื่องนี้ยังไม่จบตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเป็นของพวกเราถึงตอนนั้นจะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยวกับครอบครัวพวกเธอแล้วพวกเธอจะไม่ได้อะไรสักอย่าง!"

"และความสามารถของเธอจะเก่งและะมีประโยชน์อะไรบริษัทกรู๊ปจะช้าหรือเร็วก็เป็นของพ่อฉันครอบครัวของพวกเธอจะไม่ได้อะไรสักอย่างฮ่าๆๆๆๆ........"

เดิมทีนั้นไป๋จินเหลียนนั้นโกรธมากแต่พอหล่อนได้ยินข่าวนี้ก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์ดีขึ้นมาและอดไม่ไหวที่จะโทรหาไป๋ฉิงเฉินเพื่อจะยั่วโมโหหล่อน

"พวกเธอจะได้รับผลกรรมที่ทำไว้แน่และสักวัพวกเธอจะต้องมาขอร้องฉันไป๋ฉิงเฉินแน่!"

พูดจบไป๋ฉิงเฉินก็ตัดสายด้วยความโมโห

พอตัดสายน้ำตาก็ไหลลงมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่

และไป๋ฉิงเฉินไม่ได้สังเกตเห็นว่าเฉินผิงอานนั้นได้มายืนอยู่ข้างๆหล่อนแล้วแต่แค่ไม่พูดอะไรออกมาได้แต่ยืนอยู่อย่างนั้น

"ผิงอาน......."

ไป๋ฉิงเฉินรีบเช็ดน้ำตาคราน้ำตาทันที

เฉินผิงอานส่งกระดาษทิชชู่ให้กับไป๋ฉิงเเฉิแล้วเอ่ย:"จะให้ฉันโทรหาเพื่อนคนนั้นของฉันไหมให้เขายกโครงการนี้ให้กับเธอรับผิดชอบก็ได้แล้ว"

ไป๋ฉิงเฉินส่ายหัวแล้วเอ่ย:"ผิงอานไม่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องบุญคุณเคยขอความช่วยเหลือแล้วครั้งนึงไม่ควรจะไปขออีกอีกอย่างฉันคิดว่าให้พวกอารองได้เจรจาต่อรองกับบริษัทของประธานลู่ซึ่งมีเรืองมากมายให้จัดการและฉันก็เด็กอยู่ให้จัดการเรื่องพวกนี้น่าจะไม่เหมากพวกเขามีประสบการณ์มากกว่าอีก"

เฉินผิงอานได้แต่ยิ้มบางจากนั้นก็ยื่นมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้กับไป๋ฉิงเฉิน

"วางใจเถอะหนังสือสัญญาฉบับนี้จะมีแค่เธอที่ได้ทำและก็มีแค่เธอเท่านั้นที่จะมาคุยเรื่องสัญญาได้คนอื่นไม่มีสิทธิทำได้"

"เธอเชื่อไหม"

ไป๋ฉิงเฉินก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตาแล้วเอ่ย:ถ้าฉันบอกว่าไม่เชื่อนายจะโกรธไหม"

เฉินผิงอานพยักหน้าอย่างจริงจัง

"งั้นฉันเชื่อ"

"ที่จริงแล้วการตกลงเซ็นสัญญาได้ถือว่าเป็นเรื่องดีต่อโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนและก็เป็นเรื่องดีต่อตระกูลถ้าหากคุณย่ามาคุยกับฉันก่อนกน้านี้ฉันก็จะไม่รู้สึกอะไรเพราะถึงยังไงฉันก็ยังเด็กอยู่ในบริษัทมีคนที่มีประสบการณ์มากกว่าแต่คุณย่ากลับทำอย่างนี้ไม่ใช่เป็นการรังแกคนหรอกหรอ"

เฉินผิงอานพยักหน้า

"ใช่คุณย่านั่นถือว่ารังแกคนอื่นจริงๆกลับไปฉันจะให้เขามาขอโทษเธอด้วยตัวเองถึงบ้าน"

"นายพูดโม้อีกแล้วก่อนหน้านี้ทำไมฉันคิดว่านายเป็นคนซื่อแล้วดูตอนนี้สิเริ่มจะขี้โม้แล้ว"

ทันใดนั้นก็ทำให้ไป๋ฉิงเฉินอารมณ์ดีขึ้นมา

"โอ๊ยอายุปูนนี้แล้วยังไม่มีคนเชื่ออีกฉิงเฉินเธอรอดูเถอะภายในสามวันคุณย่าจะต้องมาขอโทษเธอด้วยตัวเองถึงบ้านแต่ก่อนอื่นเธอต้องเชื่อฟังฉันได้ไหม"

"คุณย่าไม่มาหรอกและคุณยายก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเราพักอยู่ที่ไหน"

เฉินผิงอานหัวเราะเบาๆ

"เรื่องนี้ไม่สำคัญเรื่องสำคัญก็คือภายในสามวันคุณย่าจะต้องมาขอโทษเธอด้วยตัวเองถึงบ้านแล้วเธอจะให้รางวัลอะไร"

ไป๋ฉิงเฉินถึงกลับหันหน้าไปมองเฉินผิงอานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มจากนั้นก็เมิ้มปากถาม:"ถ้าหากว่าคุณย่ามาที่นี่จริงอย่าว่าแต่มาขอโทษเลยแค่มาเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่นายอยากได้รางวัลอะไรก็บอกมาเย"

เฉินผิงอานก็ทำหน้ามีเลสนัยแล้วเอ่ย:"งั้นก็ดีถ้าหากคุณย่ามาจริงๆล่ะก็เธอต้องรับปากให้ฉันขึ้นไปนอนบนเตียงได้หนึ่งคืนและต้องได้ชิมรสลิปสติกของเธอด้วย"

"ผิงอานนายไอ้คนบ้า!"

