บทที่ 54 ปัดความรับผิดชอบ
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 28,2021
เทียนไป๋กรุ๊ป
08.00น.บรรยากาศในห้องประชุมค่อนข้างตึงเครียด
หวังสิ้วอวิ้นหัวหน้าตระกูลไป๋นั่งอยู่ที่นั่งประธานมองไปที่สมาชิกตระกูลไป๋ที่เกียจคร้านกำลังหาวออกมาต่อหน้าเขาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆในใจและส่ายหัว
แม้ว่าไป๋ฉิงเฉินจะดื่มไปเมื่อวานแต่เธอก็ตื่นแต่เช้าเพราะเมื่อวานเธอมาประชุมสายทำให้คุณย่าของเธอไม่พอใจมากดังนั้นวันนี้ไป๋ฉิงเฉินจึงมาถึงห้องประชุมก่อนเวลา
แม้ว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของเทียนไป๋กรุ๊ปแต่สำหรับไป๋ฉิงเฉินแล้วโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเป็นน้ำพักน้ำแรงของพ่อเธอเธอไม่ยอมให้สิ่งที่ตระกูลเธอสร้างขึ้นมาถูกขายไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก
นี่มีความเป็นไปได้มากหลายอุตสาหกรรมภายใต้เทียนไป๋กรุ๊ปก็เป็นเช่นนี้แม้แต่ธุรกิจยาที่ทำให้ตระกูลไป๋ร่ำรวยมาก่อนก็ถูกขายให้กับผู้อื่นมีคนพูดกันว่าเทียนไป๋กรุ๊ปค่อยๆถอนตัวออกจากกลุ่มบริษัทในแวดวงเศรษฐกิจและการเงินของเมืองปินแต่ตระกูลไป๋ก็เป็นบริษัทกระเป๋าหนังขนาดใหญ่หากไม่มีเงินสะสมจำนวนมากเทียนไป๋กรุ๊ปอาจประกาศล้มละลายไปแล้ว
แต่ในปัจจุบันโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้ถูกดึงเข้าสู่ธุรกิจครอบครัวแล้วและเป็นที่พอใจของคนเหล่านี้และปกติแล้วคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่คนโง่แม้ว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะเผชิญกับความเสี่ยงล้มละลายแต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็ยังคงเป็นธุรกิจในสิบอันดับแรกของเมืองปินและแม้แต่โรงกลั่นเหล้าป้าหวังก็เทียบไม่ติด
ถ้าครั้งนี้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่มีความเป็นไปได้เลยที่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะมาอยู่ในธุรกิจของตระกูล
ไหนว่ามาซิหย่งเซิ้งพวกคุณคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไง?คนที่ดูแลโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนว่าไงบ้าง?"
หวังสิ้วอวิ้นจะไม่รู้เรื่องทั้งหมดได้ยังไงแต่เธอแค่ต้องการให้คนพวกนี้ได้ยินด้วย
เพราะอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเคยอยู่ในมือของลูกชายคนโตของเธอแต่ต่อมาหลานสาวของเธอไป๋ฉิงเฉินเป็นผู้สานต่อจากบางมุมก็บอกว่าแม้จะมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแต่ตอนนี้ในความคิดของทุกคนโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็ยังเป็นของไป๋ฉิงเฉินอยู่ดี
ดังนั้นผู้ที่ต้องการควบคุมกิจการโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจริงๆจึงมีแค่นี้
อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ตัดสินใจไว้แล้ว
"แม่จริงๆเมื่อวานก็กำลังเจรจากันดีๆแม้ว่าประธานลู่จากโรงกลั่นเล่าเสฉวนจะเรียกเงื่อนไขที่มากเกินไปแต่...ตอนที่เราคุยกันอยู่นั้นหลานสาวฉิงเฉินก็เข้ามาทำเรื่องที่ไม่ควรทำและในที่สุดก็เจรจาไม่สำเร็จ"
"ใช่คุณย่าเมื่อวานถ้าไม่ใช่เพราะไป๋ฉิงเฉินเข้ามาสร้างความวุ่นวายประธานลู่คงจะเซ็นสัญญากับพวกเราเรียบร้อยไปแล้วและแม้ว่าเงื่อนไขของประธานลู่จะค่อนข้างเยอะไปนิดแต่ยังไงโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็เป็นกิจการที่กำลังจะล้มละลายสามารถเพิ่มผลกำไรได้มากที่สุดก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแต่ไป๋ฉิงเฉินกลับปฏิเสธและยังบอกว่าถ้าเป็นอย่างนี้เธอยอมปล่อยให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนล้มละลายและไม่ยอมร่วมมือกับคนอื่นสุดท้ายก็จบไม่ค่อยสวย..."
ตอนนี้ไป๋จินเหลียนพูดไปด้วยและก็ชี้ไปที่ไป๋ฉิงเฉินที่กำลังนั่งอยู่ที่มุมด้วยความโกรธ
ในการประชุมของตระกูลไป๋ไป๋ฉิงเฉินมักจะนั่งอยู่ที่มุมด้านหลังเสมอนี่ไม่ใช่เพราะคนอื่นแต่เป็นเพราะยังไงในสายตาของหลายๆคนไป๋ฉิงเฉินก็เป็นเด็กสาวที่แต่งงานออกไปแล้วสามีที่ไป๋ฉิงเฉินเลือกก็ไม่ใช่ลูกเขยที่ร่ำรวยแต่เป็นคนที่ไม่ได้เรื่องเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านไม่เท่าไหร่แต่ทั้งวันเขาเอาแต่ล้างจานทำกับข้าวที่บ้านตลอดเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินชัดๆ
สิ่งนี้ทำให้ตระกูลไป๋อับอายขายหน้ามาก
เป็นเพราะเหตุนี้ทำให้พวกคนตระกูลไป๋ต้องการขับไล่ไป๋หย่งกวงออกไปจากตระกูลมาโดยตลอด
และไม่เพียงแค่นั้นแต่ยังต้องการให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนมาอยู่ในมือตระกูลอีกด้วย
ทำให้ครอบครัวของไป๋หย่งกวงไม่เหลืออะไรเลย
นี่คือสิ่งที่คนเหล่านี้คิด
"พวกคุณ……"
"พวกเราทำไมไป๋ฉิงเฉินถ้าไม่ใช่เพราะเธอเมื่อวานเราก็เจรจาสัญญาได้สำเร็จแล้วไม่แน่วันนี้เราอาจจะได้เดินหน้าโครงการใหม่แล้วเป็นเพราะเธอทำลายความร่วมมือในครั้งนี้และยังไปทำให้ประธานลู่ไม่พอใจอีก"
ไป๋เหลียนชานพูดต่อโดยไม่ได้ให้โอกาสไป๋ฉิงเฉินได้พูดนี้
"ใช่ไป๋ฉิงเฉินตอนนี้เธอไม่ได้เป็นคนดูแลโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอีกต่อไปแล้วคุณยังจะเข้ามาวุ่นวายอะไรอีก!"
"ตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอาศัยการอัดฉีดเงินทุนของตระกูลเพียงอย่างเดียวหากต้องการจะดึงกิจการทั้งหมดกลับมาต้องใช้เวลานานมากเธอต้องการผลักให้ทั้งตระกูลลงนรกไปพร้อมกันจริงๆเหรอ!"
"ใช่ประธานลู่จากโรงกลั่นเหล้าเสฉวนไม่พอใจเธอแล้วถึงแม้ว่าต่อไปโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะสามารถพลิกผันได้ในอนาคตแต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ!"
"เฮ้อ...จบแล้ว!"
เมื่อไป๋ฉิงเฉินได้ยินสิ่งนี้เธอก็พูดไม่ออกไปทันที
เห็นได้ชัดว่าเป็นครอบครัวของไป๋หย่งเซิ่งที่หลอกประธานลู่มาที่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนทำให้ลู่เสี่ยวปอโกรธและไม่คิดจะร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนแล้วตอนนี้ทุกคนก็โยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้เธอ
"หย่งเซิ้งงั้นตอนนี้มีมาตรการแก้ไขอะไรบ้างหรือยัง?เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้และไม่ว่ายังไงครั้งนี้เราจะต้องแย่งโอกาสของโรงกลั่นเหล้าเสฉวนมาให้ได้ไม่เช่นนั้นไม่ใช่แค่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะล้มละลายเราไปทำให้คนใหญ่คนโตเช่นนี้ไม่พอใจเข้าต่อไปเทียนไป๋กรุ๊ปของเราก็อาจจะไปได้ไม่สวยนัก"
"ใช่ๆ..."
หลายคนพยักหน้าและพูดว่าใช่ทันที
"คุณย่าในเมื่อเรื่องนี้ไป๋ฉิงเฉินเป็นคนก่อเรื่องฉันคิดว่าควรก็ให้เธอไปจัดการใครบอกให้เธออวดเก่งเองล่ะ!"
ขณะที่ไป๋จินเหลียนพูดเธอมองไปที่ไป๋ฉิงเฉินอย่างเย็นชาดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
เห็นได้ชัดว่าหวังสิ้วอวิ้นรู้เรื่องนี้อยู่แล้วตอนนี้เธอก็ถอนลมหายใจยาวแล้วมองไปที่ไป๋ฉิงเฉินที่กำลังนั่งอยู่ที่นั่นและพูดว่า:"ฉิงเฉินคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?"
เมื่อหวังสิ้วอวิ้นพูดทุกสายตาก็มองไปที่ไป๋ฉิงเฉินทันที
ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินเคร่งเครียดมากในขณะนี้
เธอมองไปที่ครอบครัวของไป๋หย่งเซิ้งและเธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีวันนี้ไป๋ฉิงเฉินก็ไม่อยากมาร่วมประชุมในวันนี้แต่ไป๋หย่งกวงโทรบอกว่าเธอต้องมาตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้กลับมาอยู่ในตระกูลแล้วซึ่งหมายความว่าพวกเขาก็ได้กลับไปที่ตระกูลไป๋แล้วด้วยต่อไปทั้งครอบครัวจะทั้งก้าวหน้าและถอยหลังไปด้วยกันและตอนนี้รายได้ทั้งหมดของพวกเขาต่างก็มาจากตระกูล
ครอบครัวของพวกเขาต้องอยู่รอดให้ได้
ไม่มีทางเลือกไป๋ฉิงเฉินต้องจำใจมาแต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกทุบจนน่วมแบบนี้
ประธานลู่ยังไงแต่สิ่งที่ฉันรู้ก็คือที่ประธานมาที่โรงกลั่น้หล้าชิงฉวนเป็นเพราะการแนะนำของคุณเฉินและเห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างก็ไม่รู้จักคุณเฉินดังนั้นผู้จัดการจึงลู่โกรธและตอนนี้ยังจะได้ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้ฉันอีกฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ"
"แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงฉันรู้สถานการณ์ของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนดีกว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ดังนั้นฉันจะไปเจรจาสัญญานี้เอง"
ไป๋ฉิงเฉินรู้สึกอึดอัดใจมากจนตอนนี้อยากจะอาเจียนออกมา
"เธอ...ไป๋ฉิงเฉินเธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรตลกจริงๆเธอทำให้ประธานลู่เหมือนคนโง่จะไปหลอกให้เขามาที่บริษัทเราได้โดยตัวคนเดียว?ยิ่งไปกว่านั้นคุณเฉินอะไรนั่นน่าตลกจริงๆถ้าเกิดประธานลู่มาเพราะการแนะนำคุณเฉินจริงๆงั้นโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนไปรู้จักคุณเฉินคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?อ้อฉันจำได้ว่าดูเหมือนว่าสามีของเธอจะนามสกุลเฉินนี่คงไม่ใช่ว่าคุณเฉินเป็นสามีขยะของเธอหรอกนะ?"
ไป๋เหลียนซานโต้กลับทันทีและเยาะเย้ยอย่างไร้ความปราณี
"ใช่ค่ะ...พี่ชายอย่าบอกนะว่าเป็นคุณเฉินที่กำลังซักผ้าและทำกับข้าวอยู่ที่บ้านจริงๆน่ะก็มีความเป็นไปได้อยู่นะเพราะยังไงคนนั้นเขาก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตน!"
"ไร้สาระคุณเฉินอะไรล่ะเมื่อวานประธานลู่ไม่ได้พูดถึงคุณเฉินเลยสักคำหลานฉิงเฉินถ้าเธอต้องการไปเจรจาความร่วมมือนี้ก็ไปไม่ไปก็ไม่เป็นไรไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องเช่นนี้เพื่อปัดความรับผิดชอบเธอก็รู้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย"
ไป๋หยงเซิ้งพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมทันทีและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ไป๋ฉิงเฉินพูดไม่ออกทันทีรู้สึกหดหู่ใจ
"โอเคไม่ต้องพูดแล้วไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบของใครในตอนนี้ก็คือต้องเจรจาเพื่อให้เกิดความร่วมมือโดยเร็วที่สุดและต้องเจรจาให้ไม่เสียผลประโยชน์มากเกินไปด้วย"
ในขณะที่พูดหวังสิ้วอวิ้นมองไปที่ไป๋ฉิงเฉิน
"คุณย่าหนูจะไปเจรจาสัญญานี้เองค่ะ!"
ไป๋ฉิงเฉินกัดฟันแน่นเมื่อนึกถึงความอยุติธรรมที่เธอเพิ่งเจอมาหัวใจของเธอก็ยิ่งหดหู่กว่าเดิมจึงพูดออกไปทันที
08.00น.บรรยากาศในห้องประชุมค่อนข้างตึงเครียด
หวังสิ้วอวิ้นหัวหน้าตระกูลไป๋นั่งอยู่ที่นั่งประธานมองไปที่สมาชิกตระกูลไป๋ที่เกียจคร้านกำลังหาวออกมาต่อหน้าเขาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆในใจและส่ายหัว
แม้ว่าไป๋ฉิงเฉินจะดื่มไปเมื่อวานแต่เธอก็ตื่นแต่เช้าเพราะเมื่อวานเธอมาประชุมสายทำให้คุณย่าของเธอไม่พอใจมากดังนั้นวันนี้ไป๋ฉิงเฉินจึงมาถึงห้องประชุมก่อนเวลา
แม้ว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของเทียนไป๋กรุ๊ปแต่สำหรับไป๋ฉิงเฉินแล้วโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเป็นน้ำพักน้ำแรงของพ่อเธอเธอไม่ยอมให้สิ่งที่ตระกูลเธอสร้างขึ้นมาถูกขายไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก
นี่มีความเป็นไปได้มากหลายอุตสาหกรรมภายใต้เทียนไป๋กรุ๊ปก็เป็นเช่นนี้แม้แต่ธุรกิจยาที่ทำให้ตระกูลไป๋ร่ำรวยมาก่อนก็ถูกขายให้กับผู้อื่นมีคนพูดกันว่าเทียนไป๋กรุ๊ปค่อยๆถอนตัวออกจากกลุ่มบริษัทในแวดวงเศรษฐกิจและการเงินของเมืองปินแต่ตระกูลไป๋ก็เป็นบริษัทกระเป๋าหนังขนาดใหญ่หากไม่มีเงินสะสมจำนวนมากเทียนไป๋กรุ๊ปอาจประกาศล้มละลายไปแล้ว
แต่ในปัจจุบันโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้ถูกดึงเข้าสู่ธุรกิจครอบครัวแล้วและเป็นที่พอใจของคนเหล่านี้และปกติแล้วคนเหล่านี้ก็ไม่ใช่คนโง่แม้ว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะเผชิญกับความเสี่ยงล้มละลายแต่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็ยังคงเป็นธุรกิจในสิบอันดับแรกของเมืองปินและแม้แต่โรงกลั่นเหล้าป้าหวังก็เทียบไม่ติด
ถ้าครั้งนี้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นไม่มีความเป็นไปได้เลยที่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะมาอยู่ในธุรกิจของตระกูล
ไหนว่ามาซิหย่งเซิ้งพวกคุณคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไง?คนที่ดูแลโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนว่าไงบ้าง?"
หวังสิ้วอวิ้นจะไม่รู้เรื่องทั้งหมดได้ยังไงแต่เธอแค่ต้องการให้คนพวกนี้ได้ยินด้วย
เพราะอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเคยอยู่ในมือของลูกชายคนโตของเธอแต่ต่อมาหลานสาวของเธอไป๋ฉิงเฉินเป็นผู้สานต่อจากบางมุมก็บอกว่าแม้จะมีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรแต่ตอนนี้ในความคิดของทุกคนโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็ยังเป็นของไป๋ฉิงเฉินอยู่ดี
ดังนั้นผู้ที่ต้องการควบคุมกิจการโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจริงๆจึงมีแค่นี้
อย่างไรก็ตามเธอก็ได้ตัดสินใจไว้แล้ว
"แม่จริงๆเมื่อวานก็กำลังเจรจากันดีๆแม้ว่าประธานลู่จากโรงกลั่นเล่าเสฉวนจะเรียกเงื่อนไขที่มากเกินไปแต่...ตอนที่เราคุยกันอยู่นั้นหลานสาวฉิงเฉินก็เข้ามาทำเรื่องที่ไม่ควรทำและในที่สุดก็เจรจาไม่สำเร็จ"
"ใช่คุณย่าเมื่อวานถ้าไม่ใช่เพราะไป๋ฉิงเฉินเข้ามาสร้างความวุ่นวายประธานลู่คงจะเซ็นสัญญากับพวกเราเรียบร้อยไปแล้วและแม้ว่าเงื่อนไขของประธานลู่จะค่อนข้างเยอะไปนิดแต่ยังไงโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็เป็นกิจการที่กำลังจะล้มละลายสามารถเพิ่มผลกำไรได้มากที่สุดก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแต่ไป๋ฉิงเฉินกลับปฏิเสธและยังบอกว่าถ้าเป็นอย่างนี้เธอยอมปล่อยให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนล้มละลายและไม่ยอมร่วมมือกับคนอื่นสุดท้ายก็จบไม่ค่อยสวย..."
ตอนนี้ไป๋จินเหลียนพูดไปด้วยและก็ชี้ไปที่ไป๋ฉิงเฉินที่กำลังนั่งอยู่ที่มุมด้วยความโกรธ
ในการประชุมของตระกูลไป๋ไป๋ฉิงเฉินมักจะนั่งอยู่ที่มุมด้านหลังเสมอนี่ไม่ใช่เพราะคนอื่นแต่เป็นเพราะยังไงในสายตาของหลายๆคนไป๋ฉิงเฉินก็เป็นเด็กสาวที่แต่งงานออกไปแล้วสามีที่ไป๋ฉิงเฉินเลือกก็ไม่ใช่ลูกเขยที่ร่ำรวยแต่เป็นคนที่ไม่ได้เรื่องเป็นลูกเขยแต่งเข้าบ้านไม่เท่าไหร่แต่ทั้งวันเขาเอาแต่ล้างจานทำกับข้าวที่บ้านตลอดเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินชัดๆ
สิ่งนี้ทำให้ตระกูลไป๋อับอายขายหน้ามาก
เป็นเพราะเหตุนี้ทำให้พวกคนตระกูลไป๋ต้องการขับไล่ไป๋หย่งกวงออกไปจากตระกูลมาโดยตลอด
และไม่เพียงแค่นั้นแต่ยังต้องการให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนมาอยู่ในมือตระกูลอีกด้วย
ทำให้ครอบครัวของไป๋หย่งกวงไม่เหลืออะไรเลย
นี่คือสิ่งที่คนเหล่านี้คิด
"พวกคุณ……"
"พวกเราทำไมไป๋ฉิงเฉินถ้าไม่ใช่เพราะเธอเมื่อวานเราก็เจรจาสัญญาได้สำเร็จแล้วไม่แน่วันนี้เราอาจจะได้เดินหน้าโครงการใหม่แล้วเป็นเพราะเธอทำลายความร่วมมือในครั้งนี้และยังไปทำให้ประธานลู่ไม่พอใจอีก"
ไป๋เหลียนชานพูดต่อโดยไม่ได้ให้โอกาสไป๋ฉิงเฉินได้พูดนี้
"ใช่ไป๋ฉิงเฉินตอนนี้เธอไม่ได้เป็นคนดูแลโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอีกต่อไปแล้วคุณยังจะเข้ามาวุ่นวายอะไรอีก!"
"ตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอาศัยการอัดฉีดเงินทุนของตระกูลเพียงอย่างเดียวหากต้องการจะดึงกิจการทั้งหมดกลับมาต้องใช้เวลานานมากเธอต้องการผลักให้ทั้งตระกูลลงนรกไปพร้อมกันจริงๆเหรอ!"
"ใช่ประธานลู่จากโรงกลั่นเหล้าเสฉวนไม่พอใจเธอแล้วถึงแม้ว่าต่อไปโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะสามารถพลิกผันได้ในอนาคตแต่ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ!"
"เฮ้อ...จบแล้ว!"
เมื่อไป๋ฉิงเฉินได้ยินสิ่งนี้เธอก็พูดไม่ออกไปทันที
เห็นได้ชัดว่าเป็นครอบครัวของไป๋หย่งเซิ่งที่หลอกประธานลู่มาที่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนทำให้ลู่เสี่ยวปอโกรธและไม่คิดจะร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนแล้วตอนนี้ทุกคนก็โยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้เธอ
"หย่งเซิ้งงั้นตอนนี้มีมาตรการแก้ไขอะไรบ้างหรือยัง?เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้และไม่ว่ายังไงครั้งนี้เราจะต้องแย่งโอกาสของโรงกลั่นเหล้าเสฉวนมาให้ได้ไม่เช่นนั้นไม่ใช่แค่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนจะล้มละลายเราไปทำให้คนใหญ่คนโตเช่นนี้ไม่พอใจเข้าต่อไปเทียนไป๋กรุ๊ปของเราก็อาจจะไปได้ไม่สวยนัก"
"ใช่ๆ..."
หลายคนพยักหน้าและพูดว่าใช่ทันที
"คุณย่าในเมื่อเรื่องนี้ไป๋ฉิงเฉินเป็นคนก่อเรื่องฉันคิดว่าควรก็ให้เธอไปจัดการใครบอกให้เธออวดเก่งเองล่ะ!"
ขณะที่ไป๋จินเหลียนพูดเธอมองไปที่ไป๋ฉิงเฉินอย่างเย็นชาดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส
เห็นได้ชัดว่าหวังสิ้วอวิ้นรู้เรื่องนี้อยู่แล้วตอนนี้เธอก็ถอนลมหายใจยาวแล้วมองไปที่ไป๋ฉิงเฉินที่กำลังนั่งอยู่ที่นั่นและพูดว่า:"ฉิงเฉินคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?"
เมื่อหวังสิ้วอวิ้นพูดทุกสายตาก็มองไปที่ไป๋ฉิงเฉินทันที
ใบหน้าของไป๋ฉิงเฉินเคร่งเครียดมากในขณะนี้
เธอมองไปที่ครอบครัวของไป๋หย่งเซิ้งและเธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ
เดิมทีวันนี้ไป๋ฉิงเฉินก็ไม่อยากมาร่วมประชุมในวันนี้แต่ไป๋หย่งกวงโทรบอกว่าเธอต้องมาตอนนี้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้กลับมาอยู่ในตระกูลแล้วซึ่งหมายความว่าพวกเขาก็ได้กลับไปที่ตระกูลไป๋แล้วด้วยต่อไปทั้งครอบครัวจะทั้งก้าวหน้าและถอยหลังไปด้วยกันและตอนนี้รายได้ทั้งหมดของพวกเขาต่างก็มาจากตระกูล
ครอบครัวของพวกเขาต้องอยู่รอดให้ได้
ไม่มีทางเลือกไป๋ฉิงเฉินต้องจำใจมาแต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกทุบจนน่วมแบบนี้
ประธานลู่ยังไงแต่สิ่งที่ฉันรู้ก็คือที่ประธานมาที่โรงกลั่น้หล้าชิงฉวนเป็นเพราะการแนะนำของคุณเฉินและเห็นได้ชัดว่าพวกเขาต่างก็ไม่รู้จักคุณเฉินดังนั้นผู้จัดการจึงลู่โกรธและตอนนี้ยังจะได้ผลักความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้ฉันอีกฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ"
"แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงฉันรู้สถานการณ์ของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนดีกว่าทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ดังนั้นฉันจะไปเจรจาสัญญานี้เอง"
ไป๋ฉิงเฉินรู้สึกอึดอัดใจมากจนตอนนี้อยากจะอาเจียนออกมา
"เธอ...ไป๋ฉิงเฉินเธอกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรตลกจริงๆเธอทำให้ประธานลู่เหมือนคนโง่จะไปหลอกให้เขามาที่บริษัทเราได้โดยตัวคนเดียว?ยิ่งไปกว่านั้นคุณเฉินอะไรนั่นน่าตลกจริงๆถ้าเกิดประธานลู่มาเพราะการแนะนำคุณเฉินจริงๆงั้นโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนไปรู้จักคุณเฉินคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?อ้อฉันจำได้ว่าดูเหมือนว่าสามีของเธอจะนามสกุลเฉินนี่คงไม่ใช่ว่าคุณเฉินเป็นสามีขยะของเธอหรอกนะ?"
ไป๋เหลียนซานโต้กลับทันทีและเยาะเย้ยอย่างไร้ความปราณี
"ใช่ค่ะ...พี่ชายอย่าบอกนะว่าเป็นคุณเฉินที่กำลังซักผ้าและทำกับข้าวอยู่ที่บ้านจริงๆน่ะก็มีความเป็นไปได้อยู่นะเพราะยังไงคนนั้นเขาก็ไม่ได้เปิดเผยตัวตน!"
"ไร้สาระคุณเฉินอะไรล่ะเมื่อวานประธานลู่ไม่ได้พูดถึงคุณเฉินเลยสักคำหลานฉิงเฉินถ้าเธอต้องการไปเจรจาความร่วมมือนี้ก็ไปไม่ไปก็ไม่เป็นไรไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องเช่นนี้เพื่อปัดความรับผิดชอบเธอก็รู้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย"
ไป๋หยงเซิ้งพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมทันทีและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ไป๋ฉิงเฉินพูดไม่ออกทันทีรู้สึกหดหู่ใจ
"โอเคไม่ต้องพูดแล้วไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบของใครในตอนนี้ก็คือต้องเจรจาเพื่อให้เกิดความร่วมมือโดยเร็วที่สุดและต้องเจรจาให้ไม่เสียผลประโยชน์มากเกินไปด้วย"
ในขณะที่พูดหวังสิ้วอวิ้นมองไปที่ไป๋ฉิงเฉิน
"คุณย่าหนูจะไปเจรจาสัญญานี้เองค่ะ!"
ไป๋ฉิงเฉินกัดฟันแน่นเมื่อนึกถึงความอยุติธรรมที่เธอเพิ่งเจอมาหัวใจของเธอก็ยิ่งหดหู่กว่าเดิมจึงพูดออกไปทันที
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved