บทที่ 65 คืนนี้ขึ้นมานอนบนเตียงไหม
by ฮวนเซี่ยวหงเฉิน
08:01,Mar 31,2021
หา
พอได้ยินอย่างนั้นหน้าของหวังสิ้วอวิ้นถึงกับซีด
"เอ่อประธานฟางทำไมเรื่องนี้พวกเราถึงไม่รู้เลยล่ะไม่ใช่กว่าก่อนหน้านี้สมาคมมีการตัดสินใจทำอะไรจะต้องแจงให้เราทราบก่อนไม่ใช่หรอ"
หวังสิ้วอวิ้นพูดอย่างมีอารมณ์โกรธร่วมถึงยังไงไป๋เทียนกรู๊ปก็เป็นบริษัทที่เปิดมานานและยังเป็นบริษัทใหญ่โตเมื่อสิบปีก่อนถือว่าเป็นบริษัทที่มีผลกำลังมากถึงแม้ทุกวันนี้บริษัทจะมีปัญหาไม่ราบรื่นแต่ถึงยังไงอูฐที่ผมโซก็ยังโตกว่าม้าอยู่ดีเทียนไป๋กรู๊ปยังคงเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้านถ้าหากจะต้องนำเงินออกมาลงทุนถึงพันล้านเพื่อมาหมุนเกรงว่าจะยาก
แต่ว่าอยู่ในวงการตลาดมานานทำไมหวังสิ้วอวิ้นจะไม่รู้ว่าต้องมีเรื่องลึกเบื้องหลัง
ที่ก่อตั้งสมาคมมาก็เพื่อจะได้แบ่งปันรายได้แต่วันนี้เทียนไป๋กรู๊ปกลับถูกขับออกจากสมาคมนั่นก็เท่ากับว่าเทียนไป๋กรู๊ปสูญเสียโอกาสที่จะร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เขตพัฒนาเขนใหม่ของเมืองกินถือว่าเสียหายไม่ใช่น้อยๆ
เขตพัฒนาเขตใหม่ของเมืองปินได้รับเงินทุนสนับสนุนจากทางรัฐบาลเป็นร้อยล้านแม้แต่เสิ่นหรงฮวาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองจะได้ทั้งหมด
ดังนั้นเขตพัฒนาเขตใหม่ของเมืองปินถึงได้ก่อนตั้งสมาคมขึ้นมาจนมีนักธุรกิจจากข้างนอกก็เข้ามาร่วมลงทุนด้วย
"เป็นการตัดสินใจกระทันหันของทางสมาคมและครั้งนี้พวกเราได้ตัดสินใจเปิดประชุมผู้บริหารระดับสูงสมาชิกสมาคมธรรมดาไม่ได้ใหเข้าร่วมประชุมด้วยประธานหัวเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้มีอำนาจและวันนี้สมาชิกสมาคมที่มีหุ้นมากกว่าสิบเปอร์เซ็นจะต้องเพิ่มเงินลงทุนถึงสามเท่าเข้าไปดังนั้นช่วงนี้ผมเลยต้องยกเลิกบางโครงการอย่างน่าเสียดายคุณก็น่าจรู้ว่าเขตพัฒนาใหม่เป็นพื้นทีทำเลทองผมคงไม่ทิ้งแตงโมเพื่อที่จะเก็บเม็ดงาหรอกนะดังนั้นโครงการที่จะร่วมมือทำกับเทียนไป๋กรู๊ปก็ต้องชะลอหยุดใว้ก่อนคุณคิดว่ายังไง....."
ยังไงหรอ
และในตอนนั้นเองที่หวังสิ้วอวิ้นเหมือนกับโดนฟ้าผ่าลงใส่
เดิมทีเทียนไป๋กรู๊ปก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่และหวังที่จะพึ่งฟางชื่อกรู๊ปจากการได้รับส่วนแบ่งจากการพัฒนาเขตใหม่ของเมืองกินแต่วันนี้ไม่ทันได้ส่วนแบ่งยังต้องควักเงินเพิ่มเข้าไปอีก
"ประธานฟางระหว่างเราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อมหรอกคุณบอกฉันมาตมาตรงเถอะว่าตระกูลไป๋ของเราได้ไปทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า....."
หวังสิ้วอวิ้นนั้นรู้แล้วว่าเรื่องนี้เกรงว่าจะไม่จบง่ายๆ
เมื่อตอนเช้ายังดีๆอยู่เลยภายในหนึ่งวันทุกเรื่องก็กลับตาลปัตรไปหมด
ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
"เอ่อประธานหวังคุณพูดอย่างนี้ผมก็พึ่งรู้ตอนเมื่อประชุมเมื่อสักครู่และเรื่องนี้ก็เป็นนักธุรกิจจากเฉิงตูเป็นคนเสนอมาคุณเสิ่นเป็นคนโทรมาหาผมด้วยตัวเองเลยตอนผมได้ยินครั้งแรกก็รู้สึกตกใจมากและคุณเสิ่นยังบอกแล้วว่าหุ่นของบริษัทเล็กๆจะเอามารวมไว้ด้วยกันจากนั้นก็จะทำการประมูลเสนอราคาดังนั้นประธานหวังไม่ใช่ว่าคุณจะไม่มีโอกาสขอเพียงแค่คุณมีความสามารถและเงินลงทุนก็จะสามารถกลับเข้ามาเป็นสมาชิกของหอการค้าอีกครั้ง"
พอได้ยินอย่างนั้นหวังสิ้วอวิ้นก็ไม่พูดอะไรอีก
"ฉันเข้าใจแล้วขอบคุณมากประธานฟาง!"
หลังจากพูดจบก็วางสายทันที
จากนั้นก็หันไปหาพวกคนที่ยืนรออยู่
"พวกเธอกับไปก่อนไปเรื่องอย่าพึ่งตื่นตนก็ไปทั้งหมดนี้รอให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนกับโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนได้ลงนามเซ็นสัญญาแล้วค่อยมาคุยกัน"
ทุกคนต่างก็มองไปที่หวังสิ้วอวิ้นที่มีท่าทีเคร่งขรึมมากก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่างก็ทยอยเดินออกไป
รอให้ทุกคนเดินออกไปจนหมดหวังสิ้วอวิ้นก็โทรหาไป๋หย่งเซิ้งที่ตอนนี้กำลังสนุกกับการดื่มกินอย่างอรรถรสเพื่อเรียกให้เขารีบกลับมาที่บ้าน
...........
ช่วงเวลากลางคืน
ไป๋ฉิงเฉินที่นอนหันหลังให้กับเฉินผิงอาอยู่บนเตียงแต่หล่อนรู้ว่าเฉินผิงอานยังไม่ได้นอนหลับ
"ผิงอานนายนอนรึยัง"
"ฉันนอน.....ยังไม่รู้สึกนอนไม่หลับ"
เฉินผิงอานก็ตอบไปตามตรงเฉินผิงอานที่นอนอยู่บนที่นอนทหารมงไปที่แผ่นหลังสวยน่าหลงไหลจะให้เขานอนหลับได้ยังไง
โดยเฉพาะครั้งที่แล้วที่เขาได้ลองลิ้มรสลิปสติกพอนอนลงในสมองของเขาก็มีแต่ภาพตอนที่ไป๋ฉิงเฉินมาคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของเขา
"ผิงอานนายคิดว่าพวกอารองจะตกลงสัญญากับประธานลู่ได้ไหมถ้าหากตกลงไม่ได้แล้วประธานลู่ไม่ร่วมมือด้วยจะทำยังไง"
ถึงแม้ตำหน้ารับผิงชอบโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนของไป๋ฉิงเฉินจะถูกแทนทีด้วยไป๋หย่งเซิ้งจนทำให้ไป๋ฉิงเฉินโกรธมากแต่โกรธไปก็ได้แต่โกรธเท่านั้นไป๋ฉิงเฉินกลับเปลี่ยนคนติดต่อเพื่อสัญญานี้กลางคลันประธานลู่แห่งโรงกลั่นเหล้าเสฉวนคงไม่สงสัยว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนไม่มีความซื่อสัตย์แล้วก็ปฏิเสธสัญญาความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนหรอกนะ
ไม่ว่ายังไงก็ตามสิ่งที่ไป๋ฉิงเฉินทำทั้งหมดก็เพื่อโรงกลั่นเหล้าฉิงเฉิน
"เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้นะไม่งั้นฉันโทรหาเพื่อนของฉันให้เขาช่วย"
เฉินผิงอานค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
ไป๋ฉิงเฉินพูดด้วยความรู้สึกเกรงใจ:"งั้นรบกวนนายหน่อยนะ"
ผิงอานยิ้มออกมาพร้อมเอ่ย:"ฉิงเฉินเธอพูดว่าอะไรนะเมื่อก่อนฉันกับเพื่อนฉันสนิทกันมากแต่ว่าเขาจะช่วยได้ไหมฉันก็ไม่รู้นะ"
พอพูดจบเฉินผิงอานก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่อโทรศัพท์
ไป๋ฉิงเฉินที่นอนอยู่บนเตียงก็มองไปทางห้องน้ำในใจกำลังคิดอะไรอยู่
ก็เป็นอย่างที่หล่อนเคยพูดก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์อย่างนี้น่าจะใช้ได้แค่รั้งเดียว
หล่อนรู้ดีว่าที่การเจรจาตกลงเรื่องสัญญาเป็นไปอย่างราบรื่นและโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้เปรียบก็เป็นเพราะเพื่อนของเฉินผิงอานคนนี้หรือจะพูดอีกอย่างก็เพราะมีเฉินผิงอานมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไม่อย่างงั้นไป๋ฉิงเฉินเชื่อว่าประธานลู่แห่งโรงกลั่นเหล้าเสฉวนคงไม่สนใจโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนแน่
ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเฉินผิงอานก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
"โอเคเพื่อนของฉันบอกว่าจะช่วยจัดการ"
ไป๋ฉิงเฉินที่ได้ยินคำที่เฉินผิงอานบอกจากที่ทำหน้าเครียดก็ค่อยๆระบายยิ้มออกมา
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องรอยยิ้มที่สวยราวกับดอกไม้บาน
"ผิงอานของคุณนายมาก"
ไป๋ฉิงเฉินหันข้างให้แล้วขยับไปข้างเตียงอีกฝั่ง
"ไม่เป็นไร...."
"ผิงอานนาย....คืนนี้จะขึ้นมานอนบนเตียงไหม"
เฉินผิงอานที่มองไปที่เบื้องหลังของไป๋ฉิงเฉินที่ตั้งใจขยับพื้นที่บนเตียงให้ถึงกลับกลืนน้ำลายอึก
เฉินผิงอานก็ตอบรับแบบงงจากนั้นก็ทำเรื่องที่เขาไม่เคยทำมาเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา
ครั้งนี้เฉินผิงอานกลับไม่คิดที่จะลังเลค่อยๆขึ้นไปบนเตียงนอนนุ่มเอียงตัวลงนอน
และด้านหลังของเขาก็เป็นแผ่นหลังของไป๋ฉิงเฉินชนกันอยู่ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองปินที่แต่งงานกับเขามาแล้วสามปี
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาก็ได้กลั่นที่หอมคุ้ยเคย
ใจถึงกับเต้นตุบตุบ.......
.........
"อะไร"
ขณะที่หวังสิ้วอวิ้นพูดจบเรื่องที่เกิดขึ้นกับบริษัทไป๋หย่งเซิ้งที่ได้ยินข่าวก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันทีหน้านิ่วคิ้วขมวดมองหน้าแม่ของตัวเองหวังส้วอวิ้นด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
"คุณแม่ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะไม่ใช่ว่าตกลงกับประธานฟางก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่ไหรอและตอนแรกที่เราเข้าร่วมก็ได้จ่ายเงินค่าเข้าไปมากกว่าล้านอีกนะหรือว่าอยากจะถีบหัวส่งเทียนไป๋กรู๊ปของเราตอนไหนก็ได้อย่างงั้นหรอ"
นี่ไม่ใช่ข่าวดีเลยนะ
หวังสิ้วอวิ้นก็พูดขึ้พร้อมกลัหัวเราะเฝื่อน:"แล้วจะทำยังไงล่ะมีบริษัทเราและบริษัทเล็กๆที่ถูกขับออกมาตอนนี้บริษัทไป๋เทียนกรู๊ปของเรากับบริษัทเล็กๆในเมืองปินกำลังตกอยู่ในช่วงลำบากแล้ว"
"คุณแม่ในเมืองบินบริษัทเทียนไป๋กรู๊ปของเราก็ถือว่าเป็นบริษัทในเคลือที่มีมานานแล้วทำไมหอการค้าถึงได้ทำอย่างนี้หรือว่าพวกเราไม่มีโอกาสอื่นหรอเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินมีมูลล่าค่าเป็นหันล้านเชียวนะพวกเราจะยอมทิ้งไปหรอ"
หวังสิ้วอวิ้นมีสีหน้าสับสน
"ทิ้งไปหรอก็ต้องดูความสามารถของบริษัทเราทว่าเมื่อสักครู่พวกบริษัทคู่ค้าหลายบริษัทได้โทรมาว่าไม่ร่วมมือทำธุรกิจกับเราแล้วเรื่องนี้ทำให้บริษัทเสียหายมากถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ถึงครึ่งเดือนบริษัทจะต้องเข้าสู่ขั้นวิกฤตทางการเงินแน่"
