บทที่ 70 ฉันไม่มีวันที่จะหย่ากับเฉินผิงอาน
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Apr 01,2021
ในห้องเฉินผิงอานนอนบนเตียงทหารไม่พูดอะไร
ไป๋ฉิงเฉินพอเดินเข้ามาก็นั่งด้านข้างโต๊ะเครื่องแป้งในใจของเขาโกรธมากเขาคิดไม่ถึงว่าตอนนี้แม่ของตัวเองจะไม่มีเหตุผลมากอย่างนี้พูดจาก็ตามสบายไม่นึกถึงกาละเทศะอย่างนี้
"ผิงอานคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
หลังรอเสียงด้านนอกห้องเหมือนหยุดลงไป๋ฉิงเฉินถึงเดินมาที่ด้านข้างเตียงทหารจากนั้นดึงด้านหลังเฉินผิงอานที่หันให้กับเสื้อของหล่อนถาม
"ผมไม่เป็นไร……"
เฉินผิงอานผลิกหันตัวมาอย่างช้าๆมองสาวสวยคนนี้ที่อยู่ต่อหน้า
ไป๋ฉิงเฉินสวยโดยแท้จริงจุดนี้เฉินผิงอานไม่ยอมรับก็ไม่ได้ถึงแม้เฉินผิงอานเคยเห็นสาวสวยมากมายอย่างนั้นที่ปักกิ่งแล้วแต่เปรียบเทียบกับไป๋ฉิงเฉินก็น้อยมากที่จะมีคนสามารถเทียบได้จริงๆ
ยิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือบนตัวของไป๋ฉิงเฉินมีของที่ผู้หญิงตระกูลใหญ่เหล่านั้นของปักกิ่งไม่มี
"ผิงอานฉันขอโทษคุณแทนแม่คุณก็รู้แม่ก็เป็นอย่างนั้น"
เฉินผิงอานยิ้มเบาๆ
"ผมไม่ได้โกรธจุดนี้ผมน้อยใจก็ไม่ถือว่าอะไรแต่กลับคุณ"
"ฉิงเฉินไป๋หย่งเซิ้งพวกเขาเห็นได้ชัดมากว่าต้องการใช้เรื่องนี้ให้คุณไปเจรจาสัญญาอีกทั้งคุณย่าตอนนี้ยืนอยู่ข้างพวกเขาโดยสิ้นเชิงฉิงเฉินจากนี้ไปคุณทำเรื่องอะไรต้องระมัดระวังทุกอย่างแล้ว"
ไป๋ฉิงเฉินมองเฉินผิงอานที่อยู่ด้านหน้าแล้วพยักหน้าทันที
"ฉันรู้"
"ใช่แล้วผิงอานงั้นคุณว่าสัญญาครั้งนี้ฉันจะไปเจรจาเมื่อไหร่"
ที่จริงในใจของไป๋ฉิงเฉินอยากที่จะบอกกับพ่อแม่ของตัวเองมากบอกกับบ้านตระกูลไป๋ทุกคนครั้งนี้ที่ตัวเองสามารถเจรจาสัญญาสำเร็จผลงานที่ใหญ่ที่สุดก็คือเฉินผิงอานทั้งหมดต่างก็เป็นเพราะโทรศัพท์สายแรกของเฉินผิงอาน
แต่หล่อนก็ไม่สามารถพูดได้เพราะว่าก่อนหน้านี้ลู่เสี่ยวปอได้บอกไว้อีกทั้งไป๋ฉิงเฉินรู้ว่าถึงแม้ตัวเองพูดเรื่องเหล่านี้ว่าเป็นเฉินผิงอานที่โทรไปจัดการกลัวว่าคงจะไม่มีคนเชื่อ
"อืมรอสักพักเถอะถึงยังไงเรื่องสัญญาในเมื่อเพื่อนของผมคนนั้นพูดว่าจัดการก็ต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนคุณคิดดูคุณย่ายังมีไป๋หย่งเซิ้งครอบครัวพวกเขาทำกับคุณยังไงหรือว่าความข้องใจนี้คุณจะกลืนมันลงไป?"
ไป๋ฉิงเฉินทำปากจู๋ส่ายหน้าเห็นได้ชัดว่าหล่อนก็มีความโกรธเล็กน้อย
"งั้นคุณก็เชื่อผมแล้วกันก็อยู่ที่บ้านไม่ต้องสนใจอะไรอย่าลืมพวกเรายังมีการเดิมพันอยู่นะ?"
ไป๋ฉิงเฉินพอได้ยินก็บีบหน้าอกของเฉินผิงอานทันที
"ผิงอานทำไมตอนนี้คุณเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายอย่างนี้ล่ะ……"
"โอ๊ยๆ……เจ็บๆ……"
ทันใดนั้นเฉินผิงอานก็ตั้งใจแกล้งแสดงท่าทางที่เจ็บปวดมากออกมาในขณะที่เห็นฉากนี้ไป๋ฉิงเฉินย่นคิ้วรีบยื่นมือไปนวดหน้าอกของเฉินผิงอานอย่างเป็นห่วง
"อ๊ะ……"
ในขณะนี้เฉินผิงอานจู่ๆก็จับมือของไป๋ฉิงเฉิน
ไป๋ฉิงเฉินตอนแรกยังตื่นตระหนกอยากที่จะหดมือของตัวเองกลับมาแต่หดกลับมาก็ไม่ได้หลุดออกจึงไม่คิดที่จะหดมือกลับมาอีกให้เฉินผิงอานจับมืออย่างตามสบาย
ความรู้สึกอย่างนี้ก่อนหน้านี้ไป๋ฉิงเฉิงยังไม่เคยมีมาก่อน
แทบจะในระหว่างชั่วพริบตานั้นหน้าของไป๋ฉิงเฉินก็แดงขึ้นเขาก้มหน้าหลบในหน้าอกของตัวเอง
"ฉิงเฉินการเดิมพันนี้ผมต้องชนะแน่นอนแล้วถึงเวลานั้นคุณต้องเตรียมลิปสติกให้ดีนะ"
อารมณ์ที่ไม่ดีก่อนหน้านี้เวลานี้ไม่มีแล้วมีเพียงช่วงเวลาที่อยู่กับไป๋ฉิงเฉินด้วยกันเฉินผิงอานถึงสามารถรับรู้ความรู้สึกที่มีความสุขชนิดนั้นได้อย่างแท้จริง
"พอแล้ว……ก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ไปโรงพยาบาลผลจะเป็นยังไง?มีคุณย่าอยู่ฉันกลัวว่าพ่อจะบังคับให้ฉันไป!"
"ไป๋เหลียนซานนั่นเห็นชัดว่าแกล้งพวกเขาไปเจรจาสัญญาไม่สำเร็จก็คิดที่จะกลับมาให้คุณไปตอนนี้คุณก็ต้องทำตัวสูงส่งใครไม่ให้คุณรับผิดชอบคุณก็ต้องรอให้เขามาเชิญคุณมีเพียงอย่างนี้วันหลังในบริษัทคุณถึงจะมีสิทธิ์ในการพูดไม่งั้นเรื่องอย่างนี้วันหลังก็อาจจะเกิดขึ้นอีก"
ไป๋ฉิงเฉินอาศัยโอกาสนี้ดึงมือเล็กกลับจากนั้นมองเฉินผิงอานพูดว่า"ดูไม่ออกเลยคุณยังมีลูกไม้มากมายเมื่อก่อนทำไมถึงดูไม่ออก"
ระหว่างที่พูดอารมณ์ของไป๋ฉิงเฉินก็ดีขึ้นมาก
อย่างที่เฉินผิงอานพูดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดถ้าหากไม่สามารถอาศัยโอกาสครั้งนี้ให้ตัวเองสร้างตำแหน่งในบริษัทได้งั้นอย่าคิดว่ามีสิทธิ์พูดในบริษัทเลยไม่แน่ว่ากระทั่งความเป็นความตายของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนต่างก็เข้าร่วมฟังไม่ได้
คืนหนึ่งผ่านไปอย่างเงียบสงบ
วันที่สองฟ้าเพิ่งสว่างไป๋หย่งกวงก็ตื่นนอนแต่เช้าถึงแม้ยังคงใช้ไม้ค้ำแต่มองก็มีความกระปรี้กระเปร่ามาก
"พ่อนี่คุณ……"
เฉินผิงอานที่กำลังทำอาหารเช้าอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
"ไปทำงานตอนนี้บริษัทกำลังต้องการใช้คนมีความสามารถสัญญานี้มีความหมายสำคัญต่อโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนของผมและบริษัทมากพ่อสองของเธอเจรจาไม่ได้ดังนั้นคุณย่าของเธอให้ฉันไปเจรจา"
เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมจริงๆ
ในใจของเฉินผิงอานอดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้มขึ้นมาสักครู่หวังสิ้วอวิ้นคนนี้วางแผนเก่งจริงๆ
แต่นั่นแล้วจะยังไง?
"หรือว่าเหมือนเธอกินนอนอยู่ที่บ้านไม่ทำอะไรไม่ไปทำงาน!ไม่ไปทำงานครอบครัวพวกเราจะกินอะไร?"
โจวหมิงเฟิ้งหยิบกระเป๋าเอกสารเดินออกมาจากในห้องแล้วเดินชนเฉินผิงอานกระเด็นทันที
"คุณหลีกไปให้ฉันหน่อยมองเห็นคุณแล้วมันรำคาญใจ"
ระหว่างที่พูดโจวหมิงเฟิ้งเอากระเป๋าเอกสารส่งให้ไป๋หย่งกวงจากนั้นหมุนตัวมองเฉินผิงอานอย่างเย็นชาพูดว่า"เมื่อเย็นวานคุณรู้หรือเปล่าพวกเราไปหน้าขายหน้ามากแค่ไหนถูกคนอื่นชี้หน้าด่าเฉินผิงอานเรื่องนี้ยังไม่ถือว่าจบยังไม่ประคองพ่อเธออีกดูสีหน้าท่าทางไม่ออกเลยสักนิด!"
เฉินผิงอานก็ไม่พูดอะไรแล้วประคองไป๋หย่งกวงลงจากตึก
"ฉิงเฉินเธอออกมา!"
พอเฉินผิงอานไปทันใดนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็เรียกไป๋ฉิงเฉินที่กำลังอาบน้ำอยู่ออกมา
"แม่มีเรื่องอะไรเหรอ?"
"วันนี้เธอไปหย่ากับเฉินผิงอานฉันคิดว่าหวงกั๋วเทาไม่เลวพวกเธอก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนตอนมัธยมปลายอีกทั้งตัวเองก็มีบริษัทเธอคงจะยังไม่รู้ใช่ไหมไม่นานเขาก็จะซื้อกิจการของบริษัทความงามเซิ้งซื่อแล้วก็คือสถานที่ที่เธอทำงานก่อนหน้านี้ตอนนี้สภาพการณ์ของบ้านพวกเราเธอก็เห็นแล้วถึงแม้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนที่ตายไปแล้วจะฟื้นคืนขึ้นภายหลังภายภาคหน้าพวกเราก็ก็จะยิ่งใช้ชีวิตลำบากกว่าเมื่อก่อนชีวิตอย่างนี้ใครจะรับได้แต่ถ้าหลังจากเธอแต่งงานกับหวงกั๋วเทาแล้วถึงแม้คุณย่าของเธอในขณะที่จะทำการตัดสินใจอีกต่างก็จะต้องชั่งใจก่อน"
"แม่……"
"เชื่อฟังแม่ไม่ทำร้ายเธอหรอกเรื่องครั้งนี้เธอก็เห็นแล้วถ้าไม่ใช่เฉินผิงอานนั่นพวกเราสามีภรรยาก็ไม่ต้องถึงขนาดไปโรงพยาบาลในกลางดึกถูกคนด่าที่นั่นหรอกเมื่อคืนฉันก็คิดได้แล้วตอนนี้เธอจะต้องหย่ากับเฉินผิงอานคนนี้จะต้องเดี๋ยวนี้!"
เสียงที่โจวหมิงเฟิ้งพูดไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ
แต่ไป๋ฉิงเฉินเวลานี้กลับฮึออกมาอย่างเย็นชาจากนั้นพูดว่า"แม่เรื่องอะไรต่างก็เชื่อฟังคุณแต่เรื่องนี้ฉันไม่สามารถทำตามใจคุณได้อย่างเด็ดขาดฉันและเฉินผิงอานจะไม่หย่าและจะไม่หย่าไปตลอดกาล!"
"เธอ!"
แต่ไม่รอให้โจวหมิงเฟิ้งพูดอีกไป๋ฉิงเฉินก็หันหัวเดินไปทางห้องของตัวเองอย่างโมโหแล้วก็ปิดประตูล็อกตายโดยทันที
หย่า?
หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนว่าถึงแม้เมื่อก่อนเขาผิดหวังกับเฉินผิงอานซ้ำแล้วซ้ำเล่าก้นบึ้งในใจของเขาต่างก็ไม่เคยคิดที่จะหย่ายิ่งไม่ต้องพูดตอนนี้……
หล่อนรู้ว่าแม่ของตัวเองดูถูกที่เฉินผิงอานไม่คิดที่จะก้าวหน้าไม่ไปทำงานดีๆ
สูดลมหายใจเข้าลึกในใจไป๋ฉิงเฉินจู่ๆก็ปรากฏความคิดออกมาอย่างหนึ่ง
"ครั้งนี้ฉันจะต้องเอาสิทธิของผู้รับผิดชอบของบริษัทมาให้ได้!"
แต่เฉินผิงอานอีกด้านที่ประคองไป๋หย่งกวงลงจากตึก
"พ่อคุณช้าหน่อย"
ไป๋หย่งกวงพยักหน้าก็ไม่ได้พูดมากอะไรรอหลังส่งขึ้นรถแท็กซี่แล้วดวงตาสองข้างของไป๋หย่งกวงถึงหดอย่างเย็นชา
เมื่อก่อนเขาก็ไม่ค่อยได้สังเกตุเฉินผิงอานแต่เมื่อกี้ในขณะที่ประคองเขาลงจากตึกขึ้นรถนั้นไป๋หย่งกวงมองเห็นมือทั้งสองของเฉินผิงอานในใจเขาอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
ที่จริงแล้วถึงโรงพยาบาลก็มองเห็นไป๋เหลียนซานที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยไป๋หย่งกวงก็รู้แล้วว่าไป๋เหลียนซานไม่เป็นอะไรมากแต่ตามที่ไป๋เหลียนซานพูดถีบเขาจนกระเด็นลอยออกไปไป๋หย่งกวงตอนแรกยังไม่เชื่อแต่เวลานี้มองเห็นมือของเฉินผิงอานกลับเชื่อแล้ว
นั่นไม่ใช่มือของคนปกติธรรมดาอย่างน้อยก็มีมือของกังฟูเล็กน้อย
เมื่อก่อนไม่ได้คิดมาทางด้านนี้และก็ไม่ได้สนใจ
ผ่านรถแท็กซี่ที่สตาร์ทอย่างช้าๆไป๋หย่งกวงมองเฉินผิงอานที่โบกมือให้กับตัวเองในใจของเขาจู่ๆก็อยากรู้มากว่าลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านอย่างเงียบๆมาสามปีคนนี้สรุปแล้วเป็นคนยังไง
อาจจะเพราะว่าเมื่อก่อนตัวเองสนใจธุรกิจมากเกินไปอีกทั้งการแต่งงานของฉิงเฉินและเฉินผิงอานก็รีบร้อนมากเดิมทีก็ไม่ได้มีหน้าตาอะไรสำหรับเหมือนเรื่องตลกที่รวมตัวกันชั่วคราวอย่างนี้เขาแทบจะไม่ค่อยได้สนใจลูกเขยคนนี้ที่ถูกคนเรียกว่าเป็นคนไร้ค่างี่เง่า
พอมองก็สามารถสามารถแยกแยะไวน์เปตรุสที่มีชื่อเสียงนานาชาติได้ว่าจริงหรือปลอมสามารถพูดออกมาได้ว่าโรงกลั่นเหล้าเปตรุสหยุดผลิตในปี1991ถึงแม้ความรู้เหล่านี้ก็สามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ตแต่ไป๋หย่งกวงก็ไม่คิดว่านี่คือการบ้านที่ทำในช่วงเวลาอันใกล้นี้อีกทั้งขวดเหล้าที่เฉินผิงอานมอบให้นั้นพูดว่าตักใส่มาข้างทางเขาจะเชื่อได้ยังไงเพียงแค่ไม่เปิดเผยก็เท่านั้น
อีกอย่างไป๋หย่งกวงเวลานั้นคิดว่าลูกสาวของตัวเองเตรียมของขวัญให้กับเฉินผิงอานเรียบร้อยแล้วตอนนี้ดูแล้วเฉินผิงอานคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอกอย่างนั้นอย่างแน่นอนแต่เพราะอะไรเขายอมที่จะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเงียบๆของบ้านตัวเองอย่างนี้ล่ะ?
ไป๋ฉิงเฉินพอเดินเข้ามาก็นั่งด้านข้างโต๊ะเครื่องแป้งในใจของเขาโกรธมากเขาคิดไม่ถึงว่าตอนนี้แม่ของตัวเองจะไม่มีเหตุผลมากอย่างนี้พูดจาก็ตามสบายไม่นึกถึงกาละเทศะอย่างนี้
"ผิงอานคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
หลังรอเสียงด้านนอกห้องเหมือนหยุดลงไป๋ฉิงเฉินถึงเดินมาที่ด้านข้างเตียงทหารจากนั้นดึงด้านหลังเฉินผิงอานที่หันให้กับเสื้อของหล่อนถาม
"ผมไม่เป็นไร……"
เฉินผิงอานผลิกหันตัวมาอย่างช้าๆมองสาวสวยคนนี้ที่อยู่ต่อหน้า
ไป๋ฉิงเฉินสวยโดยแท้จริงจุดนี้เฉินผิงอานไม่ยอมรับก็ไม่ได้ถึงแม้เฉินผิงอานเคยเห็นสาวสวยมากมายอย่างนั้นที่ปักกิ่งแล้วแต่เปรียบเทียบกับไป๋ฉิงเฉินก็น้อยมากที่จะมีคนสามารถเทียบได้จริงๆ
ยิ่งสำคัญไปกว่านั้นก็คือบนตัวของไป๋ฉิงเฉินมีของที่ผู้หญิงตระกูลใหญ่เหล่านั้นของปักกิ่งไม่มี
"ผิงอานฉันขอโทษคุณแทนแม่คุณก็รู้แม่ก็เป็นอย่างนั้น"
เฉินผิงอานยิ้มเบาๆ
"ผมไม่ได้โกรธจุดนี้ผมน้อยใจก็ไม่ถือว่าอะไรแต่กลับคุณ"
"ฉิงเฉินไป๋หย่งเซิ้งพวกเขาเห็นได้ชัดมากว่าต้องการใช้เรื่องนี้ให้คุณไปเจรจาสัญญาอีกทั้งคุณย่าตอนนี้ยืนอยู่ข้างพวกเขาโดยสิ้นเชิงฉิงเฉินจากนี้ไปคุณทำเรื่องอะไรต้องระมัดระวังทุกอย่างแล้ว"
ไป๋ฉิงเฉินมองเฉินผิงอานที่อยู่ด้านหน้าแล้วพยักหน้าทันที
"ฉันรู้"
"ใช่แล้วผิงอานงั้นคุณว่าสัญญาครั้งนี้ฉันจะไปเจรจาเมื่อไหร่"
ที่จริงในใจของไป๋ฉิงเฉินอยากที่จะบอกกับพ่อแม่ของตัวเองมากบอกกับบ้านตระกูลไป๋ทุกคนครั้งนี้ที่ตัวเองสามารถเจรจาสัญญาสำเร็จผลงานที่ใหญ่ที่สุดก็คือเฉินผิงอานทั้งหมดต่างก็เป็นเพราะโทรศัพท์สายแรกของเฉินผิงอาน
แต่หล่อนก็ไม่สามารถพูดได้เพราะว่าก่อนหน้านี้ลู่เสี่ยวปอได้บอกไว้อีกทั้งไป๋ฉิงเฉินรู้ว่าถึงแม้ตัวเองพูดเรื่องเหล่านี้ว่าเป็นเฉินผิงอานที่โทรไปจัดการกลัวว่าคงจะไม่มีคนเชื่อ
"อืมรอสักพักเถอะถึงยังไงเรื่องสัญญาในเมื่อเพื่อนของผมคนนั้นพูดว่าจัดการก็ต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอนคุณคิดดูคุณย่ายังมีไป๋หย่งเซิ้งครอบครัวพวกเขาทำกับคุณยังไงหรือว่าความข้องใจนี้คุณจะกลืนมันลงไป?"
ไป๋ฉิงเฉินทำปากจู๋ส่ายหน้าเห็นได้ชัดว่าหล่อนก็มีความโกรธเล็กน้อย
"งั้นคุณก็เชื่อผมแล้วกันก็อยู่ที่บ้านไม่ต้องสนใจอะไรอย่าลืมพวกเรายังมีการเดิมพันอยู่นะ?"
ไป๋ฉิงเฉินพอได้ยินก็บีบหน้าอกของเฉินผิงอานทันที
"ผิงอานทำไมตอนนี้คุณเปลี่ยนเป็นชั่วร้ายอย่างนี้ล่ะ……"
"โอ๊ยๆ……เจ็บๆ……"
ทันใดนั้นเฉินผิงอานก็ตั้งใจแกล้งแสดงท่าทางที่เจ็บปวดมากออกมาในขณะที่เห็นฉากนี้ไป๋ฉิงเฉินย่นคิ้วรีบยื่นมือไปนวดหน้าอกของเฉินผิงอานอย่างเป็นห่วง
"อ๊ะ……"
ในขณะนี้เฉินผิงอานจู่ๆก็จับมือของไป๋ฉิงเฉิน
ไป๋ฉิงเฉินตอนแรกยังตื่นตระหนกอยากที่จะหดมือของตัวเองกลับมาแต่หดกลับมาก็ไม่ได้หลุดออกจึงไม่คิดที่จะหดมือกลับมาอีกให้เฉินผิงอานจับมืออย่างตามสบาย
ความรู้สึกอย่างนี้ก่อนหน้านี้ไป๋ฉิงเฉิงยังไม่เคยมีมาก่อน
แทบจะในระหว่างชั่วพริบตานั้นหน้าของไป๋ฉิงเฉินก็แดงขึ้นเขาก้มหน้าหลบในหน้าอกของตัวเอง
"ฉิงเฉินการเดิมพันนี้ผมต้องชนะแน่นอนแล้วถึงเวลานั้นคุณต้องเตรียมลิปสติกให้ดีนะ"
อารมณ์ที่ไม่ดีก่อนหน้านี้เวลานี้ไม่มีแล้วมีเพียงช่วงเวลาที่อยู่กับไป๋ฉิงเฉินด้วยกันเฉินผิงอานถึงสามารถรับรู้ความรู้สึกที่มีความสุขชนิดนั้นได้อย่างแท้จริง
"พอแล้ว……ก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ไปโรงพยาบาลผลจะเป็นยังไง?มีคุณย่าอยู่ฉันกลัวว่าพ่อจะบังคับให้ฉันไป!"
"ไป๋เหลียนซานนั่นเห็นชัดว่าแกล้งพวกเขาไปเจรจาสัญญาไม่สำเร็จก็คิดที่จะกลับมาให้คุณไปตอนนี้คุณก็ต้องทำตัวสูงส่งใครไม่ให้คุณรับผิดชอบคุณก็ต้องรอให้เขามาเชิญคุณมีเพียงอย่างนี้วันหลังในบริษัทคุณถึงจะมีสิทธิ์ในการพูดไม่งั้นเรื่องอย่างนี้วันหลังก็อาจจะเกิดขึ้นอีก"
ไป๋ฉิงเฉินอาศัยโอกาสนี้ดึงมือเล็กกลับจากนั้นมองเฉินผิงอานพูดว่า"ดูไม่ออกเลยคุณยังมีลูกไม้มากมายเมื่อก่อนทำไมถึงดูไม่ออก"
ระหว่างที่พูดอารมณ์ของไป๋ฉิงเฉินก็ดีขึ้นมาก
อย่างที่เฉินผิงอานพูดมาก่อนหน้านี้ทั้งหมดถ้าหากไม่สามารถอาศัยโอกาสครั้งนี้ให้ตัวเองสร้างตำแหน่งในบริษัทได้งั้นอย่าคิดว่ามีสิทธิ์พูดในบริษัทเลยไม่แน่ว่ากระทั่งความเป็นความตายของโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนต่างก็เข้าร่วมฟังไม่ได้
คืนหนึ่งผ่านไปอย่างเงียบสงบ
วันที่สองฟ้าเพิ่งสว่างไป๋หย่งกวงก็ตื่นนอนแต่เช้าถึงแม้ยังคงใช้ไม้ค้ำแต่มองก็มีความกระปรี้กระเปร่ามาก
"พ่อนี่คุณ……"
เฉินผิงอานที่กำลังทำอาหารเช้าอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
"ไปทำงานตอนนี้บริษัทกำลังต้องการใช้คนมีความสามารถสัญญานี้มีความหมายสำคัญต่อโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนของผมและบริษัทมากพ่อสองของเธอเจรจาไม่ได้ดังนั้นคุณย่าของเธอให้ฉันไปเจรจา"
เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมจริงๆ
ในใจของเฉินผิงอานอดไม่ได้ที่จะฝืนยิ้มขึ้นมาสักครู่หวังสิ้วอวิ้นคนนี้วางแผนเก่งจริงๆ
แต่นั่นแล้วจะยังไง?
"หรือว่าเหมือนเธอกินนอนอยู่ที่บ้านไม่ทำอะไรไม่ไปทำงาน!ไม่ไปทำงานครอบครัวพวกเราจะกินอะไร?"
โจวหมิงเฟิ้งหยิบกระเป๋าเอกสารเดินออกมาจากในห้องแล้วเดินชนเฉินผิงอานกระเด็นทันที
"คุณหลีกไปให้ฉันหน่อยมองเห็นคุณแล้วมันรำคาญใจ"
ระหว่างที่พูดโจวหมิงเฟิ้งเอากระเป๋าเอกสารส่งให้ไป๋หย่งกวงจากนั้นหมุนตัวมองเฉินผิงอานอย่างเย็นชาพูดว่า"เมื่อเย็นวานคุณรู้หรือเปล่าพวกเราไปหน้าขายหน้ามากแค่ไหนถูกคนอื่นชี้หน้าด่าเฉินผิงอานเรื่องนี้ยังไม่ถือว่าจบยังไม่ประคองพ่อเธออีกดูสีหน้าท่าทางไม่ออกเลยสักนิด!"
เฉินผิงอานก็ไม่พูดอะไรแล้วประคองไป๋หย่งกวงลงจากตึก
"ฉิงเฉินเธอออกมา!"
พอเฉินผิงอานไปทันใดนั้นโจวหมิงเฟิ้งก็เรียกไป๋ฉิงเฉินที่กำลังอาบน้ำอยู่ออกมา
"แม่มีเรื่องอะไรเหรอ?"
"วันนี้เธอไปหย่ากับเฉินผิงอานฉันคิดว่าหวงกั๋วเทาไม่เลวพวกเธอก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนตอนมัธยมปลายอีกทั้งตัวเองก็มีบริษัทเธอคงจะยังไม่รู้ใช่ไหมไม่นานเขาก็จะซื้อกิจการของบริษัทความงามเซิ้งซื่อแล้วก็คือสถานที่ที่เธอทำงานก่อนหน้านี้ตอนนี้สภาพการณ์ของบ้านพวกเราเธอก็เห็นแล้วถึงแม้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนที่ตายไปแล้วจะฟื้นคืนขึ้นภายหลังภายภาคหน้าพวกเราก็ก็จะยิ่งใช้ชีวิตลำบากกว่าเมื่อก่อนชีวิตอย่างนี้ใครจะรับได้แต่ถ้าหลังจากเธอแต่งงานกับหวงกั๋วเทาแล้วถึงแม้คุณย่าของเธอในขณะที่จะทำการตัดสินใจอีกต่างก็จะต้องชั่งใจก่อน"
"แม่……"
"เชื่อฟังแม่ไม่ทำร้ายเธอหรอกเรื่องครั้งนี้เธอก็เห็นแล้วถ้าไม่ใช่เฉินผิงอานนั่นพวกเราสามีภรรยาก็ไม่ต้องถึงขนาดไปโรงพยาบาลในกลางดึกถูกคนด่าที่นั่นหรอกเมื่อคืนฉันก็คิดได้แล้วตอนนี้เธอจะต้องหย่ากับเฉินผิงอานคนนี้จะต้องเดี๋ยวนี้!"
เสียงที่โจวหมิงเฟิ้งพูดไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ
แต่ไป๋ฉิงเฉินเวลานี้กลับฮึออกมาอย่างเย็นชาจากนั้นพูดว่า"แม่เรื่องอะไรต่างก็เชื่อฟังคุณแต่เรื่องนี้ฉันไม่สามารถทำตามใจคุณได้อย่างเด็ดขาดฉันและเฉินผิงอานจะไม่หย่าและจะไม่หย่าไปตลอดกาล!"
"เธอ!"
แต่ไม่รอให้โจวหมิงเฟิ้งพูดอีกไป๋ฉิงเฉินก็หันหัวเดินไปทางห้องของตัวเองอย่างโมโหแล้วก็ปิดประตูล็อกตายโดยทันที
หย่า?
หล่อนไม่เคยคิดมาก่อนว่าถึงแม้เมื่อก่อนเขาผิดหวังกับเฉินผิงอานซ้ำแล้วซ้ำเล่าก้นบึ้งในใจของเขาต่างก็ไม่เคยคิดที่จะหย่ายิ่งไม่ต้องพูดตอนนี้……
หล่อนรู้ว่าแม่ของตัวเองดูถูกที่เฉินผิงอานไม่คิดที่จะก้าวหน้าไม่ไปทำงานดีๆ
สูดลมหายใจเข้าลึกในใจไป๋ฉิงเฉินจู่ๆก็ปรากฏความคิดออกมาอย่างหนึ่ง
"ครั้งนี้ฉันจะต้องเอาสิทธิของผู้รับผิดชอบของบริษัทมาให้ได้!"
แต่เฉินผิงอานอีกด้านที่ประคองไป๋หย่งกวงลงจากตึก
"พ่อคุณช้าหน่อย"
ไป๋หย่งกวงพยักหน้าก็ไม่ได้พูดมากอะไรรอหลังส่งขึ้นรถแท็กซี่แล้วดวงตาสองข้างของไป๋หย่งกวงถึงหดอย่างเย็นชา
เมื่อก่อนเขาก็ไม่ค่อยได้สังเกตุเฉินผิงอานแต่เมื่อกี้ในขณะที่ประคองเขาลงจากตึกขึ้นรถนั้นไป๋หย่งกวงมองเห็นมือทั้งสองของเฉินผิงอานในใจเขาอดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
ที่จริงแล้วถึงโรงพยาบาลก็มองเห็นไป๋เหลียนซานที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยไป๋หย่งกวงก็รู้แล้วว่าไป๋เหลียนซานไม่เป็นอะไรมากแต่ตามที่ไป๋เหลียนซานพูดถีบเขาจนกระเด็นลอยออกไปไป๋หย่งกวงตอนแรกยังไม่เชื่อแต่เวลานี้มองเห็นมือของเฉินผิงอานกลับเชื่อแล้ว
นั่นไม่ใช่มือของคนปกติธรรมดาอย่างน้อยก็มีมือของกังฟูเล็กน้อย
เมื่อก่อนไม่ได้คิดมาทางด้านนี้และก็ไม่ได้สนใจ
ผ่านรถแท็กซี่ที่สตาร์ทอย่างช้าๆไป๋หย่งกวงมองเฉินผิงอานที่โบกมือให้กับตัวเองในใจของเขาจู่ๆก็อยากรู้มากว่าลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านอย่างเงียบๆมาสามปีคนนี้สรุปแล้วเป็นคนยังไง
อาจจะเพราะว่าเมื่อก่อนตัวเองสนใจธุรกิจมากเกินไปอีกทั้งการแต่งงานของฉิงเฉินและเฉินผิงอานก็รีบร้อนมากเดิมทีก็ไม่ได้มีหน้าตาอะไรสำหรับเหมือนเรื่องตลกที่รวมตัวกันชั่วคราวอย่างนี้เขาแทบจะไม่ค่อยได้สนใจลูกเขยคนนี้ที่ถูกคนเรียกว่าเป็นคนไร้ค่างี่เง่า
พอมองก็สามารถสามารถแยกแยะไวน์เปตรุสที่มีชื่อเสียงนานาชาติได้ว่าจริงหรือปลอมสามารถพูดออกมาได้ว่าโรงกลั่นเหล้าเปตรุสหยุดผลิตในปี1991ถึงแม้ความรู้เหล่านี้ก็สามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ตแต่ไป๋หย่งกวงก็ไม่คิดว่านี่คือการบ้านที่ทำในช่วงเวลาอันใกล้นี้อีกทั้งขวดเหล้าที่เฉินผิงอานมอบให้นั้นพูดว่าตักใส่มาข้างทางเขาจะเชื่อได้ยังไงเพียงแค่ไม่เปิดเผยก็เท่านั้น
อีกอย่างไป๋หย่งกวงเวลานั้นคิดว่าลูกสาวของตัวเองเตรียมของขวัญให้กับเฉินผิงอานเรียบร้อยแล้วตอนนี้ดูแล้วเฉินผิงอานคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอกอย่างนั้นอย่างแน่นอนแต่เพราะอะไรเขายอมที่จะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเงียบๆของบ้านตัวเองอย่างนี้ล่ะ?
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved