บทที่ 55 ยั่วโมโหสำเร็จ!
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 28,2021
"ฮ่าๆไป๋ฉิงเฉินเธอจะให้ฉันขำตายเหรอ?"
"เธอจะไปเจรจาเธอทำให้ประธานลู่ไม่พอใจแล้วเธอจะไปเจรจายังไงฉันกลัวว่าตอนนี้ประธานลู่จะรำคาญตั้งแต่เห็นเธอแล้ว!"
ไป๋เหลียนซานหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ฉิงเฉิน
ยิ่งรู้สึกสะใจขึ้นไปอีก
"นั่นสิมันใช่เรื่องง่ายที่ไหนล่ะโรงกลั่นเหล้าเสฉวนเป็นบริษัทอยู่ในระดับไหนแล้วส่วนโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเป็นแค่บริษัทเล็กๆที่กำลังจะล้มละลายและรายล้อมไปด้วยข่าวลบๆอาจจะโดนเขาดูถูกด้วยซ้ำ"
"หลานฉิงเฉินเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเลยนะและตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลแล้วหากจัดการไม่ดีและทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองใจมันจะกระทบไปทั้งตระกูล"
ไป๋หย่งเซิ้งพูดอย่างจริงจัง
มันเหมือนกับพ่อกำลังสั่งสอนลูกของตัวเอง
"นั่นสิแม้แต่พ่อและพวกเราก็ไม่สามารถเจรจาได้สำเร็จถ้าเธอไปเขาจะยอมเจรจาด้วยเหรอ?เธอจะไปเจรจากับเขาในฐานะอะไร?อดีตผู้บริหารหรือพนักงานโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนล่ะ?"
ตอนนี้ไป๋จินเหลียนพูดด้วยใบหน้าเยาะเย้ย
ตั้งแต่เด็กเธอก็ไม่ชินที่เห็นพี่สาวคนนี้ซึ่งแก่กว่าตัวเองไม่กี่วันและมักจะเรียกแค่ชื่อเธอโดยตรง
ตอนนี้จึงรีบคว้าโอกาสนี้และไม่ปล่อยมันไปง่ายๆไป๋ฉิงเฉินคนที่เมื่อก่อนเคยกดเธอไว้ในทุกๆด้าน
"พวกคุณทำไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำไม่ได้คุณย่าคะหนูจะไปคุยเรื่องสัญญาความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนพรุ่งนี้เช้าค่ะและหนูจะพยายามทำให้สำเร็จค่ะ"
ตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว
"พยายามทำให้สำเร็จเหรอ?เมื่อกี้ที่บอกว่าเธอจะไปเจรจาความร่วมมือนี้และที่คุณย่าบอกไปแล้วว่าอย่าทำให้เสียผลประโยชน์มากเกินไปเรื่องนี้ทำไม่ได้ก็อย่าเพิ่งโม้ไปทำอย่างกับว่าตัวเองมีความสามารถมาก"
"นั่นสิถ้ามีความสามารถจริงโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนคงไม่เป็นเหมือนตอนนี้หรอก..."
"เฮ้ฉันจำได้ว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก่อนหน้านี้ค่อนข้างดีทำไมเมื่อมันอยู่ในมือเธอแล้วมันกลายเป็นแบบนี้!"
"นี่ก็เป็นเรื่องปกตินะยังไงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเปิดบริษัทได้ที่ไหนล่ะ..."
"นั่นสิๆ...บริษัทกำลังจะล้มละลายก็แค่ยัดมันเข้ามาที่บริษัทส่วนตัวเองแค่เอากำไรและหาทางรอดไปเฮ้อคิดไม่ถึงเลยเมื่อก่อนก็เห็นว่าเธอเก่งในทุกๆด้านทำไมตอนนี้หลายเป็นแบบนี้เนี่ย..."
"ก็ผู้หญิงเนาะไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อแต่งงานก็ต้องเป็นแม่บ้านอยู่บ้านอยู่ดี"
"อ้อถ้าคุณไม่พูดฉันก็ลืมเลยนะเนี่ยไอ้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านของครอบครัวเธอที่เป็นแค่ขยะไร้หัวนอนปลายเท้าเฮ้อจินตนาการออกเลยใช้ชีวิตอยู่กับไอ้ขยะนี่ทุกวันไอคิวก็คงจะต่ำลงอยู่แล้วแหละ!"
"พวกคุณ……"
"พอแล้ว!"ตอนที่ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินแดงก่ำด้วยความโกรธนั้นหวังสิ้วอวิ้นก็ตะคอกออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เมื่อคุณย่าอยู่ในครอบครัวนี้จะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดและเมื่อเธอออกคำสั่งมันจึงเป็นคำสั่งสูงสุดของบริษัทและไม่มีใครกล้าขัด
"ฉิงเฉินถ้าเธอสามารถเจรจาสัญญานี้ได้งั้นฉันก็ฝากเธอด้วยนะ"
หวังสิ้วอวิ้นมองไปที่ไป๋ฉิงเฉิน
ถ้าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนและโรงกลั่นเหล้าเสฉวนสามารถร่วมมือกันได้มันจะไม่เพียงแต่ทำให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนกลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่ยังทำให้เทียนไป๋กรุ๊ปของตระกูลไป๋ทั้งหมดกลับมามีชีวิตอีกด้วย
นี่ต้องเป็นโอกาสที่ดีอย่างแน่นอน
"โอเคค่ะคุณย่าหนูจะต้องเจรจาสัญญานี้สำเร็จแน่นอน"
ไป๋ฉิงเฉินนึกถึงสิ่งที่เฉินผิงอานพูดกับเธอเมื่อคืนและเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรไว้ใจเฉินผิงอาน
"เหอะๆขี้คุยจริงๆแค่คำพูดใครจะพูดไม่ได้บ้างล่ะ?"
ไป๋จินเหลียนพูดและหัวเราะเยาะทันที:"ถ้าเธอสามารถเจรจาความร่วมมือนี้สำเร็จฉันจะคุกเข่าลงและเรียกเธอว่าพี่ฉิงเฉินเลย"
"จินเหลียนไม่ต้องยุ่ง"
ไป๋หย่งเซิ้งพูดขึ้นเพื่อห้ามเขา
"พ่อจะเป็นอะไรไปล่ะจริงๆเรื่องนี้มันเป็นเพราะเธอไปก่อเรื่องไว้เองไม่รู้ว่าประธานลู่จะแค้นเธอแค่ไหนถ้าเธอสามารถเจรจาความร่วมมือนี้ได้ฉันจะคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนเลย"
"แต่ถ้าเธอทำไม่สำเร็จไป๋ฉิงเฉินเธอจะต้องออกไปจากตระกูลไป๋ซะและไม่มาวุ่นวายกับตระกูลไป๋อีกต่อไปเธอกล้าพนันไหม!"
พูดได้ว่าครอบครัวของไป๋หย่งเซิ้งนี่โหดร้ายมาก
ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ครอบครัวของไป๋หย่งกวงได้รับการโอนกลับเข้ามาในกลุ่มบริษัทและโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนยังพอมีเงินจำนวนหนึ่งเป็นเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวพวกเขาได้แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้พวกเขาต้องการได้ทุกอย่างและพวกเขาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ขับไล่ครอบครัวของไป๋หย่งกวงออกจากตระกูลไป๋อีกครั้ง
แบบนี้ครอบครัวของไป๋ฉิงเฉินจะไม่เหลืออะไรในที่สุด...
"เธอกล้ามั้ยล่ะถ้าไม่กล้าพนันก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน..."
"เฮ้อนี่ก็ถือว่าไม่แปลกนะแต่งงานกับไอ้ขยะเธอก็จะกลายเป็นขยะไปด้วยนี่ก็เป็นเรื่องปกติมาก!"
