บทที่ 12 แค้นฝังใจ

"พ่อหนุ่มฟาง นายถูกหลอกเข้าให้แล้ว"

ด้านไป๋เซว่ก็หัวเราะเบาๆออกมา

เรื่องนี้ก็พูดกันอย่างเข้าใจแล้วพร้อมทั้งมีหลักฐานมายืนยันว่าขวดไวน์แบรนด์ดังอย่างเปตรุสที่ถูกห่ออย่างหรูหรามีระดับนั้นป็นของปลอม

"จะ....เป็นไปได้ยังไงกัน "

ด้านทางฟางชื่อหวาถึงกับหน้าถอดสี พูดก็พูดตะกุกตะกัก

เหมือนอย่างคำสุภาษิตที่ว่ายิ่งขึ้นไปสูงเท่าไหร่ ตกลงมายิ่งเจ็บเท่านั้น

และฟางชื่อหวาก็เป็นอย่างนี้ ก่อนหน้านี่ดูมีสง่าราศีเป็นคนที่ประสบความสำเร็จครั้งแรกก็นำไวน์ที่มีราคาสูงมีระดับอออกมาแต่ใครก็คิดไม่ถึงว่าเป็นไวน์ปลอม แถวยังถูกฉีกหน้าต่อหน้าคนอื่นอีก

แม้แต่โจวหมิเฟิ้งก็ยังรู้สึกขายหน้าหนีเข้าไปในครัวแล้ว

"ไม่เป็นไร เพราะไวน์แบรน์ดังของต่างประเทศที่เป็นของปลอมในประเทศเรานั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เสี่ยวฟางในเมื่อนายไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับไวน์ ได้ซื้อไวน์ปลอมมาก็ถือว่าเป็นบทเรียนก็แล้วกัน"

สักพักไป๋หย่งกวงก็พูดขึ้น ในเมื่อเป็นวันเปิดบริษัทก็จะให้ฟางื่อหวาอยู่บนเวทีต่อไม่ได้

"ใช่แล้ว อีกอย่างแค่ไวน์ขวดเดียวที่พี่ฟางใช้เงินไม่เท่าไหร่ซื้อมาเอง อ้อพี่สะใภ้น่าจะรู้เรื่องไวน์นะ แล้วพี่ซื้อไวน์อะไรมาให้คุณพ่อ"

ไป๋เซว่ก็รีบพูดไกล่เกลี่ย จากนั้นก็ชีไปทางเฉินผิงอนา พูดตามตรงเขาที่เป็นพี่เขยที่แสดงออกในวันนี้ทำให้หล่อนนั้นคาดไม่ถึงจริงๆ

ไป๋ฉิงเฉินที่นั่นข้างเฉินผิงอนาก็มองไปทางเฉินผิงอนาเหมือนกัน และหล่อนก็รู้สึกพอใจกับสิ่งที่สามีของหล่อนได้ทำในวันนี้ แต่ก็มีหลายอย่างที่หล่อนยังไม่เข้าใจ

สามปีมานี้หล่อนกับเฉินผิงอานก็อยู่ด้วยกันตลอดเวลา เฉินผิงอานมีความอดทนมากหล่อนรู้ดี แต่ว่าครั้งนี้หล่อนมองเขาพลาดไปแล้ว

เฉินผิงอานยิ้มออกมาแล้วเอ่ย :"ก็ไม่มีอะไร ฉันก็พูดไปแล้วก็หน้านี้ว่าไวน์ก็เป็นเครื่องดื่มประเภทหนึ่งไม่จำเป็นต้องรู้หมด และแน่นอนว่าอยู่ต่อหน้าคุณพ่อฉันก็ต้องรู้บ้าง"

พูดไปพร้อมกับนำขวดเหล้าสีน้ำเงินมอบให้กับไป๋หย่งกวง

เหล้าขวดสีฟ้านี้เป็นเหล้าธรรมดามาก แต่สำหรับไป๋ห่งกวงแล้วก็ยังดีกว่าไวน์องุ่นเมื่อสักครู่พราะเขานั้นชอบเหล้าขาวมากกว่า

ซ้ำไป๋หย่งกวงก็เป็นคอเหล้าอยู่แล้ว

พอรับเหล้ามาจกเฉินผิงอานก็เปิดขวกทันที

"ดูผิวเผินแล้วถึงแม้ว่าเหล้าขวดนี้จะมีปัญหาก็ยังดีกว่าเหล้าของนายหลายเท่าที่ไม่รู้ว่านายไปซื้อมาจากร้านแผงลอยที่ไหนมา"

ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะขายหน้าไปมาก แต่ฟางชื่อหวาก็ยังไม่ได้เอาเฉินผิงอานมาไว้ในสายตา และเฉินผิงอานยังเป็นคนที่เขาจะไม่เอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว. ลูกเขยไร้น้ำยาเกาะผู้หญิงกินมีสิทธิอะไรมาแต่งงาานกับผู้หญิงที่เขาอยาได้อย่างไป๋ฉิงเฉิน

"ฮ่าๆๆ ไวน์ของนายอาจจะสู้กับเหล้าขวดนี้ของฉันไม่ได้ ทว่าถ้าเป็นเหล้าขาวฉันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ คุณพ่อเป็นผู้เชี่ยวชาญ"

เฉินผิงอานก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรอีก แค่เขาคิดไม่ถึงว่าฟางชื่อหวาจะหน้าด้านหน้าทนได้ขนาดนี้

และไป๋ฉิงเฉินกลับได้ใช้สองมือกำไว้แน่น ที่จริงแล้วในใจหล่อนนั้นเฉินผิงอานเป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่สามปีมานี้ก็อยู่ในบ้านแบบทนต่อความลำบากและเสียงวิจารณ์ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หวังจะเลื่อนขึ้นแต่ก็ดูแลหล่อนเป็นอย่างดีมาตลอดไม่เคยพูดจาว่าร้าเลย

ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ตาม ไป๋ฉิงเฉินจะต้องทำให้คนในครอบครัวยอมรับสามีของหล่อนให้ได้ และยิ่งกว่านั้นหวังว่าพ่อของหล่อนจะมองเห็นอีกด้านของเฉินผิงอานและให้เขามาอยู่ข้างๆคอยสอนเขา

อย่างนี้ก็อาจจะทำให้เฉินผิงอานได้เลื่อนขั้น

พอเฉินผิงอานพูดจบด้านฝั่งไป๋หย่งกวงก็ได้เปิดฝาขวดเหล้าแล้ว ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นเหล้าค่อยๆลอยปะทุขึ้นมา......

"นี่คือ......"

ไป๋หย่งกวงที่อยู่ใกล้ขวดก็ตกตะลึงทันที

ตอนนี้รู้สึกสมองมึนๆ กลิ่นเหล้านี้เขาคุ้นมาก เขาที่เป็นเจ้าของโรงงานผลิตเหล้า แน่นอนว่าไป็หย่งกวงใช้จมูกดูก็รู้แล้วว่าคือเหล้าอะไร "

"หอมมาก เหล้านี้กลิ่นแรงมากเป็นเหล้าอะไรหรอ "

ไป๋เซว่ที่ได้ดมดุก็รู้สึกเมาแล้ว ใบหน้ารูปไข่เริ่มแดงจนต้องปิดจมูกไว้กลัวตัวเองเมา

แต่นี้ไม่ส่งผลดีต่อฟางชื่อหวามาก เพระาเขาไม่รู้เรื่องเหล้าเลย

"น่าตลกจัง ลุงไป๋เป็นมืออาชีพด้านกลั่นเหล้าโดยเฉพาะ นายคิดว่าจะไปหาซื้อเหล้าตามแผลอยข้างถนนแล้วนำมาตบตาคนมืออาชีพได้หรอ "

จากนั้นพอฟางชื่อหวาพูดเยอะเย้ยจบ ก็ได้ยินไป๋หย่งกวนถามเฉินผิอานอย่างตื่นเต้นว่า "ผิงอาน นี่ นี่เป็นเหล้าที่ได้รับรางวัลใช่ไหม "

น้ำเสียงของไป๋หยงกวงสั่นเล็กน้อย แสดงว่าเขาที่เคยเป็นคนในตระกุลที่มีชื่อเสียไปเรียน เคยได้ดมตอนไปที่โรงกลั่นเหล้าเหมาไถครั้งนึง ความรู้สึกนั้นทำให้เขาจำได้ไม่เคยลืมจนมาถึงทุกวันนี้

"อันนี้....ก็น่าจะใช่นะครับ แต่ว่าปีไหนผมก็ไม่รู้ เพราะผมได้พบกับเพื่อนคนนึงแล้เพื่อนของผมก็ได้แบ่งมาให้รายละเอียดอื่นผมก็ไม่ได้ถามา"

ไป๋เซว่ที่ได้ยินทั้งสองคนคุยกันก็รู้สึกงงงวบ

"ดูคุณพ่อมีท่าทางตื่นเต้น เหล้านี้คงไม่ใช่เหล้าดีอะไรหรอกใช่ไหม แต่ว่าเหล้าขวดนี้ดูเก่าโทรมเกินไปแล้วนะ....."

ถึงแม้ไป๋หย่งกวงจะใช้น้ำสะอาดมากลั่นเหล้า แต่ลูกสาวสองคนกลับไม่รู้เรื่อเหล้าเลย ไป๋เซว่ยังเด็กวันๆชอบหาเรื่องไปทั่ว ส่วนไปฉิงเฉินนั้นชอบธุรกิจเครื่องสำอาง

ดังนั้นเหล้านี้มีเพียงไป๋หย่งกวงรู้คุณค่าของมันคนเดียว

"เหล้าดี เป็นเหล้าที่ดีมาก แม้แต่เราที่เหล้าชิงฉวกลั่นเหล้าออกมายังสู้เหล้าขวดนี้ไม่ได้"

ไป๋หย่งกวงที่พูดไปทั้งไม่ได้สนสายตาของคนอื่นพร้อมทั้งหยิบตะเกียบที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาจากนั้นก็จิ้มไปตรงปากคอขวดเหล้าเล็กน้อยแล้วนำเข้าปากลิ้มรส

ลิ้มรสอยู่นาน ไป๋หย่งกวงก็ลืมตาขึ้นสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดง

"เหล้าดี เหล้าดีจริงๆ ฮ่าๆๆ ......"

ต่อมาโจวหมิงเฟิ้งก็ตักอาหารออกมาซึ้งเป็นกับแกล้ม

ถึงแม้เมื่อครู่อยู่อยู่ในครัว แต่เรื่องที่เกินขึ้นทั้งหมดในห้องอาหารหล่อนก็ได้ยินอย่างชัดเจน

"โอเค รีบกินข้าวกันเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด ...."

ที่ก่อนหน้านี่ไม่มีคนให้ความสนใจเพราะฟางชือหวาที่โมโหโกรธจนยืนขึ้น สีหน้าของฟางชื่อหวาก็ยิ่งแดงขึ้นเรื่อยจนเขียวเข้มขึ้นแววตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม

"ชื่อหวา รีบนั่งเถอะ รีบกินตอนที่อาหารยังร้อยอยู่ ......."

โจวหมิงเฟิ้งที่มองไปที่ฟางชื่อหวาที่มีสีหน้าไม่สู้ดีก็รีบทำให้สถานการณ์เบาบางลง

แต่ไป๋หย่งกวงก็ยังคงไม่ได้ความสนใจไป๋ชื่อกวงแม้แต่น้อย ยังคงมัวแต่ตื่นเต้นดีใจแล้วปิดเหล้าริน

"เอ่อ คุณป้าครับพอดีผมมีธุระต้องขอตัวก่อน "

"จะไปแล้วหรอ ไม่ใช่ ชื่อหวากินก่อนค่อยไปเถอะ ...."

ฟางชื่อหวาจะมีหน้าอยู่ต่อที่นี่ได้ยังไงต้องรีบหายตัวออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

วันนี้ถือว่าถูกเฉินผิงอานฉีกหน้าจนไม่มีชิ้นดีแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากจะหนีไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด

"งั้น....."

โจวหมิงเฟิ้งก็รีบเดินไปส่งฟางชื่อหวา

"ชื่อหวา ถ้าว่างก็มาเที่ยวที่บ้านอีกนะ...."

ฟางชื่อหวาก็เดินออกจากบ้านไปโดยไม่หันกลับมาอีกจากนั้นก็เดินลงไปจนเดินเข้าไปในรถ

มองตึกผ่านกระจกรถด้วยแววตาเย็นชาอาฆาตแค้น

"เฉินผิงอานนายรอฉันก่อนเถอะ ! "

"ไป๋ฉิงเฉินไม่ช้าก็เร็วเธอจะต้องตกมาเป็นของฉันแน่จากนั้นฉันก็จะเล้นกับเธอทุกท่าแน่! "

เสียงเยือกเย็นยามพูดออกมาจากนั้นฟางชื่อหวาก็เหยีบคันเร่งแล้วขับออกไป

ราวกับว่าเรื่องราวทั้งหมดในคืนนี้ระบายลงที่คันเร่งเหยียบจนสุด!

บนโต๊ะอาหาร

คนที่มีความสุขที่สุดก็คือไปฉิงเฉิน

หล่อนคิดไม่ถึงว่าวันนี้เฉินผิงอานจะทำให้พ่อของหล่อนดีใจได้ขนาดนี้ ไม่แน่แค่ตนพูดเรื่องนี้กับพ่ออีกครั้ง ผิงอานก็สามารถไปทำงานที่โรงงานกลั่นเหล้าของที่บ้านได้ถือว่าดีกว่าเป็นยามเป็นไหนๆ

ครอบครัวรับประธานอาหารกนอย่างมีความสุข โดยเฉพาะไป๋หย่งกวงที่ดื่มจนเมา

ต่อไปต้องให้เฉินผิงอานบอกเขาว่าเพื่อนของเขานั้นคือใคร วันหน้าจะได้ไปเยี่ยมเยียนสกหน่อย

เฉินผิงอันก็ได้แต่ยิ้มพยักหน้ากลับไม่ได้พูดอะไร

เพราะว่าไป๋หย่งกวงที่เมาจนหัวราน้ำแล้ว และโจวหมิงเฟิ้งก็ได้พยุงไป็หย่งกวงเข้าไปพัก

รอให้เฉินผิงอานล้างชามเสร็จกวาดพื้นเสร็จเก็บของเสร็จก็เข้าไปนอนในห้อง ไป๋ฉิงเฉินก็นอนมองเฉินผิงอานอยู่บนเตียงแล้ว

"เธอยังไม่นอนอีกหรอ "

"ผิงอาน นายมีเรื่องอะไรปิดบังฉันอยู่หรือป่าว "

ไป๋ฉิงเฉินยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าคืนนี้เฉินผิงอันเปลี่ยนเป็นคนละคน

เฉินผิงอานส่ายหัวแล้วเอ่ย :"ไม่มีนี่ "

"แล้วคือนี้เธอทำไม่ถึงรู้ว่าไวน์เปตรุสขวดนั้นเป็นของปลอมล่ะ"

ไป๋ฉิงเฉินเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง

เฉินผิงอานที่นอนลงบนเตียงนอนทหารอีกฝั่งนึงแล้วตอบ:"เรื่องนี้ฉันเคยได้ยินคนอื่นพูดมาเลยจำได้บ้างและวันนี้บังเอิลเท่านั้น "

"เป็นอย่างนี้นี่เองหรอ"

มองออกชัดเจนว่าไป๋ฉิงเฉินนั้นไม่เชื่อ

"พอแล้ว ดึกมากแล้วรีบพักผ่อนเถอะ "

เฉินผิงอานพูดแล้วก็หลับตา

ไป๋ฉินเฉินมองแล้วเฉินผิงอานที่แค่แป๊บเดียวก็นอนกรนเสียงดังแล้ว

"ไม่บอกก็ช่าง........"

จากนั้นก็นอนหันหลังเหมือนกับโกรธ.......



Unduh App untuk lanjut membaca

Daftar Isi

503