เดิมที่เมื่อคืนก็ถือเป็นโอกาสดีแล้วแต่ว่าสุดท้ายแล้วเฉินผิงอานก็ยังไปนอนที่เตียงทหารเหมือนกับสัตว์ร้ายที่นอนหลับไหลทั้งคืน

และอีกฝั่งวิลล่าของตระกูลไป๋

ไป๋จินเหลียนที่กำลังมองโทรศัพท์ตัวเองที่ถูกตัดสายไปก็ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น

"คุณพ่อคะยัยไป๋ฉิงเฉินนั่นคงไม่กล้าที่จะเหิมเกริกแล้วยังก็จะให้หนูคุกเขาอีกสักวันนูจะต้องทำให้เขามาคุกเข่าขอร้องหนูให้ได้จากนั้นหนูก็จะเตะเขากระเด็นออกไป......"

พูดพร้อมกับทำสีหน้าโหดเหี้ยมไป๋จินเหลียนเหมือนจินตนาการไปก่อนแล้วว่าไป๋ฉิงเฉินได้มาคุกเข่าขอร้องหล่อนตรงหน้าจากนั้นหล่อนก็ใช้เท้าเตะไปที่ท้องของไป๋ฉิงเฉินทำให้รู้สึกสะใจ

"เหอะไม่ดูตัวเองยังจะมาสู้กับพวกเราคุณย่าบอกว่าถึงแม้หล่อนจะเป็นหงส์ก็ต้องกลายมาเป็นแค่แม่ไก่ที่เชื่อฟังเท่านั้น!"

ไป๋เหลียนชานพูดจบก็ระเบิดหัวเราะออกมา

ไป๋หย่งเซิ้งที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มขึ้นมาดูออกว่าพวกเขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ

ต่อมาไป๋หย่งเซิ้งก็จัดการกับอารมณ์ให้กลับมานิ่งรอเท้าหนังที่ขัดจนเป็นเงาผมก็ถูกจัดทรงเป็นเงา

"ฉัจะไปหาประธานลู่เพื่อคุยเรื่องสัญญาต่อพวกเธอก็รออยู่ที่บ้านละกันสองวันนี้ก็อย่าหาเรืองมาให้ฉันได้ปวดหัวรอให้ฉันคุยเรื่องเงินลงทุนกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนสำเร็จก่อนพอถึงตอนนั้นเงินลงทุนก้อนแรกก็มีมูลค่าถึงหกร้อยล้านเมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็รวยแล้ว!"

มองไปที่ลูกสาวของตัวเองด้วยสายตาที่ไม่ได้ปิดบัง

"ทำไมเยอะจังเลยหกร้อยล้าน......"

ไป๋เหลียนชานถึงกับอึ้ง

"คิดไม่ถึงว่ายัยไป๋ฉิงเฉินนั่นจะมีความสามารถขนาดนี้ทว่าก็ไม่ได้ไปตกลงเซ็นสัญญาเพื่อเรา....ไม่แน่อาจจะทำอะไรลับหลังพวกเรากับประธานลู่ก็ได้นะ!"ไป๋จินเหลียนที่รู้สึกแคลงใจไม่ลืมที่จะคิดทำให้ไป๋ฉิงเฉินแปะดปื้อน

"ฮ่าๆๆ......ไม่ว่าหล่อนจะได้สัญญามาด้วยวิธีใดก็ตามตอนนี้โครงการนี้ก็เป็นฉันเป็นคนรับผิดชอบขอแค่ได้เงินลงทุนมาพอถึงตอนนั้นพวกเราก็นอนกินนอนใช้ไปตลอดชีวิตได้!"

"ใช่แล้วค่ะคุณพ่อพอถึงตอนนั้นก็สร้างวิลล่าให้หนูสักหลังที่เฉิงตู!"

"คุณพ่อหนูไม่เอาวิลล่าหนูอยากได้รถใหม่!"

พอได้ยินไป๋หย่งเซิ้งพูดอย่างนั้นทั้งสองก็รู้สึกว่าเงินตั้งมากมายมากองอยู่ตรงหน้าตัวเองและยังมีวิลล่ารถ.......

ไป๋หย่งเซิ้งที่ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพอใจออกมา

"ไม่มีปัญหาแน่นอนพอถึงตอนที่ได้เงินลงทุนมาพวกเราก็เปลี่ยนบ้านใหม่เปลี่ยนรถใหม่......."

พอพูดจบไป๋หย่งเซิ้งจัดการกับชุดตัวเองจับเอาเนกไทที่ตัวเองไม่ชอบผูกเอามาผูกไว้ที่คอแล้วก้าวยาวๆออกไปจากวิล่าไป

"ฉันไปสู้เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของครอบครัวของเรา.........ฮาๆๆๆๆ....."

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

503