ทางด้านไป๋เหลียนซานก็พูดเยาะเย้ยขึ้นมาเขาไม่สนใจสักนิดว่าไป๋ฉิงเฉินจะคิดยังไงเสียงนั้นก็ไม่เบาเลยทุกคนในห้องประชุมนี้ได้ยินชัดเจน
"ทำไมฉันจะไม่กล้าล่ะแต่ฉันจะเพิ่มเดิมพันอีก"
"คุณย่าคะถ้าฉันสามารถเจรจาความร่วมมือนี้สำเร็จโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะต้องกลับมาอยู่ในมือหนูอีกครั้ง"
ไป๋ฉิงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอกครั้งนี้เธอเดิมพันศักดิ์ศรีและหน้าตาไว้กับสิ่งที่เฉินผิงอานพูดกับเธอเมื่อคืน
เมื่อก่อนเธอเคยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเฉินผิงอานดังนั้นเธอจึงเซ็นสัญญาภายใต้การบังคับของแม่เธอด้วยเหตุนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจึงถูกส่งมอบให้กับตระกูลโดยที่ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรเลยดังนั้นเธอก็ไม่กลัวอะไรแล้ว
"กลับไปอยู่ในมือเธอ?"
ในขณะนี้หวังสิ้วอวิ้นมองไปที่ลูกชายของเธอไป๋หย่งเซิ้ง
ในใจของเธอไป๋หย่งเซิ้งคือทายาทที่เธอตั้งใจจะให้สืบทอดตระกูลและเป็นประธานของไป๋เทียนกรุ๊ปในอนาคต
ไป๋หย่งเซิ้งยิ้มและพูดขึ้น:"แม่ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องดียังไงตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็เป็นบริษัทในเครือตระกูลเราอยู่แล้วตอนนี้โรงกลั่นเหล้าเสฉวนเป็นโอกาสดีที่ฟ้าประทานมาให้เราถ้าหลานฉิงเฉินสามารถเจรจาความร่วมมือนี้ได้จริงๆฉันคิดว่าปล่อยให้หลานฉิงเฉินเป็นคนดูแลโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็ไม่เห็นเป็นอะไรยังไงเธอก็เป็นผู้ดูแลมันมาก่อน"
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของไป๋หย่งเซิ้งพวกเขาต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
หวังสิ้วอวิ้นก็พยักหน้าเช่นกัน
"ถ้าอย่างนั้นฉิงเฉินพยายามไปเจรจาเรื่องนี้ให้สำเร็จแล้วค่อยว่ากัน!"
ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้าทันทีและกำลังจะลุกขึ้นกลับไปเตรียมเอกสาร
"เอ้อใช่หลานฉิงเฉินวัตถุประสงค์และสิ่งที่บริษัทของเราสามารถยอมได้เราได้เขียนไว้อย่างชัดเจนในจดหมายแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือครั้งนี้แล้วคุณก็กำหนดแผนตามนี้และบอกกับประธานลู่ตามนี้มีแค่ทางนี้เท่านั้นที่มันสามารถเป็นประโยชน์ต่อบริษัทของเราในตอนนี้"
ในขณะที่พูดไป๋หย่งเซิ้งได้ส่งจดหมายแสดงเจตจำนงที่ปรับปรุงแล้วให้กับไป๋ฉิงเฉิน
ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยและเขาหยิบจดหมายแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือขึ้นมาอ่านทันทีเปิดไปมาสองสามครั้งและใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมา
"นี้...มันอะไร...."
"เป็นอะไรไปหลานฉิงเฉินเธอไม่เห็นด้วยกับหนังสือแสดงเจตจำนงที่เราทำเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไป๋หย่งเซิ้งแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจบนใบหน้าของเขา
"นี่...อย่าว่าแต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในตอนนี้เลยแม้แต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในตอนที่รุ่งเรืองก็เป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นข้อเสนอนี้กับผู้อื่น"
เมื่อเห็นข้อความข้างต้นไป๋ฉิงเฉินก็รู้สึกหน้าชา
นี่ไม่ใช่การหาความร่วมมือเลยมันเหมือนกับการขูดรีดชัดๆ
ไม่ต้องพูดถึงโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนที่กำลังเผชิญกับภาวะล้มละลายในวันนี้แม้แต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในช่วงที่รุ่งเรืองก็ไม่สามารถยื่นข้อเสนอที่มากเกินไปและไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้ได้
"จดหมายแสดงเจตจำนงสำหรับความร่วมมือนี้แม่เป็นคนอนุมัติเองเลยนะหลานฉิงเฉินเอาข้อเสนอในนี้มาร่างใหม่เถอะหากเธอไม่อยากร่างใหม่ก็เอาหนังสือแสดงเจตจำนงนี้ให้ประธานลู่เลยก็ได้"
"แต่……"
"เมื่อกี้มีคนคุยโวต่อหน้าทุกคนว่าจะไปเจรจาสัญญานี้และยังพูดว่า"คุณทำไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำไม่ได้"ตอนนี้เป็นอะไรไปล่ะอยู่ต่อหน้าพวกเราเธอไม่ต้องแสร้งทำเป็นเก่งหรอก...มันน่าสมเพช!"
ตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินที่กำลังถือจดหมายแสดงเจตจำนงไว้ในมือจากนั้นก็มองไปที่ผู้อาวุโสของตระกูลที่อยู่ตรงหน้าเธอแทบจะหายใจไม่ออกจริงๆ
"โอเคไป๋จินเหลียนอย่าลืมสิ่งที่คุณพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วกัน!"
ไป๋ฉิงเฉินกัดฟันและพูดอย่างเย็นชา
"แค่คำพูดใครก็พูดได้ไป๋ฉิงเฉินถ้าเธอสามารถเจรจาสัญญานี้ได้ตามที่สัญญานี้กำหนดฉันจะคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนแต่ถ้าเธอทำไม่ได้ก็ออกไปซะเงินของตระกูลไป๋แม้แต่สตางค์เดียวก็อย่าหวังว่าจะได้ตระกูลไป๋ของเราไม่ได้เลี้ยงนอก!"
"ได้!"
ไป๋ฉิงเฉินคว้าจดหมายแสดงเจตจำนงมาและเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยความโกรธ...
"เธอจะไปเจรจาเธอทำให้ประธานลู่ไม่พอใจแล้วเธอจะไปเจรจายังไงฉันกลัวว่าตอนนี้ประธานลู่จะรำคาญตั้งแต่เห็นเธอแล้ว!"
ไป๋เหลียนซานหัวเราะทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ฉิงเฉิน
ยิ่งรู้สึกสะใจขึ้นไปอีก
"นั่นสิมันใช่เรื่องง่ายที่ไหนล่ะโรงกลั่นเหล้าเสฉวนเป็นบริษัทอยู่ในระดับไหนแล้วส่วนโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเป็นแค่บริษัทเล็กๆที่กำลังจะล้มละลายและรายล้อมไปด้วยข่าวลบๆอาจจะโดนเขาดูถูกด้วยซ้ำ"
"หลานฉิงเฉินเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะมันเกี่ยวกับความเป็นความตายของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเลยนะและตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็เป็นหนึ่งในธุรกิจของตระกูลแล้วหากจัดการไม่ดีและทำให้ผู้อื่นขุ่นเคืองใจมันจะกระทบไปทั้งตระกูล"
ไป๋หย่งเซิ้งพูดอย่างจริงจัง
มันเหมือนกับพ่อกำลังสั่งสอนลูกของตัวเอง
"นั่นสิแม้แต่พ่อและพวกเราก็ไม่สามารถเจรจาได้สำเร็จถ้าเธอไปเขาจะยอมเจรจาด้วยเหรอ?เธอจะไปเจรจากับเขาในฐานะอะไร?อดีตผู้บริหารหรือพนักงานโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนล่ะ?"