"หาทำไมเป็อย่างนี้ไปได้"
ไป๋หย่งเซิ้งถึงกับหน้าถอดสี
ถ้าไม่มีคู่ค้าไป๋เทียนกรู๊ปที่พึ่งคู่ค้าแต่เดิมนั้นถือว่าเป็น.ถือว่าส่งผลกระทบร้ายแรงมากับไป๋เทียนกรู๊ป
"เฮ้อดังนั้นตอนนี้หวังว่าความร่วมมือระหว่างโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนจะทำให้เราผ่านด่านนี้ไปได้"
หวังสิ้วอวิ้นพูดพร้อมกับพุ่นลมหายใจยาวออกมา:"เขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินพื้นทีทำเลทองทองนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสให้เราแค่ต้องการหลักประกันเรื่องทุนทรัพย์ส่วนเรื่องเสนอราคานี้ฉันจะให้คนอื่นทำ.หย่งเซิ้งตอนนี้นายต้องพยายามเจรจากับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนเรื่องความร่วมมือก็พอพรุ่งนี้ตอนเช้าฉันจะไปโรงกลั่นเหล้าชิงฉันเมื่อถึงตอนนั้นฉันจะเรียกหุ้นส่วนในเครือทั้งหมดไม่วว่าจเป็นลุงๆอาๆของเธอก็เรียกไปรวมตัวกันที่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนทำการจัดการแต่งตั้งฝ่ายบุกคลและบริหารจัดกสรแผนกอื่นๆและพรุ่งนี้ให้เธอไปเชิญประธานลู่ไปที่บริษัทด้วย"
"คุณแม่ทำอย่างนี้จะไม่เร็วไปหน่อยหรอ...."
ไป๋หย่งเซิ้งถึงกลับหน้าเปลี่ยนสี......
มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความจริงว่าประธานลู่แห่งโรงกลั่นเหล้าเสฉวนไม่ได้เห็นแก่นหน้าเขาแม้แต่น้อยไม่ได้มาคุยเจรจาเรื่องสัญญากับเขเลย
"รีบงั้นหรอด้านเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินพอได้คัดเลือกพนักงานออกมาใหม่ก็จะมีหุ้นว่างเยอะพอถึงตอนนั้นก็เสนอราคาดังนั้นช่วงระยะเวลาอั้นสั้นนี้พวกเราจะต้องหาเงินลงทุนมาให้ได้และฉันคิดว่าจะทำยังไงเพื่อให้ความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนราบรื่นไม่แน่อาจได้ร่วมมือกับนักธุรกิจเสฉวนคนอื่นด้วยก็เป็นได้ถ้าหากสามารถเป็นอย่างที่คิดเอาไว้ได้งั้นพวกเราสามารถชนะการเสนอราคามาได้ไม่แน่เราอาจจะได้สิทธิเข้าร่วมโครงการเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินก็ได้"
"แต่ว่าทั้งหมดนี้ต้องอาสัยความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนให้ประสบความสำเร็จและยังต้องทำให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนพลิกสถานการณ์กลับมาดีขึ้น!"
ในระหว่างที่หวังสิ้วอวิ้นพูดก็มองลูกชายของตัวเองที่ยืนอยู่ที่มีเหงื่อไหลออกมาตามหน้าผาก:"หย่งเซิ้งแม่รู้ว่าเรื่องนี้สร้างความกดดันให้เธอมากแต่ว่าก็ถือว่าเป็นบททดสอบถ้าหากครั้งนี้เธอสามารถร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนได้อย่างราบรื่นเงินลงทุนก้อนแรกก็จะเข้ามาในบัญชีของเราเร็วขึ้นพวกเราก็จะสามารถช่วยโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนไว้ได้และจะต้องผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะทำให้คนพวกฟางหงเทาได้เห็นว่าเทียนไป๋กรู๊ปของเรานั้นมีความสามารถมากแค่ไหน!"
หลังจากโทรศัพท์ในคืนนี้หวังสิ้วอวิ้นก็รู้ว่าจะต้องมีนักธุรกิจใหญ่ของเฉิงตูยื่นมือเข้ามาแทรกแซงลงทุนในโครงการเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นและพวกเขาคงได้ร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนได้สำเร็จเรื่องนี่จะต้องมีเลิศนัยแน่
"แม่ครับ.....เรื่องนี้......."
พอได้ยินอย่างนั้นหน้าของหวังสิ้วอวิ้นถึงกับซีด
"เอ่อประธานฟางทำไมเรื่องนี้พวกเราถึงไม่รู้เลยล่ะไม่ใช่กว่าก่อนหน้านี้สมาคมมีการตัดสินใจทำอะไรจะต้องแจงให้เราทราบก่อนไม่ใช่หรอ"
หวังสิ้วอวิ้นพูดอย่างมีอารมณ์โกรธร่วมถึงยังไงไป๋เทียนกรู๊ปก็เป็นบริษัทที่เปิดมานานและยังเป็นบริษัทใหญ่โตเมื่อสิบปีก่อนถือว่าเป็นบริษัทที่มีผลกำลังมากถึงแม้ทุกวันนี้บริษัทจะมีปัญหาไม่ราบรื่นแต่ถึงยังไงอูฐที่ผมโซก็ยังโตกว่าม้าอยู่ดีเทียนไป๋กรู๊ปยังคงเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้านถ้าหากจะต้องนำเงินออกมาลงทุนถึงพันล้านเพื่อมาหมุนเกรงว่าจะยาก
แต่ว่าอยู่ในวงการตลาดมานานทำไมหวังสิ้วอวิ้นจะไม่รู้ว่าต้องมีเรื่องลึกเบื้องหลัง
ที่ก่อตั้งสมาคมมาก็เพื่อจะได้แบ่งปันรายได้แต่วันนี้เทียนไป๋กรู๊ปกลับถูกขับออกจากสมาคมนั่นก็เท่ากับว่าเทียนไป๋กรู๊ปสูญเสียโอกาสที่จะร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เขตพัฒนาเขนใหม่ของเมืองกินถือว่าเสียหายไม่ใช่น้อยๆ
เขตพัฒนาเขตใหม่ของเมืองปินได้รับเงินทุนสนับสนุนจากทางรัฐบาลเป็นร้อยล้านแม้แต่เสิ่นหรงฮวาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองจะได้ทั้งหมด
ดังนั้นเขตพัฒนาเขตใหม่ของเมืองปินถึงได้ก่อนตั้งสมาคมขึ้นมาจนมีนักธุรกิจจากข้างนอกก็เข้ามาร่วมลงทุนด้วย
"เป็นการตัดสินใจกระทันหันของทางสมาคมและครั้งนี้พวกเราได้ตัดสินใจเปิดประชุมผู้บริหารระดับสูงสมาชิกสมาคมธรรมดาไม่ได้ใหเข้าร่วมประชุมด้วยประธานหัวเรื่องนี้ผมก็ไม่ได้มีอำนาจและวันนี้สมาชิกสมาคมที่มีหุ้นมากกว่าสิบเปอร์เซ็นจะต้องเพิ่มเงินลงทุนถึงสามเท่าเข้าไปดังนั้นช่วงนี้ผมเลยต้องยกเลิกบางโครงการอย่างน่าเสียดายคุณก็น่าจรู้ว่าเขตพัฒนาใหม่เป็นพื้นทีทำเลทองผมคงไม่ทิ้งแตงโมเพื่อที่จะเก็บเม็ดงาหรอกนะดังนั้นโครงการที่จะร่วมมือทำกับเทียนไป๋กรู๊ปก็ต้องชะลอหยุดใว้ก่อนคุณคิดว่ายังไง....."
ยังไงหรอ
และในตอนนั้นเองที่หวังสิ้วอวิ้นเหมือนกับโดนฟ้าผ่าลงใส่
เดิมทีเทียนไป๋กรู๊ปก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่และหวังที่จะพึ่งฟางชื่อกรู๊ปจากการได้รับส่วนแบ่งจากการพัฒนาเขตใหม่ของเมืองกินแต่วันนี้ไม่ทันได้ส่วนแบ่งยังต้องควักเงินเพิ่มเข้าไปอีก
"ประธานฟางระหว่างเราไม่ต้องพูดจาอ้อมค้อมหรอกคุณบอกฉันมาตมาตรงเถอะว่าตระกูลไป๋ของเราได้ไปทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า....."
หวังสิ้วอวิ้นนั้นรู้แล้วว่าเรื่องนี้เกรงว่าจะไม่จบง่ายๆ
เมื่อตอนเช้ายังดีๆอยู่เลยภายในหนึ่งวันทุกเรื่องก็กลับตาลปัตรไปหมด
ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่
"เอ่อประธานหวังคุณพูดอย่างนี้ผมก็พึ่งรู้ตอนเมื่อประชุมเมื่อสักครู่และเรื่องนี้ก็เป็นนักธุรกิจจากเฉิงตูเป็นคนเสนอมาคุณเสิ่นเป็นคนโทรมาหาผมด้วยตัวเองเลยตอนผมได้ยินครั้งแรกก็รู้สึกตกใจมากและคุณเสิ่นยังบอกแล้วว่าหุ่นของบริษัทเล็กๆจะเอามารวมไว้ด้วยกันจากนั้นก็จะทำการประมูลเสนอราคาดังนั้นประธานหวังไม่ใช่ว่าคุณจะไม่มีโอกาสขอเพียงแค่คุณมีความสามารถและเงินลงทุนก็จะสามารถกลับเข้ามาเป็นสมาชิกของหอการค้าอีกครั้ง"
พอได้ยินอย่างนั้นหวังสิ้วอวิ้นก็ไม่พูดอะไรอีก
"ฉันเข้าใจแล้วขอบคุณมากประธานฟาง!"
หลังจากพูดจบก็วางสายทันที
จากนั้นก็หันไปหาพวกคนที่ยืนรออยู่
"พวกเธอกับไปก่อนไปเรื่องอย่าพึ่งตื่นตนก็ไปทั้งหมดนี้รอให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนกับโรงกลั่นเหล้ามณฑลเสฉวนได้ลงนามเซ็นสัญญาแล้วค่อยมาคุยกัน"
ทุกคนต่างก็มองไปที่หวังสิ้วอวิ้นที่มีท่าทีเคร่งขรึมมากก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่างก็ทยอยเดินออกไป
รอให้ทุกคนเดินออกไปจนหมดหวังสิ้วอวิ้นก็โทรหาไป๋หย่งเซิ้งที่ตอนนี้กำลังสนุกกับการดื่มกินอย่างอรรถรสเพื่อเรียกให้เขารีบกลับมาที่บ้าน
...........
ช่วงเวลากลางคืน
ไป๋ฉิงเฉินที่นอนหันหลังให้กับเฉินผิงอาอยู่บนเตียงแต่หล่อนรู้ว่าเฉินผิงอานยังไม่ได้นอนหลับ
"ผิงอานนายนอนรึยัง"
"ฉันนอน.....ยังไม่รู้สึกนอนไม่หลับ"
เฉินผิงอานก็ตอบไปตามตรงเฉินผิงอานที่นอนอยู่บนที่นอนทหารมงไปที่แผ่นหลังสวยน่าหลงไหลจะให้เขานอนหลับได้ยังไง
โดยเฉพาะครั้งที่แล้วที่เขาได้ลองลิ้มรสลิปสติกพอนอนลงในสมองของเขาก็มีแต่ภาพตอนที่ไป๋ฉิงเฉินมาคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดของเขา
"ผิงอานนายคิดว่าพวกอารองจะตกลงสัญญากับประธานลู่ได้ไหมถ้าหากตกลงไม่ได้แล้วประธานลู่ไม่ร่วมมือด้วยจะทำยังไง"
ถึงแม้ตำหน้ารับผิงชอบโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนของไป๋ฉิงเฉินจะถูกแทนทีด้วยไป๋หย่งเซิ้งจนทำให้ไป๋ฉิงเฉินโกรธมากแต่โกรธไปก็ได้แต่โกรธเท่านั้นไป๋ฉิงเฉินกลับเปลี่ยนคนติดต่อเพื่อสัญญานี้กลางคลันประธานลู่แห่งโรงกลั่นเหล้าเสฉวนคงไม่สงสัยว่าโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนไม่มีความซื่อสัตย์แล้วก็ปฏิเสธสัญญาความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนหรอกนะ
ไม่ว่ายังไงก็ตามสิ่งที่ไป๋ฉิงเฉินทำทั้งหมดก็เพื่อโรงกลั่นเหล้าฉิงเฉิน
"เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้นะไม่งั้นฉันโทรหาเพื่อนของฉันให้เขาช่วย"
เฉินผิงอานค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
ไป๋ฉิงเฉินพูดด้วยความรู้สึกเกรงใจ:"งั้นรบกวนนายหน่อยนะ"
ผิงอานยิ้มออกมาพร้อมเอ่ย:"ฉิงเฉินเธอพูดว่าอะไรนะเมื่อก่อนฉันกับเพื่อนฉันสนิทกันมากแต่ว่าเขาจะช่วยได้ไหมฉันก็ไม่รู้นะ"
พอพูดจบเฉินผิงอานก็เดินไปที่ห้องน้ำเพื่อโทรศัพท์
ไป๋ฉิงเฉินที่นอนอยู่บนเตียงก็มองไปทางห้องน้ำในใจกำลังคิดอะไรอยู่
ก็เป็นอย่างที่หล่อนเคยพูดก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์อย่างนี้น่าจะใช้ได้แค่รั้งเดียว
หล่อนรู้ดีว่าที่การเจรจาตกลงเรื่องสัญญาเป็นไปอย่างราบรื่นและโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนได้เปรียบก็เป็นเพราะเพื่อนของเฉินผิงอานคนนี้หรือจะพูดอีกอย่างก็เพราะมีเฉินผิงอานมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยไม่อย่างงั้นไป๋ฉิงเฉินเชื่อว่าประธานลู่แห่งโรงกลั่นเหล้าเสฉวนคงไม่สนใจโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนแน่
ในขณะที่ไป๋ฉิงเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเฉินผิงอานก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว
"โอเคเพื่อนของฉันบอกว่าจะช่วยจัดการ"
ไป๋ฉิงเฉินที่ได้ยินคำที่เฉินผิงอานบอกจากที่ทำหน้าเครียดก็ค่อยๆระบายยิ้มออกมา
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องรอยยิ้มที่สวยราวกับดอกไม้บาน
"ผิงอานของคุณนายมาก"
ไป๋ฉิงเฉินหันข้างให้แล้วขยับไปข้างเตียงอีกฝั่ง
"ไม่เป็นไร...."
"ผิงอานนาย....คืนนี้จะขึ้นมานอนบนเตียงไหม"
เฉินผิงอานที่มองไปที่เบื้องหลังของไป๋ฉิงเฉินที่ตั้งใจขยับพื้นที่บนเตียงให้ถึงกลับกลืนน้ำลายอึก
เฉินผิงอานก็ตอบรับแบบงงจากนั้นก็ทำเรื่องที่เขาไม่เคยทำมาเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา
ครั้งนี้เฉินผิงอานกลับไม่คิดที่จะลังเลค่อยๆขึ้นไปบนเตียงนอนนุ่มเอียงตัวลงนอน
และด้านหลังของเขาก็เป็นแผ่นหลังของไป๋ฉิงเฉินชนกันอยู่ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองปินที่แต่งงานกับเขามาแล้วสามปี
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาก็ได้กลั่นที่หอมคุ้ยเคย
ใจถึงกับเต้นตุบตุบ.......
.........
"อะไร"
ขณะที่หวังสิ้วอวิ้นพูดจบเรื่องที่เกิดขึ้นกับบริษัทไป๋หย่งเซิ้งที่ได้ยินข่าวก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีทันทีหน้านิ่วคิ้วขมวดมองหน้าแม่ของตัวเองหวังส้วอวิ้นด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
"คุณแม่ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้ล่ะไม่ใช่ว่าตกลงกับประธานฟางก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่ไหรอและตอนแรกที่เราเข้าร่วมก็ได้จ่ายเงินค่าเข้าไปมากกว่าล้านอีกนะหรือว่าอยากจะถีบหัวส่งเทียนไป๋กรู๊ปของเราตอนไหนก็ได้อย่างงั้นหรอ"
นี่ไม่ใช่ข่าวดีเลยนะ
หวังสิ้วอวิ้นก็พูดขึ้พร้อมกลัหัวเราะเฝื่อน:"แล้วจะทำยังไงล่ะมีบริษัทเราและบริษัทเล็กๆที่ถูกขับออกมาตอนนี้บริษัทไป๋เทียนกรู๊ปของเรากับบริษัทเล็กๆในเมืองปินกำลังตกอยู่ในช่วงลำบากแล้ว"
"คุณแม่ในเมืองบินบริษัทเทียนไป๋กรู๊ปของเราก็ถือว่าเป็นบริษัทในเคลือที่มีมานานแล้วทำไมหอการค้าถึงได้ทำอย่างนี้หรือว่าพวกเราไม่มีโอกาสอื่นหรอเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินมีมูลล่าค่าเป็นหันล้านเชียวนะพวกเราจะยอมทิ้งไปหรอ"
หวังสิ้วอวิ้นมีสีหน้าสับสน
"ทิ้งไปหรอก็ต้องดูความสามารถของบริษัทเราทว่าเมื่อสักครู่พวกบริษัทคู่ค้าหลายบริษัทได้โทรมาว่าไม่ร่วมมือทำธุรกิจกับเราแล้วเรื่องนี้ทำให้บริษัทเสียหายมากถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ถึงครึ่งเดือนบริษัทจะต้องเข้าสู่ขั้นวิกฤตทางการเงินแน่"
"หาทำไมเป็อย่างนี้ไปได้"
ไป๋หย่งเซิ้งถึงกับหน้าถอดสี
ถ้าไม่มีคู่ค้าไป๋เทียนกรู๊ปที่พึ่งคู่ค้าแต่เดิมนั้นถือว่าเป็น.ถือว่าส่งผลกระทบร้ายแรงมากับไป๋เทียนกรู๊ป
"เฮ้อดังนั้นตอนนี้หวังว่าความร่วมมือระหว่างโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนจะทำให้เราผ่านด่านนี้ไปได้"
หวังสิ้วอวิ้นพูดพร้อมกับพุ่นลมหายใจยาวออกมา:"เขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินพื้นทีทำเลทองทองนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสให้เราแค่ต้องการหลักประกันเรื่องทุนทรัพย์ส่วนเรื่องเสนอราคานี้ฉันจะให้คนอื่นทำ.หย่งเซิ้งตอนนี้นายต้องพยายามเจรจากับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนเรื่องความร่วมมือก็พอพรุ่งนี้ตอนเช้าฉันจะไปโรงกลั่นเหล้าชิงฉันเมื่อถึงตอนนั้นฉันจะเรียกหุ้นส่วนในเครือทั้งหมดไม่วว่าจเป็นลุงๆอาๆของเธอก็เรียกไปรวมตัวกันที่โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนทำการจัดการแต่งตั้งฝ่ายบุกคลและบริหารจัดกสรแผนกอื่นๆและพรุ่งนี้ให้เธอไปเชิญประธานลู่ไปที่บริษัทด้วย"
"คุณแม่ทำอย่างนี้จะไม่เร็วไปหน่อยหรอ...."
ไป๋หย่งเซิ้งถึงกลับหน้าเปลี่ยนสี......
มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความจริงว่าประธานลู่แห่งโรงกลั่นเหล้าเสฉวนไม่ได้เห็นแก่นหน้าเขาแม้แต่น้อยไม่ได้มาคุยเจรจาเรื่องสัญญากับเขเลย
"รีบงั้นหรอด้านเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินพอได้คัดเลือกพนักงานออกมาใหม่ก็จะมีหุ้นว่างเยอะพอถึงตอนนั้นก็เสนอราคาดังนั้นช่วงระยะเวลาอั้นสั้นนี้พวกเราจะต้องหาเงินลงทุนมาให้ได้และฉันคิดว่าจะทำยังไงเพื่อให้ความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนราบรื่นไม่แน่อาจได้ร่วมมือกับนักธุรกิจเสฉวนคนอื่นด้วยก็เป็นได้ถ้าหากสามารถเป็นอย่างที่คิดเอาไว้ได้งั้นพวกเราสามารถชนะการเสนอราคามาได้ไม่แน่เราอาจจะได้สิทธิเข้าร่วมโครงการเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินก็ได้"
"แต่ว่าทั้งหมดนี้ต้องอาสัยความร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนให้ประสบความสำเร็จและยังต้องทำให้โรงกลั่นเหล้าชิงฉวนพลิกสถานการณ์กลับมาดีขึ้น!"
ในระหว่างที่หวังสิ้วอวิ้นพูดก็มองลูกชายของตัวเองที่ยืนอยู่ที่มีเหงื่อไหลออกมาตามหน้าผาก:"หย่งเซิ้งแม่รู้ว่าเรื่องนี้สร้างความกดดันให้เธอมากแต่ว่าก็ถือว่าเป็นบททดสอบถ้าหากครั้งนี้เธอสามารถร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนได้อย่างราบรื่นเงินลงทุนก้อนแรกก็จะเข้ามาในบัญชีของเราเร็วขึ้นพวกเราก็จะสามารถช่วยโรงกลั่นเหล้าชิงฉวนไว้ได้และจะต้องผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้เมื่อถึงตอนนั้นฉันจะทำให้คนพวกฟางหงเทาได้เห็นว่าเทียนไป๋กรู๊ปของเรานั้นมีความสามารถมากแค่ไหน!"
หลังจากโทรศัพท์ในคืนนี้หวังสิ้วอวิ้นก็รู้ว่าจะต้องมีนักธุรกิจใหญ่ของเฉิงตูยื่นมือเข้ามาแทรกแซงลงทุนในโครงการเขตพัฒนาเขตใหม่เมืองปินแน่ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นและพวกเขาคงได้ร่วมมือกับโรงกลั่นเหล้าเสฉวนได้สำเร็จเรื่องนี่จะต้องมีเลิศนัยแน่
"แม่ครับ.....เรื่องนี้......."
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved