บทที่ 53 รอยยิ้มของสาวงามภายใต้แสงจันทร์

กลางคืน

เงียบสงัด

ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเมรุทางตอนเหนือของเมืองปินยิ่งอึมครึมน่ากลัวขึ้นไปอีก

ที่นี่เป็นสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดในเมืองปินสถานที่แห่งนี้เคยเป็นหลุมศพจำนวนมากต่อมาได้ถูกเปลี่ยนเป็นเมรุเผาศพเนื่องจากบรรยากาศที่น่ากลัวโดยปกติแล้วจะไม่มีใครมาเลยในตอนกลางคืน

แต่ยกเว้นคืนนี้

พี่เพ่าที่ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวคุกเข่าลงบนพื้นและก้มหัวให้ต้วนเฟย

ต้วนเฟยคาบบุหรี่อยู่มองไปที่เมรุที่ค่อนข้างเงียบสงัดตั้งอยู่ไม่ไกลและก็ส่ายหัวอย่างอดไม่ได้

"พี่เพ่าฉันก็อยากจะช่วยคุณอยู่หรอกนะแต่คราวนี้คุณไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกินจริงๆ"

หลังจากต้วนเฟยได้รับโทรศัพท์เขาก็ได้แจ้งให้คนที่เมรุทำงานล่วงเวลาในตอนกลางคืนทันทีจากนั้นก็ให้เตาปาพาหนิวต้าเพ่าไปที่เมรุ

"คนที่ไม่ควรรุล่วงเกินเหรอ?พี่เฟยคุณกำลังล้อเล่นเหรอ?ฉันมาก่อกวนในถิ่นของคุณแค่คุณบอกตัวเลขมาฉันจะโอนไปให้คุณทันทีที่ฉันกลับไปที่หรงเฉิงคุณเรียกได้เท่าที่คุณต้องการเลยพี่ชายฉันไม่ผิดสัญญาหรอกน่า"

เมื่อเห็นท่าทางแบบนี้หนิวต้าเพ่าก็กลัวจริงๆแล้ว

แต่ถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าทำไมต้วนเฟยถึงกล้าขนาดนี้หรือต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ

"เฮ้อทำไมคุณไม่เข้าใจที่ฉันพูดตอนนี้ไม่ใช่ฉันที่ต้องการลงโทษคุณคุณไปยั่วโมโหคุณเฉินคุณรู้ไหมว่าคุณเฉินเป็นใคร?"

"คุณเฉิน?คุณหมายถึงสามีของผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ?ไอ้นั่นเป็นแค่ขยะโง่ๆต้วนเฟยถ้าคุณต้องการแก้แค้นฉันแม่งก็พูดมาตามตรงอย่าอ้อมค้อมเรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็วท่านเผยก็ต้องรู้เมื่อถึงตอนนั้นรู้ว่าคุณฆ่าฉันเขาจะไม่มีวันปล่อยคุณไปแน่!"

หนิวต้าเพ่ามองไปที่ต้วนเฟยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและความเกลียดชังก็เพิ่มมากขึ้นในใจของเขา

ในความคิดของเขาที่ต้วนเฟยพูดถึงไอ้คุณเฉินอะไรนั่นมันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมดถ้าเขาเจ๋งขนาดนั้นผู้หญิงของเขาจะตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาได้ยังไง?

ต้วนเฟยแค่ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อฆ่าเขายังไงที่นี่ก็คือเมืองปินซึ่งเป็นถิ่นของต้วนเฟยแม้ว่าเขาจะฆ่าหนิวต้าเพ่าถึงตอนนั้นเขาจะให้คำอธิบายอะไรกับท่านเผยก็ได้ท่านเฉินเพราะต้องการสร้างอำนาจให้กับตัวเองเขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับต้วนเฟยเพียงเพราะคนตายเพียงคนเดียวแน่ๆ

และเมื่อเห็นสิ่งนี้ดังนั้นในใจหนิวต้าเพ่าก็เชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของต้วนเฟย

"พี่เฟยเตรียมเสร็จหมดแล้วครับเหลือแต่รอส่งคนเข้าไปครับ!"

เจิ้งเหมิงพูดขณะเดินไปหาต้วนเฟย

ต้วนเฟยพยักหน้า

จากนั้นก็มองไปที่หนิวต้าเพ่าที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสาร

"พี่เพ่าจะว่ายังไงดีล่ะจริงๆแล้วแล้วพูดในเรื่องของระดับขั้นแล้วคุณกับท่านเผยคุณสมบัติก็สูงกว่าของฉันอยู่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะคุณไปยั่วโมโหคุณเฉินทำให้คุณเฉินสั่งให้ส่งเถ้ากระดูกคุณกลับไปที่หรงเฉิงฉันจะช่วยขอร้องให้คุณจริงๆแต่ไม่ว่าจะพูดยังไงฉันคิดว่าคุณเฉินสามารถไว้ชีวิตคุณได้แต่คุณมันบ้าเกินไปเฮ้อ...ได้เวลาแล้วพี่เพ่าคุณมีความหวังสุดท้ายอะไรไหมถ้าช่วยได้ฉันจะช่วยคุณ"

ในขณะที่ต้วนเฟยพูดเขาก็จุดบุหรี่แล้วยื่นไปที่ปากของหนิวต้าเพ่า

ตอนนี้หนิวต้าเพ่ามองไปที่ต้วนเฟยและหัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน

หรือว่าไม่ใช่ต้วนเฟยที่ต้องการจะฆ่าเขาจริงๆ?

"ฉันอยากโทรหาท่านเผยหน่อย!"

ต้วนเฟยพยักหน้า

ทันใดนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและกดโทรหาเผยตงไหลจากนั้นก็ส่งให้หนิวต้าเพ่า

"อาเฟยเหรอ..."

โทรติดแล้วอีกด้านของโทรศัพท์ก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นมา

เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามของผู้มีอิทธิพล

แม้จะพูดผ่านโทรศัพท์แต่ก็ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกสั่นไปทั้งตัว

"ท่านเผยผมผมคือต้าเพ่า...."

"้อ้อ"

"ท่านเผยผม..."

"ต้าเพ่าเหรอฉันรู้เรื่องนี้แล้วแกวางใจเถอะหลังจากที่ฉันได้รับเถ้ากระดูกแกแล้วฉันจะให้เงินจำนวนหนึ่งกับครอบครัวของแกจากนั้นจะให้พวกเขาออกจากหรงเฉิง"

อะไรนะ?

หนิวต้าเพ่าได้ยินอย่างนี้เหงื่อเขาก็แตกไปทั่วตัว

"ท่านเผยผม...ผมไม่อยากตายผม..."

"บางเรื่องเมื่อทำผิดก็ต้องรับผิดและไปทำให้คนอื่นไม่พอใจแกก็ต้องตายเป็นการชดใช้"

หลังจากพูดจบเขาก็วางสายไป

หนิวต้าเพ่าได้ยินเสียงตู๊ดๆก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาไม่มีแรง

เขาเงยหน้าขึ้นมองต้วนเฟยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยความสิ้นหวัง

"คุณเฉินคนนั้นเป็นใครกันแน่?"

หนิวต้าเพ่าคิดไม่ออกจริงๆว่าชายหนุ่มที่แต่งตัวเรียบๆและแทบไม่มีออร่าคนนั้นแม้แต่ท่านเผยก็ยังกลัว?

ท่านเผยเผยตงไหลแห่งมณฑลเสฉวนแล้วเขาเป็นใครกัน

คนที่ทำให้เขากลัวได้จะมีสักกี่คน?

"ฉันไม่รู้เหมือนกันฉันรู้แค่ว่าคุณเฉินมาจากปักกิ่ง!"

หลังจากที่พูดจบต้วนเฟยหันกลับมาเจิ้งเหมิงก็หยิบกริชของเขาออกมาและโยนมันไปให้หนิวต้าเพ่า...

เมืองหรงเฉิงในลานที่เงียบสงบและเรียบง่าย

ชายวัยกลางคนที่แต่งกายด้วยชุดเรียบๆค่อยๆเดินออกมาจากห้องหนังสือและยืนอยู่ในลานเล็กๆนั่นมองไปที่แสงจันทร์ที่เงียบเหงานั่นทันใดนั้นดวงตาที่ลึกของชายคนนั้นก็มีแสงระยิบระยับที่หายไปนานปรากฏขึ้นมา

"คุณชายเฉินคิดไม่ถึงเลยนะว่าคุณจะแต่งงานที่เมืองปินแล้วมิน่าล่ะสองสามปีที่ผ่านมาไม่ได้ยินข่าวคุณเลยแต่ทำไมคุณถึงปิดบังตัวตนของคุณแบบนี้ล่ะ?คุณที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งปักกิ่งไม่เคยต่ำต้อยขนาดนี้เกิดอะไรขึ้นเมื่อสามปีก่อนทำไมคุณถึงหายตัวไปจากปักกิ่งอย่างลึกลับ?"

"ด้วยวิธีการของคุณแม้ว่าจะเป็ยคนจากตระกูลใหญ่ในปักกิ่งก็ไม่สามารถทำอะไรคุณได้หรอกมั้ง?หรือพูดได้ว่าคุณไม่เคยไปกร่างใส่ใครมาก่อน..."

ชายวัยกลางคนคือเผยตงไหลหนึ่งในผู้มีอิทธิพลแห่งโลกใต้ดินของเสฉวนเผยตงไหลแค่เอ่ยชื่อออกมาคำเดียวทั้งเสฉวนก็รู้จักทันที

กลางดึก

เฉินผิงอานพาไป๋ฉิงเฉินไปนอนเรียบร้อยแล้วเขาก็ออกมาทำโจ๊กที่ห้องครัว

ไป๋เซว่ที่อาบน้ำเสร็จก็เดินออกมานั่งที่โต๊ะอาหาร

"กินโจ๊กร้อนๆให้อุ่นท้องหน่อย"

หลังจากพูดเสร็จเฉินผิงอานก็ตักโจ๊กและเตรียมที่จะยกไปที่ห้องเพื่อให้ไป๋ฉิงเฉินกินสักหน่อยมิฉะนั้นเธอจะรู้สึกไม่สบายท้องเมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น

"นาย....หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"

นี่เป็นประโยคแรกที่ไป๋เซว่พูดกับเฉินผิงอานตั้งแต่ออกจาก"อารมณ์สีดำ"

"นายไปรู้จักนักเลงใหญ่อย่างเตาปาได้ยังไง?"

ไป๋เซว่อยากถามคำถามนี้มานานแล้วแต่ไม่กล้าถาม

เพราะในหัวของเธอมีแต่ภาพที่เฉินผิงอานพุ่งไปเตะหน้าพี่เพ่านั่นอย่างโหดเหี้ยมจนเลือดสาดไปทั่วใบหน้า

"เรื่องนี้เหรอ...ครั้งหนึ่งฉันเคยช่วยพี่เตาปาไว้น่ะและก็เคยเอาชนะลูกน้องเขาที่ชื่อหวงเชิ่งได้มันจึงค่อยๆกลายเป็นมิตรภาพแต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งมาก...ยังไงฉันก็ไม่ชอบอันธพาลอยู่แล้ว..."

เฉินผิงอานรู้ดีว่าถ้าเขาบอกว่าพวกเตาปาเป็นเหล่านี้เป็นแค่ลูกน้องของเขาและแม้แต่ต้วนเฟยก็ต้องกลัวเขาน้องเมียที่อยู่ข้างหน้าเขานี้ต้องไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดแน่ๆ

งั้นก็พูดส่งๆไปแบบนี้แล้วกัน

"อ่อที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองฉันคิดไม่น่ะส่านายจะต่อสู้ได้ทำไมไม่เคยเห็นนายต่อสู้มาก่อนเลยล่ะ?ที่นายมาที่ตระกูลไป๋ของเราเพราะมีจุดประสงค์อะไรใช่ไหม?"

เฉินผิงอานพูดไม่ออกไปชั่วขณะน้องเมียเขาคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆเป็นคนช่างจินตนาการจริงๆ

"นี่ก็...ถ้าฉันบอกว่าเพราะฉิงเฉินเธอจะเชื่อไหม?"

"เฮอะเพราะพี่สาวของฉันเพราะพี่สาวฉันวันนี้ทำไมนายเพิ่งมาเอาป่านั้นในเมื่อนายต่อสู้แถมยังรู้จักเตาปาทำไมนายไม่รีบไปพวกเราเจ็บตัวกันหมด...หัวของป้าเหม่ยก็แตกนายบอกมานะว่านายแอบดูอยู่ข้างนอกรอดูฉันถูกรังแกในใจนายถึงจะสะใจที่ได้แก้แค้นใช่ไหม?"

ไป๋เซว่ยิ่งพูดยิ่งขึ้น

เมื่อคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างในคืนนี้เธอก็รู้สึกถึงความอัปยศอดสูและที่สำคัญกว่านั้นหวงกั๋วเทาหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นี่ทำให้เธอรู้สึกว่าหวงกั๋วเทาสูญเสียคุณสมบัติที่จะเป็นพี่เขยของเธอไปแล้ว

ในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดกลับเป็นไอ้ขยะฉินผิงอานโผล่มานี่ทำให้ในใจเธอขัดแย้งกันมากดังนั้นเธอจึงโยนความโกรธทั้งหมดที่มีไปลงที่เฉินผิงอาน

"เธอจะคิดยังไงก็คิดไป!"

"นาย!……"

ทิ้งประโยคนี้ไว้และเฉินผิงอานก็ถือโจ๊กเข้ามาในห้องโดยไม่หันกลับไปมอง

เขาไม่คิดเลยว่าน้องเมียคนนี้จะไร้เหตุผลขนาดนี้เมื่อกี้ไป๋ฉิงเฉินกลับมาก็อาเจียนไปแล้วสองครั้งดังนั้นเฉินผิงอานจึงไม่มีเวลาคุยไร้สาระกับไป๋เซว่

เมื่อเฉินผิงอานเข้ามาในห้องแสงจันทร์ส่องสว่าง

ไป๋ฉิงเฉินนอนอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าแดงระเรื่อดูเหมือนว่าเพราะเธออาเจียนออกมาจนหมดกระเพาะตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินนอนขดตัวคิ้วขมวดและท่าทางทรมาน

เฉินผิงอานเดินไปวางโจ๊กร้อนๆไว้ข้างๆแล้วนั่งลงข้างเตียง

"ฉิงเฉินลุกมาดื่มน้ำก่อน..."

ไป๋ฉิงเฉินลืมตาขึ้นและมองไปที่เฉินผิงอานที่กำลังนั่งอยู่ข้างๆเธอแล้วพึมพำ"ผิงอานที่นี่ที่ไหน?"

"ที่บ้าน"

ในขณะที่พูดเฉินผิงอานก็ยื่นมือออกไปประคองให้ไป๋ฉิงเฉินขึ้นมานั่งพิงหมอน

จากนั้นเขาก็ส่งน้ำต้มที่เย็นแล้วใส่มือของไป๋ฉิงเฉิน

"คุณดื่มจนเมาแล้วเมื่อกี้ก็เพิ่งอาเจียนออกมาตอนนี้ท้องของคุณว่างมันต้องไม่สบายแน่ๆดื่มน้ำอุ่นก่อนนะฉันทำโจ๊กร้อนๆมาให้คุณกินสักหน่อยเถอะแล้วค่อยนอนพักผ่อนและนอนหลับแล้วทุกอย่างจะดีเอง"

ตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ดื่มน้ำอย่างเชื่อฟังจากนั้นเฉินผิงอานก็ยกโจ๊กมาและป้อนให้ไป๋ฉิงเฉินทีละน้อย

ในตอนนี้ไป๋ฉิงเฉินรู้สึกเพียงว่าตาของเธอพร่ามัวและเธอก็เชื่อฟังเหมือนเด็กกินโจ๊กที่เฉินผิงอานป้อนทีละคำๆ

เธอหิวจริงๆไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแล้วเมื่อกี้ก็ดื่มไปหนัก

ทันใดนั้นเธอก็นึกอะไรบางอย่างได้

"ไม่ต้องพูดรีบกิน..."

เฉินผิงอานรู้ว่าไป๋ฉิงเฉินต้องการจะถามอะไร

และตอนที่เขาป้อนโจ๊กเขาก็พูดขึ้นว่า:"ฉิงเฉินไม่ต้องกังวลเรื่องบริษัทแม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นของฉันที่ฉันบอกคุณก่อนหน้านี้เขาจะไม่มาแต่เขาก็โทรหาฉันแล้วบอกว่าเขาให้คนที่ชื่อลู่เสี่ยวปอมาแทนก่อนหน้านี้เขาได้ติดต่อกับลู่เสี่ยวปอคนนี้ไว้แล้วเพียงแค่รอให้คุณทำสัญญาเท่านั้นช่วงนี้พวกเขาจะยังไม่ร่วมมือกับใคร"

เมื่อไป๋ฉิงเฉินได้ยินคำพูดของเฉินผิงอานเธอก็ตกใจทันที

"จริงเหรอ?"

เฉินผิงอานยิ้มและพูดว่า:"จริงสิเพื่อนร่วมชั้นของฉันยังบอกอีกว่าถ้าต่อไปไปได้สวยพวกเขาจะแนะนำให้ฉันไปทำงานที่โรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวน"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินก็ปรากฎความยินดีขึ้นมาทันที

ถ้าเจรจาสัญญาได้และผิงอานก็มีงานที่เป็นทางการได้นี่คือสิ่งที่ไป๋ฉิงเฉินต้องการเห็นมากที่สุดในตอนนี้!

ดูเหมือนว่าเพราะว่ามีความสุขไป๋ฉิงเฉินจึงกัดช้อนที่เฉินผิงอานยื่นเข้ามาในปากของเธออย่างซุกซน

ภายใต้แสงจันทร์ไป๋ฉิงเฉินที่ยังคงเมาเล็กน้อยและด้วยท่าทางกัดช้อนของเธอที่น่ารักน่าดึงดูด...

ทันใดนั้นเฉินผิงอานก็เคลิ้มไปแล้ว...

Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

503