บทที่ 68 หรือว่าต้องการให้ครอบครัวพวกเราทุกคนตายก่อนแกถึงจะสบายใจ!

ในโรงพยาบาลเมืองปิน

ไป๋เหลียนซานนอนบนเตียงผู้ป่วยเวลานี้เขาดีขึ้นมากแล้ว

แต่เขากลับไม่สามารถออกไปจากโรงพยาบาลในสภาพอย่างนี้เขารู้สึกไม่มีหน้ามากตัวเองคิดไม่ถึงว่าจะถูกคนไร้ค่าคนหนึ่งถีบเอายิ่งน่าเกลียดก็คือในขณะนั้นตัวเองเดิมทียังไม่มีโอกาสให้สู้กลับไปขายหน้าขายหน้าโครตขายหน้าเลย

ในขณะที่สมองของเขากำลังคิดว่าจะจัดการยังไงกับเฉินผิงอานคนไร้ค่าที่ไม่รู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำคนนี้นั้นไป๋จินเหลียนและคนของบ้านตระกูลไป๋สองสามคนที่มีอำนาจต่างก็มาแล้วเดินอยู่ด้านหลังไป๋จินเหลียนก็คือหวังสิ้วอวิ้นหญิงชราของบ้านตระกูลไป๋นั่นเอง

หวังสิ้วอวิ้นพอได้ยินเรื่องนี้ก็โกรธมาก

ยังไงในขณะที่ไป๋หย่งเซิ้งกำลังพูดเติมแต่งถึงเรืองนี้นั้นหญิงชราที่เดิมทีไม่ได้เห็นเฉินผิงอานอยู่ในสายตาได้ยินก็โมโหแทบจะระเบิดออกมาแล้ว

ต้องรู้ว่าไป๋เหลียนซานและไป๋จินเหลียนนั่นต่างก็เป็นหลานที่หญิงชรารักและเอ็นดูมากที่สุดกระทั่งไป๋ฉิงเฉินกลับมีการปฏิบัติต่อที่แตกต่างกันไม่งั้นก็คงจะไม่เพราะว่าลูกชายตัวเองไป๋หย่งเซิ้งเป่าหูเขาหล่อนจึงปลดไป๋ฉิงเฉิงออกแล้วเปลี่ยนเป็นไป๋หย่งเซิ้งขึ้นมาแทน

"แม่คุณดูเหลียนซานของพวกเราถูกทำร้ายจนกลายเป็นอย่างนี้ครั้งนี้คุณจะต้องทวงความยุติธรรมให้กับเหลียนซานของพวกเรานะ"

กัวฉ่ายเฟิงเดิมทียังเที่ยวพักผ่อนอยู่ข้างนอกเมื่อวานพอกลับมานึกไม่ถึงว่าจะเจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เด็กกัวฉ่ายเฟิงรักและทนุถนอมลูกชายของตัวเองเหมือนกับสัตว์ที่ล้ำค่าหายากก็ไม่ปานลูกชายของตัวเองถูกคนไร้ค่าคนหนึ่งทำร้ายจนเข้าโรงพยาบาลเขาก็จะไม่ยอมง่ายๆอยู่แล้ว

"เหลียนซานล่ะ……ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"

ใบหน้าของหวังสิ้วอวิ้นเคร่งขรึมแล้วเดินไปทางห้องผู้ป่วยโดยทันที

"เหลียนซาน……ย่ามาเยี่ยมเธอแล้ว!"

ไป๋เหลียนซานรอการปรากฏตัวของคุณย่าหวังสิ้วอวิ้นทันใดนั้นก็ตั้งใจแกล้งทำท่าทางเจ็บปวดออกมาจากนั้นเรียก"คุณย่า"ออกมาตามมาด้วยน้ำตาที่กำลังจะออกมาทันที

ความรู้สึกนั้นให้เหมือนกับว่าถูกคนทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก

หวังสิ้วอวิ้นมองเห็นฉากนี้ก็รีบเดินเข้ามาด้านข้างไป๋เหลียนซานทันทีจากนั้นยื่นมือไปจับมือของไป๋เหลียนซานถามว่า"สรุปแล้วบาดเจ็บตรงไหนหมอว่ายังไง?"

เวลานี้ไป๋หย่งเซิ้งรีบพูดว่า"แม่ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้วหมอบอกว่าอาจจะบาดเจ็บที่จุดบอบบางพักผ่อนสองสามวันก็ดีขึ้นแล้ว"

ได้ยินคำพูดนี้หวังสิ้วอวิ้นถึงได้โล่งอก

"พ่อเป็นเฉินผิงอานนั่นที่ทำร้ายจริงๆ?"

ไป๋จินเหลียนมองไป๋เหลียนซานที่นอนอยู่บนเตียงจากนั้นถามพ่อตัวเองอย่างแปลกใจเล็กน้อย

"คนไร้ค่านั่นกล้าลงมือทำร้ายพี่ชายของฉันอีกทั้งยังทำต่อหน้าหน้าพ่อนี่เป็นไปได้ยังไง?"

คนที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆต่างก็พยักหน้าถึงแม้พวกเขาแทบจะไม่มีความทรงจำอะไรต่อเฉินผิงอานแต่ก็เพราะไม่มีความทรงจำอะไรดังนั้นพวกเขาต่างก็รู้ว่าสามีที่แต่งเข้าบ้านของไป๋ฉิงเฉินคนนี้เป็นคนไร้ค่าที่ไม่เต็มคนนหึ่งแต่ไป๋เหลียนซานที่อยู่ต่อหน้านี้กลับถูกคนไร้ค่าคนนี้ทำร้ายนั่นหมายถึงอะไรแล้ว?

กัวฉ่ายเฟิงยื่นขึ้นมาทันทีพูดด้วยน้ำตาว่า"นี่ยังจะปลอมอีกเหรอเมื่อกี้ฉันโทรหาพี่ใหญ่แล้วในสายเขาพูดก็จองหองมากยังพูดว่าเก่งก็ไปหาเฉินผิงอานใครทำร้ายก็ไปหาคนนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาแม่คุณว่าเฉินผิงอานคนไร้ค่านั่นถ้าไม่ได้รับคำชี้แนะจากพี่ใหญ่และพี่สะใภ้เขากล้าทำร้ายคนอย่างโจ่งแจ้งอย่างนี้เหรอเรื่องนี้ก็คือเป็นการชี้แนะของพี่ใหญ่พี่สะใภ้และยังมีไป๋ฉิงเฉินครอบครัวพวกเขา"

หวังสิ้วอวิ้นได้ยินคำพูดนี้หัวคิ้วก็ค่อยๆย่นขึ้น

"คุณย่าจะต้องเป็นไป๋ฉิงเฉิงแน่เดิมทีสัญญานี้ก่อนหน้านี้พวกเราได้เจรจากับประธานลู่ของโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนแล้วไป๋ฉิงเฉินตั้งใจกระตุ้นพวกเราจากนั้นก็ยึดผลที่พวกเราเจรจามาสำเร็จไปไม่แน่ว่าภายใต้การเแลกเปลี่ยนส่วนตัวกับประธานลู่จะมีอะไรที่บอกใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่อย่างนี้พ่อไปเจรจาก็คงจะไม่ถูกปฏิเสธมาแล้วยังพูดว่าสัญญานี้มีเพียงไป๋ฉิงเฉินถึงสามารถเจรจาได้นี่เห็นได้ชัดว่าหล่อนตั้งใจวางแผนไว้เรียบร้อย"

"จินเหลียนทำไมพูดจาเลอะเทอะล่ะเรื่องนี้ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเธออย่าพูดจามั่วๆหลานฉิงเฉินนั่นเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้วเธอพูดอย่างนี้จะทำให้เขาเสียชื่อเสียง"

ไป๋หย่งเซิ้งรีบพูดหยุดด้วยท่าทางที่จริงจัง

"คุณคนนี้เป็นอะไรไปตอนนี้ลูกชายถูกผู้ชายของนังเลวนั่นทำร้ายจนกลายเป็นอย่างนี้คุณยังพูดแทนหล่อนอีกฉันคิดว่าจินเหลียนพูดถูกคุณไปเจรจาสัญญาไม่สำเร็จก็เพราะไป๋ฉิงเฉินคนนี้ใช้กลอุบาย"

"พอแล้วหย่งเซิ้งพวกเธอไปหาฉิงเฉิงตอนบ่ายฉิงเฉินว่ายังไง?"

หวังสิ้วอวิ้นมองแล้วถามไป๋หย่งเซิ้ง

"แม่ตอนบ่ายพวกเราไปหาหลานฉิงเฉินแล้วแต่หลานฉิงเฉินเหมือนจะไม่ค่อยอยากเจอผมพวกเราอยู่ที่หน้าประตูพูดสองสามประโยคแต่หลานฉิงเฉินมีท่าทางที่ไม่ค่อยดีพูดว่าอะไรสัญญานี้เขาไม่สนใจแล้ววันหลังบริษัทจะพัฒนาไปยังก็พัฒนาไปอย่างนั้นล้มกิจการแล้วก็ไม่ใช่เรื่องของเขายังพูดว่าเริ่มแรกเป็นแม่ของคุณให้เขาพักผ่อนอยู่ที่บ้านดีๆไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ตอนนี้ก็ให้เขาไปอีกเขาไม่ไปนอกจากว่าแม่คุณจะมาขอโทษด้วยตัวเองไปเชิญเขา……"

"บังอาจ!"

คำพูดของไป๋หย่งเซิ้งยังไม่จบทันใดนั้นหวังสิ้วอวิ้นก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วมองไป๋หย่งเซิ้งที่อยู่ข้างหน้านี้ด้วยสายตาที่เย็นชาว่า"เธอรีบโทรหาพี่ใหญ่ของเธอเดี๋ยวนี้ให้เขาเรียกฉิงเฉินมารายงานตัวที่บริษัทอีกอย่างค่ายารักษาทั้งหมดของเรื่องนี้ให้ครอบครัวพวกเขาเป็นคนออกนอกจากนี้ให้ไป๋ฉิงเฉินพาผู้ชายคนไร้ค่านั่นมาขอโทษต่อหน้าเหลียนซาน"

"แม่อย่างนี้ไม่ดีมั้ง……"

ไป๋หย่งเซิ้งก็แสดงท่าทางที่ลำบากใจออกมาทันทีจากนั้นพูดว่า"แม่ต่างก็เป็นครอบครัวเดียวกันช่างมันเถอะล้วนแต่เพื่อการก้าวหน้าของบริษัทถ้าไม่ได้ผมจะไปหาครอบครัวของฉิงเฉินพวกเขาอีกครั้งยังไงสัญญานี้ประธานลู่พูดแล้วจะต้องเป็นหลานฉิงเฉินที่มาเจรจาถึงยังไงต่างก็……"

"โทรไปจะทรยศแล้วจริงๆฉันจะถามไป๋หย่งกวงและโจวหมิงเฟิ้งสองสามีภรรย่คู่นี้ว่าสั่งสอนลูกสาวยังไงในบ้านหาลูกเขยไร้ค่าที่มีฐานะไม่ชัดเจนก็ขายหน้าบ้านตระกูลไป๋ของฉันจนหมดแล้วตอนนี้ยังร้ายแรงขึ้นอีกไม่มีเหตุผลอย่างนี้แล้วฉันจะดูว่าพวกเขาสองคนจะเก่งกาจไปถึงไหน"

ระหว่างที่พูดหวังสิ้วอวิ้นก็ควักมือถือของตัวเองออกมาโดยทันทีแล้วโทรไปที่เบอร์มือถือของไป๋หย่งกวง

มือถือของไป๋หย่งกวงเวลานี้ถูกโจวหมิงเฟิ้งถืออยู่ในมือพอเห็นเบอร์ของหวังสิ้วอวิ้นก็สั่นไปทั้งตัวทันทีแล้วรับขึ้นมาโดยสัญชาติญาน

"ไป๋หย่งกวงตอนนี้เธอคิดว่าบริษัทมอบให้ตระกูลแล้วเธอจะไม่ต้องกังวลอะไรแล้วใช่ไหมยังมีให้ฉิงเฉินพาเฉินผิงอานมาที่โรงพยาบาลขอโทษเหลียนซานเดี๋ยวนี้อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลครั้งนี้ครอบครัวพวกเธอต้องจ่ายให้ฉันครบทุกบาทค่าโภชนาการอะไรก็รวมอยู่ข้างในด้วยไม่กี่ปีไม่ได้อยู่ในกลุ่มบริษัทก็คิดว่าตัวเองไม่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นแล้วจริงๆแล้วใช่ไหม!"

โจวหมิงเฟิ้งยังไม่ได้เข้าห้องยืนอยู่ที่ในทางเดินยังไม่ได้พูดสักคำกลับถูกโจมด่าอย่างรุนแรง

"แม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นทำให้คุณโมโหมากอย่างนี้?"

ถึงแม้โจวหมิงเฟิ้งไม่ชอบหญิงชราคนนี้ของตระกูลไป๋มากแต่ยังไงเขาก็เป็นสะใภ้ของบ้านตระกูลไป๋พลังอำนาจของหญิงชราในบ้านตระกูลไป๋นั่นไม่มีใครไม่กลัวถึงแม้กระทั่งโจวหมิงเฟิ้งต่างก็มีความกล้วบ้างเล็กน้อย

"ฮึๆเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เกิดเรื่องอะไรขึ้นพวกเธอไม่รู้ให้หย่งกวงรับสายฉันจะอยากจะถามสิว่าพวกเธอดูแลลูกสาวยังไงตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะสั่งให้ทำร้ายคนแล้ว?"

"อ๊ะ?แม่เรื่องนี้มีอะไรเข้าใจผิดหรือเปล่า?"

ทันใดนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็นึกถึงโทรศัพท์นั่นเมื่อกี้ที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล

"ฮึเข้าใจผิดมันจะเข้าใจผิดอะไรมากมายอย่างนั้นให้พวกเธอสามสิบนาทีรีบยกครอบครัวมาที่โรงพยาบาลให้หมดฉันรออยู่ที่นี่!"

พูดจบก็วางสายไปทันที

โจวหมิงเฟิ้งยืนอยู่ที่ประตูแล้วถีบประตูออกด้วยสีหน้าที่มืดมนอย่างน่ากลัว

"เข้าห้องสิคุณยืนอยู่หน้าประตูทำอะไร……เป็นอะไรไป……"

ไป๋หย่งกวงที่ค้ำไม้เข้าห้องไปก่อนแล้วเวลานี้นั่งบนโซฟาพูดเรียก

เวลานี้เฉินผิงอานมองเห็นในมือของโจวหมิงเฟิ้งถือของอยู่รีบเดินสองสามก้าวไปถึงด้านหน้าของโจวหมิงเฟิ้งแล้วยื่นมือจะไปรับของบนมือของแม่ยายตัวเอง

เวลานี้โจวหมิงเฟิ้งก็ถีบบนตัวของเฉินผิงอานทันทีเพราะว่าเดิมทีเฉินผิงอานเวลานี้ไม่ได้ทันตั้งตัวอะไรนั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่ยายมีหน้าที่มืดมนที่สุดกับตัวเอง

ถึงแม้เฉินผิงอานจะไม่ดีใจมากแต่ใครให้โจวหมิงเฟิ้งเป็นแม่แท้ๆของไป๋ฉิงเฉินล่ะ

นั่นเป็นแม่ยายของตัวเองไม่ถูกอีกยังไงงั้นก็อดทนหน่อยก็ได้แล้ว

เฉินผิงอานที่ไม่ทันได้ป้องกันตัวถูกถีบจนล้มลงกับพื้นทันที

"เฉินผิงอานแม่งต้องการทำลายก็ไปทำลายคนอื่นอย่ามาทำลายครอบครัวของพวกเรา……แกมันเก่งจริงๆยังกล้าทำร้ายคนตอนนี้กลับดีหาเรื่องกัวฉ่ายเฟิงผู้หญิงนั่นวุ่นวายไปถึงแม่ที่นั่นแล้วแกพูดสิสรุปแล้วแกจะเอายังไงหรือว่าต้องการให้ครอบครัวพวกเราทุกคนตายก่อนแกถึงจะสบายใจ!"

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

503