บทที่ 248 ก็แค่ตัวตลก
by ฮั่นแซ่วคั้นไห่อย่าง
08:01,Apr 25,2021
"เย่อ....เย่อเทียน?"
หลินเกอสะดุ้ง
จากนั้นราวกับว่าเขานึกอะไรได้ขึ้นมาดวงตาเบิกกว้างใบหน้าดูตื่นเต้น
"แก...แกก็คือเย่อเทียนคนนั้น?"
เสียงของหลินเกอนั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ประโยคนี้ทำเอาคนอื่นๆอึ้งไปตามๆกัน
แต่ในใจของหลินเกอกลับร้อนรุ่มไปหมดแล้ว
เย่อเทียนคนที่เล่าสืบกันมาว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าท่านผู้เฒ่าสองของตระกูลหลินมิใช่หรือ?
ตอนนั้นตระกูลหลินต้องการจะแก้แค้นอยากจะจัดการกับเย่อเทียน
แต่สุดท้ายก็ถูกผู้นำประจำตระกูลห้ามไว้
หลินเกอคิดไม่ถึงว่าเย่อเทียนคนนี้จะกล้าปรากฏตัวในเมืองหลวง
และกล้าประกาศศักดาแบบนี้
เขาไม่กลัวว่าตระกูลหลินจะไม่แก้แค้นงั้นเหรอ?
"แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?"
เย่เทียนเหลือบมองเขาเบาๆ
"ดูเหมือนว่านายยังมีประโยช์นฉันไม่อยากจะฆ่านาย"
"กลับไปบอกหลินหยวนคุนว่าฉันจะไปร่วมงานศพของท่านผู้เฒ่าสองด้วยตัวเองและได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้แล้ว"
เย่อเทียนพูดอย่างเย็นชาน้ำเสียงเคร่งขรึมและหลินเกอไม่กล้ามิแต่จะโต้ตอบ
"เย่อเทียนแกอย่าหยามคนอื่นแบบนี้"
หลินเกอกัดฟังใบหน้าทั้งเขียวและแดง
ในฐานะทายาทสายตรงของตระกูลหลินนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้
"ฉันนับสามถ้าไม่ทำตามตาย!"
เย่อเทียนมองเขาอย่างแผ่วเบาและยกนิ้วขึ้น!
"หนึ่ง!"
ทั้งไนต์คลับเงียบลงในชั่วพริบตา
ทุกคนกำลังรอดูว่าหลินเกอจะเลือกยังไง
หลินเกอกัดฟันแล้วกำมือแน่นแม้ว่าในใจจะกลัวมากแต่ก็ไม่อยากจะประนีประนอม
"สอง!"
เย่อเทียนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากมายชูนิ้วที่สองออกมา
"โอเคถือว่าแกแน่!"
ใบหน้าของหลินเกอถอดสีในที่สุดเขาก็ยอม
เขามีลางสังหรณ์ว่าถ้าไม่ยอมเย่อเทียนคนนี้จะต้องฆ่าเขาจริงๆแน่
"เย่อเทียนหลังจากนี้ห้าวันที่งานศพของลุงสองเราเจอกัน"
หลินเกอกัดฟันและพูดข่มขู่แล้วโบกมือให้คนนำศพของหลินคุนออกไปจากนั้นเขาก็เดินจากไป
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เขาเสียหน้าไปหมดแล้ว
นี้.……
มองหลินเกอเดินออกไปเฉยๆ
ทุกคนก็ตะลึง
หลินเกอกลัวแล้วหรือ?
เย่อเทียนคนนี้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์มาจากไหนกันทำไมไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อนเลย?
แต่เย่อเทียนเพิกเฉยต่อสายตาของคนอื่นโดยสิ้นเชิงหันหลังกลับและเดินจากไป
ทุกคนหลีกทางให้
แม้แต่หลินเกอยังกลัวแล้วยังมีใครกล้าต่อกรกับเย่อเทียนอีก?
แน่นอนว่าซูยุนเอ๋อร์หันสายตาไปมาจากนั้นก็ได้เดินตามออกไป
เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ
ตอนแรกคิดว่าเย่อเทียนกับตระกูลหลินจะสู้กันแล้ว
ไม่คิดว่าหลินเกอและหลินคุนสองพี่น้องจะไร้น้ำยาถึงเพียงนี้
ทำให้ความพยายามของเธอสูญเปล่า
"เย่อเทียนรอก่อนคงไม่ทิ้งฉันไว้ที่นี้คนเดียวใช่ไหม?"
ดูเหมือนว่าเย่อเทียนจะไม่ได้ยินแล้วเดินต่อไปไม่มีการหันมาสนใจอะไรทั้งนั้น
นี่ทำให้ซูยุนเอ๋อหน้าย่นและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
"ไอ้เย่อเทียนคนบ้านไอ้เย่อเทียนตัวเหม็นหึฉันก็ไม่ได้สนใจคุณหรอก"
เพียงแต่……
เย่อเทียนเรียกรถเพิ่งจะนั่งเข้าไปซูเย่อเอ๋อก็เหมือนกับนางจิ้งจอกพุ่งเข้ามา
สัมผัสที่นุ่มนวลบนร่างกายของเย่อเทียนควบคู่ไปกับกลิ่นหอมสดชื่นทำให้เย่เทียนชะงัก
"คุณจะมาทำไม?"
อย่างไรก็ตามซูยุนเอ๋อร์ไม่สนใจเรื่องนี้และกอดแขนของเขาโดยตรง
"ฮึ่มอย่าคิดว่าจะโยนฉันออกไปคืนนี้คุณไปไหนฉันจะไปที่นั้นด้วย"
ใบหน้าของเย่อเทียนเคร่งเครียดพูดอะไรไม่ออก
"คุณครับไปไหนครับ?"
คนขับหันหน้ามาถามและมองไปที่ซูยุนเอ๋อ
"วังสวรรค์หวิ๋งติงวิลล่า1!"
เย่อเทียนขี้เกียจจะยุ่งกับซูยุนเอ๋อแล้วบอกที่อยู่ออกไป
"วังสวรรค์หวิ๋งติงยังเป็นวิลล่า1?"
เย่อเทียนไม่คิดอะไรแต่คนขับรถถึงกับตกใจ
วังสวรรค์หวิ๋งติงเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองหลวงและเป็นวิลล่าที่มีชื่อเสียงที่สุด
ผู้ที่สามารถเข้าพักในวิลล่าเบอร์หนึ่งนั้นจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน
"ได้ครับท่าน!"
คนขับตอบน้ำเสียงนั้นพูดออกมาด้วยความเคารพ
แม้ว่าเขาจะอยากรู้เกี่ยวกับซูยุนเอ๋อแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะมองอีก
รถแล่นไปในเมืองไม่นานก็มาถึงวังสวรรค์หวิ๋งติง
เมื่อรถหยุดได้พอกับการตรวจดูความเรียบร้อยของหน่วยรักษาความปลอดภัยหลังจากเย่อเทียนและซูยุนเอ๋อลงจากรถคนขับก็ขับออกไปอย่างรวดเร็วแม้แต่เงินก็ลืมเอา
"ว้าวนี่บ้านคุณเหรอ?สวยและใหญ่มาก"
เมื่อมองไปที่วิลล่าตรงหน้าซูยุนเอ๋อที่ถือว่าได้เห็นอะไรมาแล้วมากมายก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ยากที่จะจินตนาการได้ว่าใจกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยอาคารสูงยังคงมีพื้นที่วิลล่าที่หรูหราและสวยงามขนาดนี้
และไม่ต้องพูดถึงวิลล่า1เพราะมันสมชื่อและเหมือนสวรรค์จริงๆ
เย่อเทียนพยักหน้าเล็กน้อยไม่ตอบและเดินเข้าไปก่อน
วิลล่า1เป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองหลวงไม่รู้ว่ามีคนใหญ่คนโตตั้งเท่าไหร่ต่อให้เคยได้เข้าชมแต่ก็ไม่เคยมีบุญได้เข้าพัก
อย่างไรก็ตามในตอนนี้วิลล่าเบอร์หนึ่งกลับเต็มไปด้วยฝุ่น
เพราะนี่เป็นวิลล่าที่คนในอนาจักรมังกรมอบให้เขาให้วันที่เขาขึ้นรับตำแหน่งนายพลเมื่อหลายปีก่อน
แม้แต่เย่อเทียนเองก็เพิ่งจะมาเป็นครั้งแรก
เมื่อเข้ามาในวิลล่าซูยุนเอ๋อก็เหมือนกับคนบ้านนอกเข้าเมืองมองไปรอบๆอย่างสนใจแต่สำหรับเย่อเทียนกลับไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
"ซูยุนเอ๋อตอนนี้มีแค่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งเธอควรจะไปได้แล้วมั่ง?"
น้ำเสียงของเย่อเทียนเหมือนกับไล่แขกตรงๆ
ตอนแรกที่บรรยากาศน่าหลงไหลได้หายไปในพริบตา
"เฮ้คุณขี้เหนียวเกินไปไหม?มีห้องเยอะขนาดนี้จะให้ฉันพักสักห้องไม่ได้เลยหรือ?"
หลังจากพูดจบไม่ว่าเย่อเทียนจะว่ายังไงร่างกายเล็กๆของเธอก็ได้นั่งไปที่โซฟา
"ฉันได้ตัดสินใจแล้วต่อไปจะมาพักที่นี้คุณไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหม?"
"ก็แล้วแต่คุณ"เย่อเทียนโบกมือเบาๆไม่ได้มองเธอหันหน้าเดินขึ้นชั้นสองไป
"หึเย่อเทียนนะเย่อเทียนครั้งนี้อย่าคิดว่าจะหลุดไปจากมือของฉันได้"
เมื่อเห็นเย่อเทียนจากไปซูยุนเเอ๋อก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อจากนั้นก็ส่งข้อความออกไปสองสามข้อความ
ในดวงตาของเธอมีแสงที่ซับซ้อนปรากฏขึ้น
...
ไม่มีอะไรในคืนนั้นเช้าวันที่สองเมื่อเย่อเทียนตื่นหลินกุ้ยก็ได้ส่งหนังสือพิมพ์มาให้
ด้านบนคำว่า'งานศพท่านผู้เฒ่าหลินหยวนเหอ"และคำว่า"เย่อเทียน"และเห็นได้อย่างชัดเจน
"ท่านครับเห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจปล่อยข่าวของท่านออกไป"
น้ำเสียงของหลินกุ้ยยังคงเย็นชา
"ไม่เป็นไรปล่อยพวกเขาไป"
เย่อเทียนไม่สนใจและโยนหนังสือพิมพ์ไปข้างๆ
ข่าวการเสียชีวิตของหลินหยวนเหอตระกูลหลินปิดกั้นไว้แล้ว
ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะยกเว้นเพียงคนไม่กี่คนที่รู้
แต่เมื่อเย่อเทียนเข้ามาในเมืองหลวงเพียงค่ำคืนข่าวนี้ก็ถูกแพร่ออกไป
เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจ
"ท่านครับจะให้ผมไปสั่งสอนพวกเขาหน่อยไหมครับ?"หลินกุ้ยได้เสนอออกมา
เย่อเทียนส่ายหัวอีกครั้ง
"ไม่เป็นไรแค่ตัวตลกเล็กๆแต่ก็ทำให้ฉันประหยัดเวลาได้เยอะ"
หลังจากพูดเสร็จก็เดินลงไปที่ชั้นหนึ่ง
ในห้องโถงซูยุนเอ๋อตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว
ไม่เรื่องที่คาดไม่ถึงก็คือไม่เพียงแต่จะซื้ออาหารเช้าเธอได้ได้ถูพื้นในห้องโถงไปหนึ่งรอบ
หลินเกอสะดุ้ง
จากนั้นราวกับว่าเขานึกอะไรได้ขึ้นมาดวงตาเบิกกว้างใบหน้าดูตื่นเต้น
"แก...แกก็คือเย่อเทียนคนนั้น?"
เสียงของหลินเกอนั้นเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ประโยคนี้ทำเอาคนอื่นๆอึ้งไปตามๆกัน
แต่ในใจของหลินเกอกลับร้อนรุ่มไปหมดแล้ว
เย่อเทียนคนที่เล่าสืบกันมาว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าท่านผู้เฒ่าสองของตระกูลหลินมิใช่หรือ?
ตอนนั้นตระกูลหลินต้องการจะแก้แค้นอยากจะจัดการกับเย่อเทียน
แต่สุดท้ายก็ถูกผู้นำประจำตระกูลห้ามไว้
หลินเกอคิดไม่ถึงว่าเย่อเทียนคนนี้จะกล้าปรากฏตัวในเมืองหลวง
และกล้าประกาศศักดาแบบนี้
เขาไม่กลัวว่าตระกูลหลินจะไม่แก้แค้นงั้นเหรอ?
"แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?"
เย่เทียนเหลือบมองเขาเบาๆ
"ดูเหมือนว่านายยังมีประโยช์นฉันไม่อยากจะฆ่านาย"
"กลับไปบอกหลินหยวนคุนว่าฉันจะไปร่วมงานศพของท่านผู้เฒ่าสองด้วยตัวเองและได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้แล้ว"
เย่อเทียนพูดอย่างเย็นชาน้ำเสียงเคร่งขรึมและหลินเกอไม่กล้ามิแต่จะโต้ตอบ
"เย่อเทียนแกอย่าหยามคนอื่นแบบนี้"
หลินเกอกัดฟังใบหน้าทั้งเขียวและแดง
ในฐานะทายาทสายตรงของตระกูลหลินนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนี้
"ฉันนับสามถ้าไม่ทำตามตาย!"
เย่อเทียนมองเขาอย่างแผ่วเบาและยกนิ้วขึ้น!
"หนึ่ง!"
ทั้งไนต์คลับเงียบลงในชั่วพริบตา
ทุกคนกำลังรอดูว่าหลินเกอจะเลือกยังไง
หลินเกอกัดฟันแล้วกำมือแน่นแม้ว่าในใจจะกลัวมากแต่ก็ไม่อยากจะประนีประนอม
"สอง!"
เย่อเทียนนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากมายชูนิ้วที่สองออกมา
"โอเคถือว่าแกแน่!"
ใบหน้าของหลินเกอถอดสีในที่สุดเขาก็ยอม
เขามีลางสังหรณ์ว่าถ้าไม่ยอมเย่อเทียนคนนี้จะต้องฆ่าเขาจริงๆแน่
"เย่อเทียนหลังจากนี้ห้าวันที่งานศพของลุงสองเราเจอกัน"
หลินเกอกัดฟันและพูดข่มขู่แล้วโบกมือให้คนนำศพของหลินคุนออกไปจากนั้นเขาก็เดินจากไป
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้เขาเสียหน้าไปหมดแล้ว
นี้.……
มองหลินเกอเดินออกไปเฉยๆ
ทุกคนก็ตะลึง
หลินเกอกลัวแล้วหรือ?
เย่อเทียนคนนี้เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์มาจากไหนกันทำไมไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อนเลย?
แต่เย่อเทียนเพิกเฉยต่อสายตาของคนอื่นโดยสิ้นเชิงหันหลังกลับและเดินจากไป
ทุกคนหลีกทางให้
แม้แต่หลินเกอยังกลัวแล้วยังมีใครกล้าต่อกรกับเย่อเทียนอีก?
แน่นอนว่าซูยุนเอ๋อร์หันสายตาไปมาจากนั้นก็ได้เดินตามออกไป
เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ
ตอนแรกคิดว่าเย่อเทียนกับตระกูลหลินจะสู้กันแล้ว
ไม่คิดว่าหลินเกอและหลินคุนสองพี่น้องจะไร้น้ำยาถึงเพียงนี้
ทำให้ความพยายามของเธอสูญเปล่า
"เย่อเทียนรอก่อนคงไม่ทิ้งฉันไว้ที่นี้คนเดียวใช่ไหม?"
ดูเหมือนว่าเย่อเทียนจะไม่ได้ยินแล้วเดินต่อไปไม่มีการหันมาสนใจอะไรทั้งนั้น
นี่ทำให้ซูยุนเอ๋อหน้าย่นและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
"ไอ้เย่อเทียนคนบ้านไอ้เย่อเทียนตัวเหม็นหึฉันก็ไม่ได้สนใจคุณหรอก"
เพียงแต่……
เย่อเทียนเรียกรถเพิ่งจะนั่งเข้าไปซูเย่อเอ๋อก็เหมือนกับนางจิ้งจอกพุ่งเข้ามา
สัมผัสที่นุ่มนวลบนร่างกายของเย่อเทียนควบคู่ไปกับกลิ่นหอมสดชื่นทำให้เย่เทียนชะงัก
"คุณจะมาทำไม?"
อย่างไรก็ตามซูยุนเอ๋อร์ไม่สนใจเรื่องนี้และกอดแขนของเขาโดยตรง
"ฮึ่มอย่าคิดว่าจะโยนฉันออกไปคืนนี้คุณไปไหนฉันจะไปที่นั้นด้วย"
ใบหน้าของเย่อเทียนเคร่งเครียดพูดอะไรไม่ออก
"คุณครับไปไหนครับ?"
คนขับหันหน้ามาถามและมองไปที่ซูยุนเอ๋อ
"วังสวรรค์หวิ๋งติงวิลล่า1!"
เย่อเทียนขี้เกียจจะยุ่งกับซูยุนเอ๋อแล้วบอกที่อยู่ออกไป
"วังสวรรค์หวิ๋งติงยังเป็นวิลล่า1?"
เย่อเทียนไม่คิดอะไรแต่คนขับรถถึงกับตกใจ
วังสวรรค์หวิ๋งติงเป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองหลวงและเป็นวิลล่าที่มีชื่อเสียงที่สุด
ผู้ที่สามารถเข้าพักในวิลล่าเบอร์หนึ่งนั้นจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตอย่างแน่นอน
"ได้ครับท่าน!"
คนขับตอบน้ำเสียงนั้นพูดออกมาด้วยความเคารพ
แม้ว่าเขาจะอยากรู้เกี่ยวกับซูยุนเอ๋อแต่เขาก็ไม่กล้าที่จะมองอีก
รถแล่นไปในเมืองไม่นานก็มาถึงวังสวรรค์หวิ๋งติง
เมื่อรถหยุดได้พอกับการตรวจดูความเรียบร้อยของหน่วยรักษาความปลอดภัยหลังจากเย่อเทียนและซูยุนเอ๋อลงจากรถคนขับก็ขับออกไปอย่างรวดเร็วแม้แต่เงินก็ลืมเอา
"ว้าวนี่บ้านคุณเหรอ?สวยและใหญ่มาก"
เมื่อมองไปที่วิลล่าตรงหน้าซูยุนเอ๋อที่ถือว่าได้เห็นอะไรมาแล้วมากมายก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
ยากที่จะจินตนาการได้ว่าใจกลางเมืองที่ล้อมรอบด้วยอาคารสูงยังคงมีพื้นที่วิลล่าที่หรูหราและสวยงามขนาดนี้
และไม่ต้องพูดถึงวิลล่า1เพราะมันสมชื่อและเหมือนสวรรค์จริงๆ
เย่อเทียนพยักหน้าเล็กน้อยไม่ตอบและเดินเข้าไปก่อน
วิลล่า1เป็นวิลล่าที่ดีที่สุดในเมืองหลวงไม่รู้ว่ามีคนใหญ่คนโตตั้งเท่าไหร่ต่อให้เคยได้เข้าชมแต่ก็ไม่เคยมีบุญได้เข้าพัก
อย่างไรก็ตามในตอนนี้วิลล่าเบอร์หนึ่งกลับเต็มไปด้วยฝุ่น
เพราะนี่เป็นวิลล่าที่คนในอนาจักรมังกรมอบให้เขาให้วันที่เขาขึ้นรับตำแหน่งนายพลเมื่อหลายปีก่อน
แม้แต่เย่อเทียนเองก็เพิ่งจะมาเป็นครั้งแรก
เมื่อเข้ามาในวิลล่าซูยุนเอ๋อก็เหมือนกับคนบ้านนอกเข้าเมืองมองไปรอบๆอย่างสนใจแต่สำหรับเย่อเทียนกลับไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น
"ซูยุนเอ๋อตอนนี้มีแค่ชายหนึ่งหญิงหนึ่งเธอควรจะไปได้แล้วมั่ง?"
น้ำเสียงของเย่อเทียนเหมือนกับไล่แขกตรงๆ
ตอนแรกที่บรรยากาศน่าหลงไหลได้หายไปในพริบตา
"เฮ้คุณขี้เหนียวเกินไปไหม?มีห้องเยอะขนาดนี้จะให้ฉันพักสักห้องไม่ได้เลยหรือ?"
หลังจากพูดจบไม่ว่าเย่อเทียนจะว่ายังไงร่างกายเล็กๆของเธอก็ได้นั่งไปที่โซฟา
"ฉันได้ตัดสินใจแล้วต่อไปจะมาพักที่นี้คุณไม่ได้ว่าอะไรใช่ไหม?"
"ก็แล้วแต่คุณ"เย่อเทียนโบกมือเบาๆไม่ได้มองเธอหันหน้าเดินขึ้นชั้นสองไป
"หึเย่อเทียนนะเย่อเทียนครั้งนี้อย่าคิดว่าจะหลุดไปจากมือของฉันได้"
เมื่อเห็นเย่อเทียนจากไปซูยุนเเอ๋อก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อจากนั้นก็ส่งข้อความออกไปสองสามข้อความ
ในดวงตาของเธอมีแสงที่ซับซ้อนปรากฏขึ้น
...
ไม่มีอะไรในคืนนั้นเช้าวันที่สองเมื่อเย่อเทียนตื่นหลินกุ้ยก็ได้ส่งหนังสือพิมพ์มาให้
ด้านบนคำว่า'งานศพท่านผู้เฒ่าหลินหยวนเหอ"และคำว่า"เย่อเทียน"และเห็นได้อย่างชัดเจน
"ท่านครับเห็นได้ชัดว่ามีคนตั้งใจปล่อยข่าวของท่านออกไป"
น้ำเสียงของหลินกุ้ยยังคงเย็นชา
"ไม่เป็นไรปล่อยพวกเขาไป"
เย่อเทียนไม่สนใจและโยนหนังสือพิมพ์ไปข้างๆ
ข่าวการเสียชีวิตของหลินหยวนเหอตระกูลหลินปิดกั้นไว้แล้ว
ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะยกเว้นเพียงคนไม่กี่คนที่รู้
แต่เมื่อเย่อเทียนเข้ามาในเมืองหลวงเพียงค่ำคืนข่าวนี้ก็ถูกแพร่ออกไป
เห็นได้ชัดว่ามีคนจงใจ
"ท่านครับจะให้ผมไปสั่งสอนพวกเขาหน่อยไหมครับ?"หลินกุ้ยได้เสนอออกมา
เย่อเทียนส่ายหัวอีกครั้ง
"ไม่เป็นไรแค่ตัวตลกเล็กๆแต่ก็ทำให้ฉันประหยัดเวลาได้เยอะ"
หลังจากพูดเสร็จก็เดินลงไปที่ชั้นหนึ่ง
ในห้องโถงซูยุนเอ๋อตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว
ไม่เรื่องที่คาดไม่ถึงก็คือไม่เพียงแต่จะซื้ออาหารเช้าเธอได้ได้ถูพื้นในห้องโถงไปหนึ่งรอบ
HELLOTOOL SDN BHD © 2020 www.webreadapp.com All rights reserved