บทที่ 9 เปรียบเทียบแล้วน่าโมโห

หลังสิบกว่านาที หนิงฟางก็อุ้มกล่องหนังหนึ่งเข้ามา

พอเปิดออกข้างในมีขวดเหล้าสีฟ้านอนอยุ่หนึ่งขวด ขวดเหล้าธรรมดามาก

“คุณเฉิน นี่คือเหล้าชั้นเลิศที่หมักเก็บรักษาไว้ที่ดีที่สุดพวกเราเปลี่ยนเป็นขวดเหล้าที่ธรรมดา คุณดูว่า……”

เฉินผิงอานเพียงมองแวบหนึ่งจากนั้นก็หยิบเอาขวดเหล้าสีฟ้านั่นขึ้นมา

“กล่องนี้ดูโดดเด่นมากไป เอาไปแค่ขวดนี้ก็พอแล้ว”

พูดพรางก็เซ็นชื่อในสัญญานั่นจากนั้นก็ลุกขึ้น“ขอบคุณ คุณหนิงสาวสวยผมยังมีธุระต้องไปก่อนฝากขอบคุณคุณเสิ่นแทนผมด้วย”

พูดจบก็ไม่รอให้หนิงฟานเอ่ยปากอีกแล้วจึงเดินออกไปจากห้อง ขี่จักรยานไฟฟ้าแล้วก็ออกไปจาก"คฤหาสน์ป่า"ทันที

รปภ.ที่ยืนอยู่หน้าประตูมองเงาหลังของเฉินผิงอานที่เป็นรปภ.เหมือนกัน ระหว่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้มออกมา

เปรียบเทียบแล้วก็โมโห

……

ไป๋หย่งกวงชีวิตนี้พอใจมากที่สุดก็คือตัวเองมีลูกสาวสองคนที่เหมือนดอกไม้และเหมือนหยก

วันนี้เป็นวันเกิดของเขาจึงได้จัดการเรื่องในบริษัทเสร็จเรียบร้อยนานแล้วจึงกลับบ้าน

เห็นสองแม่ลูกที่ยุ่งอยู่ในครัวเขาก็รู้สึกพึงพอใจแล้ว

กระทั่งในบ้านขาดอะไรไปเดิมทีเขาก็ไม่ได้สนใจ

ถึงแม้ถูกบีบให้ออกจากตระกูลไป๋แต่ไป๋หย่งกวงตอนนี้ยังเป็นผู้ควบคุมบริษัทที่ตัวเองสร้างขึ้นแยกจากตระกูลไป๋ในตอนแรก โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนมีชื่อยี่ห้อโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนของตัวเอง

ลูกสาวคนโตไป๋ฉิงเฉินถึงแม้ตอนแรกไม่เชื่อฟังตระกูลละเมิดคำสั่งการแต่งงานกับบ้านตะกูลถังของมณฑลเสฉวน แต่ในใจลึก ๆไป๋หย่งกวงก็สนับสนุนเพราะว่าการแต่งงานของตัวเองในปีนั้นก็เป็นอย่างนี้ ดังนั้นเขาก็ไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองมีโชคชะตาที่เหมือนกับเขา

เพียงแค่ไป๋หย่งกวงไม่เคยคิดว่าลูกเขยของตัวเองคนนี้จะธรรมดาอย่างนี้ กระทั่งพูดได้ว่าไม่มีแรงบันดาลใจในตัวเองแม้แต่น้อยไม่เพียงไม่ได้ทำให้ไป๋ฉิงเฉินได้รับการปกป้องที่แท้จริง แต่ยังกลับทำให้เขาแบกรับมากขึ้นในฐานะที่เป็นผู้ชายไป๋หย่งกวงต่างก็ดูถูกลูกเขยคนนี้ของตัวเองบ้าง

แต่สำหรับเรื่องเหล่านี้ไป๋หย่งกวงก็ไม่ถามมาก วันนี้ความคิดของเขาทั้งหมดทุ่มเทบนเหล้าชิงฉวนของตัวเอง

ลูกสาวคนที่สองไป๋เซว่ถึงแม้เปรียบแล้วจะไม่ค่อยรู้เรื่องกว่าไป๋ฉิงเฉินแต่ก็ถือว่าดีเด่น อีกทั้งมีหน้าต่อที่สวยงาม ในอนาคตแต่งงานกับคนดีๆ น่าจะไม่เลวแต่การแต่งงานของไป๋ฉิงเฉินกลับทำให้ไป๋หย่งกวงมีมุมมองที่แตกต่างกัน

ท่ามกลางอาคารญาติพี่น้องบ้านตระกูลไป๋ ไป๋เซว่หยิบมือถือเล่นเกมไปชะโงกไปด้านหน้าของไป๋ฉิงเฉินพูดยิ้มพูดไปว่า“พี่ อยากรู้หรือเปล่าว่าคืนนี้แขกที่ลึกลับที่มาคือใคร?”

“แขกลึกลับอะไร หรือพ่อของพวกเราฉลองวันเกิดยังมีคนอื่นมาอีก?”

ไป๋เซว่ยิ้มพูดอย่างแปลกๆ “ที่จริงแล้วฉันก็คาดเดาออก เป็นอย่างที่คิดไว้แม่เชิญนายน้อยฟางซื่อหวามา เมื่อกี้ฉันได้ยินแม่ยังโทรหาอยู่ในห้องครัวอยู่เลย”

“อะไร?”

ไป๋ฉิงเฉินมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที

“ทำไมแม่ถึงเป็นอย่างนี้ก่อนหน้านี้เคยบอกกับแม่แล้ว อย่าพาคนมาที่บ้านอย่างตามใจอย่างนี้จะทำให้ผิงอานคิดยังไง?”

ระหว่างที่พูดก็ยืนขึ้นเตรียมที่จะเดินไปทางห้องครัว

“พี่ พี่ เธอเป็นอะไรไป?เธอคงจะไม่ชอบคนไร้ค่านั่นจริง ๆ แล้วใช่ไหม อย่างเฉินผิงอานที่เป็นรปภ.เล็กๆ นั่น สามปีมานี้กินของพวกเราอาศัยของพวกเรา ฉันว่านะพี่ถ้าเป็นฉันก็คงจะเตะเขาออกไปนานแล้ว พอดูก็เป็นขยะคนจนที่หนีออกมาจากบ้านนอกจะสามารถเปรียบเทียบกับฟางซื่อหวาที่มีทั้งความหล่อและความรวยอายุน้อยและประวัติครอบครัวที่โดดเด่นอย่างนี้ได้ยังไง?”

“หยุดปาก!”

ได้ยินไป๋เซว่พูดว่าเฉินผิงอานอย่างนี้ไป๋ฉิงเฉินตระคอกให้หยุดทันที “ไป๋เซว่ ไม่ว่ายังไงเฉินผิงอานนั่นเขาก็คือพี่เขยของเธอ เธอได้ยังไง……”

“พี่ วันนี้เธอเป็นอะไรไป?”

ไป๋เซว่เก็บมือถือมองไปทางไป๋ฉิงเฉินที่โมโหเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ

“เฮ้อ……”

มองน้องสาวของตัวเองที่นิสัยเสียและเอาใจ ไป๋ฉิงเฉินก็ไม่มีวิธีอะไรจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นที่ไป๋เซว่พูดก็ถูกถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เฉินผิงอานไม่มีความพยายามไม่พัฒนาตัวเอง

ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินกำลังจะเอ่ยปากนั้น เสียงก็ดังขึ้นจากด้านนอกอาคารครอบครัว

ไป๋เซว่รีบเดินไปที่หน้าต่างมองแวบหนึ่ง ยิ้มพูดทันทีว่า“พี่ พี่ชายฟางสุดหล่อมาแล้ว!”

มองไปทางที่ไป๋เซว่ชี้ ไป๋ฉิงเฉินก็เห็นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูรุ่นใหม่ล่าสุดคันหนึ่งค่อย ๆ จอดลงที่ในเขตหมู่บ้านของตึกด้านล่าง จากนั้นเดินลงมาจากในรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูด้วยชุดสูทรองเท้าหนัง ในมืออุ้มกล่องหนังหนึ่งกล่อง

ฟางซื่อหวาเอามาเพื่อมอบให้กับไป๋หย่งกวงนั่นเอง

ไป๋เซว่มองพี่สาวที่มีท่าทางตื่นตกใจเล้กน้อย ยิ้มพูดทันทีว่า“พี่ ดูเธอตื่นเต้นสิฉันได้ยินแม่พูดแล้ว นายน้อยฟางเขาชอบเธอมากนะเดี๋ยวพี่เขยกลับมา ฉันจะดูสิว่าเขาจะรู้สึกละอายใจยังไงจากนั้นหาที่มุดเข้าไปอย่างหมดหวัง”

แต่ไป๋ฉิงเฉินเวลานี้ตื่นเต้นอะไรที่ไหนหล่อยคิดไม่ถึงว่าแม่จะทำมั่ว ๆ อย่างนี้ เดิมทีเรื่องเมื่อคืนวานเขาก็รู้สึกตัวเองทำผิดกับเฉินผิงอานมากแล้ว ตอนนี้พ่อกว่าจะได้กลับมาสักครั้งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสักมื้อ

นี่กลับดี นี่ไม่ใช่แสดงให้เห็นว่าทั้งครอบครัวต่างก็ขับไล่เฉินผิงอานเหรอ?

“ทำไมแม่ถึงได้ทำอย่างนี้!”

ไป๋ฉิงเฉินกระทืบเท้าอย่างโมโห

“อะไรมั่วๆ พี่ สาวสวยอย่างพี่ก็ควรที่จะอยู่กับพี่ฟางที่หล่อมากอย่างนี้ ฉันกลับสนับสนุนพ่อและแม่!”

ในขณะที่สองคนกำลังพูดคุยอยู่เสียงออดประตูก็ดังขึ้น

แม่ไป๋โจวหมิงเฟิ้งมีใบหน้าที่ยิ้ม ในปากยังยิ้มพูดว่าจะต้องเป็นฟางซื่อหวาแน่นอน เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงปากประตูแล้วเปิดประตูออก

เปิดประตูมองเห็นฟางซื่อหวาที่ยืนอยู่หน้าประตูยิ้มจนตาหยี่ทันที

“เป็นซื่อหวานี่เอง มา รีบเข้ามานั่ง ยินดีต้อนรับๆ ……ฮ่าๆ ฉิงเฉินรีบออกมารับแขกเร็ว!”

พูดมาก็บังเอิญ ฟางซื่อหวายังไม่ทันตอบคำของโจวหมิงเฟิ้งเสียงเท้าก็ดังขึ้นจากด้านหลังเขา เฉินผิงอานกอดขวดเหล้าสีฟ้านั่นเดินมาที่ปากประตูพอดี

มองเห็นฟางซื่อหวายืนอยู่ที่ปากประตูเฉินผิงอานย่นหังคิ้วขึ้นทันที ตอนที่อยู่ด้านล่างตึกเฉินผิงอานก็มองเห็นบีเอ็มดับเบิ้ลยูที่น่าเกลียดคันนั้น ในใจยังสงสัยตอนนี้ถือว่าเข้าใจแล้ว

ฟางซื่อหวากลับหัวเราะฮ่า ๆ เดิมทีไม่สนใจเฉินผิงอานเหมือนไม่ได้มองเห็นอย่างนั้น ยิ้มพูดไปทางโจวหมิงเฟิ้งว่า“สวัสดีคุณป้า เป็นเกียรติอย่างมากที่คุณเชิญผมมาร่วมงานวันเกิดของคุณลุงนี่คือน้ำใจเล็กๆ ของผมยังไงก็เชิญรับเก็บไปด้วย……”

พูดพรางก็ส่งกล่องเหล้าหนังนั่นในมือของฟางซื่อหวามอบให้กับโจวหมิงเฟิ้ง

กล่องเหล้าหนังนั่นข้างบนวาดรูปหัวของคนต่างชาติ ด้านล่างต่างก็เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษสีทองดูมาแล้วเหมือนจะมีภูมิหลังที่ยอดเยี่ยม

โจวหมิงเฟิ้งไม่ใช่คนที่ไม่เคยเจอโลกภายนอกอะไร บ้านตระกูลโจวมณฑลเสฉวนไม่ใช่บ้านตระกูลไป๋เมืองปินเมืองเล็กๆ นี้ที่จะสามารถเปรียบเทียบเทียบได้ที่บ้านตระกูลไป๋ไม่กล้าตัดการทำธุรกิจของไป๋หย่งกวงโดยสิ้นเชิง ความกลัวที่แท้จริงก็กลัวว่าทางบ้านตระกูลโจวจะมีความคิดเห็นอะไรยังไงสองตระกูลก็มีการทำธุรกิจด้วยกันอยู่มากมาย

ดังนั้นขณะที่โจวหมิงเฟิ้งรับกล่องเหล้าหนังอันนี้ก็รู้แล้วว่านี่คือไวน์แดงยี่ห้อระดับนานาชาติ ยี่ห้อปาตัสนี้เป็นยี่ห้อของเมืองนอกที่ตอนนี้แทบจะไม่ค่อยเจอในตลาดของประเทศจีน

พอนึกถึงฟางซื่อหวานี้ก็สมแล้วที่เป็นคนเก่งที่เรียนในต่างประเทศพอลงมือจัดการก็เอาของที่สูงค่าราคาแพงมาทักทายเมื่อเจอหน้า ในใจก็ยิ่งรู้สึกว่าการเลือกของตัวเองในครั้งนี้ไม่ผิด อีกทั้งตอนนี้สภาพการณ์ของบ้านพวกเขาค่อนข้างที่จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าได้สร้างสัมพันธ์กับบ้านตระกูลฟางแล้วไม่แน่ว่าก็จะสามารถผลิกผันตัวมีหน้ามีตาในบ้านตระกูลฟางได้

“ฉิงเฉิน คุณไป๋รีบออกมาดูซื่อหวาส่งของอะไรมาให้พวกเรา?”

โจวหมิงเฟิ้งเห็นชัดเจนว่าพอใจและดีใจมาก ๆ กระทั่งเฉินผิงอานที่ยืนอยู่ด้านหลังฟางซื่อหวาก็ถูกเขามองข้ามไปโดยทันที

ไป๋หย่งกวงที่ช่วยยกอาหารอยู่ได้ยินคำพูดนี้จึงเดินมาทางห้องรับแขกทันที ไป๋ฉิงเฉินสองพี่น้องก็รีบเดินมาเหมือนกัน

ไป๋เซว่ในเวลานี้เรียกได้ว่ามีความกระตือรือร้นวิ่งออกมาถึงด้านหน้าของโจวหมิงเฟิ้งเป็นคนแรกอย่างตื่นเต้นแล้วรับกล่องหนังเหล้านั่นมา จากนั้นก็ดูสองสามรอบกลับส่ายหน้า

“พ่อ นี่คือเหล้าอะไร?”

เวลานี้ไป๋หย่งกวงรับมาดูแวบหนึ่งแล้วพูดอย่างตกใจว่า“ไวน์แดงของโรงเหล้าปาตัส?”

“คุณลุงสายตาแหลมคมมาก ปีที่ผลิตปาตัส 1991 ผมต้องใช้ความพยายามมากถึงจะเอามาจากในบ้านของเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างประเทศได้”

“นี่ก็คือปาตัสแต่นี่ล้ำค่ากว่าลาไฟต์ - รอธส์ไชลด์ของปี1982ในตำนานมากเลยนะ เถ้าแก่ฟางคุณมีความกล้ามากจริงๆ !”

ไป๋เซว่ที่อยู่ด้านข้างชื่นชมอย่างไม่หยุด ในดวงตาสองข้างต่างก็เริ่มมีดาวออกมา ที่จริงแล้วสำหรับยี่ห้อของไวน์แดงหล่อนก็แค่เคยเห็นในนิตยสารแต่นี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นด้วยตาตัวเอง

แต่เฉินผิงอานในเวลานี้ก็ยืนอยู่ด้านข้าง แต่พวกเขากลับมองข้ามอัตโนมัติเห็นเขาเป็นแค่อากาศ

เฉินผิงอานก็ไม่อยากพูดอะไรแล้วเดินไปด้านข้างเพื่อไปที่ห้องรับแขก จากนั้นเอาขวดเหล้าสีฟ้านั่นวางบนโต๊ะอาหารใหญ่นั่น

เวลานี้ไป๋ฉิงเฉินเดินออกมาเห็นฉากนี้ก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงยืนอยู่ด้านข้างโต๊ะอาหารอย่างเงียบๆ มองเฉินผิงอานแวบหนึ่งก็เริ่มวางจานตระเกียบอย่างเงียบๆ……

แต่การกระทำของเฉินผิงอานนี้อยู่ในสายตาของโจวหมิงเฟิ้งกลับเป็นการแสดงออกที่งี่เง่ามากที่สุด

ก็อดไม่ได้ที่จะพูดอีกทันทีว่า“บ้านของพวกเราก็ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำกรรมอะไรทำไมถึงได้มีลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านคนหนึ่งอย่างนี้เป็นผู้ชายเหมือนกัน คุณดูซื่อหวาสิอายุยังน้อยใจกว้างยังเป็นเถ้าแก่ใหญ่บริษัท ทำไมถึงได้แตกต่างกันมากอย่างนี้ล่ะ?”












Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

503