ตอนนี้ไป๋จินเหลียนพูดด้วยใบหน้าเยาะเย้ย
ตั้งแต่เด็กเธอก็ไม่ชินที่เห็นพี่สาวคนนี้ซึ่งแก่กว่าตัวเองไม่กี่วันและมักจะเรียกแค่ชื่อเธอโดยตรง
ตอนนี้จึงรีบคว้าโอกาสนี้และไม่ปล่อยมันไปง่ายๆไป๋ฉิงเฉินคนที่เมื่อก่อนเคยกดเธอไว้ในทุกๆด้าน
"พวกคุณทำไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำไม่ได้คุณย่าคะหนูจะไปคุยเรื่องสัญญาความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนพรุ่งนี้เช้าค่ะและหนูจะพยายามทำให้สำเร็จค่ะ"
ตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินไม่อยากอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว
"พยายามทำให้สำเร็จเหรอ?เมื่อกี้ที่บอกว่าเธอจะไปเจรจาความร่วมมือนี้และที่คุณย่าบอกไปแล้วว่าอย่าทำให้เสียผลประโยชน์มากเกินไปเรื่องนี้ทำไม่ได้ก็อย่าเพิ่งโม้ไปทำอย่างกับว่าตัวเองมีความสามารถมาก"
"นั่นสิถ้ามีความสามารถจริงโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนคงไม่เป็นเหมือนตอนนี้หรอก..."
"เฮ้ฉันจำได้ว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก่อนหน้านี้ค่อนข้างดีทำไมเมื่อมันอยู่ในมือเธอแล้วมันกลายเป็นแบบนี้!"
"นี่ก็เป็นเรื่องปกตินะยังไงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเปิดบริษัทได้ที่ไหนล่ะ..."
"นั่นสิๆ...บริษัทกำลังจะล้มละลายก็แค่ยัดมันเข้ามาที่บริษัทส่วนตัวเองแค่เอากำไรและหาทางรอดไปเฮ้อคิดไม่ถึงเลยเมื่อก่อนก็เห็นว่าเธอเก่งในทุกๆด้านทำไมตอนนี้หลายเป็นแบบนี้เนี่ย..."
"ก็ผู้หญิงเนาะไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อแต่งงานก็ต้องเป็นแม่บ้านอยู่บ้านอยู่ดี"
"อ้อถ้าคุณไม่พูดฉันก็ลืมเลยนะเนี่ยไอ้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านของครอบครัวเธอที่เป็นแค่ขยะไร้หัวนอนปลายเท้าเฮ้อจินตนาการออกเลยใช้ชีวิตอยู่กับไอ้ขยะนี่ทุกวันไอคิวก็คงจะต่ำลงอยู่แล้วแหละ!"
"พวกคุณ……"
"พอแล้ว!"ตอนที่ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินแดงก่ำด้วยความโกรธนั้นหวังสิ้วอวิ้นก็ตะคอกออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เมื่อคุณย่าอยู่ในครอบครัวนี้จะเป็นผู้มีอำนาจที่สุดและเมื่อเธอออกคำสั่งมันจึงเป็นคำสั่งสูงสุดของบริษัทและไม่มีใครกล้าขัด
"ฉิงเฉินถ้าเธอสามารถเจรจาสัญญานี้ได้งั้นฉันก็ฝากเธอด้วยนะ"
หวังสิ้วอวิ้นมองไปที่ไป๋ฉิงเฉิน
ถ้าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนและโรงกลั่นเหล้าเสฉวนสามารถร่วมมือกันได้มันจะไม่เพียงแต่ทำให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนกลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่ยังทำให้เทียนไป๋กรุ๊ปของตระกูลไป๋ทั้งหมดกลับมามีชีวิตอีกด้วย
นี่ต้องเป็นโอกาสที่ดีอย่างแน่นอน
"โอเคค่ะคุณย่าหนูจะต้องเจรจาสัญญานี้สำเร็จแน่นอน"
ไป๋ฉิงเฉินนึกถึงสิ่งที่เฉินผิงอานพูดกับเธอเมื่อคืนและเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้ควรไว้ใจเฉินผิงอาน
"เหอะๆขี้คุยจริงๆแค่คำพูดใครจะพูดไม่ได้บ้างล่ะ?"
ไป๋จินเหลียนพูดและหัวเราะเยาะทันที:"ถ้าเธอสามารถเจรจาความร่วมมือนี้สำเร็จฉันจะคุกเข่าลงและเรียกเธอว่าพี่ฉิงเฉินเลย"
"จินเหลียนไม่ต้องยุ่ง"
ไป๋หย่งเซิ้งพูดขึ้นเพื่อห้ามเขา
"พ่อจะเป็นอะไรไปล่ะจริงๆเรื่องนี้มันเป็นเพราะเธอไปก่อเรื่องไว้เองไม่รู้ว่าประธานลู่จะแค้นเธอแค่ไหนถ้าเธอสามารถเจรจาความร่วมมือนี้ได้ฉันจะคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนเลย"
"แต่ถ้าเธอทำไม่สำเร็จไป๋ฉิงเฉินเธอจะต้องออกไปจากตระกูลไป๋ซะและไม่มาวุ่นวายกับตระกูลไป๋อีกต่อไปเธอกล้าพนันไหม!"
พูดได้ว่าครอบครัวของไป๋หย่งเซิ้งนี่โหดร้ายมาก
ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ครอบครัวของไป๋หย่งกวงได้รับการโอนกลับเข้ามาในกลุ่มบริษัทและโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนยังพอมีเงินจำนวนหนึ่งเป็นเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวพวกเขาได้แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้พวกเขาต้องการได้ทุกอย่างและพวกเขาจะใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ขับไล่ครอบครัวของไป๋หย่งกวงออกจากตระกูลไป๋อีกครั้ง
แบบนี้ครอบครัวของไป๋ฉิงเฉินจะไม่เหลืออะไรในที่สุด...
"เธอกล้ามั้ยล่ะถ้าไม่กล้าพนันก็ถือว่าฉันไม่ได้พูดแล้วกัน..."
"เฮ้อนี่ก็ถือว่าไม่แปลกนะแต่งงานกับไอ้ขยะเธอก็จะกลายเป็นขยะไปด้วยนี่ก็เป็นเรื่องปกติมาก!"
ทางด้านไป๋เหลียนซานก็พูดเยาะเย้ยขึ้นมาเขาไม่สนใจสักนิดว่าไป๋ฉิงเฉินจะคิดยังไงเสียงนั้นก็ไม่เบาเลยทุกคนในห้องประชุมนี้ได้ยินชัดเจน
"ทำไมฉันจะไม่กล้าล่ะแต่ฉันจะเพิ่มเดิมพันอีก"
"คุณย่าคะถ้าฉันสามารถเจรจาความร่วมมือนี้สำเร็จโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะต้องกลับมาอยู่ในมือหนูอีกครั้ง"
ไป๋ฉิงเฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอกครั้งนี้เธอเดิมพันศักดิ์ศรีและหน้าตาไว้กับสิ่งที่เฉินผิงอานพูดกับเธอเมื่อคืน
เมื่อก่อนเธอเคยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเฉินผิงอานดังนั้นเธอจึงเซ็นสัญญาภายใต้การบังคับของแม่เธอด้วยเหตุนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจึงถูกส่งมอบให้กับตระกูลโดยที่ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรเลยดังนั้นเธอก็ไม่กลัวอะไรแล้ว
"กลับไปอยู่ในมือเธอ?"
ในขณะนี้หวังสิ้วอวิ้นมองไปที่ลูกชายของเธอไป๋หย่งเซิ้ง
ในใจของเธอไป๋หย่งเซิ้งคือทายาทที่เธอตั้งใจจะให้สืบทอดตระกูลและเป็นประธานของไป๋เทียนกรุ๊ปในอนาคต
ไป๋หย่งเซิ้งยิ้มและพูดขึ้น:"แม่ผมคิดว่านี่เป็นเรื่องดียังไงตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็เป็นบริษัทในเครือตระกูลเราอยู่แล้วตอนนี้โรงกลั่นเหล้าเสฉวนเป็นโอกาสดีที่ฟ้าประทานมาให้เราถ้าหลานฉิงเฉินสามารถเจรจาความร่วมมือนี้ได้จริงๆฉันคิดว่าปล่อยให้หลานฉิงเฉินเป็นคนดูแลโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็ไม่เห็นเป็นอะไรยังไงเธอก็เป็นผู้ดูแลมันมาก่อน"
เมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของไป๋หย่งเซิ้งพวกเขาต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
หวังสิ้วอวิ้นก็พยักหน้าเช่นกัน
"ถ้าอย่างนั้นฉิงเฉินพยายามไปเจรจาเรื่องนี้ให้สำเร็จแล้วค่อยว่ากัน!"
ไป๋ฉิงเฉินพยักหน้าทันทีและกำลังจะลุกขึ้นกลับไปเตรียมเอกสาร
"เอ้อใช่หลานฉิงเฉินวัตถุประสงค์และสิ่งที่บริษัทของเราสามารถยอมได้เราได้เขียนไว้อย่างชัดเจนในจดหมายแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือครั้งนี้แล้วคุณก็กำหนดแผนตามนี้และบอกกับประธานลู่ตามนี้มีแค่ทางนี้เท่านั้นที่มันสามารถเป็นประโยชน์ต่อบริษัทของเราในตอนนี้"
ในขณะที่พูดไป๋หย่งเซิ้งได้ส่งจดหมายแสดงเจตจำนงที่ปรับปรุงแล้วให้กับไป๋ฉิงเฉิน
ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินเต็มไปด้วยความสงสัยและเขาหยิบจดหมายแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือขึ้นมาอ่านทันทีเปิดไปมาสองสามครั้งและใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมา
"นี้...มันอะไร...."
"เป็นอะไรไปหลานฉิงเฉินเธอไม่เห็นด้วยกับหนังสือแสดงเจตจำนงที่เราทำเหรอ?
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ไป๋หย่งเซิ้งแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจบนใบหน้าของเขา
"นี่...อย่าว่าแต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในตอนนี้เลยแม้แต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในตอนที่รุ่งเรืองก็เป็นไปไม่ได้ที่จะยื่นข้อเสนอนี้กับผู้อื่น"
เมื่อเห็นข้อความข้างต้นไป๋ฉิงเฉินก็รู้สึกหน้าชา
นี่ไม่ใช่การหาความร่วมมือเลยมันเหมือนกับการขูดรีดชัดๆ
ไม่ต้องพูดถึงโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนที่กำลังเผชิญกับภาวะล้มละลายในวันนี้แม้แต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในช่วงที่รุ่งเรืองก็ไม่สามารถยื่นข้อเสนอที่มากเกินไปและไม่สมเหตุสมผลเหล่านี้ได้
"จดหมายแสดงเจตจำนงสำหรับความร่วมมือนี้แม่เป็นคนอนุมัติเองเลยนะหลานฉิงเฉินเอาข้อเสนอในนี้มาร่างใหม่เถอะหากเธอไม่อยากร่างใหม่ก็เอาหนังสือแสดงเจตจำนงนี้ให้ประธานลู่เลยก็ได้"
"แต่……"
"เมื่อกี้มีคนคุยโวต่อหน้าทุกคนว่าจะไปเจรจาสัญญานี้และยังพูดว่า"คุณทำไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าฉันจะทำไม่ได้"ตอนนี้เป็นอะไรไปล่ะอยู่ต่อหน้าพวกเราเธอไม่ต้องแสร้งทำเป็นเก่งหรอก...มันน่าสมเพช!"
ตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินที่กำลังถือจดหมายแสดงเจตจำนงไว้ในมือจากนั้นก็มองไปที่ผู้อาวุโสของตระกูลที่อยู่ตรงหน้าเธอแทบจะหายใจไม่ออกจริงๆ
"โอเคไป๋จินเหลียนอย่าลืมสิ่งที่คุณพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วกัน!"
ไป๋ฉิงเฉินกัดฟันและพูดอย่างเย็นชา
"แค่คำพูดใครก็พูดได้ไป๋ฉิงเฉินถ้าเธอสามารถเจรจาสัญญานี้ได้ตามที่สัญญานี้กำหนดฉันจะคุกเข่าลงต่อหน้าทุกคนแต่ถ้าเธอทำไม่ได้ก็ออกไปซะเงินของตระกูลไป๋แม้แต่สตางค์เดียวก็อย่าหวังว่าจะได้ตระกูลไป๋ของเราไม่ได้เลี้ยงนอก!"
"ได้!"
ไป๋ฉิงเฉินคว้าจดหมายแสดงเจตจำนงมาและเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยความโกรธ...
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved