บทที่ 66 คิดไม่ถึงแกจะกล้าวางสายโทรศัพท์ฉัน
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 31,2021
"พอแล้วไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแล้วระยะเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของกลุ่มบริษัทถ้าหากคุณไม่ไปทำฉันสามารถให้คนอื่นไปทำได้ถึงยังไงความร่วมมือครั้งนี้เดิมทีก็เป็นไป๋ฉิงเฉินที่เป็นคนเจรจามาถ้าหากคุณไม่ทำฉันก็ทำได้แค่มอบให้ฉิงเฉินไปทำแต่ถึงเวลานั้นคุณถูกบีบออกไปอย่ามาโทษว่าแม่คนนี้ไม่ได้เตือนคุณ!"
หวังสิ้วอวิ้นมองลูกชายของตัวเองนึกไม่ถึงว่าจะไม่คิดที่จะก้าวหน้าอย่างนี้แล้วก็รู้สึกกลัดกลุ่มขึ้นมาทันที
"แม่ผมจะไปทำเดี๋ยวนี้คุณวางใจผมจะทำเรื่องนี้ให้สวยงามอย่างแน่นอน!"
ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของหวังสิ้วอวิ้นทำให้ไป๋หย่งเซิ้งตกใจไม่น้อย
จึงรีบตัดสินใจ
"พอแล้วแม่รู้ว่าคุณก็เป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่งไปเถอะตอนนี้ธุรกิจตระกูลของบ้านตระกูลไป๋พวกเราได้ถึงเวลาที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วถ้าหากครั้งนี้สามารถจับให้อยู่ได้งั้นก็เป็นช่วงเวลาการก้าวกระโดดของเทียนไป๋กรุ๊ปพวกเราอีกครั้งแต่ถ้าหากจับไว้ไม่ได้งั้นพวกเราอาจจะ……"
"แม่ผมทราบแล้ว!งั้นผมไปเตรียมตัวก่อน……คุณร่างกายไม่ดีพักผ่อนให้ให้ดีๆ!"
ไป๋หย่งเซิ้งเวลานี้พูดจบก็หมุนตัวออกไปจากห้อง
หวังสิ้วอวิ้นนั่งบนโซฟาที่อ่อนนุ่มนั่นสภาพการณ์ของบริษัทตอนนี้หล่อนรู้ชัดเจนมากกว่าใครตอนนี้พัฒนาเขตเมืองใหม่ถูกคนถีบออกจากเกมช่องทางที่สำคัญไม่กี่ช่องทางก็ถูกตัดออกนี่เห็นชัดมากว่ามีคนทำสงครามกับบ้านตระกูลไป๋ตอนที่หญิงชราหวังสิ้วอวิ้นยังเป็นสาวนั้นก็เดินออกมาจากในแผนกลอุบายอย่างนี้ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าควรจะสู้กลับไปอย่างไร
ถ้าหากไม่มีโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอยู่ในมือแล้วหล่อนอาจจะปวดหัวเล็กน้อยจริงๆแต่มีโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอยู่อีกทั้งมีสัญญาความร่วมมือที่เซ็นกับโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนฉบับนั้น
หล่อนสามารถพูดได้ว่าไม่มีความกลัวใดๆ
เพียงรอพรุ่งนี้หลังเอาตามข้อเรียกร้องแก้ไขสัญญาโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเสร็จสมบูรณ์แล้วพอโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนอัดฉีดเงินทุนเข้ามาโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็จะฟื้นคืนขึ้นมาทันทีถึงเวลานั้นเทียนไป๋กรุ๊ปต่างก็จะหาข้อดีไม่น้อยจากโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน
กระทั่งคนที่แอบลงมืออยู่เบื้องหลังนั่นเป็นใครหวังสิ้วอวิ้นตอนนี้เดิมทีก็ไม่รีบร้อนที่จะหาตัวออกมาเพราะขอแค่เทียนไป๋กรุ๊ปพอฟื้นคืนคนนี้ก็จะลงมืออีกถึงเวลานั้นหวังสิ้วอวิ้นก็จะไม่เกรงใจใดๆอีกอย่างแน่นอน
……
วันที่สองห้องประชุมของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน
ในเช้าตรู่ไป๋จินเหลียนก็ได้ให้คนมาเช็ดความสะอาดห้องประชุมอย่างสะอาด
เพราะว่าเรื่องของสัญญาเมื่อวานดังนั้นวันนี้ญาติมากมายเหล่านี้ของตระกูลไป๋แต่ละคนต่างก็มากันแต่เช้ามาก
อีกทั้งถึงแม้ช่องทางของเทียนไป๋กรุ๊ปจะถูกตัดออกเรื่องเขตพัฒนาเมืองใหม่ก็ถูกถีบออกไปจากเกมหญิงชราก็ได้สั่งห้ามไม่ให้พูดแต่ที่จริงแล้วเกิดเรื่องใหญ่อย่างนี้อย่าพูดว่าคืนเดียวเลยแทบจะในเวลาสั้นๆคนเหล่านี้ของบ้านตระกูลไป๋ต่างก็รู้แล้วแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดสภาพการณ์จริงออกมาก็เท่านั้นเอง
ในขณะที่ห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนที่เล็กๆนี้นั่งเต็มหญิงชราหวังสิ้วอวิ้นก็เดินเข้ามาภายใต้การประคองของไป๋เหลียนซาน
"มากันครบแล้ว……"
คนในห้องประชุมต่างก็รีบลุกขึ้น
แต่ในขณะที่ทางนี้ได้เปิดประชุมหารือความร่วมมือรายละเอียดของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนและโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนไป๋หย่งเซิ้งที่ใส่ชุดสูทสะอาดทั้งตัวในมือถือของขวัญที่เตรียมอย่างใส่ใจได้ยืนหน้าประตูคลับเฮาส์ที่มีชื่อนั่นของเซียงเจียง
สองสามวันนี้เพราะว่าห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนที่เมืองปินกำลังตกแต่งอยู่ดังนั้นจึงเหมาคลับเฮาส์ที่เปิดใหม่อันนี้มาเป็นเขตพื้นที่ทำงานชั่วคราวของที่นั่นก่อน
ไป๋หย่งเซิ้งเดินมาถึงคลับเฮาส์ที่เงียบสงบแห่งนี้จากนั้นในขณะที่อยากจะสอบถามสักหน่อยนั้นกลับถูกพนักงานบริการที่รูปร่างดีคนนหนึ่งขวางไว้พูดว่าถ้าต้องการนัดล่วงหน้ากับประธานลู่ให้มารอด้านนี้สักครู่ประธานลู่ยังพักผ่อนอยู่
ไป๋หย่งเซิ้งทำได้แค่นั่งลงรอด้านข้าง……
แต่อีกด้านหนึ่งในห้องประชุมของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้หารือรายละเอียดความร่วมมือที่มากมายเสร็จแล้ววันนี้ประชุมคนเหล่านี้แต่ละคนต่างก็กระปี้กระเปร่ามากยังไงคนเหล่านี้ต่างก็รู้โครงการโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในวันนี้ถึงสามารถพลิกโครงการของกลุ่มบริษัทได้อีกทั้งยิ่งไปกว่านั้นก็คือโครงการนี้สามารถให้ตัวเองได้รับประโยชน์มากมายจากมัน
"ทำไมหย่งเซิ้งยังไม่กลับมาอีก?"
หวังสิ้วอวิ้นเวลานี้ก็คิ้วขมวดเล็กน้อยแล้วก็หยิบมือถือโทรหาไป๋หย่งเซิ้งทันที
ไป๋หย่งเซิ้งนั่งรอที่นั่นมาครึ่งวันก็ไม่สามารถเจอลู่เสี่ยวปอได้คนที่บ้านโทรมาเร่งเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ไป๋หย่งเซิ้งกระวนกระวายใจสุดท้ายเขาอดที่จะบุกเข้าไปในห้องไม่ได้ผลคือถูกรปภ.สองสามคนขวางไว้เลขาของลู่เสี่ยวปอเดินออกมาทันทีบอกกับไป๋หย่งเซิ้งว่าไม่งั้นยุติความร่วมมือหรือไม่ก็ดำเนินการตามสัญญาก่อนหน้านี้
พูดจบก็ไม่สนใจไป๋หย่งเซิ้งว่าจะพูดอะไรอีกแล้วก็เอาไป๋หย่งเซิ้งโยนออกไป
ไป๋หย่งเซิ้งที่ยืนอยู่ข้างถนนอัดอั้นอารมณ์ไว้กลับไม่มีวิธีเลยสักนิด……
"คุณว่าอะไร?หย่งเซิ้งคุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"
ไม่มีวิธีไป๋หย่งเซิ้งรู้ว่าปิดบังยังไงก็ปิดบังไม่อยู่อีกทั้งเรื่องนี้ถ้าหากยืดเวลาออกไปนานความร่วมมือทั้งหมดก็อาจจะยิ่งเป็นโมษะโดยสิ้นเชิงไม่รู้จะทำยังไงเขาทำได้แค่พูดอย่างเปิดเผย
"แม่ผมไม่ได้ล้อเล่นประธานลู่เมื่อวานก็คือพูดอย่างนี้วันนี้ผมไปเดิมทีก็ไม่ได้เจอประธานลู่เป็นเลขาประธานลู่ที่ส่งต่อออกมาเรื่องนี้……"
พัวะ!
ต่อหน้าทุกคนหวังสิ้วอวิ้นแทบจะไม่มีเค้าบ่งบอกล่วงหน้าแล้วจึงตบหน้าไป๋หย่งเซิ้งโดยทันที
"แม่ผม……"
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นไปหาฉิงเฉินเดี๋ยวนี้เอาเรื่องนี้เจรจากลับมาเห็นชัดว่าประธานลู่ไม่พอใจมากที่พวกเราเปลี่ยนผู้รับผิดชอบกระทันหัน"
"นอกจากนี้แบบความร่วมมือที่พวกเราหารือกันก่อนหน้านี้ต่างก็ใช้ไม่ได้ให้ทำตามในสัญญาทั้งหมด"
ทันใดนั้นคนเหล่านี้ที่อยู่ในที่ประชุมต่างก็อยากที่จะพูดอะไรแต่เวลานี้ต่างกลับพูดไม่ออก
"แม่หรือว่าจะให้ฉิงเฉินกลับมารับผิดชอบโครงการนี้ต่อจริงๆ?"
"ใช่คุณย่าทางโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนนั่นต่างก็ได้เซ็นสัญญากับพวกเราแล้วหรือว่าพวกเขายังสามารถกลับใจได้อีก?"
"ไอ้เลวถ้าไม่ใช่เมื่อวานคุณทะเลาะกับฉิงเฉินจะกลายเป็นสภาพอย่างนี้ในวันนี้เหรอ?"
หวังสิ้วอวิ้นมองไป๋หย่งเซิ้งที่มีสีหน้าท่าทางที่สับสนอยู่ตรงนั่นด้วยสายตาที่เย็นชา
"เรื่องนี้คุณจัดการเรียบร้อยคุณไปขอโทษฉิงเฉินด้วยตัวเองให้เขามาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ถ้าความร่วมมือครั้งนี้ล้มเหลวแล้วล่ะก็ฉันคนแรกที่จะไล่คุณออกไปจากบ้านตระกูลไป๋!"
"อ๊ะ……"
"แม่แม่……"
ได้ยินคำพูดนี้ไป๋หย่งเซิ้งเพียงรู้สึกว่าสั่นไปทั้งตัวรีบอยากที่จะอธิบายแต่หวังสิ้วอวิ้นเดิมทีก็ไม่ให้โอกาสใดๆกับเขาโมโหแล้วก็เดินออกไปจากห้องประชุมภายใต้การประคองของผู้ช่วยตัวเอง
"ทำยังไงไป๋ฉิงเฉินนั่นตัวเองก็ไม่มาประชุมคุณย่าโทษความผิดให้พวกเราโดยสิ้นเชิง……"
"หรือว่าฉันพูดผิดเหรอ?"
ไป๋จินเหลียนเวลานี้มีหน้าที่น้อยใจในอกอัดอั้นอารมณ์ไว้ความไม่พอใจที่มีต่อไป๋ฉิงเฉินกำลังสะสมอย่างต่อเนื่อง
"เฮ้อ……หย่งเซิ้งเรื่องนี้คุณจัดการไม่เหมาะสมจริงๆ"
"ฉิงเฉินเจรจาสัญญาอย่างลำบากอย่างนั้นคุณกลับไปสร้างความวุ่นวายเฮ้อ……ไม่รู้จะพูดว่าคุณยังไงดี……"
"ประธานคณะกรรมการตอนนี้กำลังโกรธอยู่ที่พูดไปพวกคุณก็อย่าเก็บไปคิดมากที่จริงแล้วก้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรไปเรียกฉิงเฉินเอาสัญญานี้เจรจากลับมาก็ได้แล้ว……"
พวกญาติๆเวลานี้ต่างก็พูดไปแล้วก็เดินออกจากห้องประชุมไป
"ฮึแต่ละคนต่างก็เป็นพวกที่เห็นเงินตาโตก่อนหน้านี้ยังพูดว่ายืนอยู่ข้างพวกเราตอนนี้ต่างก็หลบหนีไปแล้ว!"
ไป๋จินเหลียนมองแต่ละคนดูเหมือนภายนอกปลอบใจแต่กลับเป็นญาติที่ดูเป็นเรื่องตลกทันใดนั้นก็โกรธขึ้นมาทันที
"ทั้งหมดนี้ต้องโทษไป๋ฉิงเฉินนั่นถ้าไม่ใช่ไป๋ฉิงเฉินพวกเราจะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง!"
"ก็ไม่รู้ว่าไป๋ฉิงเฉินนั่นให้ประธานลู่กินยาอะไร"
"ต้องขึ้นเตียงกับประธานลู่นั่นแน่นอนประธานลู่นั่นก็ไม่ใช่คนดีอะไรเพียงแค่คิดไม่ถึงว่านังนี่จะสามารถเอาสัญญาที่ใหญ่อย่างนี้เซ็นมาได้"
ไป๋หย่งเซิ้งได้ยินคำพูดของลูกสาวตัวเองในใจก็โกรธมาก
แล้วควักมือถือออกมาโทรหาไป๋ฉิงเฉินทันที
ไป๋ฉิงเฉินที่พิงโซฟาดูเอกสารอยู่พอเห็นมือถือมีสายเข้าก็วิ่งไปพูดด้านหน้าเฉินผิงอานทันทีว่า"พ่อสองโทรมา"
"คุณรับ!"
ไป๋ฉิงเฉินเอามือถือดันไปทางเฉินผิงอาน……
ความหมายนั้นเห็นชัดมากหล่อนรู้แล้วว่าเรื่องอะไรเพียงแต่เขาไม่อยากพูดกับไป๋หย่งเซิ้งได้ยินเสียงก็รำคาญเล็กน้อย
เฉินผิงอานก็พยักหน้าทันทีจากนั้นก็รับสายโทรศัพท์
"ไป๋ฉิงเฉินมาที่บริษัทเดี๋ยวนี้มีเรื่องสำคัญมากต้องการหาเธอ!"
พอรับสายฝ่ายตรงข้ามก็ตะคอกเสียงดังอย่างดุร้ายทันที
เพราะว่าเฉินผิงอานเปิดลำโพงดังนั้นไป๋ฉิงเฉินจึงได้ยินอย่างชัดเจน
"หรือว่าบริษัทเกิดปัญหาอะไร?"
ไป๋ฉิงเฉินเพียงพูดใช้เสียงที่ตัวเองและเฉินผิงอานสามารถได้ยินเท่านั้น
ที่จริงแล้วสายนี้เฉินผิงอานรู้นานแล้วว่าจะต้องโทรมายิ้มกว้างทันทีจากนั้นพูดกับโทรศัพท์ว่า"คุณเป็นใคร?"
ประโยคหนึ่งไป๋หย่งเซิ้งที่เตรียมจะอ้าปากด่าอีกครั้งกับสายโทรศัพท์ทางนั้นเกือบจะสำลัก
"ไม่พูด?ไม่พูดผมก็จะวางแล้ว……"
พูดจบก็เตรียมที่จะวางสาย
"ผมคือไป๋หย่งเซิ้งคุณล่ะเป็นใคร?"
ไป๋หย่งเซิ้งประหลาดใจหรือว่าโทรผิดแล้ว?
"เฉินผิงอาน"
ได้ยินเฉินผิงอานแนะนำตัวไป๋หย่งเซิ้งทางนั้นก็โกรธจัดมาก
"แกคนไร้ค่าเอามือถือส่งให้ไป๋ฉิงเฉินเดี๋ยวนี้!"
"อ๊ะ!"
เฉินผิงอานแค่อ๊ะเบาๆออกมาจากนั้นก็วางสายไปโดยทันที
"เหี้ยคิดไม่ถึงว่าจะต่อหน้าเรา……"
ตู๊ดๆ……
ในขณะที่ไป๋หย่งเซิ้งที่อยู่อีกด้านบ่นพึมพำอยู่นั้นในโทรศัพท์ก็ได้ส่งเสียงยุ่งมา
"ไอ้พวกคนไร้ค่าที่น่าขายหน้าคนนี้นึกไม่ถึงจะกล้าวางสายโทรศัพท์ของเรา!"
ไป๋หย่งเซิ้งโมโหกำหมัดแน่นทันทีมีใบหน้าที่เยือกเย็นจนน่ากลัว……
หวังสิ้วอวิ้นมองลูกชายของตัวเองนึกไม่ถึงว่าจะไม่คิดที่จะก้าวหน้าอย่างนี้แล้วก็รู้สึกกลัดกลุ่มขึ้นมาทันที
"แม่ผมจะไปทำเดี๋ยวนี้คุณวางใจผมจะทำเรื่องนี้ให้สวยงามอย่างแน่นอน!"
ได้ยินคำพูดเมื่อกี้ของหวังสิ้วอวิ้นทำให้ไป๋หย่งเซิ้งตกใจไม่น้อย
จึงรีบตัดสินใจ
"พอแล้วแม่รู้ว่าคุณก็เป็นคนที่มีความสามารถมากคนหนึ่งไปเถอะตอนนี้ธุรกิจตระกูลของบ้านตระกูลไป๋พวกเราได้ถึงเวลาที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วถ้าหากครั้งนี้สามารถจับให้อยู่ได้งั้นก็เป็นช่วงเวลาการก้าวกระโดดของเทียนไป๋กรุ๊ปพวกเราอีกครั้งแต่ถ้าหากจับไว้ไม่ได้งั้นพวกเราอาจจะ……"
"แม่ผมทราบแล้ว!งั้นผมไปเตรียมตัวก่อน……คุณร่างกายไม่ดีพักผ่อนให้ให้ดีๆ!"
ไป๋หย่งเซิ้งเวลานี้พูดจบก็หมุนตัวออกไปจากห้อง
หวังสิ้วอวิ้นนั่งบนโซฟาที่อ่อนนุ่มนั่นสภาพการณ์ของบริษัทตอนนี้หล่อนรู้ชัดเจนมากกว่าใครตอนนี้พัฒนาเขตเมืองใหม่ถูกคนถีบออกจากเกมช่องทางที่สำคัญไม่กี่ช่องทางก็ถูกตัดออกนี่เห็นชัดมากว่ามีคนทำสงครามกับบ้านตระกูลไป๋ตอนที่หญิงชราหวังสิ้วอวิ้นยังเป็นสาวนั้นก็เดินออกมาจากในแผนกลอุบายอย่างนี้ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าควรจะสู้กลับไปอย่างไร
ถ้าหากไม่มีโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอยู่ในมือแล้วหล่อนอาจจะปวดหัวเล็กน้อยจริงๆแต่มีโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนอยู่อีกทั้งมีสัญญาความร่วมมือที่เซ็นกับโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนฉบับนั้น
หล่อนสามารถพูดได้ว่าไม่มีความกลัวใดๆ
เพียงรอพรุ่งนี้หลังเอาตามข้อเรียกร้องแก้ไขสัญญาโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนเสร็จสมบูรณ์แล้วพอโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนอัดฉีดเงินทุนเข้ามาโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนก็จะฟื้นคืนขึ้นมาทันทีถึงเวลานั้นเทียนไป๋กรุ๊ปต่างก็จะหาข้อดีไม่น้อยจากโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน
กระทั่งคนที่แอบลงมืออยู่เบื้องหลังนั่นเป็นใครหวังสิ้วอวิ้นตอนนี้เดิมทีก็ไม่รีบร้อนที่จะหาตัวออกมาเพราะขอแค่เทียนไป๋กรุ๊ปพอฟื้นคืนคนนี้ก็จะลงมืออีกถึงเวลานั้นหวังสิ้วอวิ้นก็จะไม่เกรงใจใดๆอีกอย่างแน่นอน
……
วันที่สองห้องประชุมของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวน
ในเช้าตรู่ไป๋จินเหลียนก็ได้ให้คนมาเช็ดความสะอาดห้องประชุมอย่างสะอาด
เพราะว่าเรื่องของสัญญาเมื่อวานดังนั้นวันนี้ญาติมากมายเหล่านี้ของตระกูลไป๋แต่ละคนต่างก็มากันแต่เช้ามาก
อีกทั้งถึงแม้ช่องทางของเทียนไป๋กรุ๊ปจะถูกตัดออกเรื่องเขตพัฒนาเมืองใหม่ก็ถูกถีบออกไปจากเกมหญิงชราก็ได้สั่งห้ามไม่ให้พูดแต่ที่จริงแล้วเกิดเรื่องใหญ่อย่างนี้อย่าพูดว่าคืนเดียวเลยแทบจะในเวลาสั้นๆคนเหล่านี้ของบ้านตระกูลไป๋ต่างก็รู้แล้วแต่พวกเขาก็ไม่ได้พูดสภาพการณ์จริงออกมาก็เท่านั้นเอง
ในขณะที่ห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนที่เล็กๆนี้นั่งเต็มหญิงชราหวังสิ้วอวิ้นก็เดินเข้ามาภายใต้การประคองของไป๋เหลียนซาน
"มากันครบแล้ว……"
คนในห้องประชุมต่างก็รีบลุกขึ้น
แต่ในขณะที่ทางนี้ได้เปิดประชุมหารือความร่วมมือรายละเอียดของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนและโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนไป๋หย่งเซิ้งที่ใส่ชุดสูทสะอาดทั้งตัวในมือถือของขวัญที่เตรียมอย่างใส่ใจได้ยืนหน้าประตูคลับเฮาส์ที่มีชื่อนั่นของเซียงเจียง
สองสามวันนี้เพราะว่าห้องทำงานของโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนที่เมืองปินกำลังตกแต่งอยู่ดังนั้นจึงเหมาคลับเฮาส์ที่เปิดใหม่อันนี้มาเป็นเขตพื้นที่ทำงานชั่วคราวของที่นั่นก่อน
ไป๋หย่งเซิ้งเดินมาถึงคลับเฮาส์ที่เงียบสงบแห่งนี้จากนั้นในขณะที่อยากจะสอบถามสักหน่อยนั้นกลับถูกพนักงานบริการที่รูปร่างดีคนนหนึ่งขวางไว้พูดว่าถ้าต้องการนัดล่วงหน้ากับประธานลู่ให้มารอด้านนี้สักครู่ประธานลู่ยังพักผ่อนอยู่
ไป๋หย่งเซิ้งทำได้แค่นั่งลงรอด้านข้าง……
แต่อีกด้านหนึ่งในห้องประชุมของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้หารือรายละเอียดความร่วมมือที่มากมายเสร็จแล้ววันนี้ประชุมคนเหล่านี้แต่ละคนต่างก็กระปี้กระเปร่ามากยังไงคนเหล่านี้ต่างก็รู้โครงการโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนในวันนี้ถึงสามารถพลิกโครงการของกลุ่มบริษัทได้อีกทั้งยิ่งไปกว่านั้นก็คือโครงการนี้สามารถให้ตัวเองได้รับประโยชน์มากมายจากมัน
"ทำไมหย่งเซิ้งยังไม่กลับมาอีก?"
หวังสิ้วอวิ้นเวลานี้ก็คิ้วขมวดเล็กน้อยแล้วก็หยิบมือถือโทรหาไป๋หย่งเซิ้งทันที
ไป๋หย่งเซิ้งนั่งรอที่นั่นมาครึ่งวันก็ไม่สามารถเจอลู่เสี่ยวปอได้คนที่บ้านโทรมาเร่งเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้ไป๋หย่งเซิ้งกระวนกระวายใจสุดท้ายเขาอดที่จะบุกเข้าไปในห้องไม่ได้ผลคือถูกรปภ.สองสามคนขวางไว้เลขาของลู่เสี่ยวปอเดินออกมาทันทีบอกกับไป๋หย่งเซิ้งว่าไม่งั้นยุติความร่วมมือหรือไม่ก็ดำเนินการตามสัญญาก่อนหน้านี้
พูดจบก็ไม่สนใจไป๋หย่งเซิ้งว่าจะพูดอะไรอีกแล้วก็เอาไป๋หย่งเซิ้งโยนออกไป
ไป๋หย่งเซิ้งที่ยืนอยู่ข้างถนนอัดอั้นอารมณ์ไว้กลับไม่มีวิธีเลยสักนิด……
"คุณว่าอะไร?หย่งเซิ้งคุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?"
ไม่มีวิธีไป๋หย่งเซิ้งรู้ว่าปิดบังยังไงก็ปิดบังไม่อยู่อีกทั้งเรื่องนี้ถ้าหากยืดเวลาออกไปนานความร่วมมือทั้งหมดก็อาจจะยิ่งเป็นโมษะโดยสิ้นเชิงไม่รู้จะทำยังไงเขาทำได้แค่พูดอย่างเปิดเผย
"แม่ผมไม่ได้ล้อเล่นประธานลู่เมื่อวานก็คือพูดอย่างนี้วันนี้ผมไปเดิมทีก็ไม่ได้เจอประธานลู่เป็นเลขาประธานลู่ที่ส่งต่อออกมาเรื่องนี้……"
พัวะ!
ต่อหน้าทุกคนหวังสิ้วอวิ้นแทบจะไม่มีเค้าบ่งบอกล่วงหน้าแล้วจึงตบหน้าไป๋หย่งเซิ้งโดยทันที
"แม่ผม……"
"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นไปหาฉิงเฉินเดี๋ยวนี้เอาเรื่องนี้เจรจากลับมาเห็นชัดว่าประธานลู่ไม่พอใจมากที่พวกเราเปลี่ยนผู้รับผิดชอบกระทันหัน"
"นอกจากนี้แบบความร่วมมือที่พวกเราหารือกันก่อนหน้านี้ต่างก็ใช้ไม่ได้ให้ทำตามในสัญญาทั้งหมด"
ทันใดนั้นคนเหล่านี้ที่อยู่ในที่ประชุมต่างก็อยากที่จะพูดอะไรแต่เวลานี้ต่างกลับพูดไม่ออก
"แม่หรือว่าจะให้ฉิงเฉินกลับมารับผิดชอบโครงการนี้ต่อจริงๆ?"
"ใช่คุณย่าทางโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนนั่นต่างก็ได้เซ็นสัญญากับพวกเราแล้วหรือว่าพวกเขายังสามารถกลับใจได้อีก?"
"ไอ้เลวถ้าไม่ใช่เมื่อวานคุณทะเลาะกับฉิงเฉินจะกลายเป็นสภาพอย่างนี้ในวันนี้เหรอ?"
หวังสิ้วอวิ้นมองไป๋หย่งเซิ้งที่มีสีหน้าท่าทางที่สับสนอยู่ตรงนั่นด้วยสายตาที่เย็นชา
"เรื่องนี้คุณจัดการเรียบร้อยคุณไปขอโทษฉิงเฉินด้วยตัวเองให้เขามาเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ถ้าความร่วมมือครั้งนี้ล้มเหลวแล้วล่ะก็ฉันคนแรกที่จะไล่คุณออกไปจากบ้านตระกูลไป๋!"
"อ๊ะ……"
"แม่แม่……"
ได้ยินคำพูดนี้ไป๋หย่งเซิ้งเพียงรู้สึกว่าสั่นไปทั้งตัวรีบอยากที่จะอธิบายแต่หวังสิ้วอวิ้นเดิมทีก็ไม่ให้โอกาสใดๆกับเขาโมโหแล้วก็เดินออกไปจากห้องประชุมภายใต้การประคองของผู้ช่วยตัวเอง
"ทำยังไงไป๋ฉิงเฉินนั่นตัวเองก็ไม่มาประชุมคุณย่าโทษความผิดให้พวกเราโดยสิ้นเชิง……"
"หรือว่าฉันพูดผิดเหรอ?"
ไป๋จินเหลียนเวลานี้มีหน้าที่น้อยใจในอกอัดอั้นอารมณ์ไว้ความไม่พอใจที่มีต่อไป๋ฉิงเฉินกำลังสะสมอย่างต่อเนื่อง
"เฮ้อ……หย่งเซิ้งเรื่องนี้คุณจัดการไม่เหมาะสมจริงๆ"
"ฉิงเฉินเจรจาสัญญาอย่างลำบากอย่างนั้นคุณกลับไปสร้างความวุ่นวายเฮ้อ……ไม่รู้จะพูดว่าคุณยังไงดี……"
"ประธานคณะกรรมการตอนนี้กำลังโกรธอยู่ที่พูดไปพวกคุณก็อย่าเก็บไปคิดมากที่จริงแล้วก้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรไปเรียกฉิงเฉินเอาสัญญานี้เจรจากลับมาก็ได้แล้ว……"
พวกญาติๆเวลานี้ต่างก็พูดไปแล้วก็เดินออกจากห้องประชุมไป
"ฮึแต่ละคนต่างก็เป็นพวกที่เห็นเงินตาโตก่อนหน้านี้ยังพูดว่ายืนอยู่ข้างพวกเราตอนนี้ต่างก็หลบหนีไปแล้ว!"
ไป๋จินเหลียนมองแต่ละคนดูเหมือนภายนอกปลอบใจแต่กลับเป็นญาติที่ดูเป็นเรื่องตลกทันใดนั้นก็โกรธขึ้นมาทันที
"ทั้งหมดนี้ต้องโทษไป๋ฉิงเฉินนั่นถ้าไม่ใช่ไป๋ฉิงเฉินพวกเราจะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง!"
"ก็ไม่รู้ว่าไป๋ฉิงเฉินนั่นให้ประธานลู่กินยาอะไร"
"ต้องขึ้นเตียงกับประธานลู่นั่นแน่นอนประธานลู่นั่นก็ไม่ใช่คนดีอะไรเพียงแค่คิดไม่ถึงว่านังนี่จะสามารถเอาสัญญาที่ใหญ่อย่างนี้เซ็นมาได้"
ไป๋หย่งเซิ้งได้ยินคำพูดของลูกสาวตัวเองในใจก็โกรธมาก
แล้วควักมือถือออกมาโทรหาไป๋ฉิงเฉินทันที
ไป๋ฉิงเฉินที่พิงโซฟาดูเอกสารอยู่พอเห็นมือถือมีสายเข้าก็วิ่งไปพูดด้านหน้าเฉินผิงอานทันทีว่า"พ่อสองโทรมา"
"คุณรับ!"
ไป๋ฉิงเฉินเอามือถือดันไปทางเฉินผิงอาน……
ความหมายนั้นเห็นชัดมากหล่อนรู้แล้วว่าเรื่องอะไรเพียงแต่เขาไม่อยากพูดกับไป๋หย่งเซิ้งได้ยินเสียงก็รำคาญเล็กน้อย
เฉินผิงอานก็พยักหน้าทันทีจากนั้นก็รับสายโทรศัพท์
"ไป๋ฉิงเฉินมาที่บริษัทเดี๋ยวนี้มีเรื่องสำคัญมากต้องการหาเธอ!"
พอรับสายฝ่ายตรงข้ามก็ตะคอกเสียงดังอย่างดุร้ายทันที
เพราะว่าเฉินผิงอานเปิดลำโพงดังนั้นไป๋ฉิงเฉินจึงได้ยินอย่างชัดเจน
"หรือว่าบริษัทเกิดปัญหาอะไร?"
ไป๋ฉิงเฉินเพียงพูดใช้เสียงที่ตัวเองและเฉินผิงอานสามารถได้ยินเท่านั้น
ที่จริงแล้วสายนี้เฉินผิงอานรู้นานแล้วว่าจะต้องโทรมายิ้มกว้างทันทีจากนั้นพูดกับโทรศัพท์ว่า"คุณเป็นใคร?"
ประโยคหนึ่งไป๋หย่งเซิ้งที่เตรียมจะอ้าปากด่าอีกครั้งกับสายโทรศัพท์ทางนั้นเกือบจะสำลัก
"ไม่พูด?ไม่พูดผมก็จะวางแล้ว……"
พูดจบก็เตรียมที่จะวางสาย
"ผมคือไป๋หย่งเซิ้งคุณล่ะเป็นใคร?"
ไป๋หย่งเซิ้งประหลาดใจหรือว่าโทรผิดแล้ว?
"เฉินผิงอาน"
ได้ยินเฉินผิงอานแนะนำตัวไป๋หย่งเซิ้งทางนั้นก็โกรธจัดมาก
"แกคนไร้ค่าเอามือถือส่งให้ไป๋ฉิงเฉินเดี๋ยวนี้!"
"อ๊ะ!"
เฉินผิงอานแค่อ๊ะเบาๆออกมาจากนั้นก็วางสายไปโดยทันที
"เหี้ยคิดไม่ถึงว่าจะต่อหน้าเรา……"
ตู๊ดๆ……
ในขณะที่ไป๋หย่งเซิ้งที่อยู่อีกด้านบ่นพึมพำอยู่นั้นในโทรศัพท์ก็ได้ส่งเสียงยุ่งมา
"ไอ้พวกคนไร้ค่าที่น่าขายหน้าคนนี้นึกไม่ถึงจะกล้าวางสายโทรศัพท์ของเรา!"
ไป๋หย่งเซิ้งโมโหกำหมัดแน่นทันทีมีใบหน้าที่เยือกเย็นจนน่ากลัว……
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved